ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จตุรธาตุ จตุรศัสตรา

    ลำดับตอนที่ #23 : วิธีอันชาญฉลาด ใครก็คาดคิดไม่ถึง

    • อัปเดตล่าสุด 3 เม.ย. 50


    ที่ป่าแสงตะวัน อาทิตยกรได้รับบาดเจ็บอยู่มากพอตัว นอนอยู่ในตำหนัก องค์สุริยะเทพนั่งอยู่คุยกับราชโอรส นรกานต์ก็อยู่ในนั้น วาตการณ์ กับ ประกายเพลิงเข้ามา นี่พวกเจ้าไม่คิดจะทำอะไรเลยเหรอ แพ้กลับมาเนี่ย คิดหน่อยสิ คิดกันเร็วๆ วาตการณ์พูด ก็เราก็กำลังคิดกันอยู่เนี่ย อาทิตยกรอารมณ์ร้ายพอกันลุกขึ้นจากเตียงแต่ก็ทนพิษบาดเจ็บไม่ไหว โอ๊ย อาทิตยกรทรุดลงไปนอนเหมือนเดิม ใครทำเจ้า ประกายเพลิงพูดอย่างสงสัย ธารารักษ์ สุริยะเทพพูด ธารารักษ์ทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ ประกายเพลิงทั้งแปลกใจ ทั้งไม่พอใจ นางเอาเราลงไปต่อสู้ใต้น้ำ เราสู้นางไม่ได้ อาทิตยกรพูดและนึกไปถึงภาพนั้น งั้นเจ้าก็ต้องรีบรักษาตัวให้หาย เราจะไปบุกที่นั่นอีกครั้ง วาตการณ์พูด พวกเจ้าอย่าคิดที่จะวู่วาม นรกานต์พูด ว่ายังไงหละอาทิตยกร ประกายเพลิงพูด อาทิตยกรดูไม่ค่อยจะแข็งกร้าวอย่างที่เคยเป็นสักเท่าไหร่ สีหน้าท่าทางเห็นได้ชัดแบบนั้น ไม่พ้นสายตา วาตการณ์ กับ ประกายเพลิงหรอก อาทิตยกรหลบตาไม่ตอบพูดอย่างเดียวว่า เราไม่รู้ อาทิตยกรพูด

    ใกล้ตำหนักเกศสิรินทร์รัตน์ วาตการณ์ กับ ประกายเพลิงยืนคุยกันเอะอะเสียงดัง เป็นไปไม่ได้ หรือว่าน้ำ จะทำให้แสงอาทิตย์อ่อนลงจริงๆ ประกายเพลิงพูด เกศสิรินทร์รัตน์ได้ยินเข้าก็เดินมาที่หน้าต่างและแอบฟังสองพี่น้องคุยกัน เป็นไปแล้ว พลังฤทธิ์ธารา และ คทาธารเอาชนะอาทิตยกร กับ กริชได้ วาตการณ์พูด เกศสิรินทร์รัตน์ได้ยินเข้าทุกอย่างก็รีบไปเขียนจดหมายไว้ แล้วเมื่อวิหคมาเข้าเฝ้า วิหค เราฝากสาส์นนี้ไปให้พวกพสุธาวาทด้วยนะ เกสสิรินทร์รัตน์พูด รับด้วยเกล้าพระเจ้าข้า ข้าพระองค์จะนำสาส์นของพระธิดาไปส่งให้ถึงมือพระโอรส วิหคพูด ขอบใจเจ้ามาก ไปได้แล้ว เกศสิรินทร์รัตน์พูด

    เมื่อสาส์นมาถึงมือพสุธาวาทราชโอรส พสุธาวาทเปิดอ่านให้ธารารักษ์ วรยุภัทร ชลากร ที่อยู่ด้วยกันที่นั่นฟัง อาทิตยกรบาดเจ็บหนัก เพราะฤทธิ์ธารา กับ คทาธาร น้ำทำให้แสงตะวันอ่อนลงได้จริงๆ พสุธาวาทพูด ธารารักษ์งั้นเจ้าก็ต้องจัดการพวกมันใต้น้ำจะสำเร็จ วรยุภัทรพูด แล้วจะทำยังไงเอาพวกมันไปใต้น้ำ พสุธาวาทพูด ลืมไปแล้วเหรอว่าเราเป็นอะไร ชลากรพูด นาคราช ทุกคนพูดพร้อมกัน ใช่ นาคราชสามารถแหวกที่ตรงไหนให้เป็นน้ำก็ได้ แต่เจ้าต้องช่วยเรานะพสุธาวาท ชลากรพูด ดีงั้นเราก็จะได้ไม่ต้องรอให้พวกมันมาบุกเรา วรยุภัทรพูด เราจะบุกพวกมันก่อนเหรอ ธารารักษ์พูด ใช่ คืนนี้ ดึกๆ เราจะไปทันที พสุธาวาทพูด

