ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จตุรธาตุ จตุรศัสตรา

    ลำดับตอนที่ #26 : สูญเสีย

    • อัปเดตล่าสุด 3 เม.ย. 50


    ประกายเพลิงยิ้มออก แต่กลับมีคนที่เหาะอยู่บนฟ้ารับไว้ ประกายเพลิงต้องหุบยิ้มทันที อาทิตยกรกระโดดลงมาทรงตัวบนพื้นดินพร้อมกับสังข์เพลิง อาทิตยกรส่งสังข์เพลิงให้กับนรกานต์ เสด็จพ่อให้เรามาช่วย... ฆ่าพวกมัน อาทิตยกรพูด พวกเจ้าโกหก ไร้สัจจะสิ้นดี ธารารักษ์พูด พ่อบอกแล้ว ว่าอย่าให้พวกมันไป วนาวุฒิพูด พสุธาวาท แหวกปฐพีเร็วเข้า วาตการณ์พูด พสุธาวาทแหวกพื้นดิน ชลากร พาเสด็จพ่อ เสด็จแม่ของเราหนีไปก่อนที พวกเราสี่คนจะถ่วงเวลาไว้ให้ วาตการณ์พูด จะถ่วงได้ยังไง ในเมื่อพวกเจ้าไม่มีจตุรศัสตรา ชลากรพูด รีบไปซะทีสิ ประกายเพลิงตะคอกใส่ แต่เราห่วง... ชลากรพูดไม่ออก โอ๊ยรำคาญ ประกายเพลิงพูดและเรียกวิหคมา วิหค พาเสด็จพ่อ เสด็จแม่ของเราหนีไปที ประกายเพลิงพูด

                อาทิตยกรเรียกกริชออกมาต่อสู้ พวกจตุรธาตุ และ ชลากรกำลังเสียเปรียบ ในเมื่อตอนนี้ไม่มีอะไรจะต้านเลย นอกจากพลังแห่งจตุรธาตุที่อ่อนลงทุกที วาตการณ์ตรงเข้าประจัญด้วยดาบที่เรียกออกมา อาทิตยกรถีบสวนไปดันมือวาตการณ์ไว้ดึงดาบมาฟันลงไปโดนที่หลังวาตการณ์ วาตการณ์ได้รับบาดเจ็บ เป็นแผลกว้างแต่โชคดีที่ไม่ค่อยลึก วาตการณ์ลุกขึ้นหมุนร่างของตนเป็นลูกพายุและเข้าโจมอาทิตยกร เพียงพลังของกริช เปรี้ยงเดียวพายุถึงกลับสลายไป วาตการณ์ล้มลงบาดเจ็บหนักเลยคราวนี้ เจ็บปวดปลาบแปลบไปทั่วทั้งร่างกาย เจ็บปานวิญาณจะหลุดออกจากร่าง ประกายเพลิงเข้าไปเป็นคนที่สองด้วยดาบเช่นกัน มุ่งหน้าจะเข้าไปฟัน อาทิตยกรดันมือไว้และหักแขนประกายเพลิงจนดาบหลุดออกจากมาเหวี่ยงตัวประกายเพลิงจนไปกระแทกกับต้นไม้ อาทิตยกรถือกริชและและจะตรงเข้ามาแทง ประกายเพลิงรีบวิ่งหลบออกมากริชจึงพลาดไปปักต้นไม้ อาทิตยกรดึงกริชกลับมา และใช่พลังของกริชใส่ประกายเพลิงที่ทรุดอยู่กับพื้น ประกายเพลิงโดนบ้างไม่โดนบ้างเพราะมีคนมาดึงตัวประกายเพลิงหลบไปด้วยกันที่พุ่มไม้ มาช่วยเราไว้ทำไม น้ำเสียงที่แข็งกร้าวทั้งอิดโรย ทั้งอ่อนแรง ประกายเพลิงได้รับบาดเจ็บจนเกินต้านทาน กำไลวงนั้น ของชลากร ชลากรเรียกมันมาและสวมใส่ที่ข้อมือให้กับประกายเพลิงและกุมไว้

