ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทองเนื้อเก้า

    ลำดับตอนที่ #48 : ต้องรีบจัดการก่อนที่จะใจอ่อนไปมากกว่านี้

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 278
      0
      21 เม.ย. 51

                    พระสมุทรสุดลึกล้นน่าค้นหา                           เหล่าปูปลาเวียนว่ายได้อาศัย

    ท้องทะเลแผ่นน้ำอันกว้างไกล                                         ประทับใจดับประดาปะการัง

                    นาคราชองค์น้อยทั้งสองต่าง                            กลัดกรายร่างเยื้อนยลถิ่นถวิลหวัง

    อดีตกาลเคยภิรมย์อยู่เวียงวัง                                              เสียงคลื่นดังกล่อมใจในทุกวาร

                    ต่างเวียนว่ายกรายร่างมาถึงถิ่น                         ที่ถวิลเคยสุขเกษมศานต์

    เคยพักพิงอิงไอชลาธาร                                                     เมื่อผ่านกาลชะตากรรมพาจากจร

                    เมื่อคิดแล้วชลเนตรจะนองหน้า                       องค์นาคาพิศดูอนุสร

    มองเวียงวังเวิ้งว้างว่างอาวรณ์                                           หวนสะท้อนให้สะท้านสะเทือนใจ

    ธิดาบาดาลผู้จากจรถิ่นเดิมไปนานแสนนาน กลับร่างเป็นมนุษย์เดินดูทั่วทั้งเวียงวังอันเงียบงันไร้ผู้คน เมืองที่เคยรุ่งรุจในคุ้งน้ำกลับกลายเป็นเมืองร้างอันน่าสะพรึง ยิ่งมาก็ยิ่งสะเทือนใจ สองนางต่างน้ำตาคลอไม่เอื้อนเอ่ยคำใดออกมาให้ตอกย้ำดวงใจที่หดหู่ของกันและกัน สองพี่น้องแฝดคนละฝาหันหน้ามาสบตากันต่างก็มองเห็นน้ำตาของกันและกันที่คลออยู่แลรู้สึกได้ในความรู้สึกที่ไม่ได้แตกต่างจากกันเลย กลับกันเถอะ มณีกาฬพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แก้วไพฑูรย์พยักหน้า กลับก็กลับ แก้วไพฑูรย์พูดแล้วทั้งสองก็พากันขึ้นมาบนชายหาด

