ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทองเนื้อเก้า

    ลำดับตอนที่ #14 : จุดจบ นภราช

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 51


     เราเอง นภราชเดินออกมาอย่างไม่หวั่นเกรงสิ่งใดๆทั้งนั้น เจ้า... นภราช รติวุฒิเรียกชื่อ เราปกป้องกวางตัวนั้น ให้มันรอดพ้นจากอสุราเช่นเจ้า นภราชพูด แต่เราหมายตาเขากวางนั่น รับขวัญลูกสาวของเรา เจ้าทำให้เราต้องพลาดหวัง รติวุฒิพูด ลูกสาวของเจ้า... ท่าทางเจ้าจะรักมากเชียวนะ รู้รึยังหละ ความรู้สึกของพ่อหนะ เจ้าควรจะสำนึกได้แล้วว่าการพรากลูก พรากเมียคนอื่นไปนั้น ผิดมากแค่ไหน พระโอรสนภราชรับสั่งอย่างปักพระทัยเชื่อในเรื่องราวเมื่อราวๆสองปีก่อนเจ้าจะคิด จะปักใจเชื่อว่าอย่างไรมันก็เป็นเรื่องของเจ้า แต่ตอนนี้เราต่างคนต่างอยู่ดีกว่า เราไม่อยากต่อสู้กับใคร ณ เพลานี้ ลูกเรายังเล็กอยู่ รติวุฒิพูด ลูกเราก็ยังเล็กเหมือนกัน... ครั้งนั้นเจ้าล่มสำเภาได้อย่างเลือดเย็น เจ้าทำได้ยังไงรติวุฒิ นภราชพูด เราไม่ได้ทำ แต่ว่าเจ้าจะคิดว่าเราทำก็ได้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเลยผ่านไปแล้ว เราอยากให้เลิกแล้วต่อกัน ศึกบ้าน ศึกเมืองเมื่อกาลนั้น เราขอหย่าศึก จะกลับไปฟื้นฟูอสุรเวหานคร แล้วจะเปลี่ยนการลงทัณฑ์สำหรับโทษที่จะต้องถูกเนรเทศ เราก็จะเปลี่ยนเป็นขังคุกตลอดชีวิต รติวุฒิพูดอย่างเสนอแนะความคิดที่ดี แต่ท่าทาง นภราชจะไม่ค่อยสนใจ ตกลงชนวนศึกในครั้งนั้นคืออะไรกันแน่ เรื่องยักษ์ หรือเรื่องความโมโหโทโสจากเหตุสำเภาของพระนางสุวรรณลักษณาล่ม เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ แต่วันนี้ เราก็เจ้าจะต้องมาสู้กัน ตัวต่อตัวให้รู้แพ้ รู้ชนะแล้วตายกันไปข้างหนึ่ง ชีวิตเราไม่มีอะไรต้อง ไม่มีอะไรต้องกังวลอีกแล้ว นภราชพูด มั่นใจรึว่าไม่มี จันทรัตน์เป็นลูกของเจ้า นภาภัทรนครเป็นเมืองของเจ้า นพคุณก็อาจจะมีชีวิตอยู่ ใจเจ้าจะทิ้งทุกสิ่งไปไดรึ รติวุฒิพูด เจ้ายังจะมาพูดได้อีกเหรอว่านพคุณอาจจะรอด ถ้ามันเป็นไปได้ แล้วลูกของเราตอนนี้อยู่ที่ไหน แม้ข่าวคราวซากสำเภายังไม่มีใครหาเจอ แล้วลูกของเราหละ ไม่รู้เป็นอาหารของสัตว์น้อยใหญ่ในมหาสมุทรไปรึยัง นภราชพูด เจ้าอยู่อย่างไม่มีความหวังเลยรึ ผิดกับเรา เราจะพ่ายแพ้เจ้าไม่ได้ เรามีคนที่ต้องดูแลอีกมากมาย หมู่ยักษบริวารของเรา นครอสุรเวหา สร้อยสายเพชร รดามณี หรือ แม้แต่จันทรัตน์ ก็คือคนที่เราจะต้องดูแล หากเจ้าต้องการให้ตายกันไปข้างหนึ่ง เราก็ขอยืนยันว่าเราตายไม่ได้ และจะเสียศักดิ์ศรีไม่ได้เช่นกัน รติวุฒิพูดด้วยความมุ่งมั่นตามอุปนิสัย นภราชจ้องมองคู่ต่อสู้ด้วยสายตาคมกริบ ได้... ตัว ต่อ ตัว นภราชเน้นเสียงพลางแลตามาที่วิรัชกร วิรัชกรหันมาสบตากับผู้เป็นนายพลางถอยออก ไม่ทันที่รติวุฒิจะตั้งตัว นภราชสาดพลังรัวใส่ไม่หยุด รติวุฒิยังคงหลบได้ทันท่วงที รติวุฒิถอยออกมาชนกับศิลาใหญ่ จึงหันกลับมาแบกเอาศิลาที่สูงใหญ่มาขว้างใส่นภราช นภราชหลบไปด้านข้างได้ทัน วิรัชกรมองดูการต่อสู้ด้วยสายที่กังวล ฝ่ายได้เปรียบคือนภราช รติวุฒิต้องวิ่งหลบพลังของนภราชแทบไม่ได้หยุดพัก นภราชก็ตามมาติดๆเรื่อยๆ รติวุฒิชักดาบออกมา ทรงมองดาบนั้นพลางอธิษฐานจิต

