คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : พลังน้อยนิด กลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่มหาศาลได้... หากใช้ได้ถูกวิธี
และวันที่ไม่อยากให้มาถึง ก็มาถึงครบแล้วสามวันที่กริชของอาทิตยกรอยู่ในน้ำอมฤทธิ์ วันนี้พร้อมบุกวนาบุรีแล้ว
ที่วนาบุรี ภายใต้บรรยากาศสงบ ราบเรียบ ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น พสุธาวาทมาคุมทหารซ้อมดาบด้วยตนเอง อยู่ๆก็มีพลังหนึ่งดูทรงอานุภาพร้ายแรงมาก โจมตีมา เป็นพลังของกริชเล่มนั้น เหล่าทหารต้านทานไม่ไหวก็ล้มตายไป ส่วนพสุธาวาทมองดู “อาทิตยกร” พสุธาวาทรู้แล้วว่าเจ้าของพลังและกริชนั่นคืออาทิตยกร “ขุนวิชิต ท่านไปบอกธารารักษ์ และ ชลากร รวมถึง วรยุภัทรด้วย แล้วพวกเจ้าก็พาเสด็จพ่อ เสด็จแม่หนีไป” พสุธาวาทพูด “รับด้วยเกล้าพระเจ้าข้า” ขุนวิชิตพูดและวิ่งไป
พสุธาวาทเรียกดาบออกมาและตรงเข้าไป กำหมัดเตรียมพร้อมต่อสู้ วาตการณ์ และ ประกายเพลิงก็กระโดดลงมา อาทิตยกร สุริยะเทพ และ นรกานต์ด้วย “พวกเจ้าจริงๆด้วย” พสุธาวาทพูดอย่างผิดหวัง วาตการณ์ไม่รดช้าตรงเข้าไปด้วยมือปล่าวฝีมือคล่องแคล่วของวาตการณ์ น้อยครั้งที่จะพลาด วาตการณ์จู่โจมด้วยหมัด หมัดแรกโชคดีที่พสุธาวาทคว้าไว้ได้ทันและเตะสวนไป วาตการณ์ถอยออกนิดหน่อยเพื่อหลบ วาตการณ์ถีบไปพสุธาวาทเสียหลักเซๆไปนิดและตรงเข้ามาใหม่ด้วยดาบ วาตการณ์ดันมือพสุธาวาทเตะขาพสุธาวาทสองสามทีและดึงดาบออกมาพร้อมกับถีบพสุธาวาทล้มลงไป วาตการณ์ขว้างดาบไปหมายให้ปักพสุธาวาท พสุธาวาทกลิ้งหลบและลุกขึ้นทรงตัวได้เรียกตรีออกมา “ตรีศูล” พสุธาวาทส่งเสียง พื้นดินสนั่นหวั่นไหว อาวุธทรงอำนาจปรากฏขึ้นในมือเจ้าของ วาตการณ์โจมตีต่อด้วยพลัง วาโยเวท พลังนั้นสู้กับตรีศูลไม่ไหวจริงๆ วาตการณ์จึงเซถอยออกมา วาตการณ์บาดเจ็บแล้ว แต่ก็ยังมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวจะเข้าไปอีกครั้ง ประกายเพลิงห้ามไว้ “ไม่ต้องวาตการณ์ เราบ้าง” ประกายเพลิงพูดและก้าวเข้าไป หมัดแรกของประกายเพลิงพุ่งเข้าไปเฉียดๆ พสุธาวาทคว้าแขนประกายเพลิงไว้ทันประกายเพลิงจึงดึงแขนพสุธาวาทและเหวี่ยงไปสุดแรง พสุธาวาทกระแทกต้นไม้นิดหน่อย แต่ก็ไม่เป็นอะไร