ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทองเนื้อเก้า

    ลำดับตอนที่ #10 : กษัตริย์ยักษ์ผู้สิ้นแทบทุกสิ่ง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 285
      0
      16 ก.พ. 51

    ผ่องอำไพในพักตร์ประจักษ์เนตร                    อร่ามเดชเรืองรัตน์งามหนักหนา

    กับแหวนพลอยแดงสลัวเพทายภา                                   ราชธิดากับธำมรงค์ทรงเดโช

                    แหวนเพทายเพคะเจ้าพี่งามเหลือเกิน บุษราพิศมองธำมรงค์วงน้อย พิมพ์เพทาย... ลูกเราชื่อพิมพ์เพทาย กนกนาทรับสั่ง พิมพ์เพทาย... ดีเพคะ พิมพ์เพทายลูกแม่ บุษราพูด พี่เจ้าชื่อกิ่งโกมินทร์ วรินทราฉาย ส่วนเจ้า พ่อให้ชื่อพิมพ์เพทาย พรายรัตนมณี องค์เหนือกนกนาทรบสั่ง

                    ที่ตำหนักหนึ่ง รติวุฒิรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ด้วยสมาธิ กนกนาทเดินเข้ามา รติวุฒิลืมตาขึ้น เออ พี่เข้ามาขัดสมาธิเจ้ารึเปล่า กนกนาทพูด ไม่เป็นไรพระเจ้าข้า หม่อมฉันใกล้จะหายดีแล้ว ยินดีด้วยกับพระธิดาองค์ที่สองนะพระเจ้าข้า รติวุฒิพูด เจ้ารู้ได้ยังไง ว่าพี่ได้ลูกสาว กนกนาทพูด ข่าวลือมันไปไวหนะพระเจ้าข้า แล้ว นามว่าอะไรหละพระเจ้าข้า รติวุฒิพูด กำเนิดมากับแหวนเพทาย พี่ให้ชื่อพิมพ์เพทาย เต็มๆก็ พิมพ์เพทาย พรายรัตนมณี กนกนาทพูด รติวุฒิยิ้มอย่างแสดงความยินดี เออ แล้วนี่เจ้าหนีอะไรมาเหรอ กนกนาทพูด รติวุฒิเปลี่ยนสีหน้าในพลัน นภราชพระเจ้าข้า นภราชกำลังโกรธจัด เข้าใจว่าหม่อมฉันเป็นคนทำให้สำเภาของพระธิดาสุวรรณลักษณาล่ม เพื่อเอาใจสร้อยสายเพชร รติวุฒิพูด แล้วเจ้าทำรึเปล่าหละ กนกนาทพูด ถึงแม้หม่อมฉันจะรักสร้อยสายเพชรมากกว่าชีวิต แต่ก็จะไม่ทำลายชีวิตที่สร้อยสายเพชรเกลียดชังหรอกพระเจ้าข้า รติวุฒิพูด กนกนาทถอนใจ พี่ไม่เข้าใจน้องสาวของพี่เลย ว่าทำไมนางถึงได้รักนภราชหนักหนา แต่กับเจ้า ที่รักนางมากกว่าชีวิตด้วยซ้ำนางกลับไม่รัก แล้วเจ้าจะเอายังไงต่อไป กนกนาทพูด คงต้องสูหลังชนฝาพระเจ้าข้า แล้วจะไม่ใช้พระเวท ไม่ขยายร่างเป็นอันขาด รติวุฒิพูด ทำไมจึงยึดมั่นถึงเพียงนั้น กนกนาทพูด หากไม่ยึดมั่น ก็เท่ากับไร้ศักดิ์ศรี รติวุฒิพูดด้วยความเชื่อมั่นในความคิดของพระองค์เอง

