ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทองเนื้อเก้า

    ลำดับตอนที่ #55 : มรกต รจนาวดี ใจอ่อน

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 416
      0
      24 เม.ย. 51

                    ฝ่ายนพคุณ ทุกคนกำลังเดินทางกันไปเรื่อยๆไม่มีจุดหมายนั้น ปักษยุเดินมาคุยกับนพคุณ นพคุณ เราอยากอาสา ปักษยุพูด อาสาอะไร นพคุณว่า อาสาเปลี่ยนใจมรกตให้กลับมาเป็นพวกเรา เราอาสาไปตามมรกตเอง ปักษยุพูด เจ้ามั่นใจเหรอ มรกตคนนี้นั้นฤทธิ์เดชพยศไม่เบาเชียวนะ คำพูดคำจายอกย้อน เจ้าไหวรึเปล่าหละ นพคุณพูด ตรงนั้นแหละเสน่ห์ของนาง เราเคยเห็นแล้ว ว่านางพยศยังไงบ้าง ก็อยากจะขอลองปราบพยศนางดูสักครั้งเช่นกัน ปักษยุพูด เราเข้าใจแล้วว่าเจ้าคิดอะไรอยู่ ถ้าเจ้าตัดสินใจได้เช่นนั้น ก็ตามใจ นพคุณพูด

                    ฝ่ายมรกตรจนาวดีนั้นเหาะอยู่บนท้องนภาของป่าหิมพานต์ เดชอมฤทธิ์รึ คงเป็นน้ำอมฤทธิ์ในสระเลื่องชื่อ แต่สระนั่นอยู่ที่ไหนกันหละ ป่าออกกว้างขนาดนี้ มรกตพูดพลางคิดหาวิธีที่ดีที่สุด อย่างน้อย ก็วิธีที่ดีกว่าการเหาะไปอย่างไม่รู้ทิศทาง ไม่รู้จุดมุ่งหมายนั่นเอง

                    มรกตเหาะอยู่กลางห้วงนภาก็แลไปข้างล่างไม่วางตากระทั่งเห็นสระหนึ่งงดงามดูเป็นสีมรกตเลื่อมระยับ มรกตเห็นก็ยิ้ม หรือนี่... สระอโนดาต มรกตยิ้มพลางรีบกระโดดลงไปที่สระนั้น

                                    สระสุดใสสีเขียวมรกต                                       เหลือกำหนดงดงามเป็นหนักหนา

                    ในกระแสสิชลใสในธารา                                                                สะดุดตาเลื่อมระยับรับตะวัน

                                    ในสระนั้นหนึ่งมีมณีเนตร                                แสนพิเศษสุดแสนงามน้ำสวรรค์

                    สระกว้างใหญ่ล้อมพฤกษาพนาวัณ                 หนึ่งความฝันที่ได้มายลยิน

                                    บุษบาสวรรค์ประหนึ่งเสก                                เงียบวิเวกแต่งามหนึ่งงานศิลป์

                    หนึ่งว่าเป็นพิมานในเมืองอินทร์                                      เทวารินกระแสชลดลเดชชู

