ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จตุรธาตุ จตุรศัสตรา

    ลำดับตอนที่ #7 : กำไลวงนั้น เมื่อไหร่จะกระจ่างใจเสียทีว่าเป็นของใคร

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.พ. 50


    ในป่า ราชโอรสน้อยผู้เก่งกาจเดินไปอยู่นั้น เสียงแกรกๆไล่หลังมา วาตการณ์โอรสน้อยเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลาหันมาขว้างลูกพายุใส่ แต่โชคดีที่คนที่ตามมาหลบทัน ไม่งั้นคงตายซ้ำสองแน่ น้าผีนั่นเอง โถ่นึกว่าใคร น้าผีนี่เอง วาตการณ์พูด พระเจ้าข้า น้าผีเองพระโอรสวาตการณ์ ให้น้าผีไปด้วยนะพระเจ้าข้า น้าผีพูด โถ่น้าผีจะไปทำไม เราไม่ได้เป็นเที่ยวซะหน่อย เราไปตามหาอาวุธของเรา วาตการณ์พูด ก็น้าผีเบื่อนี่พระเจ้าข้า ให้น้าผีตามไปเถอะนะ น้าผีพูด โถ่ ก็ได้ แต่นี่ตะวันยังสาดแสงแรงกล้าอยู่เลย น้าผีมาได้ไงหละ วาตการณ์พูด พระโอรสสังเกตดูดีๆสิพระเจ้าข้า ร่มใบบัวกันแดดของน้าผี เป็นไง น้าผีพูด เออ... ก็ดีอะนะ คิดได้ไงอะน้าผี วาตการณ์พูด เป็นวิธีที่ง่ายมากๆ มันสมองของน้าผีเฉียบแหลมอย่างนี้แหละพระเจ้าข้า น้าผีพูด โอรสน้อยมองดูร่มใบบัวและหัวเราะเบาๆ

    ในป่าอีกมุมหนึ่ง พระธิดาประกายเพลิงกระโดดขึ้นกระโดดลงเรื่อยๆ พระธิดาธารารักษ์พยายามตามมา พระธิดาประกายเพลิงลงมาบนพื้นดินอีกครั้ง แลๆมองข้างหลังนิดหน่อย จะตามมาทำไมนะ คิดอะไรอยู่เนี่ย ประกายเพลิงบ่นกับตัวเองเบาๆ และพยายามกระโดดหนีไปเรื่อย พระธิดาธารารักษ์เริ่มหน่อยอ่อนล้าแล้ว ประกายเพลิง รอเราด้วยสิ ธารารักษ์ร้องเรียก ประกายเพลิงเหาะอยู่กลางอากาศก็ถอนหายใจแรงๆและกระโดดลงมา ตามมาทำไม ไม่ไปตามหาอาวุธของเจ้าเหรอ ประกายเพลิงพูด ไปด้วยกันได้ไหม เราไม่รู้จะไปทางไหนดี ไปตามหาของเจ้าก่อนก็ได้ ธารารักษ์พูด ไม่เป็นการเสียเวลาเหรอ ประกายเพลิงพูด คงไม่หรอกน่านะ ธารารักษ์พูด ก็ได้ ประกายเพลิงพูด พระธิดาแห่งจตุรธาตุทั้งสองจึงร่วมทางไปตามหาศัสตราด้วยกัน

    พระโอรสพสุธาวาทล่วงเข้ามาถึงป่าลึก ป่าบริเวณนั้นดูแปลกๆ ต้นไม้ใบหญ้าก็ไม่เขียวขจี แต่กลับเป็นสีแดงราวถูกความร้อน อากาศในบริเวณนั้นอบอ้าวเหลือเกิน ที่นี่มันที่ไหนกันนะ ดูเหมือนผืนป่าจะถูกเผาทำลายจนสิ้น อากาศก็ร้อน พสุธาวาทบ่น แล้วก็มีลูกไฟโจมตีมาไม่หยุด พสุธาวาทเอนตัวไปมาเพื่อหลับลูกไฟเหล่านั้น และเรียกดาบออกมา ฟันลูกไฟเหล่านั้นทิ้งไป พสุธาวาทมองหาตัวการ แต่แล้วก็มีตาข่ายตกลงมาใส่หัว โอ๊ย อะไรกันเนี่ย พสุธาวาทพูด