ฝีมือทางการต่อสู้แบบนี้ ประกายเพลิงก็แพรวพราวอยู่เหมือนกัน ตรงเข้าไปอีกพสุธาวาทลุกขึ้นได้ ประกายเพลิงเตะไปด้วยเท้าซ้าย พสุธาวาทหลบไปทางขวา ประกายเพลิงลดเท้าซ้ายลงและยกเท้าขวาขึ้นถีบ พสุธาวาทเซๆไปอีกครั้ง พสุธาวาทตัดสินใจใช้ตรีศูล ประกายเพลิงไม่ทันที่จะระวังตรีศูล โดนไปเต็มๆเซถอยออกไป วาตการณ์คอยช่วยพี่น้อง สองพี่น้องมองตากันและเรียกอาวุธคู่กายของตนออกมา “กงจักรวาโย” วาตการณ์ร้องสุดเสียงก้องกังวานน่าเกรงขาม “สังข์เพลิง” ประกายเพลิงเรียกสังข์เพลิงออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวดั่งที่เคย การต่อสู้ยังดุเดือด ดิน ลม และไฟ ต่างเดือดพล่านขึ้นพร้อมกัน พิภพสนั่นสั่นไหว ลมพัดรุนแรงคือวายุ โชติช่วงอยู่นั้นคือไฟกัลป์ หากแต่มีพลังแห่งน้ำอีก ทั้งสี่พี่น้องที่ขับเขี้ยวกันเองต้องทลายล้างโลกันตร์ได้เป็นแน่ และนั่นคงเป็นความปรารถนาแห่งนรกานต์ แต่ไม่มีใครทันสังเกตว่าอาทิตยกรหายไปไหน อาทิตยกรไปไหน เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ธารารักษ์ ชลากร วรยุภัทร พาทุกคนหนีมาในป่า ต่างวิ่งเอาชีวิตรอดกันเสียหมด ในตำหนักของวิฤดีที่วนาบุรี วิฤดี กับ ฤดีรินทร์ไม่ได้หนีไป สองแม่ลูกนั่งกอดกันอยู่ในตำหนัก “เสด็จแม่... พวกมันจะฆ่าเราไหมเพคะ” ฤดีรินทร์พูด “แม่ไม่รู้เหมือนกัน นังเกศสิรินทร์รัตน์ต้องบอกให้พวกมันมาฆ่าเราแน่ๆเลย ฤดีรินทร์ลูกแม่” วิฤดีพูด “แล้วเราจะทำยังไงหละเพคะเสด็จแม่” ฤดีรินทร์พูด “หนีลูก ต้องหนี” วิฤดีพูด
ในป่า แถวนั้นมีลำธารอยู่ด้วย น้ำใสไหลเย็นเหลือเกิน ในขณะที่ธารารักษ์ ชลากร วรยุภัทรและทุกคนหนีไปอยู่นั้น อาทิตยกรกระโดดลงมาขวางหน้า ทุกคนหยุดชะงัก “อาทิตยกร” ธารารักษ์พูด วรยุภัทร นางกินรีผู้ชาญฉลาดเหมือนจะคิดอะไรออก “ธารารักษ์เอาอาทิตยกรลงไปสู้ในน้ำเราจะพาทุกคนหนีไปเอง” วรยุภัทรพูด “ทำยังไงหละ” ธารารักษ์ลังเล วรยุภัทรคิดอะไรออกตอนนี้ก็ทำไปก่อนวิ่งเข้ามา ผลักอาทิตยกร กับ ธารารักษ์ลงไปในลำธารนั่น “ธารารักษ์” ชลากรจะแปลงร่างเป็นนาคและตามลงไปช่วยธารารักษ์ วรยุภัทรกระชากแขนชลากรมาเสียก่อน