                    มรกตเดินมาใกล้สระอโนดาตอันงดงามนั้น สระอโนดาต... น้ำอมฤทธิ์... ในที่สุดเราก็หาเจอ มรกตพูดพลางยิ้มด้วยความพอใจแล้วเสกคนโทออกมา มรกตกำลังเอื้อมมือไปตักน้ำในสระอโนดาตก็มีงูตัวหนึ่งพันแขนนางไว้พลัน มรกตรีบพลันออกแล้วทำเอาคนโทหล่นลงน้ำในสระอโนดาตไป มรกตพยายามสะบัดเอางูนั้นออกไปจากตัวแต่ก็ไม่สำเร็จ เข้ามาด้านหลังมรกตแล้วโอบร่างนางไว้พลางดึงเอางูตัวนั้นออกจากแขนของมรกตพลัน ทันทีที่หลุดจากงูได้มรกตกระแทกศอกใส่ปักษยุพลัน ปักษยุปล่อยนาง มรกต เรามาขอให้เจ้าเปลี่ยนใจอีกครั้ง เห็นแก่ทุกคนที่เจ้ารัก และ รักเจ้า ปักษยุพูด อย่ามาเกลี้ยกล่อมเราซะให้ยาก เจ้าไม่ได้เป็นอะไรกับเรา เราไม่เชื่อเจ้าง่ายดายนักหรอก มรกตพูด แล้วอยากเป็นไหมหละ ปักษยุพูด อย่ามาพูดจาแบบนี้กับเรานะ มรกตพูด ทำไม มรกต เราสัญญานะ เราขอร้องหละ เราจะคืนนครบาดาลให้เจ้าก็ได้ แต่กลับมาเข้าฝ่ายนพคุณเถอะ เราไม่อยากให้เจ้าหลงผิดไปมากกว่านี้ ปักษยุพูด จะผิด หรือจะถูกมันก็เป็นเรื่องของเรา ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้าเลยแม้แต่นิดเดียว มรกตพูด ทำไมจะไม่เกี่ยวเล่า ถ้าเจ้ากลายเป็นนางปีศาจไปเสียหละ ปักษยุพูด เป็นก็เป็น จะทำไมหละ มรกตพูด เราคงเสียดาย แล้วก็เสียใจแย่ ปักษยุพูด มรกตไม่ใช่ผู้หญิงที่หลงคารมใครง่ายๆแต่ก็รู้จักอ่อนไหวเป็นเหมือนกัน นิ่งชะงักไปชั่วครู่ก่อนที่จะไม่สนใจก้าวไปที่สระอโนดาตหมายตักน้ำอมฤทธิ์ ก็มีนาคราชตัวโตมากผุดขึ้นมา มรกตผละอกนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้หวาดกลัวอะไรเพราะตนเองก็เป็นนาคราชเช่นกัน เราคือท้าวภุชงค์ นาคราชที่ดูแลสระอโนดาตแห่งนี้ เจ้ามีปรารถนาใดนาคราชน้อย เจ้าจึงมาที่นี่ ท้าวภุชงค์นาคราชว่า เราต้องการน้ำอมฤทธิ์นั่น มรกตพูด จะเอาไปทำอะไรรึ ท้าวภุชงค์ถาม ไม่ใช่การที่จะต้องบอก มรกตพูด หากว่าเจ้าจะเอาไปทำเรื่องไม่ดี ข้าคงจะให้เจ้าไปไม่ได้ ท้าวภุชงค์ เจ้าเป็นนาคราชอย่าคิดว่าจะขัดขวางเราได้ เราเองก็เป็นนาคเช่นกัน ลองดูสิว่าเราจะน้ำนั่นไปได้ไหม มรกตพลางเสกคนโทออกมาใหม่ แล้วแปลงร่างนาคราชดำดิ่งลงสู่ใต้สระอโนดาตแล้วตักน้ำอมฤทธิ์ขึ้นมา ท้าวภุชงค์พยายามที่จะขัดขวางแต่มรกตใช้พลังของตนทำร้ายท่านท้าวภุชงค์จนได้รับบาดเจ็บแล้วรีบแหวกว่ายขึ้นมา มรกตรีบกระโดดเหาะออกไป ท่านท้าวภุชงค์ได้รับบาดเจ็บแต่ตามขึ้นมา ปักษยุเข้าไปประคองท่านท้าวภุชงค์ในร่างมนุษย์ เป็นยังไงบ้างท่าน ปักษยุว่า ไม่เป็นไร เจ้ารีบตามนางไปเถอะ ไม่รู้ว่านางจะเอาน้ำอมฤทธิ์ไปทำอะไร ท้าวภุชงค์ว่า ปักษยุพยักหน้าแล้วรีบเหาะขึ้นฟ้าแปลงร่างเป็นพญาครุฑตามมรกตไป มรกตเหาะหนีไป แต่ก็จะไวเท่าเจ้าเหาะอย่างครุฑเห็นทีจะเป็นไปไม่ได้ ปักษยุตามมาทันก็เข้ามารัดร่างมรกตไว้มรกตเผลอทำคนโทน้ำอมฤทธิ์หลุดมือลงไปข้างล่าง