    เมื่อเวลาดึกสงัดในยามราตรี ในตำหนักหนึ่งที่วนาบุรี เปลี่ยนใจวาตการณ์ กับ ประกายเพลิงให้ได้นะลูก พระมเหสีมาลีรินทร์พูด พระเจ้าข้า ลูกจะพยายาม พสุธาวาทพูด พระโอรส และ พระธิดาทั้งสองกราบกรานพระมารดา วรยุภัทร และ ชลากรก็ไปด้วย เมื่อยามออกเดินทาง ทั้งสี่เหาะมุ่งหน้าตรงสู่ป่าแสงตะวัน

    ที่ป่าแสงตะวันในยามราตรีกาล ชื่อว่าป่าแสงตะวัน แต่ไร้ซึ่งแสงตะวัน อาทิตยกรยังนอนบาดเจ็บอยู่ ในตำหนักธิดาราชเทพนารีแห่งอาภาทิตย์ เกศสิรินทร์รัตน์นั่นเอง เกศสิรินทร์รัตน์ยังหลับใหล พสุธาวาทเข้ามาสะกิดร่างเบาๆ รู้สึกตัวเห็นว่าเป็นพสุธาวาทก็โผเข้ากอดทันที เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม เกศสิรินทร์รัตน์ดูจะห่วงใยพสุธาวาทเป็นพิเศษ ราชโอรสผู้เกิดมาเพื่อทำร้ายจิตใจเกศสิรินทร์รัตน์ถึงกับนิ่งไป ใจอ่อนไหวไปชั่วขณะ เราไม่เป็นอะไร แล้วเจ้า... พสุธาวาทพูด เราปลอดภัย ไม่มีอะไรทั้งนั้นแต่เจ้าต้องต่อสู้อยู่ข้างนอกเราดีใจที่ไม่ได้เห็นรอยบาดแผลใดๆ เกศสิรินทร์รัตน์พูด ไปกันเถอะ พสุธาวาทพูด