                                    พระขรรค์เพชรวชิราสายฟ้าฟาด                     เรืองอำนาจดุจนาถดนูนี้

    อธิษฐานจิตผูกพันกันนานปี                                             พระขรรค์นี่โปรดจงประทานพร

                                    หากวาดดาบหนึ่งครั้งจงดลเหตุ                        เกิดอาเพศอมรฤทธิ์วิศิษฏ์ศร

    มิถึงคราวก็อย่าให้ใครม้วยมรณ์                                        เกรงกรรมย้อนสะท้อนมาสู่เรา

                                    หากถึงคราวให้ดาบปราบไพรี                          ขว้างดาบนี้จงแล่งตราบอุระเขา

    อดิศรนภราชมาดร้ายเรา                                                    อย่าได้เศร้าโศกาเกิดอาดูร

                                    สุดแต่เวรหรือกรรมเคยทำไว้                             พระขรรค์ไท้ชี้แจ้งหนึ่งแสงสูรย์

    อธิษฐานแล้วขว้างสู่ราชนิกุล                                            พลันกองกูณฑ์แผลงเพลิงเริงขึ้นครัน

                                    ทรงลืมเนตรขึ้นพบนภราช                               กร้าวฉกาจกองทรุดสะดุดขวัญ

    พระขรรค์เพชรวชิราผ่าฟาดพลัน                                    ดวงตะวันดั่งดับอับรุจี

                    องค์รติวุฒิมองร่างแน่นิ่งตรงหน้าด้วยแววพระเนตรสะเทือนใจไม่น้อย เลิกแล้วต่อกันเถิด นภราชอาจองค์โอรสแห่งนภาภัทรนคร เราจะเอ็นดูจันทรัตน์ให้หนึ่งลูกยาของเรา รติวุฒิรับสั่งแล้วถอนใจ วิรัชกรก้าวมาคุกเข่าลงข้างหลังรติวุฒิ ทรงอธิษฐานกับพระขรรค์ว่าเช่นไรพระเจ้าข้า ทรงหลับพระเนตรขว้างมาแท้ๆ แต่กลับแล่งตราบอุราพระโอรสนภราชเช่นนี้ วิรัชกรเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ เราอธิษฐานถึงฤทธานุภาพแห่งพระขรรค์เพชร หากโอรสนภราชพระองค์นั้นยังไม่ถึงคราว ก็ขอให้พระขรรค์ทำอะไรพระองค์มิได้ แต่หากถึงคราวจริงๆ ก็จงหมดเวรหมดกรรมต่อกันเถิด แล้วเราก็หลับตาขว้างพระขรรค์ไป พระองค์คงสิ้นกรรมแล้ว รติวุฒิพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

