ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จตุรธาตุ จตุรศัสตรา

    ลำดับตอนที่ #8 : สู่ป่าแสงตะวัน

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.พ. 50


    ฝ่ายทางพระโอรสพสุธาวาท ดิ้นรนอยู่ในตาข่ายจนหมดแรง ราชโอรสยังเยาว์วัย แต่ถูกจับอยู่ในตาข่ายล่วงกว่าหกวันแล้วทั้งร้อนแสงตะวันที่แผดเผาอย่างรุนแรง ทั้งเมื่อยล้าวรกายเหลือทน พสุธาวาทพยายามแล้วทุกวิถีทางเพื่อให้หลุดจากตาข่ายนั่น

    บริเวณป่าแห้งแล้ง ป่าที่ไร้ความอุดมสมบูรณ์ ป่าที่มีแต่ความร้อนแผดเผาของสุริยะตะวัน โอรสน้อยอายุราวๆแปดหรือเก้าขวบปี แววตาช่างดูน่าเกรงขามเหลือเกินยืนคุยกับทหาร พระโอรส อาทิตยกร เข้าไม่ได้หรอกนะพระเจ้าข้า เหล่าทหารพยายามห้ามโอรสน้อยไม่ให้เข้าไปในที่แห่งหนึ่ง ก็เราจะเข้าไป เขตป่าแสงตะวันเราเข้าออกจนทั่วแล้ว เหลืออยู่ที่เดียวเนี่ยแหละ ป่านี้เป็นของเรา เสด็จพ่อต้องมอบให้เราอยู่แล้ว ขอเจ้าไปแค่นี้ไม่ได้รึไง อาทิตยกรราชโอรสพูด ยังไงก็ไม่ได้นะพระเจ้าข้า ทหารพูด โถ่ อาทิตยกรเริ่มอารมณ์ร้ายแล้ว ขว้างลูกไฟใส่พวกทหารคนละที และเดินเข้าไป

    อาทิตยกรล่วงมาจนถึงที่พสุธาวาทถูกจับขังอยู่ อ๋ออย่างนี้นี่เอง พระโอรสอาทิตยกรพูด เจ้า เจ้าเป็นใคร เจ้าจับเราไว้ทำไม พสุธาวาทพูด เจ้าก็คงเป็น ปฐพีเทพในภพใหม่สินะ ผู้ทำร้ายน้ำใจพี่สาวเรา พระพี่นางอัปสรสิรินทร์จากไปเพราะเจ้า เสด็จพ่อได้เล่าความชั่วช้าของเจ้าให้เราฟังแล้วหละ อาทิตยกรพูด ปฐพีเทพไหน อัปสรสิรินทร์เป็นใครกัน แล้วใครเป็นใคร พ่อของเจ้าเป็นใคร พสุธาวาทพูดด้วยน้ำเสียวแผ่วเบาไร้เรี่ยวแรง เสียงกล้าแกร่งของผู้ที่เดินมาดังขึ้น เราคือสุริยะเทพ เทพแห่งดวงอาทิตย์ สุริยะเทพพูด เสด็จพ่อ อาทิตยกรพูด ปฐพีเทพ รอก่อน รอให้พวกเจ้ามาครบทั้งสี่ เราจะได้ชำระความแค้นกับเจ้าเสียที สุริยะเทพพูด ความแค้นอะไรกัน เราไม่เคยรู้จักพวกท่าน จะแค้นเคืองกันตั้งแต่ตอนไหน ราชโอรสสงสัยในคำพูด แล้วเจ้าก็จะรู้ สุริยะเทพพูด

    เมื่อครบเจ็ดราตรีตามที่ตกลงกัน บริเวณที่ดาบของพสุธาวาทปักไว้นั้น วาตการณ์กระโดดลงมาแล้ว พร้อมด้วยวรยุภัทรกินรีน้อยที่ขอติดตามมา นั่นดาบใครกัน วรยุภัทรถามขึ้น เป็นของพี่น้องของเราเอง เดี๋ยวพวกเค้าก็คงมา วาตการณ์พูด รออยู่ตรงนั้นอยู่ไม่นาน เด็กผู้หญิงสองคนก็กระโดดลงมา ประกายเพลิง ธารารักษ์ วาตการณ์ร้องเรียกพี่น้อง ธารารักษ์ และ ประกายเพลิงยิ้มให้  คราวนี้ก็เหลือแค่พสุธาวาท ธารารักษ์พูด ใช่ อีกเดี๋ยวก็คงมา ประกายเพลิงพูด