ในน้ำ ทั้งธารารักษ์ ทั้ง อาทิตยกรโผล่ขึ้นมาจากน้ำแล้ว อาทิตยกรกำลูกไฟไว้ ธารารักษ์ไม่รู้จะทำยังไงก็ดำน้ำหลบไป ดำไปเรื่อยๆหนีไปเรื่อยจนไปลึกสุดใต้สุด อาทิตยกรเองก็ตามมาเรื่อยๆเช่นกัน ใต้ท้องน้ำ อาทิตยกรตามทันธารารักษ์แล้วรีบคว้าตัวธารารักษ์ไว้ จับแขนไขว้หลัง ธารารักษ์ดิ้นให้หลุด “ปล่อยเราเถอะ โอ๊ยเจ็บนะ” ธารารักษ์พูดน้ำเสียงของธารารักษ์เป็นอย่างนี้ประจำ จะพูดดี หรือพูดร้าย น้ำเสียงของนางก็จะนิ่มหวานหู อ่อนโยน อ่อนหวาน อาทิตยกรโอรสแห่งเทพสุริยะ ชายหนุ่มเลือดร้อน ไร้หัวใจหาหวั่นไหวต่างอย่างใดไม่ แต่ก็มือไม้อ่อนไป ธารารักษ์ด้นออกมาจนหลุด สิ้นหนทางต้องเรียกคทาธารออกมา “คทาธาร” ธารารักษ์ร้องเรียก เพียงสิ้นเสียงคทาธารก็มาปรากฏในมือ ธารารักษ์ยังไม่ใช้คทาธารทันที “วาตการณ์ กับ ประกายเพลิงเป็นพวกเจ้าแล้วใช่ไหม” ธารารักษ์พูด “ใช่ สองคนนั่นเป็นพวกเราแล้ว” อาทิตยกรพูดแบบเย้ยๆ “เลิกแล้วต่อกันเถอะ เกศสิรินทร์รัตน์ก็อยู่กับพวกเจ้าแล้ว” ธารารักษ์พูด “เรากับเสด็จพ่อไม่มีวันหยุด จนกว่าไอ้พสุธาวาท และพวกเจ้าอีกสามคนจะตาย” อาทิตยกรพูด “หมายความว่าไง” ธารารักษ์พูด “ก็อย่างที่พูดนั่นแหละ จนกว่าจะสิ้นจตุรธาตุอย่างพวกเจ้า” อาทิตยกรพูด “เจ้าหลอกใช้พวกเค้า... เจ้า...” ธารารักษ์พูดไม่ออก “ก็มันโง่มาให้หลอกใช้เองนี่นา” อาทิตยกรพูดและขว้างลูกไฟโจมตีธารารักษ์ พลังนั่นดูไม่ค่อยร้ายแรงเลย อาทิตยกรยังต้องแปลกใจ “ทำไม...” อาทิตยกรบ่น “เราขอโทษ คือเราจำเป็นจริงๆ” ธารารักษ์พูดและใช้พลังจากคทาธาร พลังนั้นกลับตรงกันข้าม ดูทรงพลัง ดูมีอำนาจ พลังนั่นพุ่งเข้าหาอาทิตยกร อาทิตยกรหลบไม่ทันโดนพลังนั้นไปเต็มๆ เซไถล ทรุดลงได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก “พลังของเจ้า...” อาทิตยกรแปลกใจมาก ธารารักษ์ทำอะไรไม่ถูก จึงรีบหนีไปขึ้นฝั่งไปไป อาทิตยกรก็ตามมา ริมลำธาร ธารารักษ์ขึ้นมาแล้ว อาทิตยกรรั้งแขนไว้ และตามขึ้นมา ธารารักษ์ยังไม่ได้เก็บคทาธาร ธารารักษ์ใช้คทาธารอีกที อาทิตยกรไม่ไหวแล้วคราวนี้ทรุดหนัก เจ็บแปลบไปทั้งตัว รู้สึกหนาวๆ อาทิตยกรจึงรีบหนีไปเสียก่อน