                    ไม่จริง หม่อมฉันไม่เชื่อ พระองค์ฆ่าเค้า พระองค์ทราบมิใช่เหรอเพคะ ชีวิตของพี่นภราช สำคัญกับหม่อมฉันมากแค่ไหน หากว่าทรงแสนดีต่อไปอีกแค่นิดเดียว หม่อมฉันก็เกือบจะเทใจให้รักพระองค์ได้จนหมดใจแล้ว แต่นี่ทรงทำเช่นนี้ หม่อมฉันยิ่งเกลียดพระองค์มากขึ้น หม่อมฉันอยู่ที่นี่ อยู่ที่มณีนพรัตนาแห่งนี้ จะไม่ไปที่ไหนอีก ทรงกลับอสุรเวหานครของพระองค์ไปองค์เดียวเถอะเพคะ หม่อมฉันและลูกจะอยู่ที่นี่ สร้อยสายเพชรพูดทั้งน้ำตา สร้อยสายเพชร หากเจ้าจะรักนภราชตลอดไป พี่ก็ไม่ว่า แต่ขอแค่เห็นใจพี่ พี่มีแต่เจ้าคนเดียวเท่านั้นนะจอมขวัญ กับลูก ที่เป็นแก้วตา ดวงใจของพี่ สร้อยสายเพชร เสร็จศึก ทุกอย่างจบลงแล้ว กลับอสุรเวหากับพี่เถอะ จากนี้จะไม่มีเรื่องร้ายๆอีกแล้ว รติวุฒิพูด ไม่.. ได้ยินไหมรติวุฒิ ไม่ เจ้า... เจ้าทำลายดวงใจของเรา เราจะไม่ยกย่องเจ้าอีกแล้ว เจ้ามันเป็นราชายักษ์ที่ไร้ศักดิ์ศรี เคยเอ่ยไว้เช่นไร แต่นี่ เจ้าทำเช่นไร สร้อยสายเพชรพูด รติวุฒิถอนใจพลางคุกเข่าลงตรงหน้านารีที่โกรธจัดอยู่ ข้าพระองค์ผิดไปแล้วพระเจ้าข้า พระธิดาสร้อยสายเพชร แต่ขอให้ทรงรับรู้ว่า คนอย่างรติวุฒิมีศักดิ์ศรี ไม่มีทางอย่างแน่นอนที่จะทำเรื่องอยุติธรรม กับพระธิดาที่ข้าพระองค์ทั้งรักแลเทิดทูน ข้าพระองค์ ยิ่งทำร้ายไม่ได้ ทั้งกาย และ ใจ รติวุฒิพูดพลางเสด็จออกไปด้วยแววตาราบเรียบเก็บความรู้สึก สร้อยสายเพชรไม่มองตามเลยแม้แต่ปลายตา นางนั่งลงสะอึกสะอื้นบนพระแท่นของนางนั่นเอง

                    ในตำหนักองค์เหนือหัวฤทธิ์นาทแห่งมณีนพรัตนานคร องค์เหนือหัวฤทธิ์นาทอ่านพระราชสาส์นอยู่พระมเหสีกรกนกก็เสด็จมา มีอะไรเหรอเพคะเจ้าพี่ กรกนกพูด กนกนาทเขียนราชสาส์นมาทูลขอนามพระราชทานให้กับลูกสาวหนะ มีแหวนบุษราคัมติดตัวมา องค์เหนือหัวรับสั่ง บุษราคัม... ชื่อบุษราคัมสิเพคะเจ้าพี่ กรกนกพูด แต่พี่ว่ามันง่ายเกินไป แล้วอีกอย่าง แม่ชื่อบุษรา ลูกชื่อบุษราคัม พี่เกรงว่าจะไม่ดี องค์เหนือหัวรับสั่ง งั้นชื่ออะไรดีหละเพคะ กรกนกพูดพลางขบคิด พี่รู้แล้ว มีคำหนึ่งที่หมายถึงบุษราคัม หรือพลอยสีเหลือง ปีตมณีไงหละ หลานปีตมณี ฤดีรัตนาภรณ์ จะได้คล้องกับ กิ่งโกมินทร์ วรินทราฉาย พิมพ์เพทาย พรายรัตนมณี ปีตมณี ฤดีรัตนาภรณ์ทำไมมณีนพรัตนาเราถึงได้สมชื่อจริงๆ ราชนัดดากำเนิดมาพร้อมกับอัญมณีงดงามทั้งนั้น องค์เหนือหัวรับสั่ง นั่นสิเพคะ เกือบจะครบชุดนพเก้าแล้ว กรกนกพูดพลางยิ้มอย่างปีติ