                    ที่นภาภัทรนคร นภราชเสด็จกลับมาพร้อมด้วยทหารบาดเจ็บอีกมากมาย นภราช ลูกรักของแม่ ไม่เป็นอะไรใช่ไหมลูก พระมเหสีนิตย์นภาโอบกอดพระโอรสไว้ ลูกไม่เป็นไรพระเจ้าข้า แต่ยักษ์นั่นดันหนีไปได้ นภราชพูด พอเถอะลูก อย่าตามจองเวรเค้าอีกเลย นิตย์นภาพูด แต่มันฆ่าลูกเมียของลูก ลูกจะไปที่มณีนพรัตนา จะไปจัดการกับดวงใจของมัน ผู้หญิงที่ชื่อสร้อยสายเพชร ต้นเหตุของการที่สำเภาล่มในครั้งนั้น จะต้องชดใช้ด้วย นภราชพูด พ่อให้เจ้าไปรบ เพื่อขับไล่ศัตรูให้พ้นจากบ้านเมือง เพื่อขจัดยักษ์พาลที่อาละวาดแถบชายแดน ไม่ใช่ให้เจ้าตามอาฆาตมาดร้ายคนอื่น เมื่อไหร่เจ้าจะทำใจ ว่าเมียกับลูกของเจ้า หมดกรรมแล้ว ภัทราชกษัตริย์รับสั่ง ลูกจะไปที่มณีนพรัตนาพรุ่งนี้ จะไปเอาตัวสร้อยสายเพชรมาให้ได้ และจะให้ทหารไปบุกขยี้เมืองอสุรเวหาให้แหลกลาญด้วยพระเวทจนรติวุฒิ กับ สร้อยสายเพชรไม่เหลืออะไรเลย นภราชพูดแล้วเดินออกไป นภราช หยุดเดี๋ยวนี้นะ นภราช พ่อบอกให้หยุด ภัทราชร้องตามแต่นภราชหาสนใจไม่ นภราช... นภราชลูกแม่ นิตย์นภาน้ำตาไหลพยายามจะวิ่งตามลูกชายสุดที่รักไป อย่าเลย ปล่อยให้เค้าได้รับผลของการกระทำเองดีกว่า ยิ่งห้าม ก็เหมือนยิ่งยุ ภัทราชรับสั่ง

                    สร้อยสายเพชรอุ้มลูกน้อยเหม่อมองท้องนภาที่มืดหม่นภายในตำหนักที่อสุรเวหานคร ลูกจ๋า แม่ไม่เคยมันใจในสิ่งใดเท่ากับธำมรงค์มุกดาของเจ้า จันทรัตน์... ลูกช่วยประสาทพรใดก็ได้ ให้แม่ทีเถอะนะลูก เทพธิดาน้อยๆของแม่ สร้อยสายเพชรพูดทั้งน้ำตาที่คลออยู่ วิรัชกรรุดเข้ามา ข้าพระองค์มาทูลเชิญเสด็จอีกครั้ง ศัตรูกำลังมุ่งมาที่นี่ เกรงว่าจะมาทำอันตรายพระองค์พระเจ้าข้า วิรัชกรพูด แล้ว... พระองค์ท่าน เราหมายถึง รติวุฒิ รติวุฒิอยู่ไหน สร้อยสายเพชรพูด ทหารมนุษย์เข้าประชิดเมืองได้ นั่นก็หมายความว่า... องค์เหนือหัว... วิรัชกรพูด ไม่ได้... เราจะต้องปกป้องลูก นำไป เราและลูกจะกลับมณีนพรัตนาเดี๋ยวนี้ สร้อยสายเพชรพูด

                    ที่นครมณีนพรัตนา มีการใดสำคัญมากเหรอลูก นภราช ท่าทางเจ้าร้อนใจ องค์เหนือหัวฤทธิ์นาทรับสั่ง พระเจ้าข้า ข้าพระองค์จะถามหาพระธิดาพระองค์สุดท้าย สร้อยสายเพชร อยู่รึเปล่า นภราชพูด สร้อยสายเพชร... มีอะไรกับนางเหรอลูก สร้อยสายเพชรไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วนะ พระมเหสีกรกนกรับสั่ง อะไรนะพระเจ้าข้า สร้อยสายเพชรไปอยู่ที่ไหน นภราชพูดอย่างเดือดดาล พระมเหสีกรกนก และ องค์เหนือหัวฤทธิ์นาทต่างหันมาสบพระเนตรกันด้วยความแปลกใจ สร้อยสายเพชร ก็อยู่ภัสดาของนางนั่นแหละ ที่อสุรเวหานครนั่นแหละ องค์เหนือหัวรับสั่งลูกขอทูลลา แล้วให้ทหารของลูกเฝ้าอยู่ที่นี่สักสองนาย นภราชยังพูดอะไรไม่ค่อยกระจ่างยกมือไหว้แล้วก็เดินออกไป