ทางด้านพสุธาวาท ต้านวาตการณ์ กับ ประกายเพลิงไว้อยู่ สองรุมหนึ่ง แต่พสุธาวาทกลับต้านไว้ได้ ทั้งสองเซไถลทรุดลงได้รับบาดเจ็บ “ตรีศูลนั่นมีพลังมากที่สุด” นรกานต์บ่น “ถ้าไม่ดีแล้วหละ อาทิตยกรก็หายไปไหนไม่รู้” สุริยะเทพพูดและสุริยะเทพ กับ นรกานต์ก็รีบหนีไปจากที่นั่นเสีย วาตการณ์ทรงตัวลุกขึ้นยืนช้าๆ ประกายเพลิงเองก็ค่อยๆหยัดตัวขึ้น สายตาของประกายเพลิงอิดโรย และ อ่อนแรงเหลือเกิน วาตการณ์เองก็เช่นกัน “พวกเจ้าหยุดเถอะ” พสุธาวาทพูด “หยุดไม่ได้” ประกายเพลิงพูด “แล้วจะให้ทำยังไง เจ้าต้องการอะไร เราก็จะให้ทุกอย่าง ขออย่างเดียวหยุดซะที” ชลากรเดินมา “วาตการณ์” วรยุภัทรพูด วาตการณ์หันมามอง “วาตการณ์ ประกายเพลิง หยุดเถอะนะลูกพ่อ” องค์วนาวุฒิพูด สายตาของทุกคนขอร้อง “ประกายเพลิง รีบไปเถอะ” วาตการณ์พูดและทั้งสองก็กระโดดขึ้นไป
กลางอากาศ วาตการณ์ และ ประกายเพลิงเหาะอยู่ “ทำไมเจ้ารีบกลับ” ประกายเพลิงพูด “เรากลัว” วาตการณ์พูด “กลัวใจอ่อนเหรอ” ประกายเพลิงพูด “อืม...” วาตการณ์ตอบเพียงเท่านั้น “เราเกลียดมัน มันทั้งคู่ ทั้งชลากร ทั้งธารารักษ์” ประกายเพลิงพูด “เราก็ไม่พอใจพสุธาวาท ท่าทางพสุธาวาทจะรักวรยุภัทร เรารักนาง เราบอกให้รู้เลยก็ได้ เราไม่ปิดบังเจ้าหรอกประกายเพลิง แต่...” วาตการณ์พูด “แล้วนี่จะกลับไปที่ป่าแสงตะวันไหม” ประกายเพลิงพูด “ไป” วาตการณ์พูด
ตัวอย่างตอนต่อไป
พสุธาวาทเปิดอ่านให้ธารารักษ์ วรยุภัทร ชลากร ที่อยู่ด้วยกันที่นั่นฟัง “อาทิตยกรบาดเจ็บหนัก เพราะฤทธิ์ธารา กับ คทาธาร น้ำทำให้แสงตะวันอ่อนลงได้จริงๆ” พสุธาวาทพูด “ธารารักษ์งั้นเจ้าก็ต้องจัดการพวกมันใต้น้ำจะสำเร็จ” วรยุภัทรพูด “แล้วจะทำยังไงเอาพวกมันไปใต้น้ำ” พสุธาวาทพูด “ลืมไปแล้วเหรอว่าเราเป็นอะไร” ชลากรพูด “นาคราช” ทุกคนพูดพร้อมกัน “ใช่ นาคราชสามารถแหวกที่ตรงไหนให้เป็นน้ำก็ได้ แต่เจ้าต้องช่วยเรานะพสุธาวาท” ชลากรพูด
“ชลากร จัดการ” พสุธาวาทพูด ชลากร และ พสุธาวาทช่วยกันแหวกพื้นดิน ให้เป็นพื้นน้ำ วาตการณ์หมุนตัวให้เป็นพายุพัดทุกคนลงน้ำไป “วาตการณ์” สุริยะเทพ และ อาทิตยกรพูดพร้อมกัน วาตการณ์ยิ้มเย้ยแปลกๆ เช่นเดียวกับประกายเพลิง “จตุรธาตุ จตุรศัสตรา” วาตการณ์หันไปบอก ประกายเพลิงเรียกนกตัวหนึ่งมาเกาะทีแขน และยิ้มแปลก นกนั้นก็กลายเป็นวิหค คุกเข่าให้ประกายเพลิง วรยุภัทรยิ้มออกแล้ว “พวกนั้นช่วยพวกเรา
ความคิดเห็น