    เวลาล่วงเลยไปก็เกือบๆ สามวันได้ เด็กทั้งสี่ยังไม่มีทีท่าจะพบเจออาวุธเลยสักคน ประกายเพลิง และ ธารารักษ์เดินอยู่ในป่า พระอาทิตย์จะตกแล้ว กำลังจะหมดวันที่สามแล้วสินะ ธารารักษ์พูด พรุ่งนี้ก็เข้าวันที่สี่แล้ว ไม่เห็นมีทีท่าว่าจะเจออะไร ประกายเพลิงบ่น และสาวก้าวถี่ขึ้นเรื่อยๆ ธารารักษ์ทั้งอ่อนแรง ทั้งอ่อนใจ แต่ทั้งสองพี่น้องก็ลุมาถึงริมทะเล เป็นชายหาดกว้างขวาง หยุดพักแถวนี้ก่อนดีไหม ประกายเพลิง ธารารักษ์ให้ความเห็น เจ้าเป็นน้ำ ก็อยากอยู่ใกล้น้ำหละสิ แต่เราเป็นไฟนะ ประกายเพลิงพูด ไม่เป็นไรหรอกประกายเพลิง ธาตุเหล่านั้นมันอยู่ในตัวมันอยู่ลึกเราทั้งสองคนก็เป็นคนธรรมดานั่นแหละ ธารารักษ์พูด รู้... พักก็พัก ประกายเพลิงพูด

    เช้าวันใหม่ ตะวันเริ่มสาดแสงทองระยับเจิดจ้าจนสายตาสู้ไม่ไหว สระแห่งหนึ่ง เป็นน้ำตกอุดมสมบูรณ์เหลือเกิน น้ำที่ไหลรินลงจากหินผาดูใสสะอาด และชุ่มเย็น ผืนป่ารายรอบเขียวขจี ดอกไม้ป่าบางชนิดขึ้นอยู่บนบก ล้วนแล้วแต่เป็นสีใสๆรายแก้วผลึก ริมสระมีปีกกับหางกินรีวางอยู่ กินรีน้อยเล่นน้ำอยู่อย่างโดดเดี่ยว แต่กินรีน้อยนั้นนั่งอยู่บนกงจักรที่ดูคมกริบเหมาะหมาย สีหน้าไม่ค่อยจะรื่นรมย์เสกสรร ท่าทางจะเบื่อบรรยากาศที่ดีปานนั้นเสียแล้ว

    วาตการณ์ราชโอรส และน้าผีแอบมองอยู่ น้าผีว่า จักรนั่นจะเป็นจตุรศัสตรารึปล่าว วาตการณ์พูด อยู่ที่ความรู้สึกของพระโอรส มีความผูกพันกับจักรนั่นรึปล่าว หากรู้สึกสัมผัสได้ว่าพลังนั้นคือกงจักรวาโยก็หมายความว่าที่เห็นนั่นหละจตุรศัสตราคู่บุญของพระโอรส น้าผีตอบ เราว่าใช่... น้าผีหลบไปทางอื่นก่อน เย็นๆค่อยมาหาเราได้ไหม วาตการณ์พูด โถ่ไล่อีกแล้ว น้าผีพูด เราไม่อยากให้เด็กผู้หญิงคนนั้นตกใจ วาตการณ์พูด ไปก็ได้พระเจ้าข้า น้าผีพูด เร็วสิน้า ช้าอยู่ได้ วาตการณ์พูดอย่างใจร้อน น้าผีก็หลบไป คราวนี้วาตการณ์ก็ค่อยๆเดินเข้าไปเก็บปีกและหางน้อยๆมา นี่เจ้า เอาปีกกับหางเราคืนมานะ กินรีน้อยวัยเดียวกันพูด เจ้าต้องเอากงจักรนั่นมาแลก วาตการณ์พูดเสียงแข็งกร้าว กงจักรนี่เป็นของเรา มันพัดมากับแรงลมมาตกอยู่ที่ตรงหน้าเรา เราเก็บมันมาเป็นคนแรก มันต้องเป็นของเรา กินรีน้อยเถียงไม่หยุด แล้วเจ้าจะเลือกจักรนั่น แทนที่จะเลือกปีกกับหางของเจ้างั้นเหรอ วาตการณ์พูด เราไม่ให้เจ้าซักอย่างนั่นแหละ เจ้าเป็นใครเรายังไม่รู้จักเลย อยู่ๆจะมาเอาโน่นเอานี่ไป กินรีน้อยพูด งั้น... เมื่อกี้เราเห็นสีหน้าเจ้าเบื่อหน่าย ถ้าเจ้าเอาจักรนั่นมาให้เรา เราจะคืนปีกกับหางให้เจ้า แล้วเราก็จะพาเจ้าออกไปเที่ยวข้างนอกจากป่านี้ วาตการณ์พูด กินรีน้อยถึงกับตาโต จริงเหรอ ได้สิ แต่เจ้าต้องรักษาสัญญานะ เจ้าต้องพาเราออกไปจากที่นี่ กินรีน้อยพูดอย่างดีใจ ใช่ เราพูดคำไหน ต้องเป็นคำนั้น วาตการณ์พูด

