ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทองเนื้อเก้า

    ลำดับตอนที่ #27 : พบญาติกา ขุนกล้าคนทรยศ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 262
      0
      10 เม.ย. 51

    ขุนกล้าเจ้าช่างกล้าสมชื่อเสียจริง แต่กล้าในทางที่มิถูกมิควร ก็มิเป็นคุณแก่ผู้ใด องค์เหนือกนกนาทรับสั่ง ข้าพระองค์จะทำให้องค์เหนือหัว ตกลงมาจากพระราชบัลลังก์ของพนาวรรษาให้ได้ พนาวรรษานครไม่ควรมีองค์กษัตริย์เป็นโอรสต่างถิ่นเช่นพระองค์ ขุนกล้ากล่าววาจาสามหาวยิ่งนัก เสด็จพ่อ... พระธิดากิ่งโกมินทร์เริ่มหวาดหวั่นแล้ว หวั่นเกรงอะไรพระเจ้าข้าพระธิดาน้อย ข้าพระองค์อาจมิทำร้ายผู้หญิง แต่ชายชาติทหารด้วยกัน ต้องต่อสู้กันให้ถึงที่สุด ขุนกล้าพูด เราก็กล้าพอที่จะประมือกับเจ้า ขุนกล้า... จงอย่าทะนงตนนักเลย กนกนาทรับสั่ง ขณะที่กำลังจะรบกันนั้นเกิดแผ่นดินไหวขึ้น สั่นสะเทือนไปทั่ว เกิดรอยแยกขึ้นที่แผ่นดิน การต่อสู้ชะงักลงพลัน ราชธิดาพระองค์แรกแห่งพนาวรรษาตกลงไปในรอยแยก กิ่งโกมินทร์ กนกนาทเรียกชื่อลูกสาวแล้วรีบคว้ามือไว้ แผ่นดินไหวสงบลงแล้ว พระธิดาน้อยแทบจะตกลงไปในรอยแยกแต่มีพระบิดารั้งไว้ เสด็จพ่อ... กิ่งโกมินทร์เหมือนจะร้องไห้ ลูกพ่อ อย่ากลัวนะลูก พ่อจะช่วยเจ้าขึ้นมาให้ได้ กนกนาทพูดพลางพยายามฉุดตัวพระธิดาขึ้นมา ขุนกล้าสบโอกาส ใช่ดาบมาแทงข้างหลังองค์เหนือหัวกนกนาท

                                    พลันเห็นพบสบโอกาสก็ฟาดฟัน                    พิคาดพลันแทงข้างหลังมิยั้งหยุด

                    กนกนาทเจียนตายมิวายฉุด                                               ยังยื้อยุดหมายช่วยพระลูกยา

                                    พระธิดาเห็นพ่อก็ยิ่งทุกข์                                   เคยมีสุขกับครอบครัวแลวงศา

                    พ่อนั้นเล่าเป็นหนึ่งนาถบิดา                                             การุณย์ข้าเสมอมามิแม้นใคร

                                    แม้นชีวาหนึ่งว่าจะดับสูญ                                 ยังเกื้อกูลลูกนี้มิหวั่นไหว

                    พระพ่อลูกคงเจ็บเจียนขาดใจ                                            ยังรักษ์ไว้บุตรีนี้ซึ้งกมล

                    แม้นว่าลูกจะตกลงไปตาย แลเสด็จพ่อจะถูกแทงจนสิ้นพระชนม์ ชาติหน้ามีจริง ขอให้ลูก ได้เกิดเป็นพระธิดาของเสด็จพ่ออีกนะเพคะ พระธิดากิ่งโกมินทร์รับสั่งในพระทัยทั้งน้ำตาก่อนที่ร่างจะหลุดมือพระบิดาร่วงลงสู่รอยแยกใต้ธรณีนั่น พร้อมกันที่องค์เหนือหัวกรกนกก็สิ้นพระชนม์ด้วยคมดาบ

