เกราะแก้ว

ลำดับตอนที่ #4 : การกำเนิดของเกราะแก้ว

            ณ นครกัญญารัต ฉัตราแย่งดวงแก้วมาจากทิวาลักษณ์ และวางมันลงไป อีกไม่กี่ยามสิ่งที่เราปรารถนาก็จะมาอยู่ในมือ ดวงแก้วนี้มีสายโลหิตขององค์ทัศน์พงศ์จอมกษัตริย์อยู่ ต่อไปก็ต้องเป็นเลือดของเจ้า ฉัตราพูด และตรงเข้ามาหาทิวาลักษณ์ ทิวาลักษณ์แปลกใจ ฉัตรใช้ปลายเล็บกรีดเลือดของทิวาลักษณ์ออกมาและมาหยดลงบนดวงแก้ว ฉัตรามองท้องฟ้าที่กำลังจะเกิดสุริยคราส และแล้วก็เกิดสุริยะคราสขึ้น สิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับดวงแก้วคือ จากดวงแก้วกลายมาเป็นเกราะแก้วที่ทรงอำนาจด้วยพลังแห่งสุริยะจันทรา ทิวาลักษณ์แทบไม่เชื่อสายตาตน เกราะแก้ว ทั้ง 8 เกราะล่องลอยกระจายไปคนละทิศทาง ฉัตราพยายามไขว่คว้าไว้แต่ก็ไม่ทัน ทิวาลักษณ์ถือโอกาสหนีออกไป

            เกราะแก้วชิ้นที่หนึ่งล่องลอยไปในนภาจนไกลแสนไกล และกลายเป็นร่างเด็กผู้หญิงผู้ทรงเกราะ น่ารักน่าเอ็นดูนามว่า ภัทราภา

            เกราะที่ 2 ล่องลอยไปอีกทางหนึ่งไกลมากเช่นเดียวกัน กลายเป็นร่างเด็กผู้ชาย ที่เปี่ยมล้นด้วยฝีมือ นามว่า พงศ์เพทาย

            เกราะที่ 3 ลอยไปไกลสุดฟ้าก่อนที่จะ กลายเป็นผู้ทรงเกราะ เป็นเด็กผู้หญิงที่กร้าวแกร่ง นามว่า ชนิษฐา

            เกราะที่ 4 เกราะนี้ก็ไปไกลแสนไกลนักกลายเป็นเด็กผู้ชาย ทรงเกราะ นามหนึ่งว่า ธีรเทพ

            เกราะที่ 5 ล่องลอยไปสุดหล้าฟ้าไกล เป็นเด็กผู้หญิง ที่เก่งกาจทรงปัญญา นามว่า ปรียารัตน์

            เกราะที่ 6 กลายเป็นเด็กผู้ชาย ทรงเกราะที่ทั้งเก่งกล้าสามารถ มีนามว่า ศักรภพ

            เกราะที่ 7 ที่ล่องลอยไปไกลถึงทรวงสวรรณ กลายเป็นเด็กผู้ชายที่กร้าวแกร่งน่าเกรงขาม นามว่า กรวีร์

            เกราะที่ 8 ก็ล่องลอยไปไกลถึงสวรรณเช่นกัน ถึงทรงเกระเป็นเด็กผู้หญิง นามนี้ นภเกตส์

       ทิวาลักษณ์ยังไม่เข้าใจว่าอะไรเกิดขึ้นกันแน่แต่ก็พยายามวิ่งหนีมาให้ไกลที่สุดจนไปถึงเรือนหลังหนึ่ง บนเรือนนั้นที่ริมระเบียง วีรวัฒน์ยืนเหม่อมองออกไป ทันทีที่เห็นพระมารดาก็รีบวิ่งลงมาทันที เสด็จแม่ วีรวัฒน์พูด และเข้าไปกอดทิวาลักษณ์ วีรวัฒน์ ลูกแม่ แม่คิดว่าจะไม่ได้เจอลูกอีกแล้ว ทิวาลักษณ์พูด คุณท้าวแก้วตา และ คนอีก 2 – 3 คนวิ่งลงเรือนมา พระมเหสี คุณท้าวแก้วตาพูด และก้มลงกราบ