                พสุธาวาทตรงเข้าประจัญกับอาทิตยกรบ้าง ขวัญและกำลังใจของฝ่ายจตุรธาตุเริ่มหดหาย พสุธาวาทพยายามใช้ดาบต่อต้าน แต่ก็ทำได้แค่ต้านไว้เท่านั้น ซึ่งก็ต้านไม่ไหว อาทิตยกรกำลูกไฟไว้ในมือ และรัวใส่พสุธาวาทไม่หยุดยั้ง พสุธาวาทวิ่งหลบลูกไฟและเนรมิตพื้นดินสะเทือน ทุกอย่างต่างสั่นไหว อาทิตยกรทรงตัวแทบไม่ได้ แต่อาทิตยกรก็ปกกริชลงบนพื้นดิน เจ้าคิดจะใช้จิตคุมพื้นดินให้สั่นไหวงั้นเหรอ ไม่มีทางสำเร็จ อาทิตยกรพูด โอ๊ย... พสุธาวาทร้องขึ้น เจ็บแปลบขึ้นมาตรงที่ใจพอดี เจ็บจนไม่สามาร๔หายใจปกติ ทรมานเหลือเกิน และสุดท้ายธารารักษ์ไม่ได้เป็นฝ่ายตรงเข้าไปต่อสู้ แต่คนที่ตรงเข้ามาก่อนนั้นก็คืออาทิตยกร จวนตัวธารารักษ์ขว้างลูกไฟใส่ อาทิตยกรเพียงเอนตัวหลบก็พ้นจากลูกไฟเหล่านั้นแล้ว อาทิตยกรรวมพลังไว้ที่กริชและกำลังจะสาดใส่ธารารักษ์ ธารารักษ์ก้มหลบแต่ก็ไม่พ้นอยู่ดีได้รับบาดเจ็บ คราวนี้ก็เจ็บกันถ้วนหน้าแล้ว อาทิตยกรชูกริชขึ้นอีกครั้ง พร้อมจะปลิดชีพธารารักษ์ในครานั้น และแล้ว บางอย่างได้ห้ามอาทิตยกรเอาไว้ให้หยุด

    อาทิตยกรจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปฆ่าวาตการณ์ที่ทรุดอยู่ไม่ไกลก่อน วาตการณ์พยายามที่จะหยัดตัวลุกขึ้นสู้แต่พอจะลุกได้ก็มีพลังของกริชสาดเข้ามาเต็มๆ วาตการณ์ล้มลงกับพื้น วาตการณ์หยิบขนกินรีที่รักษาไว้อย่างดีขึ้นมามอง ขนกินรีสีขาวสะอาดเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดของวาตการณ์ ร่างของวาตการณ์ก็ค่อยๆสูญสลายไปกับสายลม หายไปกับลูกพายุเหลือแต่ขนกินรีที่มีรอยเลือดของวาตการณ์ฝากเอาไว้

    ประกายเพลิงทรุดอยู่ที่ใต้ต้นไม้ โดยมีชลากรอยู่เคียงใกล้ ชลากรกุมมือเหมือนส่งพลังบางอย่างผ่านกำไลเข้าไปในร่างกายของประกายเพลิง ประกายเพลิงมองชลากรน้ำตาที่คลออยู่ค่อยๆไหลออก ถอดกำไลออกจากข้อมือเราเดี๋ยวนี้ เราไม่อยากติดค้างกับเจ้าอีก เราไม่อยากเอากำไลนี้ไปเกิดในชาติภพหน้า เราไม่อยากเสียใจอีกแล้ว ประกายเพลิงพูด ไม่... ไม่มีวันที่เจ้าจะต้องเสียใจ เรามอบให้เจ้าเอง เราเป็นคนสวมให้เจ้า คนที่สวมกำไลนี้ให้เจ้าคือเรา ไม่ใช่ธารารักษ์ถ้าเจ้าเกิดมาใหม่อีก... เราจะขอรักเจ้า เราจะไม่ขอทำให้เจ้าต้องเสียใจ ให้เป็นบาปเป็นกรรมต่อกันอีก ชลากรพูด ซึ้งเหลือเกินนะ เสียงหนึ่งเข้ามาขัด อาทิตยกรนั่นเอง ประกายเพลิงพยายามลุกขึ้นยืน ชลากรเข้าช่วยเมื่อยืนขึ้นแล้วประกายเพลิงก็สาดพลังเพลิงพิคาตใส่อาทิตยกรสวนด้วยกริชทันที ประกายเพลิงทรุดลงคราวนี้หมดแรง ประกายเพลิงหายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ ประกายเพลิง ชลากรพยายามโอบประคองธิดาราชแห่งเปลวไฟเอาไว้ อาทิตยกรเดินไปแล้ว แต่ประกายเพลิงกำลังจะสิ้นใจ ประกายเพลิงดูเหมือนจะร้องไห้ด้วย เราไม่อยากจากเจ้าไปเลย โดยเฉพาะตอนนี้ เจ้าช่างดีกับเราเช่นเราเป็นธารารักษ์ พบกันอีกครั้งขอให้เจ้ารู้สึกกับเหมือนธารารักษ์ หรือมากกว่าที่เจ้ารู้สึกกับนาง ประกายเพลิงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงและแผ่วเบาแทบไม่ได้ยิน ร่างกายของนางค่อยๆสลายไปเป็นเปลวเพลิงโชติช่วง... ชลากรทำอะไรไม่ถูก รู้อย่างเดียวว่า เพียงแค่เห็นประกายเพลิงเจ็บทรุดลงต่อหน้า ตนถึงกับต้องสะเทือนใจมากเพียงนี้ ยังลังเลอยู่ว่าแท้จริงแล้ว คนที่ตนรัก และควรรักตั้งแต่แรกคือใคร

