คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เวียงทิฆัมพร นครทิพย์วิหงค์
สุรเสียงแว่วมาพาใจสั่น คราครั้งนั้นยังเคยมีเรื่องเล่า
เมษกรโอรสอยู่เคียงเงา จอมขวัญเจ้าภาสสุนันท์สุพรรณภา
เมื่อกาลนั้นจำใจต้องจรจาก จำพลัดพรากจรจากดวงยี่หวา
ภาสสุนันท์ตัดรักจักต้องลา นองน้ำตาแดดิ้นสิ้นชีวัน
เอกโอรสรื่นรมย์ได้สมรัก จึงประจักษ์ใจนางแม่ยอดขวัญ
น้ำใจงามนามเปรียบเทียบดวงจันทร์ ชื่นชีวันตามรักร่ำเรื่อยมา
แม้ชีวินดับสิ้นภินท์สลาย ถึงตัวตายติดตามทั่วทิศา
เมื่อจากไปกำเนิดเป็นเช่นเทพา เทพธิดาก่อเกื้อคอยเจือจุน
พระโอรสเมษกรราชโอรสผู้ครอบครองเกราะกาลจักร และ พระธิดาสุพรรณวิลาสผู้ให้กำเนิดเกราะกาลจักร จ้องมองไปยังห้วงนภาด้วยสายพระเนตรขอบคุณในทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ใครคนหนึ่งบนฟ้านิรมิตให้ เรื่องวุ่นวายในโลกมนุษย์ จบสิ้นลงได้ ด้วยเพราะมีใครสักคนอยู่เบื้องหลัง ทว่าใครคนนั้นไม่เคยปรากฏร่างให้เห็นเลยแม้สักครั้งเดียว
ห้วงเวหาที่ทั้งคู่จ้องมอง ไกลแสนไกล นารีนางหนึ่งแต่งกายด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์สีทองระยับดูสง่างาม ภาสสุนันท์เทพธิดา ผู้ซึ่งเป็นพระพี่นางของพระธิดาสุพรรณวิลาสในอดีตชาติ และผู้ซึ่งมอบดวงใจให้กับโอรสเมษกรโดยไม่ปรารถนาสิ่งใดตอบแทน และไม่คิดที่จะเปลี่ยนใจนางเฝ้ามองเหตุการณ์อยู่ห่างๆ ข้างล่างกำลังมีความสุข คนรักและพระน้องของนางได้ครองคู่กันสุขสม แต่นางกลับเฝ้ามองด้วยแววตาที่หารื่นรมย์ไม่ มองผ่านดวงเนตรเรียบเฉยลึกลงไปแล้ว ในนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกอันเจ็บปวด นางฝืนยิ้มออกมา “วันนี้ พระน้องของพี่ และพระเชษฐาของหม่อมฉันได้ครองรักกันอย่างมีความสุข คงหมดหน้าที่ของหม่อมฉัน ที่จะติดตามช่วยเหลือเกื้อหนุนพระองค์แล้ว” ภาสสุนันท์เทพธิดารับสั่งกับพระองค์เองนางพยายามจะแสดงออกให้โลกรู้ว่านางรู้สึกปีติยินดีและปลาบปลื้มหนักหนา แต่น้ำตาเจ้ากรรมดันเอ่อท้นแทบจะล้นไหลออกจากดวงเนตรใสดุจประกายเพชรของนาง
แสงสีมรกตฉาดฉายขึ้นจรัสแสงนั้นเจิดจ้าจนลืมหูลืมตาไม่ขึ้น และแล้วแสงนั้นก็กลายร่างเป็นองค์อินทร์เจ้าแห่งสวรรค์ ภาสสุนันท์เทพธิดาก้มลงกราบกรานแทบเบื้องพระบาทอย่างนอบน้อม “ได้เวลาของเจ้าแล้วเทพธิดาภาสสุนันท์”พระอินทร์รับสั่ง “เวลา... เวลาอะไรเพคะ” ภาสสุนันท์เทพธิดารับสั่งด้วยสีหน้าแปลกใจ “พันธะของเจ้า ถูกปลดแล้ว เจ้าจะได้ไปเกิดในโลกมนุษย์” พระอินทร์รับสั่งในสีพระพักตร์เรียบเฉย แต่ภาสสุนันท์เทพธิดากลับมีสีหน้าตกใจนัก “ขอเวลาหม่อมฉันอีกสัดนิดไม่ได้รึเพคะ” ภาสสุนันท์พูด “ทำไมเหรอ เจ้าจะรอสิ่งใด...” พระอินทร์รับสั่ง “หม่อมฉันรอ... เออ...” เทพธิดาภาสสุนันท์มีคำตอบอยู่ในพระทัยอยู่แล้วแต่มิอาจให้คำตอบต่อองค์พระอินทร์ได้ “เจ้ากำลังรอเมษกรอยู่ใช่ไหม” พระอินทร์ผู้หยั่งรู้ในทุกสิ่งรับสั่งกับนาง ภาสสุนันท์ก้มหน้านิ่ง “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม กรรมดีที่เจ้าเกื้อหนุนโอรสเมษกร เค้าจะกลับมาเกื้อหนุนเจ้า แต่กรรมเก่าเจ้ามากนัก เจ้าจึงต้องไปเกิดในภพมนุษย์อีกครั้ง และก็อาจจะต้องเกิดเป็น... อมนุษย์” พระอินทร์รับสั่ง คำนี้ทำเอาเทพธิดาถึงกับตกใจ “อมนุษย์... กรรมเก่าของหม่อมฉันคืออะไรเพคะ มีทางแก้ไหม” ภาสสุนันท์เทพธิดาพูด “จอมเทวามีชายามากกว่าหนึ่งนางก็ผิดแล้ว แต่นี่ยิ่งมีชายาเป็นนางอสุรี บาปกรรมมักจะตกไปถึงบุตร หรือ บุตรีด้วย ใช่จะมีแต่เจ้าที่ต้องใช้กรรม แต่สุพรรณวิลาส น้องของเจ้าเองยังต้องใช้กรรมด้วยซึ่งเป็นกรรมของผู้เป็นพ่อของพวกเจ้า” พระอินทร์รับสั่ง สีหน้าของเทพธิดาลำบากใจนัก “ถ้างั้นก่อนที่หม่อมฉันจะไปเกิด หม่อมฉันขอบำเพ็ญภาวนาที่เชิงเขาพระสุเมรุเป็นระยะเวลา...” เทพธิดายังพูดไม่จบแต่พระอินทร์ทรงทราบดีจึงแทรกขึ้น “เป็นระยะเวลาจนกว่าเมษกรจะตามเจ้ามาทัน ได้... เราเมตตาเจ้าเสมอภาสสุนันท์เทพธิดา” พระอินทร์รับสั่ง “แล้วอีกอย่างที่หม่อมฉันจะทูลขอ หม่อมฉันอยากทูลขอพรสักข้อจะได้ไหมเพคะ” ภาสสุนันท์พูด “เราไม่ขัดข้อง ว่ามาสิ” พระอินทร์รับสั่งอย่างมีพระเมตตาต่อนางอย่างมาก “หม่อมฉันขอให้กรรมทั้งหมดที่พระน้องจะต้องชดใช้ มาอยู่ที่หม่อมฉัน ชาติหน้าภพหน้า ต่อให้เจอสิ่งเลวร้ายเข้าถาโถมสักเพียงใดก็ยอมทนขอแต่ให้พระน้องจงพ้นบ่วงกรรมด้วยเถิด” ภาสสุนันท์เทพธิดาเอ่ยขึ้น พระอินทร์ส่ายหน้าอย่างเห็นใจและทรงเข้าพระทัยดี ทรงทำเหมือนไม่อยากจะให้พรนั้นแต่เมื่อทรงรับปากไว้แล้ว ก็ต้องให้ “พรที่เจ้าขอ จงเป็นไปตามนั้น...ทุกประการ” พระอินทร์รับสั่งด้วยน้ำเสียงน่าเกรงขาม
ณ บัดนี้ควรแก่เวลาแล้ว องค์เอกแก้วจะได้รักภักดิ์เกื้อหนุน
ยอดนารีกัลยาเคยการุณย์ มีพระคุณต่อองค์ทรงจักรินทร์
หิมพานต์นามนี้ที่ประจักษ์ ถิ่นพำนักดุจแดนแสนถวิล
ทั้งกินนรกินรีที่โผบิน วานรินทร์นารีผลระคนกัน
ยังมีองค์เทวราชผู้ยิ่งใหญ่ หนึ่งในใจยอดสร้อยเจ้าจอมขวัญ
คือยอดนางกินรีศรีสุนันท์ วิหงค์จันทร์ไอศวรรย์คู่ครองใจ
ป่าทึบ เต็มไปด้วยแมกไม้นานาชนิด รอบกายมีแต่พงศ์พีขจีเขียวที่ดูชอุ่มฝนตลอดทั้งปี แซมด้วยบุษบานานาพรรณ หลากสีสันที่แต่งแต้มป่าเขาลำเนาไพรให้งดงามและสดชื่น เถาวัลย์คดงอพันเกี่ยวต้นไม้แทบทุกต้น ต้นไม้บางต้นออกผลเป็นนางมนุษย์หรือที่เรียกกันว่านารีผล สิงสาราสัตว์แปลกๆมากมายยุรยาตรอยู่ในผืนป่าอย่างเอื่อยเฉื่อย ป่าแปลกและดูลึกลับซับซ้อนเพียงนี้ไม่มีใครที่ดูไม่ออก ป่าหิมพานต์ นามนี้เอ่ยถึงแล้วใครๆก็ต้องฉงนใจว่าไปทางไหนกันถึงจะเข้าเขตป่าอันน่าพิศวงนั้นได้ เทพบุตรสง่างามองค์หนึ่งกำลังฉุดดึงร่างนางกินรีนางหนึ่งที่ติดทั้งปีกทั้งหาง ทั้งสองกำลังหนีอะไรบางสิ่ง นางกินรีนางนั้นสะดุดล้มลง “วิหงค์จันทร์” เทพบุตรผู้สง่างามต้องหยุดหันกลับมาประคองนาง “ไหวไหม” พระองค์ทรงรับสั่งกับนางอย่างเป็นห่วง “ไหวเพคะ หม่อมฉันเชื่อมั่น ว่าพระองค์จะพาหม่อมฉันไปตลอดรอดฝั่งได้ พระองค์เป็นถึงเทวบุตร ต้องไม่ทำให้หม่อมฉันผิดหวัง รีบไปกันเถอะเพคะก่อนที่เสด็จพ่อจะตามมาทัน” นางพูดด้วยน้ำเสียงหอบเหนื่อย เทพบุตรก้มหน้าเหมือนสำนึกในใจ “พี่เสียใจ... เพราะพี่แท้ๆที่พาเจ้ามาลำบากแบบนี้” เทพบุตรเอ่ยขึ้น “เทพไอศวรรย์เพคะ หม่อมฉันตกลงปลงใจที่จะมากับพระองค์เอง ถ้าใครสักคนจะผิด คนๆนั้นควรจะเป็นหม่อมฉัน หม่อมฉันพอใจ และพร้อมที่จะเผชิญกับทุกสิ่ง หากมีพระองค์คอยดูแล” นางกินรีนามวิหงค์จันทร์เอ่ยด้วยความเชื่อมั่น เทพบุตรดูมีกำลังใจขึ้นมาก “ในเมื่อเจ้าฝากความหวังไว้กับพี่ แล้วพี่จะทำให้เจ้าผิดหวังไปได้เช่นไรเล่า ไปเถอะ” เทพบุตรนามไอศวรรย์ประคองร่างอ่อนแรงของนางกินรีมุ่งหน้าหนีไปต่อ
มหานครากลางป่าหิมพานต์ เวียงวังเป็นปราสาททองงามน่าพิศวง ในท้องพระโรงของนครานั้น เจ้าเวียงชัยกำลังทรงพิโรธในบางสิ่งอยู่ทรงลุกขึ้นจากพระราชบัลลังก์ “วิหงค์จันทร์ ไอศวรรย์... มันทั้งคู่หยามหน้าเรา” กษัตริย์แห่งนครานั้นเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวเต็มไปด้วยความเคืองโกรธ “ในเมื่อวิหงส์จันทร์ตัดสินใจไปจากเวียงทิฆัมพรเอง ลูกก็คิดว่า น่าจะปล่อยนางไปในเมื่อนางกล้าหยามหมิ่นพระเกียรติเสด็จพ่อเสด็จแม่มากถึงเพียงนี้ ก็ทรงตัดขาดไปเลยดีกว่าเพคะ” นารีนางหนึ่งแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์สูงส่ง ห่มแพรสไบสีแดงรวิ รับกับอาภรณ์ทองบนพระเศียร และ พระศอ รวมทั้งวลัยกรและธำมรงค์วงงาม ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่เป็นทองแท้บ่งถึงศักดินาอันสูงส่งของนาง “จริงอย่างที่ปักษมาลีว่านะเพคะ พระองค์เป็นถึงองค์ปักษินราชกษัตริย์แห่งเวียงทิฆัมพร ในเมื่อลูกไม่รักดี หม่อมฉันก็ไม่อยากจะรักอีก เสียแรงที่แม่ทั้งรักทั้งห่วง สุดท้าย...” มเหสีแห่งเวียงทิฆัมพรกริ้วอยู่พอๆกับพระสวามี “สุดท้ายก็หนีตามผู้ชายดั่งเช่นคำทำนายของท่านโหรา” ปักษมาลีพระธิดาองค์แรกแห่งเวียงทิฆัมพรรับสั่ง “พอทีเถอะปักษมาลี... แค่นี้พ่อก็อับอายจะแย่อยู่แล้ว วินตา ปักษมาลี แยกย้ายกลับตำหนักกันได้แล้ว ส่วนเรื่องวิหงค์จันทร์ เราจะตัดหางปล่อยวัดซะ” ปักษินราชกษัตริย์รับสั่งกระแทกเสียง ทำเอาพระมเหสีวินตา และ พระธิดาปักษมาลีหน้าซีดลงไป
ความคิดเห็น