คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : พบครั้งแรก
“เจ้าเป็นใคร” สุรีย์รินทร์เอ่ยถามอย่างตกใจ “อ่าว เจ้าไม่ได้เป็นอะไรเหรอ” สุริโยพูด “ปล่าว เราไม่ได้เป็นอะไร แต่เจ้าสิ กำลังจะเป็น” สุรีย์รินทร์พูด และสาดพลังใส่สุริโย สุริโยรีบกระโดดหลบลงจากต้นไม้ สุรีย์รินทร์ก็กระโดดลงมาด้วย “เราเป็นเพื่อนกันก็ได้นะ เจ้าชื่ออะไรหละ” สุริโยพูด “ไม่ใช่เรื่องของเจ้า” สุรีย์รินทร์พูด “เราชื่อสุริโย” สุริโยพูด “เราไม่ได้ถาม” สุรีย์รินทร์พูดและกำลูกไฟไว้ในมือ รัตนวรางก็วิ่งเข้ามา นางโอบตัวลูกชายของนางเอาไว้ “สุริโย คุยอยู่กับใครหนะลูก” รัตนวรางเอ่ยถามพระโอรสของนางด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน สุรีย์รินทร์เห็นภาพถึงกับน้ำตาไหล ใจหนึ่งก็อิจฉาเขา ใจหนึ่งน้อยใจในชีวิต “เสด็จแม่...ใครไม่รู้พระเจ้าข้า ลูกถามชื่อก็ไม่ยอมบอก” สุริโยทูลแก่พระมารดา รัตนวรางได้ยินก็หันไปมองดูเด็กผู้หญิงคนนั้น สุรีย์รินทร์น้ำตาไหลอาบแก้วมองดูภาพอบอุ่นตรงหน้าตาค้างตัวค้างแทบไม่ขยับตัวสักนิดเดียว “หนู... หนูร้องไห้” รัตนวรางพูดและเข้าไปโอบเด็กผู้หญิงผู้หน้าสงสารคนนั้น “หนูเป็นอะไรไป หนูเป็นใครมาจากไหนกันจ๊ะ” รัตนวรางเอ่ยถามอย่างเห็นใจ “หม่อมฉันชื่อ สุรีย์รินทร์เพคะเสด็จป้า เป็นพระธิดาแห่งเมืองวิศิษฏ์ธาตรี” สุรีย์รินทร์ยังสะอึกสะอื้นอยู่นิดหน่อย “แล้วเสด็จพ่อเสด็จแม่ของเจ้าหละลูก” รัตนวรางพูด “พวกศัตรูมันบอกว่าเสด็จพ่อทรงสิ้นแล้วเพคะ... เสด็จพ่อไกรศรสิ้นพระชนม์แล้ว ส่วนเสด็จแม่... อยู่ในกำมือศัตรู” พูดไปก็ยิ่งทำให้ร้องไห้มากขึ้น “โถ่ พระธิดาน้อยคนนี้น่าสงสารยิ่งกว่าพวกเราอีกนะลูกสุริโย” รัตนวรางพูดและโอบกอดพระธิดาน้อยเอาไว้ “ไม่ต้องห่วงนะลูกสุรีย์รินทร์ แม่รับเจ้าเป็นลูกบุญธรรมนะลูกนะ” รัตนวรางพูด สุรีย์รินทร์ยังสะอึกสะอื้นไม่หยุด เวลาที่เด็กร้องไห้ ไม่มีสิ่งไหนที่ปลอบใจได้ดีที่สุดเท่ากับอ้อมกอดของพ่อแม่อีกแล้ว หากแต่ตอนนี้ไร้แม้เงาของผู้เป็นพ่อแม่ ธิดาน้อยจะหาอ้อมกอดปลอบใจได้จากที่ไหน
สุรีย์รินทร์เริ่มสงบจิตใจได้บ้างแล้ว “เสด็จป้ารัตนวราง... หม่อมฉันของทูลลาก่อนนะเพคะ จะต้องรีบกลับไปหาท่านตาฤๅษี” สุรีย์รินทร์พูด “เราตามไปได้ไหม” สุริโยพูด สุรีย์รินทร์หันมา “ไม่ได้” สุรีย์รินทร์พูด กระนั้น สุริโยสังเกตเห็นสร้อยคอของสุรีย์รินทร์ “สร้อยเส้นนั้น” สุริโยหลุดเสียงออกมา สุรีย์รินทร์ก้มมองนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้สนใจจะเดินไป “เดี๋ยว” สุริโยเรียกตามแต่ธิดาน้อยกลับเหาะไปถึงไหนต่อไหนแล้วไม่รู้ สุรีย์รินทร์เหาะไปกลางอากาศ ม้าทองบินตามมา “รอก่อนสิพระเจ้าข้า” ม้าทองพูด “ก็พี่ม้าทองมัวแต่หายไป เราขี้เกียจรอจะกลับไปหาท่านตาเลย” สุรีย์รินทร์พูด “งั้นก็ไปกันเถอะพระเจ้าข้า” ม้าทองพูด
ที่อาศรมฤๅษี เมื่อพระธิดาน้อยสุรีย์รินทร์กระโดดลงมา ทันทีที่เท้าแตะพื้นพิภพ นางไม้อรัญญิกาก็รีบวิ่งเข้ามาโอบกอดพระธิดาน้อยเอาไว้ทันที “พระธิดา...” อรัญญิกาพูด “พี่อรัญญิกา” สุรีย์รินทร์พูด “พี่อรัญญิกาเป็นห่วงพระธิดามากนะเพคะ ดูซิ ทูนหัวของอรัญญิกาบอบช้ำตรงไหนบ้างรึปล่าวเนี่ย” อรัญญิกาพูด “ไปกับม้าทองซะอย่าง พระธิดาไม่เป็นอะไรหรอกอรัญญิกา” ม้าทองพูด