    ยังไม่ทันที่จะกลับ ทั้งสองเดินคอตกอยู่ริมชายหาดนั้น สายตาอันน่าเกรงขามแห่งรักตปักษ์จับจ้องอยู่ไม่วางตา สองนางคือหน่อเนื้อแห่งพันธุ์นาคราช เสียงน่าเกรงขามเอ่ยขึ้น ร่างร่างครุฑโฉบเข้าสู่สองนางพลันจนต้องล้มลงไม่ทันระวังตัว ทั้งสองต่างจ้องมองพญาครุฑตนนั้นด้วยความตกใจ พญาครุฑ ทั้งสองต่างเอ่ยขึ้นเป็นเสียงสำเนียงเดียวกันพลันที่เห็นร่างน่าเกรงขามนั่น ทั้งสองต่างช่วยประคองกันลุกขึ้นยืนมองร่างเหนือเวหานั่น มณีกาฬ... แก้วไพฑูรย์เรียก มณีกาฬหันมาพยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วก็ใช้พลังของแหวนนิลกาฬใส่เจ้าพญาครุฑตนนั้น เช่นเดียวกับแก้วไพฑูรย์ที่ใช้แหวนไพฑูรย์ส่งพลังสู่ร่างของเจ้าพญาครุฑนั้นเช่นกัน พญาครุฑพยายามต่อต้านพลังทรงอำนาจของแหวนอัญมณีทั้งสองวง สุดท้ายจึงร่วงหล่นลงสู่พิภพกลายเป็นร่างอย่างร่างมนุษย์ พญาครุฑผู้นั้นคือองค์วายุภักษ์ ผู้ที่สังหารองค์เหนือหัวมัศวุฒิเมื่อหลายปีก่อน แต่มณีกาฬ และ แก้วไพฑูรย์มิได้รู้จัก เพราะในผู้ที่รู้จัก แลเคยพบคือมรกตคนเดียวเท่านั้น รีบไปกันเถอะ แก้วไพฑูรย์แล้วสองพี่น้องก็จับมือกันวิ่งไป วิ่งไปก็ไปชนเข้ากับมรกตที่ยืนอยู่ พระพี่นาง ทั้งเสียงเรียกอย่างดีใจ พี่เอง แก้วไพฑูรย์ มณีกาฬ มรกตว่าพลางรัวลูกไฟใส่น้องทั้งสอง ทั้งสองก้มหลบแทบไม่ทัน พระพี่นาง มณีกาฬเรียกอย่างแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับพี่สาว พระพี่นางเพคะ พวกเราถูกพญาครุฑไล่มานะเพคะ แก้วไพฑูรย์พูด พี่รู้แล้ว ไม่ต้องบอกพี่ก็ได้ แต่ตอนนี้ สิ่งที่พี่ต้องการจากพวกเจ้า ก็คือแหวนนิลกาฬ แล้วก็แหวนไพฑูรย์ มรกตพูดซึ่งๆหน้า พระพี่นาง... ทั้งสองเรียกอย่างแทบไม่เชื่อหูว่าพระพี่นางจะรับสั่งแบบนั้น พวกเจ้าได้ยินไม่ผิดหรอก เราต้องการแหวนของพวกเจ้า แล้วก็ต้องการกำจัดพวกเจ้าไปให้พ้น วชิรารัตน์เดินมาข้างหลัง วชิรารัตน์ ทั้งสองเรียกพลันที่หันมาเห็นเข้า พลันวชิรารัตน์เข้ามาจับตัวมณีกาฬไว้ มรกตก็เช่นกันเข้ามาจับตัวแก้วไพฑูรย์ไว้ แก้วไพฑูรย์ และ มณีกาฬต่างพยายามดิ้นรน ปล่อยนะ... มณีกาฬพูด วชิรารัตน์ และ มรกต ดึงตัวมณีกาฬ และ แก้วไพฑูรย์กลับไปที่พญาครุฑตนนั้น พญาครุฑตนนั้นแปลงร่างเป็นครุฑอีกครา มรกตจับแก้วไพฑูรย์โยนไปที่พญาครุฑ วชิรารัตน์ก็ทำเช่นกัน มณีกาฬ และ แก้วไพฑูรย์ล้มลงเพราะแรงเหวี่ยงยังไม่ทันที่จะลุกขึ้นก็ถูกพญาครุฑเข้าโฉบทำร้ายทันที มรกต และ วชิรารัตน์ต่างหันมาสบตากันแล้วยิ้มอย่างพอใจ เมื่อแก้วไพฑูรย์ และ มณีกาฬเริ่มอ่อนแรงกำลังลงแล้ว เนื้อตัวมีแต่บาดแผลจากรอยเล็บของพญาครุฑ มรกต และ วชิรารัตน์ก็พลังของแหวนเพชร และ แหวนมรกตสาดเข้าใส่พญาครุฑนั่นจนพญาครุฑต้องบินหนีไป แล้วทั้งสองก็เข้ามาถอดแหวนของมณีกาฬ และ แก้วไพฑูรย์ไป ได้มีอีกสองวง ทีนี้ก็เหลือแต่พระพี่นางกิ่งโกมินทร์ แล้วก็รดามณี รวมทั้งเจ้านพคุณสินะ วชิรารัตน์พูด เจ้าไปเอาแหวนของรดามณีมาให้ได้ ส่วนพี่จะไปเอาแหวนของพระพี่นางกิ่งโกมินทร์มาเอง มรกตพูด แล้ววชิรารัตน์ กับ มรกตก็เหาะขึ้นฟ้าออกไป ทิ้งมณีกาฬ และ แก้วไพฑูรย์บาดเจ็บอยู่ตรงนั้น