                    ใต้ธรณี พระธิดาน้อยกิ่งโกมินทร์ตกลงมาก็หมดสติไปนาน พอได้สติก็เริ่มขยับตัวแล้วพรวดลุกขึ้น ที่นี่...ยมโลกรึไง ทำไมช่างเงียบงันถึงเพียงนี้ กิ่งโกมินทร์บ่นไปแล้วเดินดูรอบๆบริเวณ อยู่ๆก็มีเสียงผู้หญิงร้องไห้แว่วมา กิ่งโกมินทร์ยินก็ชะงักฟัง นั่น... เสียงคนร้องไห้นี่นา กิ่งโกมินทร์พูดพลางเดินตามเสียงนั้นไป

                    ฝ่ายวิหงค์จันทร์ และ นพคุณ โอบกอดกันร้องไห้ นพคุณ... นี่เราสองคนแม่ลูกต้องตายกันในนี้เหรอลูก วิหงค์จันทร์สะอึกสะอื้น ลูกก็ไม่แน่ใจ แต่ถ้าเราจะตาย เราก็น่าจะตายตั้งแต่ตกลงมาแล้วนะพระเจ้าข้าเสด็จแม่ นพคุณพูด แล้วจะมีทางไหนบ้างหละลูก ทางไหนที่เราจะขึ้นไปจากใต้พิภพนี้ได้ วิหงค์จันทร์พูดพลางเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาถึงคางแล้ว นพคุณช่วยพระมารดาบุญธรรมเช็ดน้ำแล้วว่า เสด็จแม่อย่ากันแสงเลยพระเจ้าข้า เชื่อมั่นในตัวลูก เชื่อมั่นในนพคุณคนนี้เถิด จะไม่ยอมให้ผู้มีพระคุณต้องเป็นอะไรไปแน่ นพคุณพูด วิหงค์จันทร์ยิ่งมองก็ยิ่งซึ้งน้ำใจเด็กน้อยตรงหน้ายิ่งนัก กิ่งโกมินทร์เดินมาถึงที่นั่น วิหงค์จันทร์ และ นพคุณขยับออกห่างอย่างตกใจ ไม่.. ไม่ต้องตกใจ เราไม่ได้จะมาทำร้ายใคร กิ่งโกมินทร์พูด เจ้าเป็นใคร... วิหงค์จันทร์เอ่ยถาม เราชื่อกิ่งโกมินทร์ เป็นพระธิดาพระองค์แรกแห่งพนาวรรษานคร และ เป็นพระราชนัดดาองค์แรก แห่งมณีนพรัตนานคร กิ่งโกมินทร์พูด มณีนพรัตนา ชื่อนี้ถูกทวนขึ้นในใจของนพคุณ ศักดิ์เจ้าช่างสูงส่งนักดรุณีน้อย เราชื่อวิหงค์จันทร์ เป็นราชธิดาผู้อาภัพ ถูกขับออกจากเมืองโดยหามีซึ่งความผิด มีก็แต่ ลูกชายบุญธรรม ที่ชื่อ... นพคุณ วิหงค์จันทร์พูดในขณะที่น้ำตายังไหลรินอาบแก้มนางอยู่ นพคุณรึ... กิ่งโกมินทร์ท่าทางแปลกใจมิเบา พระเจ้าข้า ข้าชื่อนพคุณ พลัดมา ไม่รู้จากรากเง้า ไม่รู้จักเหล่ากอ หมู่วงศาคณาญาติเป็นใครก็ไม่เคยได้พบ หรือพระธิดากิ่งโกมินทร์เคยยินชื่อข้า นพคุณพูด ใช่... เจ้าชื่อเหมือนกับน้องเราที่หายไปแต่เล็ก... กิ่งโกมินทร์พูด พลางคิดไป ใช่สิ ท่าทางกิ่งโกมินทร์จะคิดออกจึงเข้าไปคว้ามือโอรสน้อยมา เห็นวงแหวนงดงามคือแหวนนพเก้าของนพคุณ เจ้า... นพคุณน้องพี่ กิ่งโกมินทร์เรียก นพคุณดีใจพูดไม่ออก พระพี่นาง... นพคุณยิ้มออกด้วยความดีใจที่พบญาติกาของตนแล้ว วิหงค์จันทร์กลับหน้าเศร้าลงพลัน นี่แม่ต้องเสียเจ้าไปแล้วรึนพคุณ... วิหงค์จันทร์คงได้แต่รำพึงในใจ พระพี่นาง ช่วยข้า และเสด็จแม่วิหงค์จันทร์ออกไปจากที่นี่ทีได้ไหม นพคุณยิ้มอย่างมีความหวัง กิ่งโกมินทร์ที่ยิ้มดีใจอยู่ต้องหน้าเศร้าลงพลัน เออ นพคุณ พี่เสียใจเหลือเกินน้องรัก พี่เองก็ตกลงจากรอยร้าวแผ่นดิน พี่ไม่รู้ทางขึ้นหรอก กิ่งโกมินทร์พูด ทุกคนต่างถอนใจ เสียงหัวเราะห้าวหาญกึกก้องทั่วใต้พิภพ ทั้งสามพระองค์ต่างเหลียวมองหาเจ้าของเสียงน่าสะพรึงนั้น พลันร่างบุรุษวัยกลางคนปรากฏขึ้น เจ้าเป็นใคร อย่าบังอาจแตะต้องเสด็จแม่ และ พระพี่นางของเราเป็นอันขาด นพคุณเข้าขวางทุกคนไว้อย่างกล้าหาญ พวกเจ้าได้ตายกันถ้วนหน้าแน่นอน รวมทั้งคนที่มณีนพรัตนาทุกคน  บุรุษนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร เจ้า... หรือว่าเจ้าคืออสุราใต้พิภพมณีนพรัตนานคร กิ่งโกมินทร์พูด ใช่... สิ่งที่วชิรารัตน์หลานข้ากล่าวไปนั้น ไม่ได้เป็นเท็จ หรือนิทานหลอกเด็กดังที่เจ้าคิด บุรุษนั้นเอ่ย เรื่องอะไรกันพระเจ้าข้าพระพี่นาง นพคุณเอ่ยถาม อย่าพึ่งถาม ถ้ามีโอกาสไว้พี่จะเล่าให้ฟัง กิ่งโกมินทร์พูด เจ้าเป็นใคร เรากับลูกมิได้เคยสร้างความแค้นให้ ปล่อยเรากับลูกไปเถอะ วิหงค์จันทร์วอนขอ แหวนของนพคุณ และ กิ่งโกมินทร์เกิดเปล่งแสงขึ้น นพคุณ พี่คิดออกแล้ว เราต้องใช้พลังของแหวน กิ่งโกมินทร์พูด พระเจ้าข้าพระพี่นาง นพคุณตอบรับ สองพี่น้องกำลังกุมที่แหวน บุรุษนั้นถือโอกาสกระชากแขนวิหงค์จันทร์มา เสด็จแม่... นพคุณตกใจไม่น้อย วิหงค์จันทร์น้ำตารินไหล นพคุณ... ไม่ต้องเป็นห่วงแม่ หากมีช่องทางที่จะหนีเอาตัวรอดได้ ก็จงไปเสียลูก วิหงค์จันทร์พูด นพคุณเริ่มลำบากใจ ใช้พลังของแหวนหนีไปก่อนเถอะนพคุณ แล้วค่อยกลับมาช่วยเสด็จอาวิหงค์จันทร์ พี่สัญญาว่าจะช่วยด้วย กิ่งโกมินทร์พูด ไปสิลูกนพคุณ วิหงค์จันทร์พูดด้วยน้ำตาที่รินไหล นพคุณจำตัดใจไปพร้อมกับพระพี่นาง ข้า... ศิลาแลงอยู่ใต้พิภพมานานนัก ข้าจะต้องล้างแค้น บุรุษนั้นว่า

