ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกราะกาลจักร

    ลำดับตอนที่ #4 : ชะตากรรม

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ค. 50


    อะไรนะเพคะ... ไม่จริง หม่อมฉันเชื่อใจลูกของหม่อมฉัน เมษกรไม่มีทางกลายเป็นปีศาจไปได้ มาลย์มินตราพูด หม่อมฉันก็เชื่อเช่นนั้นเพคะ คุณท้าววิไลพูด เมษกรฆ่าคนตายสามศพ รอยเลือดก็เปื้อนอยู่เต็มตัว นี่ไงหละหลักฐาน ชวาลีพูด มาลย์มินตราน้ำตาไหลรินลงอาบแก้ว นางขยับตัวเข้าไปใกล้พระโอรสของนาง นางใช้มือเช็ดรอยเลือดที่เปื้อนเปรอะตามตัวลูกแล้วร้องไห้ไปด้วย เมษกรเองก็ร้อง ลูกไม่ได้ทำจริงๆนะพระเจ้าข้าเสด็จแม่ เสด็จพ่อไม่เชื่อลูกเลย เมษกรพูด เจ้าพี่... เมตตาลูกด้วยเถอะเพคะ มาลย์มินตราพูด หลักฐานมันฟ้องอยู่ พี่คงต้องให้เมษกรออกจากภัคบุรี องค์ภูวนาทพูด เจ้าพี่... อย่าเลยเพคะ ลูกไม่มีความผิด มาลย์มินตราพูด ลูกไม่ได้ทำจริงๆนะพระเจ้าข้า ลูกแค่หกล้มใส่กองเลือด เมษกรพูด ดูเหมือนว่าองค์ภูวนาทจะไม่สนใจในคำแก้ตัว องค์ภูวนาทตัดใจพูดออกไป พรุ่งนี้ พ่อจะให้ทหารไปส่งเจ้าที่ชายแดน องค์ภูวนาทพูด ชวาลียิ้มนิดๆ ชวาลวุฒิเองก็เช่นกัน เจ้าพี่... มาลย์มินตราพูดอย่างผิดหวัง ถ้างั้น... หม่อมฉันขอไปกับลูกนะเพคะ มาลย์มินตราพูด ถ้าเจ้าอยากจะอยู่กับปีศาจ... ก็ตามใจ องค์ภูวนาทพูดอย่างเรียบเฉยแล้วเดินจากไปทั้งๆที่น้ำตาคลออยู่ เจ้าพี่เพคะ รอด้วยสิเพคะ ชวาลีรีบตามไป ชวาลวุฒิหันมองเมษกร เจ้าแพ้พี่แล้ว เมษกร ชวาลวุฒิพูดและเดินไป

                รุ่งเช้าวันต่อมา ที่กำแพงเมืองภัคบุรี พระมเหสีมาลย์มินตรา และ พระโอรสเมษกรเตรียมตัวกำลังจะออกจากเมือง คุณท้าววิไลก็มาส่งด้วย เชิญเสด็จได้แล้วพระเจ้าข้า ขุนเวียงราชพูด เสด็จแม่พระเจ้าข้า... เสด็จพ่อจะไม่เสด็จมาส่งเราเหรอพระเจ้าข้า เมษกรพูด มาลย์มินตราหันมามองพระโอรสน้อยข้างๆน้ำตาไหล คงไม่หรอกจะ ไปกันเถอะลูกเมษกร... เราจะไปแล้วนะ คุณท้าววิไล มาลย์มินตราพูด โถ่พระมเหสี พระโอรส หม่อมฉันไม่อยากให้เสด็จไปเลยจริงๆเพคะ คุณท้าววิไลพูด เราก็ไม่อยากไปไหนเหมือนกันคุณท้าว เมษกรพูด “”โถ่ พระโอรส... ทูนหัวของหม่อมฉัน คุณท้าววิไลพูด ข้าพระองค์จะนำเสด็จไปที่เรือนท่านกรองฤทธิ์นะพระเจ้าข้า ขุนเวียงราชพูด ท่านกรองฤทธิ์... ใครเหรอพระเจ้าข้าเสด็จแม่ เมษกรถามอย่างสงสัย ท่านกรองฤทธิ์หนะมีสำนักฝึกศัสตราวุธอยู่ตรงชายแดนภัคบุรีหนะลูก เมื่อก่อน เค้าเคยมารับราชการในวัง เค้าเป็นขุนทหารที่มีฝีมือฉกาจกล้าคนหนึ่ง มาลย์มินตราพูด เชิญเสด็จพระเจ้าข้า ขุนเวียงราชพูด