    อาทิตยกรจะมาฆ่าพสุธาวาท พสุธาวาทเจ็บหนัก อาทิตยกรกำลังจะสาดพลังมหาศาลจากกริชใส่ แต่แล้วก็คิดอะไรบางอย่างออก เกศสิรินทร์รัตน์... ใช่สิ อาทิตยกรพูด

    ที่ป่าแสงตะวันอาทิตยกรนำตัวพสุธาวาท และ ธารารักษ์ที่บาดเจ็บหนักมาขังไว้แยกตำหนักกัน สองพี่น้องยังเหลืออดชีวิตอยู่ ในตำหนักของพระธิดาเกศสิรินทร์รัตน์ พอทราบข่าวก็ตกใจมาก อะไรนะ... ตายไปสอง เหลืออีกสอง... วนาบุรี ศรีมหานครา ประภารำไพภูษิต วิจิตรามหานครินทร์ล่มสลายแล้ว... เกศสิรินทร์รัตน์พูดชื่อเต็มของมนาบุรี เพคะพระธิดา หม่อมฉันคงช่วยพระธิดาได้แค่ส่งข่าวเรื่องข้างนอก พระธิดาไม่ต้องทรงเป็นห่วงนะเพคะ พระโอรสพสุธาวาทยังปลอดภัยดี คุณท้าวแสงศิลาพูด เสด็จพ่อไม่เอาไว้หรอกคุณท้าว ไม่ตายตอนนี้ ยังไงก็ต้องตายอยู่ดี เกศสิรินทร์รัตน์ ทำไมรับสั่งอย่างนั้นแหละเพคะ คุณท้าวแสงศิลาพูด

    ที่กินรีนครา อะไรนะ พระธิดาวรยุภัทรร้องเสียงลั่นตำหนักทันทีที่ได้ยินข่าวคราวเรื่องจตุรธาตุ ที่ชลากรนำมาบอก วาตการณ์ เสียงของธิดาราชเริ่มเบาลง วรยุภัทรลุกขึ้นและเดินออกจากตำหนักนั้น เดี๋ยววรยุภัทร เจ้าจะไปไหน ชลากรพูดและเดินตามไป

    ที่วนาบุรี... เมืองร้างวรยุภัทรมองไปเห็นขนกินรีที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด วรยุภัทรถึงกับหยุดชะงักเมื่อเห็น วรยุภัทรนิ่งไป พูดอะไรไม่ถูกตรงเข้าไปหยิบขนกินรีขึ้นมา ชลากรมองอยู่ห่างๆก็ส่ายหน้าอย่างเห็นใจ วรยุภัทรมองดูก็นึกถึงตอนที่ชลากรพยายามฉุดดึงตนให้ยืนอยู่บนจักรด้วย มืออีกข้างกำแน่น เลือด... วาตการณ์... เรารู้แล้วว่าเรารักเจ้า เรารักเจ้า เจ้าจะจากเราไปไม่ได้ เรา... เราจะแต่งงานกับเจ้า เรา... เราเสียใจ... วรยุภัทรพูดแต่น้ำตาไม่ไหลออกมาเลยสักหยด นางเข้มแข็งมาก มากจนเกินไป