                    ที่มณีนพรัตนานครพระตำหนักรับรองที่พระสุณิสาบุษรา และ ลูกประทับอยู่นั้น เจ้าขุนกล้ามาเข้าเฝ้า บุษราอ่านสาส์นหนึ่ง นี่สาส์นของเจ้าพี่ รับสั่งว่า ทรงปราบบฏสำเร็จแล้ว ให้เจ้ามารับเรากับลูกงั้นรึ บุษราพูด พระเจ้าข้า ขุนกล้าตอบ ลูกรู้สึกแปลกๆเพคะเสด็จแม่ ทำไมอะไรๆมันช่างง่ายปานนี้ ขุนกล้า... เจ้าบอกเราได้ไหมว่าใครที่เป็นกบฏ พิมพ์เพทายพูดขึ้น ขุนกล้าถึงกับสะดุ้งเฮือกแตกพอรวบรวมสติไว้ได้ นิ่งคิดไปเสียนานด้วยพูดไม่ออก ข้าพระพุทธเจ้าไม่รู้จักพระเจ้าข้า ขุนกล้าตอบอย่างเลี่ยงๆ พิมพ์เพทายมองทีท่าของขุนกล้าด้วยสายตาจับผิด กลับกันเถอะนะเพคะเสด็จแม่ ลูกคิดถึงเสด็จพ่อ และ พระพี่นางกิ่งโกมินทร์ใจจะขาดอยู่แล้ว ปีตมณีพูด ขุนกล้า... พอกลับไปถึงพนาวรรษาเมื่อไหร่ พาเราไปให้เห็นหน้าไอ้กบฏทีนะ อยากจะรู้ว่ามันเป็นใคร เหตุใดถึงได้หาญกล้าทำการใหญ่เพียงนี้ พิมพ์เพทายพูด ขุนกล้าก้มหน้าลง พระเจ้าข้า ขุนกล้าตอบเสียงเบาไป เอาเถอะ เราจะไปลาเสด็จพ่อ เสด็จแม่ของเจ้าพี่ก่อน แล้วจะกลับทันที พิมพ์เพทาย ปีตมณี ไปลาเสด็จปู่ เสด็จย่ากับแม่นะลูก บุษราพูด