                    นอกนครมณีนพรัตนา สร้อยสายเพชร แต่งตัวเยี่ยงอย่างหญิงสาวชาวบ้านอุ้มลูกน้อยจันทรัตน์ เราต้องลี้ไปที่อื่นพระเจ้าข้า วิรัชกรรีบวิ่งมา ทำไมหละ มณีนพรัตนาเกิดอะไรขึ้น สร้อยสายเพชรเอ่ยถามพลันด้วยความเฉลียวฉลาดของนางที่สามารถนึกออกได้ทันที กราบทูลมิได้พระเจ้าข้า รู้แต่ว่า เราต้องเปลี่ยนเส้นทาง วิรัชกรพูดพลางจะนำไป สร้อยสายเพชรจะตามไปแต่อยู่ๆก็เกิดหน้ามืดขึ้นมา สร้อยสายเพชรเกือบล้มแต่โชคดีมีต้นไม้อยู่ข้างหลังช่วยประคองไว้ พระมเหสี วิรัชกรพูดอย่างตกใจ เราไม่ไหวหรอกวิรัชกร เรา... สร้อยสายเพชรยังไม่ทันที่จะเอ่ย แต่ความรู้สึกนางในขณะนั้นรู้สึกว่าตาลายรวมทั้งวิงเวียนศิระเต็มที นางรีบสั่งร่างเด็ดน้อยในอ้อมกอดให้กับวิรัชกรแล้วหันหลังไปอาเจียนใหญ่เลย พระมเหสี... วิรัชกรคงได้แต่เรียก สร้อยสายเพชรอาเจียนหนักแล้วหันมา เรารู้สึกอ่อนเพลีย... ไปกับเจ้าไม่ไหวหรอก สร้อยสายเพชรพูด อาการแบบนี้ ทรงพระครรภ์แน่แล้ว วิรัชกรพูด เกิดศึกบ้าน ศึกเมืองขนาดนี้ ใครจะอยากมีลูก แค่จันทรัตน์คนเดียวเราก็ห่วงแทบตายอยู่แล้ว ไหนจะชีวิตในท้องของเราอีกคน แล้วยังจะชีวิตของเรา ชีวิตของรติวุฒิ ชีวิตของชาวอสุรเวหานครเล่า เราจะอยู่ที่นี่ ยังไงก็ถือว่าเป็นบ้านของเรา ไม่มีอันตรายใดๆทั้งนั้น เราจะเข้าไป สร้อยสายเพชรพูด ไม่ได้พระเจ้าข้า ศัตรูดักรออยู่ จะเข้าไปก็ไม่ได้ จะกลับอสุรเวหา ก็ไม่ได้เช่นกัน วิรัชกรพูด งั้นเราจะไปหาพี่นภราช บอกความจริง ว่าจันทรัตน์เป็นลูกของพี่เค้า สร้อยสายเพชรพูด ยิ่งไม่ได้พระเจ้าข้า ตามข้าพระองค์มาก่อน ข้าพระองค์จะหาถ้ำอาศัยพักกันก่อน แล้วจะไปกราบทูลองค์เหนือหัว ให้เสด็จมารับ วิรัชกรพูด นี่ยังมีความหวังอีกเหรอ ว่ารติวุฒิยังมีชีวิตอยู่ สร้อยสายเพชรพูด ถ้ายังไม่เห็นพระศพ ก็ต้องเชื่อ ว่าพระองค์ยังอยู่พระเจ้าข้า วิรัชกรพูด จะอยู่ หรือตาย ก็ไม่เกี่ยวข้องกับเรา ขอแค่ลูกของเราปลอดภัยก็พอ สร้อยสายเพชรใจแข็งไม่เคยเปลี่ยน แต่พระชนม์ชีพขององค์เหนือหัว เกี่ยวข้องกับหน่อเนื้อในพระครรภ์โดยตรง วิรัชกรพูด เราจะนึกถึงลูก... ก่อนใคร สร้อยสายเพชรรับสั่งอีกครั้ง

                                    เมื่อใกล้ครบเจ็ดวันครันคิดถึง                           ใจคะนึงถึงขวัญใจเจ้าจอมขวัญ

    รีบเสด็จกลับมามิช้าพลัน                                                   เคียงสวรรค์อสุรเวหาเวียง