    แต่จนแล้ว จนเล่า ก็ไม่เห็นมีแม้เงาแห่งราชโอรสแห่งดินปรากฏให้เห็น ตะวันก็ลับฟ้าไปแล้ว โอ๊ย ตะวันตกไปแล้วยังไม่มาเลย ประกายเพลิงพูด เอายังไงดีหละ ธารารักษ์พูด หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพสุธาวาท วาตการณ์พูด เราว่ากลับไปหาท่านตา ไปหาเสด็จแม่ดีกว่า เสด็จแม่คงเป็นห่วงมากแล้ว ประกายเพลิงพูด แล้วพสุธาวาทหละ ธารารักษ์พูด เออ... จริงสิ เราจะกลับไปโดยไม่มีพสุธาวาทนาเหรอ เสด็จแม่คงต้องพระทัยสลายแน่หากแต่รู้ว่าพสุธาวาทไม่กลับมากับเรา ประกายเพลิงพูดอีกที แต่ไหนๆก็กลับไปวางแผนกับท่านฤๅษีก่อนเถอะพระเจ้าข้า น้าผีพูด วรยุภัทรไม่ได้พูดอะไรนอกจากนั่งฟังเท่านั้น

    ที่เรือนแก้ว ในยามอรุณรุ่ง แสงทองแห่งดวงตะวันสาดส่องเข้ามา พระโอรสวาตการณ์ พระธิดาธารารักษ์ และ พระธิดาประกายเพลิงวิ่งขึ้นเรือนมา วรยุภัทรธิดาราชกินรีอีกก็ตามมาด้วย ลูกแม่กลับมาแล้ว ธารารักษ์ วาตการณ์ ประกายเพลิง... แล้ว... พสุธาวาทหละลูก มาลีรินทร์พูด พวกเราก็ยังไม่พบเพคะ จะกลับมาปรึกษาท่านตาก่อน ประกายเพลิงพูด อะไรนะ โถ่ลูก พสุธาวาทลูกแม่ พี่น้องก็กลับมาแล้ว เจ้าดันหายไปไม่กลับมาหาแม่ มาลีรินทร์ท่าทางจะร้องไห้ เสด็จแม่ อย่าทรงห่วงเลยเพคะ หม่อมฉันเชื่อว่าพระโอรสเอาตัวรอดได้ เกศสิรินทร์รัตน์พูด โถ่ลูก มาลีรินทร์ร้องไห้ไม่หยุดเลย

    ท่านฤๅษี คุยกับเด็กๆอยู่ ป่าแสงตะวันเหรอเจ้าคะท่านตา หลานคุ้นจัง เกศสิรินทร์รัตน์พูด ใช่แล้ว พระโอรสและพระธิดาต้องรีบไป พระโอรสพสุธาวาทต้องการความช่วยเหลือ ท่านฤๅษีพูด

    กลางอากาศ วาตการณ์ ประกายเพลิง และ ธารารักษ์เหาะมุ่งหน้าสู่ป่าแสงตะวัน เกศสิรินทร์รัตน์รีบตามมา เจ้าตามมาทำไม ทำไมไม่อยู่กับเสด็จแม่ วาตการณ์พูด เสด็จแม่ของพวกเจ้าอยู่กับวรยุภัทร และน้าผี ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง เกศสิรินทร์รัตน์พูด งั้นก็รีบไปกันเถอะ คงใกล้แล้ว ประกายเพลิงพูด