                                    บาดาลนคเรศนครเนือง                                     ที่รุ่งเรืองภายใต้แดนสมุทร

    อยู่ภายใต้ห้วงทะเลอันใสสุทธิ์                                         ที่เรืองรุจสุดแสนสะดุดตา

    นพมาศให้กำเนิดธิดาน้อย                 ดุจแก้วกลอยอีกสองนางเสน่หา

    เป็นลูกแฝดคนละฝาแก้วกานดา                                       คนหนึ่งมาพร้อมด้วยนิลกาฬ

                                    อีกนางนั้นสวมใส่แหวนไพฑูรย์                     หลงเทิดทูนสองนางเกินกล่าวขาน

    คนหนึ่งแม่ให้ชื่อมณีกาฬ                                                  พ่อประทานนามอีกนางแก้วไพฑูรย์

                    เรามีมรกต รจนาวดีแล้ว ลูกคนที่สองของเรากำเนิดมากับนิลกาฬ เจ้าคิดว่าน่าจะชื่ออะไรดี องค์เหนือหัวมัศวุฒิรับสั่ง หม่อมฉันชอบชื่อนี้เพคะ มณีกาฬ... มณีกาฬ ปานปรียารัตน์ แก้วตาดวงใจของแม่ นพมาศเอ่ยกับพระสวามีพลางมองพระธิดาน้อยที่สวมแหวนนิลกาฬในอ้อมแขน งั้นอีกคนพี่ขอตั้งชื่อให้เอง องค์มัศวุฒิรับสั่งพลางพิศมองทาริกาน้อยอีกนางที่อยู่ในอ้อมแขนของพระองค์ ไพฑูรย์... รุ้งสังวาล... ไม่ดีกว่า องค์เหนือหัวรับสั่ง เพราะดีออกนะเพคะ นพมาศพูด ไม่ พี่ไม่ชอบชื่อนี้ ดูอ่อนโยนเกินไป ไม่สมกับที่ว่ากันว่า แก้วไพฑูรย์ คือเทพเจ้าแห่งความตาย... จริงสินะ พี่รู้แล้วนพมาศ ลูกเราชื่อ แก้วไพฑูรย์ ราชนิกุลยานันท์ มัศวุฒิรับสั่ง ดีเพคะ นพมาศรับสั่ง

                    ที่นครอสุรเวหา องค์เหนือหัวรติวุฒิเสด็จสู่บัลลังก์อีกครั้ง ทรงประทับนั่งลง ทรงพระเจริญพระเจ้าข้า ทรงพระเจริญเพคะ เสียงแว่วมาจากหมู่ข้าราชบริพารทั้งหลาย เราฟื้นฟูอสุรเวหานครกลับมาได้สำเร็จแล้ว จากนี้เมืองเราจะสงบร่มเย็น และโทษใดที่เป็นเนรเทศ เราขอเปลี่ยนเป็นขังคุกตลอดชีวิต เพื่อป้องกันมิให้เกิดสงครามกับต่างเมืองอีก องค์เหนือหัวรติวุฒิรับสั่งอย่างรอบคอบ แล้วแววพระเนตรก็บ่งได้ชัดว่ากำลังกลุ้มพระทัยอยู่ เรื่องอะไรนั้นคงไม่ต้องคาดเดาให้เสียเวลา ก็เรื่องแก้วตาดวงใจ กับขวัญใจของพระองค์นั่นแหละที่ทำให้พระองค์ต้องมาคิดหนักเช่นนี้ทรงถอนหายใจหนักๆแล้วเสด็จพระราชดำเนินออกไปจากท้องพระโรงนั้นพลัน ทรงเสด็จไปที่พระตำหนัก มองเห็นบุปผารัตน์งดงามอยู่ในแจกันพาให้หวั่นคิดถึงใครคนหนึ่ง