    ใต้บาดาล มันไม่มีหรอกประกายเพลิง ธารารักษ์พูด ก็หาบนบกมันไม่เจอ ก็ลองหาในน้ำบ้างเป็นไร จะเดือดร้อนอะไรนักหนา เจ้าเองก็เกิดจากน้ำไม่ใช่เหรอ ศัสตราคู่บุญเจ้ามันอาจจะอยู่ในน้ำก็ได้ ไหนๆก็มาถึงแล้วหาซะหน่อยจะเป็นไรไป ประกายเพลิงพูด ทั้งสองดำน้ำอยู่ได้สักพัก ธารารักษ์ เห็นเมืองอะไรนั่นไหม เข้าไปดูกันเถอะ ประกายเพลิงพูดและรีบเข้าไป เดี๋ยวสิประกายเพลิง ธารารักษ์ต้องรีบตามพี่น้องเข้าไป พวกเหล่าทหารเมืองบาดาลนครต่างเข้ามารุมล้อม พระธิดาประกายเพลิงกำหมัดพร้อมต่อสู้ เรามาดี แค่ขอเข้าไปหาของบางอย่าง ประกายเพลิงพูด เชื่อเถอะ พวกเราไม่มีเจตนามารุกรานใครจริงๆนะ ธารารักษ์พูด พวกทหารยังพากันเข้ามาล้อม โถ่ไม่เชื่อก็ตามใจ ประกายเพลิงพูดและสาดพลังใส่พวกทหารไปรอบๆด้าน ประกายเพลิง ธารารักษ์ร้อง อะไร ก็แค่สลบ เราไม่ฆ่าพวกนี้หรอกน่า เจ้ามองเราเป็นคนยังไงเนี่ย ประกายเพลิงพูดและวิ่งเข้าไปในเมือง

    ประกายเพลิงวิ่งเข้าไปเจอกับ โอรสนาคราชน้อย อายุพอๆกัน ถืออาวุธสองอย่าง มือซ้ายถือสังข์ มือขวาถือคทา พวกเจ้าเป็นใครหนะ โอรสนั้นหันมาถาม และไม่ทันที่จะมีใครตอบ โอรสนาคน้อยเหลือบไปเห็นกำไลข้อมือที่ข้อมือของประกายเพลิง กำไลนั่น... แววตาครุ่นคิดของโอรสนาคราชฉายฉาดขึ้น ประกายเพลิงก้มมองกำไลวงนั้นและหันขึ้นมองโอรสนาคราชด้วยแววตาที่ไม่ค่อยจะแข็งกร้าวสักเท่าไร แต่ก็ไม่อ่อนโยนลง โอรสนาคเพียงมองผ่านกำไลนั้นนิดหน่อย และ หันไปมองธิดาราชอีกคน ธารารักษ์นั่นเอง ธารารักษ์เองก็คิดๆอะไรอยู่ ในจิตใจของโอรสนาคผู้นั้น และ ธารารักษ์เหมือนถูกภาพบางอย่างแทรกเข้ามา เทพบุตรผู้หนึ่ง ยืนอยู่ในอุทยานกับธารเทพธิดา ทั้งสองคุยเรื่องใดกันไม่รู้ ภาพที่แทรกเข้ามาทำให้ทั้งสองมองไม่เห็นเหตุการณ์รอบตัวจึงหารู้ไม่ว่าประกายเพลิงกำลังปวดหัวหนัก หนักมาก หนักเสียจนร่างทั้งร่างจะแตกสลายหายไปได้ในพริบตา โอ๊ย.. ไม่ไหวแล้ว เสียงร้องเบาๆช่วยสะกิดใจคนทั้งสองให้หลุดออกจากบางที่ ธารารักษ์ประคองพี่น้องไว้ ประกายเพลิงทรุดลงกับพื้น ธารารักษ์ก้มลงประคอง ประกายเพลิง... เจ้าเป็นอะไร ธารารักษ์พูด โอรสนาคต้องพลอยวิ่งเข้ามาดูด้วย โอรสนาคผู้นั้น จับที่ข้อมือของประกายเพลิง ตรงกำไลนั้น เหมือนเป็นพลังที่แทรกผ่านลงไปในร่างกาย อาการเจ็บปวดยังไม่หายดี แต่ก็ลดลงไปมากแล้ว ประกายเพลิงหายใจหอบ เจ้าทำได้ยังไง เจ้าเป็นใคร ธารารักษ์ถามโอรสน้อยผู้อยู่ตรงหน้า เราเป็นนาคราช เราชื่อชลากร ชลากรแนะนำตัว เราชื่อธารารักษ์ ส่วนนี่พี่น้องเรา ประกายเพลิง ธารารักษ์พูด เราว่าพาประกายเพลิงไปพักก่อนดีกว่า แล้วพวกเจ้ามาที่นี่ได้ยังไง มาทำไมค่อยคุยกัน ชลากรพูด

