คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : หากแก้วตาของแม่จะถูกควักไป ใจแม่คงมิอาจทนนิ่งเฉยอยู่ได้
สร้อยสายเพชรเดินไปจนถึงที่ที่เงียบเชียบ คุณท้าวกานดา และ นางกำนัลทั้งสองคุกเข่าลงตรงหน้า “พระธิดา เป็นเช่นไรบ้างเพคะ โถ่ ทูนหัวของหม่อมฉันแล้วนี่ ที่อุ้มมานี่ ก็คือ...” คุณท้าวกานดากำลังจะเอ่ย “ใช่จะ ลูกของเราเอง ครึ่งขวบแล้ว ไม่งอแงเลย” สร้อยสายเพชรพูด “ดูสิ ดวงพักตร์ช่างเหมือนพระบิดาเหลือเกินนะเพคะ” คุณท้าวกานดายิ่งพูด สีหน้าของสร้อยสายเพชรยิ่งพลันเศร้าไป “เออ ขอพระราชทานอภัยเพคะ หม่อมฉันปากไม่ดีเอง” คุณท้าวพูด “ไม่ใช่ความผิดคุณท้าวหรอก เราเองที่ผิด ผิดที่สุด คุณท้าวกานดา มณี ตรีรัตน์ เราฝากจันทรัตน์ลูกของเราไปให้เสด็จพ่อเสด็จแม่ดูแลที กราบทูลความจริงให้ทั้งสองพระองค์ทรงทราบ ตอนนี้เกิดศึกครั้งใหญ่ เราจะไปตามพระสวามีเรา แล้วจะกลับมารับลูก” สร้อยสายเพชรพูด “แล้วทำไมถึงไม่เสด็จไปด้วยพระองค์เองหละเพคะ” นางกำนัลคนหนึ่งพูด “ไม่ได้หรอกตรีรัตน์ คนของพระสวามีเราบอกว่ามีศัตรูดักรอจับตัวเราอยู่” สร้อยสายเพชรพูด “อ๋อ พวกทหารของ...” มณีกำลังจะเอ่ยขึ้น “แม่มณี” คุณท้าวกานดาเรียก “เจ้าคะ” มณีพูด “พระธิดาทรงทราบรึเปล่าเพคะว่าองค์เหนือหัวรติวุฒิทรงรบกับใครอยู่” คุณท้าวพูด “ไม่รู้เหมือนกัน พระองค์ไม่เคยรับสั่งกับเรา แล้วก็ไม่ให้ใครปริปากบอกอะไรเราทั้งนั้น แล้วมีคนมาดักรอเราอยู่จริงๆรึเปล่าหละ” สร้อยสายเพชรพูด “ใช่เพคะ มีคนรออยู่จริงๆ” คุณท้าวกานดาพูด “งั้นเราฝากลูกทีนะ ลูกจ๋า อยู่กับคุณท้าว มณีและตรีรัตน์อย่างอแงนะลูก แม่จะรีบกลับมาหาเจ้าโดยไว ฝากด้วยนะจ๊ะ เราให้ลูกไปอยู่กับตากับยาย เราก็สบายใจขึ้นเยอะว่าต้องปลอดภัย อย่าลืมทูลเสด็จพ่อ เสด็จแม่ด้วยว่าเราขอโทษ ที่เป็นชนวนเหตุร้ายๆทั้งปวง” สร้อยสายเพชรพูดพลางส่งร่างทาริกาน้อยให้คุณท้าวแล้วรีบแยกตัวออกไป ส่วนคุณท้าวกานดาอุ้มพระธิดาน้อยจันทรัตน์เดินไปพร้อมกับ มณี และ ตรีรัตน์ “คุณท้าวเจ้าขา ทำไมไม่กราบทูลพระธิดาสร้อยสายเพชรไปหละเพคะ ว่าคนที่องค์เหนือหัวรติวุฒิรบด้วย คือพระโอรสนภราช” มณีพูด “องค์เหนือหัวรติวุฒิยังไม่รับสั่งเลย แล้วพวกเราจะเสนอหน้าไปกราบทูลทำไม อาจเป็นพระประสงค์ขององค์เหนือหัวรติวุฒิ ที่ไม่อยากให้พระธิดารู้ก็ได้” คุณท้าวกานดาพูด