                                    บุปผารัตน์งามนักประจักษ์ตา                           วงจันทรายังแทบพ่ายกลีบนวลนั้น

    กลิ่นหอมหวนยวนใจไม่แพ้กัน                                        เจ้าจอมขวัญของพี่ที่หมายใจ

                                    ในตำหนักไร้เงาเจ้าเคยอยู่                                 เจ้าโฉมตรูเจ้าเคืองพี่ไฉน

    ไม่มีเจ้าเคียงเงาเพียงขาดใจ                                               จักตามไปรับเจ้ากลับคืนเวียง

                    องค์รติวุฒิตัดสินพระทัยเสด็จไปสู่นคร มณีนพรัตนา ตำหนักพระธิดาสร้อยสายเพชร พระธิดาสร้อยสายเพชรประทับอยู่ลำพัง ทรงเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างสายพระเนตรราบเรียบ ครุ่นคิดถึงบางสิ่งบางอย่างอยู่ อ้อมแขนหนึ่งโอบร่างพระนางจะด้านหลัง สร้อยสายเพชรมีทีท่าตกใจ กลับอสุรเวหากับพี่เถอะ เสียงขององค์รติวุฒิรับสั่ง รติวุฒิ... ปล่อยเรา สร้อยสายเพชรพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งแต่เต็มไปด้วยความเคืองใจ รติวุฒิถอยออกมา แล้วคุกเข่าลง พระธิดา... พระธิดาสร้อยสายเพชรทูนหัวของข้าพระองค์ ปรารถนาสิ่งใดข้าพระองค์ทูลเกล้าถวายได้ทุกอย่าง ขอแต่เห็นใจข้าพระองค์บ้าง รติวุฒิพูด ได้ เราจะเห็นใจ ถ้าเจ้าคืนชีวิตของพี่นภราชให้กับเราได้ สร้อยสายเพชรพูดทั้งน้ำตา รติวุฒิคงได้แต่เพียงถอนใจเท่านั้น