    ธารารักษ์ วรยุภัทร ชลากรกำลังต้านพวกทหารเอาไว้อยู่ พสุธาวาท และ เกศสิรินทร์รัตน์วิ่งออกมาแล้ว อาทิตยกรยังเจ็บหนักออกมาดูการต่อสู้ วาตการณ์ และ ประกายเพลิงก็ยืนมองอยู่ สุริยะเทพ อยู่ที่นั่นด้วย แต่นรกานต์ไม่อยู่ ชลากร จัดการ พสุธาวาทพูด ชลากร และ พสุธาวาทช่วยกันแหวกพื้นดิน ให้เป็นพื้นน้ำ วาตการณ์หมุนตัวให้เป็นพายุพัดทุกคนลงน้ำไป วาตการณ์ สุริยะเทพ และ อาทิตยกรพูดพร้อมกัน วาตการณ์ยิ้มเย้ยแปลกๆ เช่นเดียวกับประกายเพลิง จตุรธาตุ จตุรศัสตรา วาตการณ์หันไปบอก ประกายเพลิงเรียกนกตัวหนึ่งมาเกาะทีแขน และยิ้มแปลก นกนั้นก็กลายเป็นวิหค คุกเข่าให้ประกายเพลิง วรยุภัทรยิ้มออกแล้ว พวกนั้นช่วยพวกเรา วิหคเป็นนกที่ประกายเพลิงนิรมิตมา วรยุภัทรพูด จริงเหรอ ธารารักษ์ยิ้มอย่างดีใจ เหล่าทหารที่ถูกพัดลงมาด้วยเข้าไปสู้กับจตุรธาตุทั้งสี่ และ วรยุภัทร ชลากร พลังของวรยุภัทรทรงอำนาจอยู่พอตัว เป็นอีกพลังที่มีอานุภาพ และเลิศลักษณ์ ปล่อยออกไปทีก็มีขนนกกระจายออกไป ส่วนชลากรพลังนั้นเป็นพิษนาคราชคนที่โดนไปต้านทานไม่ไหวจะสิ้นใจเฉียบพลัน ส่วนพลังทั้งสี่นั้นคงไม่ต้องบรรยายแล้ว เกศสิรินทร์รัตน์ก็ช่วย พลังของเกศสิรินทร์รัตน์คือแสงเจิดจ้า คือสุริยะตะวัน นางประดุจเทพธิดาแห่งรัศมีสุรีย์ภา งามสง่าเหลือเกิน แกร่งกล้าสามารถประดุจชายชาตินักรบ ชลากรสู้ๆไป ประกายเพลิงก็เข้ามาขวางชลากร หลบไปชลากร มันเป็นเรื่องของจตุรธาตุ นาคราชอย่างเจ้าไม่เกี่ยว ประกายเพลิงพูด ทำไมเราจะไม่เกี่ยว พูดอย่างกับเราไม่มีความเกี่ยวข้องกับพวกเจ้า ชลากรพูด ประกายเพลิงไม่ได้ตอบอะไร การต่อสู้ดำเนินต่อไป เทพบริวารเป็นฝ่ายเสียเปรียบ จตุรธาตุ จตุรศัสตรา รวมพลัง พสุธาวาทพูด ทั้งสี่พี่น้องวิ่งเข้ามาหากันและเรียกอาวุธของตนออกมา ตรีศูล พสุธาวาทส่งเสียงและเมื่อตรีศูลปรากฏพสุธาวาทก็ถือตรีศูลอย่างเตรียมพร้อม คทาธาร ธารารักษ์ส่งเสียงเมื่อคทาธารมาอยู่ในมือก็ถือคทาอย่างเตรียมพร้อม กงจักรวาโย วาตการณ์เรียกอาวุธคู่กายออกมาถือไว้อย่างเหมาะมือเตรียมพร้อมตลอดเวลา สังข์เพลิง ประกายเพลิงส่งเสียงอาวุธสุดท้ายก็ปรากฏขึ้น สุริยะเทพ และ อาทิตยกรมีสีหน้าที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนักเมื่อศัสตราวุธทั้งสี่ปรากฏขึ้นพร้อมกันในเวลาแบบนี้ ทั้งสี่ใช้พลังของใครของมันตรงไปที่สุริยะเทพ และ อาทิตยกร สุริยะเทพหายไป แต่อาทิตยกรบาดเจ็บหนัก หนักมาก สี่พี่น้องเดินเข้าไปดู ประกายเพลิงยกมือขึ้นกำลูกไฟ อย่าพึ่งประกายเพลิง พสุธาวาทพูด ประกายเพลิงค่อยๆลดมือลง จะเอาตัวเค้าไปเป็นเชลยที่วนาบุรีเหรอ ธารารักษ์พูด เราว่าอย่างมันต้องฆ่าให้ตาย วาตการณ์พูด อย่าพึ่งฆ่าใครตอนนี้เลย ธารารักษ์พูด

    ระหว่างทางกลับวนาบุรี หญิงสาวนั่งร้องไห้อยู่กลางป่า นั่นใครหนะ คุ้นๆ ประกายเพลิงพูด ลองลงไปดูกันดีไหม ธารารักษ์พูด ถ้างั้นพวกเจ้าไปดูกันสองคน เราจะล่วงหน้าไปวนาบุรีก่อน ไปทูลข่าวดีให้กับเสด็จแม่ พสุธาวาทพูด

    ในป่า คนที่นั่งร้องไห้อยู่นั้น ก็คือฤดีรินทร์นั่นเอง นึกว่าใคร... เจ้ามาร้องไห้อยู่ทำไมกลางป่า แม่ของเจ้าหละ วิฤดี นางหายไปไหน ประกายเพลิงพูด เสด็จแม่... เสด็จแม่ของเราถูกเสือกัดตาย ยังดีที่เราเอาชีวิตรอดมาได้ ฤดีรินทร์พูด ประกายเพลิงหันมองหน้าธารารักษ์ จะเอายังไงกับนางดี ประกายเพลิงพูด พาเรากลับวนาบุรีไปด้วยเถอะนะ ฤดีรินทร์พูด ประกายเพลิงหันมองหน้าธารารักษ์อีกครั้ง ไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง ธารารักษ์พูด