ที่หน้าถ้ำหินผาแห่งหนึ่ง รติวุฒิ และ วิรัชกรกระโดดลงมา “ถ้ำนี้แหละพระเจ้าข้า” วิรัชกรพูด รติวุฒิยิ้มออก “สร้อยสายเพชร...” รติวุฒิเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเบิกบานและดีใจพลางเดินเข้าไปในถ้ำนั้นด้วยใจอยากพบนาง “สร้อยสายเพชร เจ้าอยู่ที่นี่ใช่ไหม พี่มารับเจ้าแล้ว สร้อยสายเพชร...” รติวุฒิเอ่ยเพรียกหา ไร้ซึ่งเสียงตอบรับใดๆ รติวุฒิเสด็จหาโดยทั่วถ้ำ “ไหนหละ สร้อยสายเพชรไม่ได้อยู่ในนี้นี่นา” รติวุฒิพูด “แต่ข้าพระองค์ให้รอที่นี่นะพระเจ้าข้า หรือว่าพระมเหสี จะเสด็จออกไปแล้ว” วิรัชกรพูด “ออกไปงั้นเหรอ... แล้วนี่ใครจะทำอันตรายนางและลูกรึยัง นางกับลูกจะยังปลอดภัยดีรึไม่ โถ่... เจ้าไม่น่าทิ้งนางไว้เพียงลำพังเลย” รติวุฒิพูด วิรัชกรคุกเข่า “เป็นความผิดของข้าพระองค์เอง ขอทรงลงพระอาญา” วิรัชกรพูด “เอาหละ เรายกให้ แต่เจ้าต้องช่วยเราตามหาสร้อยสายเพชรและลูกให้พบ เข้าใจไหม” รติวุฒิพูด “รับด้วยเกล้าพระเจ้าข้า” วิรัชกรพูด
ฝ่ายพระธิดา หรือ พระมเหสีสร้อยสายเพชร เสด็จแต่เพียงลำพังในป่า เย็นย่ำค่ำลงแล้วนางก็หาที่นั่งพักใต้ต้นไม้ สร้อยสายเพชรนั่งลง ปาดเหงื่อด้วยความหมดเรี่ยวแรง สร้อยสายเพชรแน่นิ่งไป นางกำลังจะเคลิ้มหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย แล้วตะวันก็ตกลงดินจากท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นดวงเดือนขึ้นทอแสงจรัสใสงดงาม
ห้วงนิทราของพระมเหสีสร้อยสายเพชร แลเห็นร่างหนึ่งอยู่ไกลลิบๆ สร้อยสายเพชรพยายามพิศมองร่างนั้นว่าเป็นใคร นางสาวท้าวเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆแล้วพิศมองดูอีกที สร้อยสายเพชรยิ้มออกด้วยความดีใจ “พี่นภราช...” สร้อยสายเพชรยิ้มออกแล้ววิ่งเข้ามากอดด้วยความดีใจ นภราชหันมา แววตาของนภราชช่างไร้ซึ่งความเห็นใจไยดีใดๆเลย สร้อยสายเพชรมองแววตาคู่นั้นด้วยความหวั่นเกรง “พี่นภราชเพคะ” นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา หวาดกลัว นภราชควักลูกตาของนางออกข้างหนึ่ง สร้อยสายเพชรกรีดร้องลั่นก่อนจะหลุดจากห้วงนิทรา
ในนิทราสุบินฝันพลันประสบ ว่าได้พบสบองค์ทรงศักดิ์ศรี
สร้อยสายเพชรจอมราชนาถนารี พบพระพี่นภราชหวังนาถนำ
ทรงเสด็จเพรียกหาแล้วเข้าใกล้ ในทันใดเพียงอึดใจแม่งามขำ
นัยเนตรถูกควักรักมืดดำ พี่ช่างทำกับเราได้ลงคอ
นางสะดุ้งตื่นตกใจพลางวิ่งไปอย่างไม่รู้ทิศทาง นางวิ่งไปเรื่อยๆกระทั่งชนร่างหนึ่งที่ยุรยาตรผ่านมา “สร้อยสายเพชร” น้ำเสียงทรงอำนาจเรียบราบเพรียกขึ้นแต่ทว่าในใจนั้นเปี่ยมล้นด้วยความปีติยินดีเป็นหนักหนา นางหันมองร่างนั้นในพลัน “พระองค์... เจ้าพี่” คำหลังหลุดออกมาจากปากของสร้อยสายเพชรได้เช่นไรไม่รู้