    ย่ำเย็นแล้ว ดวงตะวันเริ่มคล้อยลงและลับขอบฟ้าไปในที่สุด โอรสวาตการณ์ยังคงเดินอยู่ในป่า แต่สีหน้าแย้มยิ้ม เพราะพบศัสตราคู่กายแล้ว ยังไม่มีสิ่งใดต้องกังวล กินรีน้อย เดินตามมา มองป่ารอบอย่างตื่นเต้น นี่ป่าแดนมนุษย์หรือนี่ เราไม่เคยได้ออกมาเห็นเลย กินรีน้อยพูดอย่างตื่นใจ เจ้าอยากจะให้เราพาไปไหนหละ วรยุภัทร วาตการณ์พูด ที่ไหนก็ได้ วรยุภัทรกินรีน้อยพูด แล้วเจ้าจะกลับยังไง วาตการณ์พูด เราเป็นกินรี เราก็บินกลับก็ได้ วรยุภัทรพูด ไม่ได้นะ คนข้างนอกชอบจับกินรี ถ้าเจ้าถูกจับไปแล้วจะทำยังไง วาตการณ์พูด เราพอมีฝีมือ เอาตัวรอดได้อยู่แล้ว วรยุภัทรพูด ยิ่งเย็นยิ่งเข้าสู่เวลาแห่งรัตติกาล น้าผีโผล่มาตามที่ตกลงกับโอรสวาตการณ์ไว้ วาตการณ์ก็ลืมเล่าให้กินรีน้อยฟัง อยู่ๆน้าผีก็โผล่มา พระโอรส น้าผีส่งเสียง วรยุภัทรเห็นถึงกับตกใจรีบถอยไปจนชิดต้นไม้ ผีนี่นา วรยุภัทรตกใจ แต่ว่า วรยุภัทรก็ไม่ได้มีท่าทีกลัวอะไร ควบคุมสติไว้อยู่ นี่น้าผี ขอติดตามเรามา วาตการณ์พูด วาตการณ์ เจ้าเลี้ยงผีเหรอ วรยุภัทรพูด คงงั้นมั้ง วาตการณ์พูดแบบยิ้มและเดินไป วรยุภัทรจึงรีบเดินตามมา

    ใต้บาดาล ประกายเพลิงธิดาราชเริ่มรู้สึกตัวแล้วขยับตัวนิดหน่อย ประกายเพลิง ธารารักษ์เข้ามาดู เจ้าเป็นไงบ้าง ชลากรพูด ดีขึ้นมาก ประกายเพลิงพูด เอาหละพวกเจ้ามาที่นี่ ต้องการอะไร ชลากรพูด เราเห็นสังข์และคทาของเจ้า เราอยากจะได้สังข์นั่น ประกายเพลิงพูด แต่สังข์นั่นเป็นของเรา ครานั้น มีไฟเผาใต้บาดาล เหล่านาคช่วยกันดับไฟ แล้วในเศษเถ้าถ่าน สังข์นี่ก็เปล่งแสงแผ่รัศมี เราพบเป็นคนแรก มันต้องเป็นของเรา ชลากรเล่า มากับไฟ สังข์นั่นมากับไฟจริงๆด้วยหนะธารารักษ์ แล้ว คทานั่นหละ ประกายเพลิงถามต่อ คทานั่นไหลมากับกระแสน้ำ ชลากรพูด เราขอสังข์เพลิง แล้วก็ขอคทาธารให้พี่น้องเราได้ไหม ประกายเพลิงพูด ขอกันง่ายๆอย่างนี้เลยเหรอ ไม่ให้ ชลากรพูด งั้นมาสู้กันไหม ใครชนะ ก็ได้สังข์ไป ประกายเพลิงพูด ก็แล้วแต่ ชลากรพูด ประกายเพลิงลุกขึ้นจากแท่น และกำหมัดในท่าเตรียมพร้อม ชลากร ออมมือให้หน่อยได้ไหม ประกายเพลิงยังบาดเจ็บ ธารารักษ์พูด ได้ ชลากรพูดยังไม่ทันจบเสียง ประกายเพลิงก็รีบแทรก ไม่ต้อง ประกายเพลิงพูด