    ที่วนาบุรี ในท้องพระโรง วาตการณ์กราบพระบิดา พระมารดา ลูกขอโทษพระเจ้าข้า วาตการณ์พูด ไม่เป็นไรหรอกวาตการณ์ พ่อชื่นชมนะ มันเป็นวิธีที่ฉลาดมาก วนาวุฒิพูด วาตการณ์ แม่เป็นห่วงเจ้ามากนะรู้ไหม ลูกแม่... มาลีรินทร์พูด พระเจ้าข้า วาตการณ์พูด ชั่วครู่ พระธิดาทั้งสองแห่งจตุรธาตุก็เดินเข้ามา เสด็จพ่อ เสด็จแม่ ประกายเพลิงวิ่งเข้าไปกราบกราน มาลีรินทร์กอดพระธิดาประกายเพลิงอย่างอบอุ่น องค์วนาวุฒิโอบไว้เช่นกัน ประกายเพลิง ลูกแม่... แม่เป็นห่วงลูกที่สุด แม่เองยังไม่รู้ว่าเจ้าโกรธเคืองเรื่องใดทำไมไม่คุยกันดีๆ แม่ใจหายใจคว่ำไปหมดรู้ไหม มาลีรินทร์พูด เสด็จแม่ไม่ต้องทรงเป็นห่วง ลูกเจ็บแค่ไหน ลูกก็คิดว่าคงหายดีแล้วหละเพคะ ประกายเพลิงพูดแลๆไปทางชลากรทั้งๆที่ปากบอกไปว่าหายดีแต่ใจอาจจะยังเจ็บอยู่ดูจากแววตา โถ่ ประกายเพลิงลูกแม่ มาลีรินทร์กอดพระธิดาอีกครั้ง



    ตัวอย่างตอนต่อไป

    ในตำหนักของพระมเหสีมาลีรินทร์ วรยุภัทรยกมือไหว้ อ่าว วรยุภัทร มาแล้วเหรอลูก มานั่งกับแม่สิ มาลีรินทร์พูด แม่... วรยุภัทรพูด
    แม่อยากจะได้วรยุภัทร มาเป็นลูกสะใภ้ มาลีรินทร์พูด เสด็จน้า... วรยุภัทรถึงกับตกใจ นิ่งไป
    ประกายเพลิง เสด็จแม่จะให้เราแต่งงาน ธารารักษ์พูดเสียงค่อยๆ
    อืม ประกายเพลิงพูด กับชลากร ธารารักษ์ตอบช้าๆเบาๆ
    ก็ดีแล้วหนิ มาบอกเราทำไม ประกายเพลิงพูดแววตาเรียบเฉยแต่น้ำตาคลอ แต่เราปฏิเสธไปแล้ว แล้วให้เจ้าแต่งแทน ธารารักษ์พูด อะไรนะ ประกายเพลิงหันมาหาธารารักษ์ทันที ธารารักษ์ผงกหัวช้าๆ
    ทำไมเจ้าไม่คัดค้าน เรื่องแต่งงาน ประกายเพลิงพูด ไม่มีอะไรที่เราต้องคัดค้าน เรารู้แต่ว่าเราไม่ควรปฏิเสธ ชลากรพูด

    ถ้าคิดว่ามันเป็นทางเดียวที่ปกป้องธารารักษ์ได้ เจ้าคิดผิด เพราะเราไม่คิดจะทำอะไรนางหรอก... เปลี่ยนใจเถอะชลากร เราไม่อยากแต่งงานกับเจ้าทั้งที่เจ้าไม่รักเรา ประกายเพลิงพูด เรารักเจ้า ชลากรพูดแบบนิ่งๆ เจ้าโกหก ประกายเพลิงพูดแต่น้ำตาคลอเสียงยังกร้าวไม่สั่นไหว ก่อนจะกลับวนาบุรี
    คำถามที่สอง... เจ้าจะแต่งงานกับเราไหม คำถามนี้ถ้าเจ้าตอบไม่ถูกใจเรา เจ้าก็คงรู้นะว่าเราจะทำอะไร วาตการณ์พูด นึกว่ากลัวเหรอ วรยุภัทรพูด กลัวไม่กลัวเราก็เห็นเจ้าตัวชาไปหมด แล้วยังจะมาบอกว่าไม่กลัวอีกรึไง วาตการณ์พูด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×