                    เบื้องล่างนั้น เหมือนฟ้าลิขิตให้เกิดความบังเอิญเช่นนั้นขึ้น วชิรารัตน์ก็กำลังเดินป่าอยู่ครั้นพอเห็นคนโทร่วงลงมาก็เลยรับไว้ได้ทัน วชิรารัตน์แหงนหน้าขึ้นมองบนฟ้าเป็นพญาครุฑยื้อร่างมรกตไว้ ท่าไม่ดีแล้ว วชิรารัตน์ว่าแล้วก็รีบหนีไปพลันทันที

                    ส่วนมรกตกับปักษยุนั้น ปักษยุกลับร่างมนุษย์ยื้อตัวมรกตอยู่ในป่า มรกตพยายามดิ้นรน ปักษยุรัดร่างนางไว้แน่น มรกต ฟังบ้างสิ มรกตเจ้าจงฟังนะ ปักษยุว่า ไม่ฟัง... เจ้าไม่ใช่ญาติข้างไหนกับเรา เรื่องอะไรที่เราจะต้องฟังคำพูดของเจ้าด้วย มรกตว่า แต่เจ้าต้องฟัง มรกตฟังนะ... สิ่งที่เจ้าปรารถนา คือกอบกู้บาดาลนครมิใช่หรือ เราจะคืนให้เจ้า ปักษยุพูด แล้วเจ้าเอาชีวิตเสด็จพ่อ เสด็จแม่เรามาคืนได้ไหมหละ มรกตพูด เจ้าอย่าลืมสิ ไอ้ศิลาแลงที่เจ้าสรรเสริญนั่นหนะ เป็นเหตุพรากแม่เจ้าไป เจ้าลืมไปแล้วเหรอ มรกต เจ้าลืมคำของพ่อเจ้าแล้วเหรอ ให้เจ้ารักน้องของเจ้า ดูแลน้องของเจ้า ไม่ใช่ไล่ล่า พิคาดฟาดฟันกันแบบนี้ ปักษยุพูด มรกตน้ำตาคลอแล้ว หยุด... อย่ามาพูดแบบนี้ได้ไหม มรกตพูด ทำไม กระทบใจรึไง เราขอร้องเถอะนะมรกต ไอ้ศิลาแลงต้องการใช้พวกเจ้า เป็นเครื่องมือทำลายมณีนพรัตนา เจ้าอยากเป็นเครื่องมือของศัตรูรึ ปักษยุพูด มรกตนิ่ง แต่ก็เหมือนถูกปีศาจร้ายเข้าสิงร่าง ไม่ยอมฟังอะไรทั้งนั้น ไปล่อยเรา ปล่อยเดี๋ยวนี้เราจะไปตามทางของเรา สายเกินไปแล้วหละที่เราจะกลับใจตอนนี้ มรกตพูด ไม่สายหรอก ดูอย่างพิมพ์เพทายสิ เจ้าก็เห็นว่าทุกคนยังให้อภัยนางเลย ปักษยุพูด หยุดนะ หยุดพูดจาเกลี้ยกล่อมเราซะที มรกตพูดพลางดิ้นรนให้หลุดพ้นไปจากปักษยุปักษยุเป็นจากที่รัดร่างนางไว้เฉยเป็นโอบกอดนางไว้ ฟังอีกอย่างนะ เผื่อว่าจะช่วยเปลี่ยนใจเจ้าได้ ไม่มีใครที่จะซื่อสัตย์จริงใจต่อเจ้านอกจากพี่น้องของเจ้าอีกแล้ว ถ้าวันใดเจ้าหมดประโยชน์ต่อไอ้ศิลาแลง ไอ้ศิลาแลงมันจะเอาเจ้าไว้เหรอ ถ้ามันทำร้ายเจ้า ถ้าเจ้าเป็นอะไรไปเล่า เราคงอยู่ไม่ได้... เราไม่ได้เว้าวอนให้เจ้าเชื่อเราทุกคำหรอกนะ แต่เราวอนขอให้เจ้าเปลี่ยนใจ มรกต... ฝ่ายเรายังมีอีกหลายคนที่รักเจ้า พี่น้องเจ้าไงเล่า แล้วก็ราคนนี้ไงเล่า เราจริงใจนะมรกต ไม่รู้เหมือนกัน แต่เรารู้สึก เราไม่อยากให้เจ้าผิดไปมากกว่านี้ มรกต... ที่ตามมาก็เพราะรัก เจ้าน่าจะเข้าใจซะทีว่าทำไม ถ้าไม่รัก ไม่ห่วง เราคงไม่มายุ่งเกี่ยวด้วย ปักษยุว่าไปตรงๆ มรกตก็หวั่นไหวไปตามคำพูดของปักษยุ ปล่อยเราก่อนเถอะ มรกตพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง ปักษยุค่อยๆคลายกอดแล้วจับมือนางมากุมไว้ กลับไปด้วยกันนะ ปักษยุว่า มรกตหันมองตาปักษยุแล้วค่อยพยักหน้าเป็นคำตอบ