    ที่มณีนพรัตนานคร ตำหนักของสร้อยสายเพชร รดามณีนั่งอยู่กับพระมารดา รดามณี ลูกรู้ทางไปนภาภัทรนครไหมจ๊ะ แม่อยากไปหาจันทรัตน์ แม่อยากเจอกับจันทรัตน์ แม่คิดถึงพี่เจ้า สร้อยสายเพชรพูดด้วยน้ำตาที่คลออยู่ จันทรัตน์คงมีความสุข คงไม่มีทุกข์ใดๆหรอกเพคะ เสด็จแม่ไว้วางพระทัย และอย่าห่วงเลย ศิรสิทธิ์นั้นรักจันทรัตน์มาก ทั้งรัก ทั้งภักดี นางไปกับศิรสิทธิ์ ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง รดามณีว่า ยังไงแม่ก็ห่วงอยู่ดี คนเป็นแม่หนะ มีลางสังหรณ์นะลูก แม่รู้สึก ตอนนี้แม่ห่วงทุกคน จันทรัตน์เองก็ไปไกลอกแม่ วชิรารัตน์เองกแปลกๆไป ซ้ำยังเกิดเรื่องร้ายๆขึ้นอีกในมณีนพรัตนา พิมพ์เพทายอยู่ๆก็ร้ายอย่างถูกผีสิง อันตรายมีรอบด้านนะลูก วชิรารัตน์นั้นแม่รั้งไม่ไหวแล้ว ส่วนจันทรัตน์จะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ ตอนนี้ข้างๆแม่ แม่มีรดามณีคนเดียวนะลูก รดามณีต้องระวังตัวมากๆ ไม่มีอะไรที่ไว้ใจได้อีกแล้ว ลูกจำคำแม่ไว้นะ สร้อยสายเพชรพูด เพคะเสด็จแม่ รู้จะจำไว้ รดามณีพูด ดีจะ แม่จะได้สบายใจ ว่าอย่างน้อยรดามณีของแม่ก็ไม่ประมาท สร้อยสายเพชรพูด เพคะ ลูกขอบพระทัย ที่เสด็จแม่ทรงเป็นห่วง ลูกดีใจยิ่งนักเพคะ รดามณีกอดพระมารดาไว้แน่น แม่ห่วงสิรดามณี ก็เจ้าเป็นลูกแม่นี่นา ขึ้นชื่อว่าลูก แม่ก็รักทุกคนแหละ วชิรารัตน์ไม่น่าคิดไปได้ ว่าแม่รักจันทรัตน์มากกว่า สร้อยสายเพชรพูด ถ้าเสด็จแม่รักลูก ทำไมเสด็จแม่ถึงไม่รักเสด็จพ่อด้วยหละเพคะ รดามณีว่า รดามณี... เค้าทำกับแม่มากเกินไป ตอนที่แม่มีเจ้า แม่ก็เกือบๆจะรักพ่อของเจ้าแล้ว แต่เค้าก็ดันสังหารคนที่แม่เคยรัก แม่ให้อภัยเค้าไม่ได้หรอก สร้อยสายเพชรพูด ว่าไปก็เป็นห่วงวชิรารัตน์นะเพคะ กลัวนักว่าจะต้องชอกช้ำซ้ำรอยกับเสด็จพ่อ รดามณีว่า รดามณี ถ้าวชิรารัตน์มาคุยกับแม่อีก แม่จะบอกน้องว่า หากแม้นรักศิรสิทธิ์เข้าแล้ว ก็จงรักให้มาก จงตัดเอาความริษยาทั้งปวงออกไป เพราะความริษยานั้น ไม่เหมือนกับความรักเลย แม่พึ่งเราตัวตอนที่เห็นน้องเจ้านี่แหละ วชิรารัตน์เหมือนเป็นกระจก ให้แม่มองเห็นตัว ว่าเมื่อก่อน แม่เป็นคนยังไง แม่ริษยาจนได้เรื่อง แม่ไม่อยากวชิรารัตน์ต้องมาคอยเจ็บใจตัวเองอย่างแม่ทุกวันนี้ สร้อยสายเพชรกอดรดามณี อย่าคิดมากเลยนะเพคะ วชิรารัตน์นั้นลึกๆแล้วเป็นคนดี ลูกอยู่ด้วยกันมาแต่เด็กๆ ลูกดูออก ตอนนี้ก็แค่กำลังหลงทาง เดี๋ยวก็ดีเอง เสด็จแม่ไว้วางพระทัยเถิดเพคะ ลูกจะคอยเตือนน้อง รดามณีพูด แม่ขอบใจมาก รดามณีคนนี้แม่ไม่ห่วงเลย แม่รู้ว่าลูกดูแลตัวเองได้ แม่ดีใจ ที่แม่มีเจ้า สร้อยสายเพชรพูดแล้วกอดพระธิดาองค์รองของนางไว้แน่นด้วยความรักแลเอ็นดู วชิรารัตน์แอบมองอยู่ก็น้ำตาไหล ทำไม... ทำไมต้องรักเรา ทำไมต้องห่วงเราขนาดนี้ด้วย วชิรารัตน์พูดทั้งน้ำตาแล้ววิ่งออกไป