                    ที่พนาวรรษานคร พระมเหสีบุษรา และ พระธิดาองค์น้อยทั้งสองพระองค์เสด็จเข้ามาในพระตำหนัก เจ้าพี่เพคะ... ลูกกิ่งโกมินทร์... เจ้าพี่... กิ่งโกมินทร์ บุษราเปล่งเสียงเรียกหา แต่ก็ไร้ซึ่งเสียงตอบรับอย่างใด ขุนกล้ายิ้มอย่างมีเลศนัยน์ พิมพ์เพทายสังเกตเห็นก็เดินไปที่หลังพระแท่น คว้าเอาดาบใต้พระแท่นออกมาพระธิดาน้อยชักดาบออกจากฝัก แล้วเอาดาบชี้หน้าขุนกล้า ถอยไปนะไอ้คนชั่ว พิมพ์เพทายพูด พี่พิมพ์เพทายเพคะ... ปีตมณีพูดอย่างตกใจ พิมพ์เพทายทำอะไรหนะลูก บุษราพูดอย่างตกใจไม่แพ้กัน ขุนกล้ามันเป็นคนทรยศเพคะเสด็จแม่ เราถูกมันหลอกแล้ว พิมพ์เพทายพูด ทั้งบุษรา และ พระธิดาน้อยปีตมณีต่างตกใจ แล้ว... เจ้าพี่... ลูก... บุษราคิดถึงลูก และ พระสวามีก็ห่วงนัก เพลานี้ก็เหลือแต่พระมเหสีบุษรา และ พระธิดาน้อยๆทั้งสองพระองค์เท่านั้น ผู้ที่จะครองเมืองสืบไปนั้น ก็คงจะต้องเป็น... ขุนกล้าพูดยังไม่ทันจบ พระธิดาน้อยพิมพ์เพทายก็แทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวไม่หวั่นเกรงพลัน สิ้นกษัตริย์พระเจ้าเหนือหัวแห่งนคร ที่ไหนๆก็มีแต่กบฏเท่านั้นแหละที่ครองเมืองต่อ แต่หากว่าคนชั่วน้อยวาสนา ก็หามีบุญของเมืองต่อไม่ คนทรยศอย่างเจ้า นรก... จะกินกบาน พิมพ์เพทายต่อว่าอย่างไม่ยำเกรงเลยสักนิดว่าขุนกล้านั้นสามารถสังหารตนได้ ปากเก่งไปเถิดพระเจ้าข้าพระธิดาน้อย คืนนี้ข้าพระพุทธเจ้าจะเสด็จมาใหม่ พระมเหสีบุษรา คืนนี้ให้พระธิดาน้อยๆทั้งสองพระองค์ไปอยู่ที่ตำหนักเล็กนะพระเจ้าข้า ขุนกล้าพูดแล้วกำลังจะเดินออกไป คนชั่ว... ยังไงก็คิดแต่เรื่องชั่วๆ พระธิดาพิมพ์เพทายเอ่ยขึ้น ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไปนะพระเจ้าข้า ขุนกล้าเอ่ยแล้วออกไป พระธิดาน้อยโยนดาบทิ้งแล้ววิ่งเข้าสู่อ้อมกอดของพระมารดา ลูกจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายเสด็จแม่ได้เลยเพคะ พิมพ์เพทายพูด เสด็จแม่เพคะ... พระพี่นาง... ปีตมณีน้ำตาไหลด้วยหวาดกลัว ไม่ต้องร้องไห้ ไม่ต้องกลัวนะน้องพี่ปีตมณีน้องรัก พี่ไม่ยอมให้ใครทำร้ายเจ้าได้เช่นกัน พิมพ์เพทายพูด บุษรามองลูกน้ำไหล ลำพังเจ้าก็แค่เด็กผู้หญิง เป็นเช่นนี้จะมีฤทธิ์ มีเดชต่อกรกับศัตรูได้อย่างไร แม้แต่พ่อเจ้ายังต้องพ่ายแพ้จนถึงแก่ชีวิต เราไม่น่ากลับมาให้ต้องมาตกระกำลำบากที่พนาวรรษานครเลย แม่ไม่น่าตัดสินใจเช่นนั้น บุษราพูดทั้งน้ำตา เสด็จแม่อย่าโทษพระองค์เองสิเพคะ แม้ตายลูกก็ไม่กลัว ลูกจะขอต่อต้านใครก็ตาม ที่มาทำร้ายเสด็จแม่ และ น้องของพี่ เสด็จแม่วางพระทัยนะเพคะ เชื่อลูกนะเพคะ พิมพ์เพทายพูด ขุนกล้าจะทำยังไงกับชีวิตของพวกเราเพคะพี่พิมพ์เพทาย ปีตมณีพูดทั้งน้ำตา พี่ก็ไม่รู้ พิมพ์เพทายพูด โถ่ น้องกลัวเหลือเกิน เสด็จแม่... ลูกกลัวเพคะ ปีตมณีพูดพลางสะอึกสะอื้น ปีตมณี พี่ยังไม่กลัวเลย น้องต้องเข้มแข็งสิ น้องก็ต้องไม่กลัวเช่นกัน พิมพ์เพทายสอนน้องให้เข้มแข็ง เวรแท้ๆลูกของแม่... เพราะการตัดสินใจของแม่เอง เหตุใด แม่จึงไม่ฉงนใจบ้าง ถึงเหตุร้ายที่เกิดขึ้น เจ้าพี่กนกนาทเพคะ หากพระวิญญาณยังอยู่ ทรงคุ้มครองลูก คุ้มครองหม่อมฉันให้ปลอดภัยที บุษราร่ำไห้ ยามนั้นนางมิอาจทำสิ่งใดได้เลย นอกจากรอคอยดูว่าสวรรค์จะเห็นใจนางและลูกรึไม่

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×