สะดุ้งตื่นฟื้นมาพาใจสั่น ศรีสวรรค์รุดพรวดทั้งปวดศอ
พระหัตถ์นั้นยังกุมที่หลังคอ มิช้ารอรีบวิ่งไปในพนา
พลันประสบกระทบกับร่างหนึ่ง คือที่พึ่งหนึ่งเดียวในใจข้า
สร้อยสายเพชรสบองค์ทรงศักดา นางอ่อนล้าอ่อนใจไร้เรี่ยวแรง
รติวุฒิรุดเข้าประคองนาง โอบกอดพลางปลอบใจที่ระแหง
แล้วไถ่ถามตามความให้รู้แจ้ง ใครสำแดงแกล้งเจ้าให้เศร้าใจ
แล้ววิ่งหนีสิ่งใดมาฤๅเจ้า ใยหน้าเศร้าจิตใจใยอ่อนไหว
พี่จะปลอบใจเจ้าหายเศร้าใจ จอมขวัญใจพี่เรียกขวัญอย่าหวั่นเลย
รติวุฒิโอบกอดนางเอาไว้อย่างปลอบโยน และวิรัชกรก็คุกเข่าลงอย่างนอบน้อม “ตกใจอะไรเจ้า” รติวุฒิพูดพลางมองดูสร้อยสายเพชรที่หายใจหอบ “หม่อมฉัน... ฝันร้ายเพคะ มันเป็นแค่ฝัน” สร้อยสายเพชรพูดทั้งที่รู้ว่าเป็นแค่ฝันแต่ก็ดูเหมือนว่านางจะตกใจมากกับฝันนั้น “ฝัน... ฝันอะไร แล้วลูก ลูกจันทรัตน์ไม่ได้อยู่กับเจ้ารึ” รติวุฒิพูด “จันทรัตน์... หม่อมฉัน... หม่อมฉันฝากไว้ที่มณีนพรัตนา ใช่ จันทรัตน์ลูกแม่ พระองค์เพคะ พาหม่อมฉันไปหาลูกที ไปตอนนี้เลยนะเพคะ หม่อมฉันฝันร้าย เป็นห่วงลูก พาหม่อมฉันไปทีนะเพคะ” สร้อยสายเพชรพูดด้วยความกังวลใจแล้วน้ำตาก็ไหลรินลงอาบทั้งสองแก้มของนาง ภายในใจกระสับกระส่าย รู้สึกได้ถึงรางร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น “เดี๋ยวก่อน... เจ้าฝันว่าอะไร” รติวุฒิพูด “พี่นภราช ทรงควักลูกตาหม่อมฉันออกไปข้างหนึ่งเพคะ” สร้อยสายเพชรพูดด้วยน้ำเสียงที่ยังหอบเหนื่อยไม่หาย วิรัชกรท่าทางจะตกใจพอควรกระซิบองค์เหนือหัวรติวุฒิ “พระโอรสนภราชให้คนไปดักรอพระมเหสีสร้อยสายเพชรที่มณีนพรัตนาพระเจ้าข้า พระธิดาน้อยกำลังตกอยู่ในอันตราย” วิรัชกรพูด รติวุฒิมีสีหน้าและท่าทางที่กังวลเป็นอย่างมากไม่แพ้สร้อยสายเพชรที่มือไม้สั่นเครือไปหมด รติวุฒิหันกลับมากุมมือนางไว้ “ใจเย็นๆก่อนนะ พี่รู้แล้ว พี่จะพาเจ้าไปที่มณีนพรัตนา เราจะไปรับลูกด้วยกัน อย่าร้องไปเลย คืนนี้ ก็ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้พี่จะพาไปแต่เช้า พักผ่อนก่อนนะสร้อยสายเพชร อย่าคิดมาก” รติวุฒิพูด “หม่อมฉันหลับไม่ลง เป็นห่วงลูก ช่วยพาหม่อมฉันไปตอนนี้เลยได้ไหมเพคะ” สร้อยสายเพชรพูด “แต่ดึกมากแล้ว พี่อยากให้เจ้าพักผ่อนก่อน เอใจพี่นะ พี่ไม่ปล่อยให้ลูกเป็นอะไรไปแน่นอน” รติวุฒิพูดพลางประคองร่างพระมเหสีประทับนั่งบนแท่นศิลาแล้วโอบกอดปลอบขวัญ พระมเหสีสร้อยสายเพชรยังคงสะอึกสะอื้นด้วยความคิดถึงและเป็นห่วงลูกไม่หยุด
ความคิดเห็น