    วชิรารัตน์กลับมาที่ตำหนักของตน นางซบที่พระเขนยแล้วร้องไห้เสียด้วยความลำบากใจ ริษยา... ใช่ เราขี้อิจฉา อะไรๆก็เปลี่ยนแปลงเราไม่ทันแล้วหละ รดามณี เราเสียใจ... เรามีความจำเป็น เพราะแหวนทับทิมของเจ้าสำคัญมาก เราตัดสินใจแล้ว เราจะไม่เปลี่ยนใจ เราเปลี่ยนจำไม่ได้ แม้ว่า... แม้ว่าจะรู้สึกใจอ่อนก็ตาม วชิรารัตน์สะอึกสะอื้นแลร้องไห้ต่อ องค์รติวุฒิเสด็จเข้ามา เห็นว่าพระธิดากันแสงอยู่ก็เข้ามานั่งข้างๆวางมือลงบนร่างพระธิดาของพระองค์เบาๆ วชิรารัตน์รู้สึกก็หันมาเมื่อเห็นเป็นพระบิดาก็รีบเข้าสู่อ้อมกอดทันที เสด็จพ่อ... เสด็จพ่อเพคะ วชิรารัตน์สะอึกสะอื้น วชิรารัตน์ ร้องไห้อีกแล้วหรือลูกพ่อ รติวุฒิว่า ลูกไม่รู้จะทำยังไง ลูกเสียใจ ลูกผิดไปแล้ว ลูกแก้ไขอะไรไม่ได้เลยเพคะ นี่ลูกจะทำยังไงดี วชิรารัตน์สะอึกสะอื้น เหมือนเหลือเกิน... เหมือนกาลที่แม่เจ้าต้องเจอในอดีต วชิรารัตน์ ทุกคนรักเจ้า แล้วก็เป็นห่วงเจ้านะลูก เช็ดน้ำตาซะ นางฟ้าคนเก่งของพ่อยังไงหละ รติวุฒิวางมือลงบนพระศิระพระราชธิดาอย่างเอ็นดู วชิรารัตน์มิอาจกราบทูลความเลวของตนให้พระบิดาได้ฟังได้ ลูกเข้ามาแล้ว ลูกคงออกไปไม่ได้ง่ายๆหรอกเพคะเสด็จพ่อ มันสายเกินไปแล้ว เกินกว่าที่ลูกจะแก้ไขอะไรทั้งสิ้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ใครจะเป็นอะไรไป มณีนพรัตนาจะพินาศลุกเป็นไฟ ลูกขอให้เสด็จพ่อรับเสด็จแม่หนีไปให้ไกลที่สุด อย่าให้มีอันตรายใดนะเพคะ วชิรารัตน์พูดทั้งน้ำตาสะอึกสะอื้น ไม่... จะไม่มีอะไรแบบนั้นเกิดขึ้นนะลูกพ่อ จะไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นแน่นอน รติวุฒิพูด วชิรารัตน์ยิ่งสะอึกสะอื้นใหญ่ นางสูดลมหายใจเข้าพลางเช็ดน้ำตา วชิรารัตน์ลงไปนั่งกับพื้น แล้วก้มลงกราบพระบาทพระบิดา ลูกรู้ตัวเพคะ ว่าลูกทำอะไรลงไป เสด็จพ่อ... ลูกไม่ขอให้ใครคนไหนเข้าใจลูกเลยก็ได้ แต่ลูกอยากให้เสด็จพ่อ เสด็จแม่ เข้าพระทัยลูก โดยเฉพาะเสด็จแม่ ลูกทูลลา วชิรารัตน์พูด แล้ววิ่งออกไปจากตำหนักนั้น วชิรารัตน์ รติวุฒิทำเพียงเรียกตามพระธิดาของพระองค์