                    เมื่อปักษยุเปลี่ยนใจมรกตได้สำเร็จพากลับมาหาพวกพี่น้อง พระพี่นาง ทั้งมณีกาฬ และ แก้วไพฑูรย์เรียกด้วยความดีใจ มรกตกอดน้องสาวทั้งสองคนไว้ทั้งน้ำตา มณีกาฬ แล้วไพฑูรย์ พี่ขอโทษ มรกตพูดทั้งน้ำตา ไม่เป็นไรหรอกเพคะ พวกเราไม่เคยโกรธพระพี่นาง ดีใจเหลือเกินที่ได้พี่สาวกลับคืนมา มณีกาฬพูด ทีนี้ก็เหลือแค่น้องวชิรารัตน์คนเดียว จะมีใครเล่า ที่จะช่วยน้องให้กลับมาเป็นฝ่ายเราได้ จันทรัตน์พูด มีคนเดียวนั่นแหละ แต่คนๆนั้นคงไม่ทำ มรกตพูด ทุกคนต่างถอนใจ ถ้าเราช่วยน้องได้ เราก็จะช่วย จันทรัตน์พูด ยิ่งถ้าเป็นเจ้า ยิ่งเกลี้ยกล่อมยากเข้าไปใหญ่ พิมพ์เพทายพูด ทุกคนต่างถอนใจ

                    บนต้นไม้ต้นหนึ่ง ค่ำมืดลงแล้ว ทุกอย่างต่างเงียบสงัด วชิรารัตน์นั่งอยู่เพียงลำพังบนต้นไม้ต้นนั้น นางถือคนโทน้ำอมฤทธิ์ไว้ นางมองของสิ่งนั้นแต่สายตามิได้รื่นรมย์ยินดีเลย แววตาวชิรารัตน์ช่างแสนเศร้า เคล้าด้วยน้ำตาที่คลออยู่ นัยน์ตา เราช่างโชคร้ายเหลือเกิน ตอนนี้... ก็เหลือแค่เราคนเดียว ทุกคนทิ้งเราไปหมด ไม่มีใครรักเราเลยสักคน เพราะการกระทำของเราเท่านั้นนาหรือ เราเลวถึงเพียงนั้นเชียว ใครๆถึงได้คอยเกลียดเรามากมายแบบนี้ คนที่เกิดมามีแต่ความสุขคงมิอาจเข้าใจเราได้ ว่าเราเกิดมาต้องพบกับสิ่งใดบ้าง แม้แต่เสด็จแม่แท้ๆ ยังไม่รัก ไม่เอ็นดู พี่สาวที่เคยรัก เคยเอ็นดูเราอย่างพระพี่นางมรกตก็ทิ้งเราไป ยังจะใครอีก ที่ต่างก็ทิ้งเราไปหมด คราจะดีต่อใครสักคน เค้าก็หาเห็นคุณไม่ วชิรารัตน์พูดไปน้ำตาที่คลออยู่ก็รินไหลลงอาบแก้มด้วยความเศร้าใจ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น... จะว่าเป็นเพราะเราเป็นคนก่อคนเดียวก็มิใช่ ทุกคนทำกับเรา คอยดูเถิด พลังอำนาจทุกอย่างเป็นของเราเมื่อใด ทุกคนจะต้องสยบต่อเรา เราจะต้องได้ ในทุกสิ่งที่อยากได้ มณีนพรัตนาจะราบคาบเป็นหน้ากลอง อสุรเวหานครจะรุ่งรุจดุจเมืองฟ้า เราจะต้องยิ่งใหญ่ ทุกคนจะต้องหวาดเกรงเราจนมิอาจกล้าเอ่ยชื่อ วชิรารัตน์พูดด้วยความแค้นเคืองใจ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×