    การต่อสู้เริ่มขึ้นด้วยการประดาบกัน พระธิดาประกายเพลิง ฝีมือไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าใคร เก่งกาจชาตินักรบ ส่วนโอรสนาคีก็เก่งกล้าสามารถกร้าวกาจเกินใคร ศัสตรานั้นไซร้ควงได้เหมาะมือ พระธิดาธารารักษ์ลังเลถึงบางสิ่ง ภาพที่ปรากฏขึ้นในสมองไม่ใช่ภาพที่เห็น แต่กลับเป็นภาพนั้น... ภาพเปลวไฟ เปลวไฟที่ผลาญบางสิ่งจนวอดวาย ธารารักษ์ราชธิดาองค์น้อยหวั่นใจแล้ว ว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร

    ราชธิดาหนึ่งในจตุรธาตุ ฝีมือชาญชัยเหลือเกิน โอรสนาคีเอาชนะธิดาองค์นั้นไม่ได้ แต่ก็ยังไม่ถูกคมดาบต้องเนื้อหนังเลยสักนิด แต่ท่าทางก็คงไม่ไหวแล้วหละ ชลากรต้องถอยหลังเรื่อยๆ ประกายเพลิงบุกรุกเข้ามาไม่ยั้งมือ จนกระทั่งจนมุม ชลากรเรียกทั้งสังข์ ทั้ง คทาออกมา ประกายเพลิงถือโอกาสแย่งศัสตราทั้งสองมา โยนคทาให้ธารารักษ์ ธารารักษ์จึงรับไว้ ประกายเพลิงได้สังข์มาก็ยิ้มๆ และปล่อยพลังจากสังข์ใส่ชลากร ชลากรหลบได้ทัน ประกายเพลิงเปลี่ยนสังข์เป็นทวน ควงทวนสองมือและจี้ทวนไปที่ชลากร ธารารักษ์วิ่งเข้ามาขวางเอาไว้ อย่าทำร้ายใครเลยประกายเพลิง เราได้สิ่งที่เราต้องการแล้ว รีบขึ้นไปเถอะ ธารารักษ์พูด ประกายเพลิงมองธารารักษ์ด้วยสายตากร้าวแข็งและหันไปทางอื่นก่อนจะเดินนำไป ธารารักษ์หันมาหาชลากร เกือบไปแล้วหละเจ้า ถ้าช้านิดเดียว ประกายเพลิงฆ่าเจ้าแน่ ธารารักษ์พูดและเดินออกไป ธารารักษ์ ประกายเพลิง กำไลวงนั้น ชลากรคิด



    ตัวอย่างตอนต่อไป


    พระโอรส อาทิตยกร เข้าไม่ได้หรอกนะพระเจ้าข้า เหล่าทหารพยายามห้ามโอรสน้อยไม่ให้เข้าไปในที่แห่งหนึ่ง ก็เราจะเข้าไป เขตป่าแสงตะวันเราเข้าออกจนทั่วแล้ว เหลืออยู่ที่เดียวเนี่ยแหละ ป่านี้เป็นของเรา เสด็จพ่อต้องมอบให้เราอยู่แล้ว ขอเจ้าไปแค่นี้ไม่ได้รึไง อาทิตยกรราชโอรสพูด ยังไงก็ไม่ได้นะพระเจ้าข้า ทหารพูด โถ่ อาทิตยกรเริ่มอารมณ์ร้ายแล้ว ขว้างลูกไฟใส่พวกทหารคนละที และเดินเข้าไป
    หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพสุธาวาท วาตการณ์พูด เราว่ากลับไปหาท่านตา ไปหาเสด็จแม่ดีกว่า เสด็จแม่คงเป็นห่วงมากแล้ว ประกายเพลิงพูด แล้วพสุธาวาทหละ ธารารักษ์พูด เออ... จริงสิ เราจะกลับไปโดยไม่มีพสุธาวาทนาเหรอ เสด็จแม่คงต้องพระทัยสลายแน่หากแต่รู้ว่าพสุธาวาทไม่กลับมากับเรา ประกายเพลิงพูดอีกที

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×