    ที่พระตำหนักพระธิดามรกต มรกตเองก็ลำบากใจอยู่ คิดถึงคำสั่งเสียของพระบิดา ที่ฝากกับองค์รติวุฒิมาเมื่อก่อนจะสิ้นใจว่า

    บอกมรกตว่า ให้ดูแลแม่ ดูแลน้อง เอาบาดาลนครกลับมาเป็นของเราให้ได้... องค์พญานาคราชมัศวุฒิเอ่ยขึ้นเป็นประโยคสุดท้าย

    มรกตรจนาวดีนึกถึงพระราชบิดาแล้วก็น้ำตาไหล ลูกทำเพื่อพลังอำนาจ ทำเพื่อทวงบาดาลนครคืนจากเหล่าพญาครุฑ แต่สิ่งที่ลูกลืม... ลูกลืมดูแลเสด็จแม่... ลูกทำร้ายน้อง นี่ไม่ใช่การกระทำของคนกตัญญูเลย มรกตน้ำตาไหลด้วยความสำนึกในใจ วชิรารัตน์เองก็ร้องไห้เข้ามาเช่นกัน พี่มรกตเพคะ วชิรารัตน์เรียก น้องวชิรารัตน์ มรกตเรียกแล้วลุกขึ้นเดินไปหาลูกพี่ลูกน้อง พี่เสียใจ พี่ไม่อยากทำอีกแล้ว ไม่อยากทำร้ายใครอีกแล้ว มรกตว่า น้องก็เช่นเพคะพระพี่นาง น้องเสียใจ แล้วก็สำนึกผิดด้วย แต่เรามาไกลเกินกว่าที่จะย้อนแล้ว คืนนี้เราต้องจู่โจมให้เร็วที่สุด น้องจะไปแย่งแหวนทับทิมมา ส่วนพระพี่นาง ไปแย่งแหวนโกเมนมานะเพคะ จากนั้นเราก็รีบไปช่วยพิมพ์เพทายแล้วก็ไปที่ใต้ธรณีกัน วชิรารัตน์พูด ตกลง... ทันทีที่ได้แหวนมาเรารีบมาพบกันที่นี่ แล้วรีบไปช่วยพิมพ์เพทายกัน ตามนี้นะ มรกตพูดวชิรารัตน์พยักหน้า

    ที่หน้าตำหนักรดามณี ศดิศรันย์นำพวกทหารเดินไปเดินมาไม่ยอมไปไหน วชิรารัตน์เดินมา หลีกไป เราจะเข้าไปหารดามณี วชิรารัตน์ว่า ไม่ได้พระเจ้าข้า ข้าพระองค์มีลางสังหรณ์ คืนนี้ไม่ให้ใครเข้าพบพระนัดดารดามณีนะพระเจ้าข้า ศดิศรันย์พูด เอะ แต่เราเป็นน้องของรดามณีนะ จะสังหรณ์อะไรของเจ้าอีก เราไปอยู่ด้วยสิดี จะได้ช่วยกันเวลามีอะไรเกิดขึ้น วชิรารัตน์พูด ข้าพระองค์เกรงว่า... เออ... ศดิศรันย์เกรงว่าอันตรายที่ว่าจะมาจากวชิรารัตน์เสียเองแต่ไม่กล้าพูด อะไร... เจ้าว่าเราจะทำอะไรรดามณี เราจะเข้าไปคุยกันตามประสาพี่น้อง ทำไมต้องกีดกันด้วย ถอยไปดีๆนะถ้ายังอยากอยู่รับใช้รดามณี วชิรารัตน์ตะโกน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×