ที่วิมานแก้ว วายุเทพหารืออยู่กับนางปีศาจ นภวิหงค์ “เจ้าจะทำยังต่อไปเรื่องวิศิษฏ์ธาตรี” วายุเทพถามขึ้น “หม่อมฉันคิดว่าจะหลอกไอ้เด็กพวกนั้นมาฆ่าที่วิศิษฏ์ธาตรีเพคะ” นภวิหงค์พูด “เจ้าจะฆ่ามันยังไงหละ นังแม่มด” วายุเทพพูด “หม่อมฉันจะหลอกเอาแหวนยุคลมาจากมัน แล้วก็ฆ่าพวกมันซะเพคะ แต่ว่าพระองค์จะต้องหาอาวุธไม่ที่ทำลายแหวนยุคลได้” นภวิหงค์ “ได้ เราจะพยายามหามาให้ได้” วายุเทพพูด
รุ่งเช้า ตะวันเคลื่อนขึ้นจากขอบฟ้า ทำหน้าที่แทนดวงจันทรา ในถ้ำแห่งหนึ่ง สุริโย รัตนวราง แล้วเจ้าม้าเงินพักอยู่ในนั้น แสงตะวันเริ่มส่องเข้ามาทางปากถ้ำ ไล่เข้ามาจนถึงในสุดของถ้ำ แหวนเทพบุตรเปลี่ยนสี ราชโอรสน้อยนามสุริโยหายไปที่แทนที่คือราชโอรสน้อยอีกองค์หนึ่ง ม้าเงินตื่นขึ้นก็เห็นเข้า “ได้เวลาแล้ว... แหวนยุคล” ม้าเงินพูด รัตนวรางตื่นขึ้นตามเพราะเสียงของม้าเงิน เมื่อก้มลงมองพระโอรสก็เห็นว่าพระโอรสแห่งวันจันทร์ออกมาให้พระมารดาได้เห็นหน้าแล้ว “ถึงเวลาแล้วสินะ ลูกแม่” รัตนวรางเรียกพระโอรสอย่างอ่อนโยน โอรสน้อยแห่งวันจันทร์ลืมตาขึ้นตื่นขึ้นมา “เสด็จแม่พระเจ้าข้า” นี่คือคำแรกที่โอรสน้อยพูดขึ้น รัตนวรางมีสีหน้าปลาบปลื้มโอบกอดพระโอรสเอาไว้ด้วยความรัก และอยู่ๆพระนางก็หน้าเศร้าลง “เสด็จแม่... ทรงเป็นอะไรไปรึปล่าวพระเจ้าข้า” โอรสน้อยพูด “นี่คงถึงเวลาแห่งการต่อสู้แล้วสินะลูก นักรบคนที่สองของแหวนเทพบุตร ปรากฏตัวแล้วนี่นา” รัตนวรางพูด
ในกระท่อมน้อยพระธิดาสุรีย์รินทร์เปลี่ยนเป็นพระธิดาน้อยพระองค์อื่น พระธิดาน้อยพระองค์นั้นดีอกดีใจรีบลุกขึ้นทันที “เราได้ออกมาแล้ว” พระธิดาน้อยพูดและเดินออกไปหน้ากระท่อม “อ่าว ได้เวลาแล้วเหรอเนี่ย เร็วจัง” ม้าทองพูด “เราได้ออกมาแล้วพี่ม้าทอง” พระธิดาน้อยพูดอย่างดีอกดีใจ “พระเจ้าข้า...พระธิดาศศิจันทร์” ม้าทองพูด “เราชื่อศศิจันทร์เหรอ” พระธิดาน้อยเอ่ย “พระเจ้าข้า ศศิจันทร์ พระนามที่เสด็จแม่ตั้งให้” ม้าทองพูด พระธิดาน้อยนามว่าศศิจันทร์เปลี่ยนสีหน้า ท่าทางเหมือนเศร้าๆ “พี่ม้าทองขอโทษพระเจ้าข้า พี่ม้าทองเสียใจจริงๆ พี่ม้าทองไม่ได้ตั้งใจ” ม้าทองพูด “ไม่เป็นไรจะพี่ม้าทอง แต่ในเมื่อถึงเวลาแล้ว เราก็จะลาท่านออกไปตามหาเสด็จแม่เลย” ศศิจันทร์พูด
ตัวอย่างตอนต่อไป
มีลมพายุพัดกระหน่ำมาอย่างรุนแรงลมนั้นพัดเอาตัวรัตนวรางไปด้วย อยู่ๆพายุนี้ก็พัดมา และอยู่ๆมันก็สงบยังซะอย่างนั้น จันทภพเหลียวมองหาพระมารดา “เสด็จแม่” จันทภพร้องเรียก แต่ก็ไร้วี่แววเสียงตอบกลับมา “พระทัยเย็นๆก่อนพระเจ้าข้า” ม้าเงินพูด “เสด็จแม่อาจจะถูกพายุพัดไปแล้ว” จันทภพดูใจเสียเอามากๆ “ฝีมือวายุเทพแน่” ม้าเงินพูด “พี่ม้าเงิน พาเราไปหาเค้าที” จันทภพพูด
ศศิจันทร์ลงไปจนถึงเมืองบาดาล นาคราชต่างเข้ามารุมล้อม “จับตัวผู้บุกรุกมาให้ได้” เด็กผู้ชายคนหนึ่งร้องขึ้น พวกนาคราชจับตัวศศิจันทร์ไว้ ศศิจันทร์สลัดตัวออกและขว้างลูกไฟใส่นาคพวกนั้น ศศิจันทร์กำหมัดเตรียมพร้อม
ความคิดเห็น