                                    รติวุฒิเสด็จกลับนครา                                         อสุราเงียบเชียบไม่มีเสียง

    ทรงแลหาทั่วหล้าคงมีเพียง                                               แค่วังเวียงร้างรกไร้ซึ่งเงา

                                    ทรงพร่ำเพรียกหาจอมเสน่หา                           ยอดกัญญาไม่เห็นหน้าพาเปลี่ยวเหงา

    เจ้าคงลี้หลีกภัยไม่ต้องเดา                                                  ไม่พบเจ้าใจหายกายอ่อนแรง

                                    อีกทั้งเมืองยังมอดมลายดับ                                สูรย์ระยับลาลับพลอยดับแสง

    เหมือนถูกผลาญด้วยเพลิงเริงร้อนแรง                            เจ้าอยู่แห่งหนใดหนอแก้วตา

                                    เจ้าคงลี้ไปที่เมืองของเจ้า                                    รอเถิดเราจักรีบเร่งไปหา

    แม้สูญสิ้นทุกสิ่งในชีวา                                                      เป็นบุญข้าที่ยังเหลือเจ้าเจือจุน

                                    วังวิเวกวังเวงเวียงหมองเศร้า                            โถ่น้องเจ้าอยู่แห่งไหนใจหันหุน

    แล้วเร่งรุดออกไปหวังในบุญ                                            จะการุณย์ให้เจ้ารอดอยู่ปลอดภัย

                    สร้อยสายเพชร... สร้อยสายเพชรเจ้าอยู่ไหน รติวุฒิร้องเรียกเพรียกหาไปทั่วอสุรเวหานคร แต่ก็ไม่พบไม่ยินเสียงใครตอบกลับมา ใจสั่นๆเหมือนว่าเป็นห่วงคนที่อยู่ที่นี่ทั้งๆที่รู้ว่าวิรัชกรต้องพาไปในที่ที่ปลอดภัยแต่ก็อดห่วงไม่ไหวอยู่ดี สร้อยสายเพชร... สร้อยสายเพชรเจ้าหายไปไหน สร้อยสายเพชร... พี่หวังว่าเจ้า และลูกจะปลอดภัย พี่จะตามไปหาเดี๋ยวนี้ รติวุฒิพูด

                    รติวุฒิเดินอยู่ในป่ากำลังเก็บผลไม้อยู่ วิรัชกรกระโดดลงมา องค์เหนือหัวพระเจ้าข้า วิรัชกรคุกเข่า วิรัชกร... ดีจริงที่พบเจ้า สร้อยสายเพชร จันทรัตน์หละ อยู่ที่ไหน ปลอดภัยดีใช่ไหม รติวุฒิรีบถาม ปลอดภัยดีพระเจ้าข้า แล้วพระองค์ยังได้รับข่าวดี แต่ข้าพระองค์ว่ารอให้พระองค์ได้รู้จากพระมเหสีเองดีกว่า ข้าพระองค์จะพาไปหา วิรัชกรพูด สร้อยสายเพชรอยู่ที่ไหน รติวุฒิพูด อยู่ในถ้ำใกล้มณีนพรัตนาพระเจ้าข้า วิรัชกรพูด

                    ตลาดหน้าวังที่มณีนพรัตนา สร้อยสายเพชรแต่งตัวเยี่ยงหญิงสาวชาวบ้านใช้ผ้าคลุมปิดหน้าปิดตาอุ้มพระธิดาจันทรัตน์เอาไว้ นางเดินไปแลเห็นคุณท้าวกานดา และ นางกำนัลอีกสักสองคนยืนซื้อของอยู่ ขายยังไงจ๊ะ คุณท้าวเอ่ยถามกับแม่ค้า สร้อยสายเพชรเห็นเข้าถึงกับยิ้มแล้วเดินเข้าไปใกล้ สร้อยสายเพชรแกล้งเดินไปชนคุณท้าว ขอโทษจะ ขอโทษจะ สร้อยสายเพชรแกล้งพูด คุณท้าวกานดาพิศมองดูเห็นเป็นพระธิดาสร้อยสายเพชรก็จะคุกเข่าลง สร้อยสายเพชรดึงไว้แล้วส่ายหน้า อย่าให้ใครรู้ ตามเรามาทางนี้ สร้อยสายเพชรพูดแล้วเดินนำไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×