    ธารารักษ์ นอนอยู่ในตำหนักที่ไร้เครื่องเรือนใดๆ เป็นตำหนักมืด ธารารักษ์ถูกจับมัดไขว้หลัง ร้องเบาๆด้วยความเจ็บปวดที่แผล และฤดีรินทร์ก็เดินเข้ามา แก้มัดมัน ฤดีรินทร์ออกตำสั่งแก่นางรับใช้ ฤดีรินทร์ดึงธารารักษ์ขึ้นมา และตบหน้าธารารักษ์แรงๆอีกครั้ง... น่าเสียดายนะที่นังประกายเพลิงมันตายไปแล้วหนะ ถ้ามันยังอยู่... เราก็คงจะได้สะใจมากกว่านี้ ที่ได้ตบหน้ามันด้วย ฤดีรินทร์พูด ประกายเพลิงไม่ให้เจ้าตบหน้าได้ง่ายๆหรอก ธารารักษ์พูด หุบปาก ตอนนี้เราเหนือกว่าเจ้า เราจะตบจะตีเจ้าให้ตายตอนนี้เลยก็ไม่มีใครว่าเราได้ เพราะตอนนี้เราเป็นถึงพระสหายของพระโอรสอาทิตยกร ส่วนเจ้า... เป็นแค่เชลยที่โชคดีได้รับการไว้ชีวิต ฤดีรินทร์พูด คงสะใจหละมั้งหัวเราะร่าออกไปเชียว

    ที่ตำหนักองค์สุริยะเทพ เสด็จพ่อ ให้ลูกได้เข้าไปเยี่ยมพสุธาวาทหน่อยเถอะเพคะ ลูกอยากพบ อยากจะเห็นว่าเค้าเจ็บหนักแค่ไหน นะเพคะเสด็จพ่อ เกศสิรินทร์รัตน์พยายามขอร้องพระบิดา ถ้าเจ้าต้องการอยากจะได้ไปพบมัน พ่อจะให้เจ้าพบ และเจ้าก็ต้องเกลียดมันไปจนวันตาย สุริยะเทพพูด เสด็จพ่อหมายความว่ายังไง เกศสิรินทร์รัตน์พูด แก้วสะกดใจ พ่อจะใช้พลังของแก้วสะกดใจกับเจ้า เพื่อให้เจ้าเกลียดมัน สุริยะเทพพูด เสด็จพ่อ เกศสิรินทร์รัตน์พูด





    ตัวอย่างตอนต่อไป

    เสด็จพ่อ นั่น... ลูกแก้วสะกดใจใช่ไหม เกศสิรินทร์รัตน์พูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว อำนาจแห่งลูกแก้วจำทำให้เจ้าโกรธแค้น จะทำให้เจ้าเกลียดไอ้พสุธาวาท และฆ่ามันด้วยตัวของเจ้าเอง สุริยะเทพพูด
    เราอยากจะมาวางแผน... ช่วยพสุธาวาท กับ ธารารักษ์ที่อาจจะรอดชีวิต ชลากรพูด อาจจะ... อาจจะงั้นเหรอ แล้ววาตการณ์ กับ ประกายเพลิงหละ... พวกเค้าไม่มีทางรอดเลยใช่ไหม วรยุภัทรพูด ก็พวกเค้าตายไปแล้ว... ชลากรพูด ถ้าพสุธาวาท และ ธารารักษ์ยังอยู่ พวกเค้าก็ต้องมีทางกลับมาสิ วรยุภัทรพูด เราจะพยายามคิดในแง่ดีเอาไว้... อย่างที่เจ้าคิด ชลากรพูด
    เสด็จพ่อ เสด็จพ่อหมายความว่าอย่างไรพระเจ้าข้า อาทิตยกรพูด ที่พ่อดูไว้ก็คือ... ฤดีรินทร์ พ่อจะให้เจ้าแต่งงานกับฤดีรินทร์ซะ เพื่อกัน ไม่ให้เจ้ารักธารารักษ์ สุริยะเทพพูด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×