                    เทียวไปเทียวมาอยู่บ่อย วันหนึ่ง เช้าตรู่สร้อยสายเพชรนั่งจัดดอกไม้อยู่เพียงลำพังในพระตำหนัก คุณท้าวกานดายกสำรับมาให้แต่เช้า ขยันจริงนะคุณท้าว แต่เช้าเชียว สร้อยสายเพชรยิ้มรับ เพคะ คุณท้าวกานดาพูด มณี ตรีรัตน์ บรรจงวางสำรับลง สร้อยสายเพชรขยับร่างเข้ามานางกำลังจะลองชิมอาหารฝีมือที่คุ้นเคย ก็เกิดรู้สึกวิงเวียนขึ้นมา สร้อยสายเพชรวางช้อนลงแล้วผลักสำรับออกไป แล้วก็อาเจียนใหญ่เลย พระธิดา พระธิดาเป็นอะไรไปเพคะ คุณท้าวกานดาจะเข้ามาช่วยลูบหลัง รติวุฒิเข้ามาลูบหลังสร้อยสายเพชร สร้อยสายเพชรยังคงอาเจียนไม่หยุด สร้อยสายเพชรหันมา ขอบใจมากนะคุณท้าว สร้อยสายเพชรคิดว่าคนที่ช่วยลูบหลังคือคุณท้าวกานดา แต่แล้วก็ต้องตกใจที่เป็นรติวุฒิ พระราชสวามี อย่ามายุ่งกับเรา เรากับเจ้าตัดขาดกันแล้ว สร้อยสายเพชรพูด จะให้ข้าพระองค์ทำเช่นนั้นได้ยังไง ก็ในพระครรภ์นั่นลูกของข้าพระองค์นี่นา รติวุฒิพูด ท้อง... ไม่จริง... เราไม่ต้องการ เราเกลียดเจ้า ได้ยินไหมรติวุฒิ เราเกลียดเจ้า เราไม่ได้รักเจ้า เด็กในท้องของเรา ไม่ได้เกิดจากความรัก สร้อยสายเพชรพูด ทำไมจะไม่ ข้าพระองค์นี่ไงที่รักพระธิดาสุดแท้แน่นอน รติวุฒิพูด เจ้าจะพูดว่ายังไงก็ได้ แต่ไปให้พ้น นี่ลูกของเรา ของเราคนเดียว ไม่ใช่ลูกของเจ้า สร้อยสายเพชรพูด รติวุฒิก้มหน้า สร้อยสายเพชร ช่วงนี้เจ้าจะแพ้ท้องหนักมากนะ เออ พี่... ข้าพระองค์ขอดูแล รติวุฒิพูด ไม่ได้... กลับเมืองยักษ์ของเจ้าซะ เราไม่ต้องการ สร้อยสายเพชรพูด

                    พระตำหนักองค์เหนือหัวฤทธิ์นาท และ พระมเหสีกรกนก พี่คิดว่า ในท้องของสร้อยสายเพชร จะต้องเป็นหญิง ที่มีเพชรติดตัวมาเป็นแน่ แล้วก็คงจะเป็นหลานคนสุดท้ายของเราแล้วหละ ฤทธิ์นาทรับสั่ง อะไร ทำให้ดำริเช่นนั้นเพคะ กรกนกพูด เจ้าคิดดูสิ หลานคนแรกของเราเป็นหญิง กำเนิดด้วยแหวนโกมินทร์ หลานคนที่สองเป็นพระกุมารมาพร้อมกับแหวนนพเก้า ตัวเรือนทองบริสุทธิ์ ทองเนื้อเก้า หลานคนที่สาม มาพร้อมด้วยมุกดา เป็นนารี หลานคนที่สี่ธิดาบาดาลซึ่งมีแก้วมรกตธำมรงค์ติดตัวมา หลานคนที่ห้า เป็นธิดาแห่งกนกนาทมาพร้อมด้วยธำมรงค์เพทาย หลานคนที่หก พระธิดาครึ่งมนุษย์ครึ่งยักษ์กำเนิดมาพร้อมกับแหวนทับทิม หลานคนที่เจ็ด นารีกำเนิดมาพร้อมกับแหวนพลอยบุษราคัม หลานคนที่แปด กับเก้า สองนารีที่กำเนิดพร้อมกันใต้บาดาล นางหนึ่งมาด้วยมณีดำหรือนิลกาฬ อีกนาง มาด้วยไพฑูรย์ หากให้ครบชุดนพเก้า โดยมีนพคุณเป็นศูนย์กลางแล้ว ก็ยังขาดเพชร ตอนนี้สร้อยสายเพชรตั้งท้อง ความเป็นไปได้สูงมาก ที่เจ้าแห่งอัญมณีจะมาจุติในครรภ์ของนาง องค์เหนือหัวฤทธิ์นาทรับสั่ง โถ่ น่าสงสารนพคุณนะเพคะเจ้าพี่ หม่อมฉันเชื่อว่าหลานยังมีชีวิตอยู่ กรกนกพูด พี่ก็เชื่อเช่นนั้น แล้วก็จะต้องตามหานพคุณให้พบ ไม่ว่าจะต้องพลิกแผ่นดินค้นก็ตาม ฤทธิ์นาทรับสั่ง หม่อมฉันเชื่อว่าต้องพบสักวันเพคะ กรกนกพูด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×