    ไม่นาน เด็กทั้งสี่ที่เหาะไปก็รู้สึกได้ถึงไอร้อน ผืนป่าข้างล่างดูเหมือนถูกแผดเผาด้วยแสงตะวันสมดังชื่อที่ว่า ป่าแสงตะวัน มากันแล้วเหรอ เสียงทักขึ้นกึกก้องดูมีอำนาจ ทุกคนต่างหันไปมองยังต้นเสียง เจ้าของเสียงอยู่ไม่ห่างไกลสักเท่าไหร่ วาตการณ์ ประกายเพลิง ธารารักษ์ กำหมัดเตรียมพร้อม ผิดกันที่ เกศสิรินทร์รัตน์ที่ยืนนิ่ง เพิ่งมองบุรุษผู้สง่างามตรงหน้า บุรุษผู้นั้นแต่งกายสีแดงร้อนแรง สุริยะเทพ มองเด็กผู้หญิงตรงหน้าด้วยสายตาเอ็นดู สุริยะเทพเหมือนจะเอื้อมมือแตะศีรษะเด็กผู้หญิงคนนั้น แต่... เด็กผู้หญิงคนนั้นกลับหลบ และกำหมัดบ้าง สุริยะเทพถอนใจ พสุธาวาทอยู่ไหน เกศสิรินทร์รัตน์ถามขึ้น ท่านคือสุริยะเทพเหรอ จับพี่น้องเราไว้ทำไม ประกายเพลิงพูด เรานี้แหละ สุริยะเทพ ส่วนไอ้ปฐพีเทพ เดี๋ยวมันกำลังจะมาพบพวกเจ้า สุริยะเทพพูด

    ชั่วครู่ อาทิตยกรก็เดินนำทหารสองสามคนที่พาตัวพสุธาวาทมา ท่าทางของพสุธาวาทบาดเจ็บมากๆ อาวุธก็ยังไม่ได้ พสุธาวาท วาตการณ์ ประกายเพลิง และ ธารารักษ์ต่างก็พูดด้วยความเป็นห่วงพี่น้อง พวกเจ้ามาตายพร้อมๆกับพี่น้องของพวกเจ้าซะเถอะ อาทิตย์กรพูดและส่งเสียงกึกก้องร้องเรียกอาวุธบางอย่างมา ตรีศูล อาทิตย์กรพูด ตรีศูลปรากฏบนมือแล้ว แสงของตรีศูลเปล่งรัศมีออกมาเจิดจ้าแจ่มจรัส วาตการณ์ ประกายเพลิง ธารารักษ์เองยังแปลกใจต้องหลบแสงนิดหน่อย พสุธาวาทเพ่งมองแสงนั้นเต็มตา จตุรศัสตรา... แน่นอน จตุรศัสตรา พสุธาวาทพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ

    ตัวอย่างตอนต่อไป
    เสด็จแม่ขอบคุณเกศสิรินทร์รัตน์แล้ว ลูกก็คงไม่ต้องขอบคุณอีก แล้วเกศสิรินทร์รัตน์ก็บอกแล้วด้วย ว่าที่ทำเป็นเพราะสัญญาที่ให้กับเสด็จแม่ ที่ให้กับตัวเอง อย่างนี้ก็เป็นบุญเป็นคุณด้วยเหรอพระเจ้าข้า พสุธาวาทพูด เจ้าจะคิดยังไงก็ช่าง เกศสิรินทร์รัตน์พูดแม้จะแอบเจ็บใจอยู่ลึกๆทุกครั้ง ทำแค่นี้อย่านึกนะว่าเราจะซาบซึ้ง พสุธาวาทพูด
    ไปส่งหน่อยได้ไหม เราจะไปหาฟืนแถวนี้มาเพิ่ม ธารารักษ์พูด ประกายเพลิงเชิดหน้าทำเมินไม่สนใจ ธารารักษ์ถอนหายใจแรงๆหนึ่งครั้ง และเดินชนประกายเพลิงไป ประกายเพลิงหันไป ท่าทางเจ็บไม่เบา สีหน้าไม่พอใจ
    แสงลึกลับแสงหนึ่ง ฉาดฉายกระจ่างวาบ พาร่างของมเหสีมาลีรินทร์หายไปด้วย เด็กๆยังคงหลับไม่รู้สึกตัวเลยสักคน กระทั่งรุ่งเช้า เพราะเจ้า เจ้านอนกับเสด็จแม่ ทำไมเจ้าไม่ดูแลเสด็จแม่ให้ดี พสุธาวาทคอยหาหนทางยัดเยียดความผิดให้เกศสิรินทร์รัตน์ทุกครั้ง อะไรกัน อะไรก็ลงที่เราอยู่เรื่อย แล้วเมื่อคืนทำไมเจ้าไม่ตื่นมาเฝ้าเองหละ เกศสิรินทร์รัตน์พูด
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×