                กลางป่า ขุนเวียงราชขี่ม้านำไป ในขณะที่พระมเหสีมาลย์มินตรา และ พระโอรส เมษกร ขี่ม้าตาม แล้วปิดท้ายด้วยเหล่าทหารที่คุมหลังอยู่ ในขณะที่เดินทางนั้น เกิดมีพายุพัดกระหน่ำ ท่าทางจะไม่ไหวแล้วพระเจ้าข้าพระมเหสี ขุนเวียงราชพูด ทำยังไงดีพระเจ้าข้าเสด็จแม่ เมษกรพูด พระโอรส พระมเหสี ระวังพระองค์ด้วยนะพระเจ้าข้า ขุนเวียงราชพูด และแล้ว ม้าที่พระโอรสเมษกร และ พระมารดาขี่อยู่นั้น ก็เกิดพยศขึ้นมา เกิดอะไรขึ้นหนะลูก มาลย์มินตราพูด เสด็จแม่จับแน่นๆนะพระเจ้าข้า ม้าพยศ เมษกรพูด ม้าตัวนั้นวิ่งออกไปไกล วิ่งไม่หยุด พระมเหสี พระโอรส ขุนเวียงราชพูดอย่างตกใจและรีบขี่ม้าตามไป

                ม้าตัวนั้นวิ่งออกไปไกลสุดที่ขุนเวียงราชจะตามทัน พายุก็ยังกระหน่ำอยู่ พระมเหสีมาลย์มินตรา และ พระโอรสน้อยตกจากหลังม้า แล้วม้าก็วิ่งไป พายุค่อยๆเบาบางลง มาลย์มินตราเข้าไปประคองพระโอรสของนาง เป็นไงบ้างลูก เมษกร มาลย์มินตราพูด ไม่เป็นอะไรพระเจ้าข้าเสด็จแม่ เมษกรพูด พายุที่โถมกระหน่ำดูเหมือนจะสงบลงแล้ว แสงทองเปล่งกระจ่างอยู่กลางเวหา แสงทองสว่างกลายมาเป็นร่างขององค์เทพเตชภาส มาลย์มินตรา และ เมษกรตกใจมาก มาลย์มินตราเผลอโอบกอดพระโอรสของนางเอาไว้ โอ๊ย... เมษกรร้องขึ้น มาลย์มินตรารีบปล่อยมือ เออ... เมษกร แม่ขอโทษ แม่ขอโทษ แม่ลืมไป มาลย์มินตราพูด ไม่เป็นไรหรอกพระเจ้าข้าเสด็จแม่ เมษกรพูด ดูรักใคร่กันดีนะ ทั้งแม่ทั้งลูก เตชภาสเทพพูด ท่านเป็นใคร ต้องการอะไร มาลย์มินตราพูด เราคือเตชภาสเทพ เทพแห่งแสงรังสี สิ่งที่เราต้องการก็คือ ชีวิตของไอ้เจ้าเด็กคนนี้ เตชภาสเทพพูดเสียงแข็งกร้าว มาลย์มินตราท่าทางจะหวาดกลัวแต่เมษกรยังมั่นคง เราไม่มีความแค้น... มาลย์มินตราพูดยังไม่จบ เตชภาสเทพก็แทรกขึ้นมาทันที รู้ได้ยังไงว่าไม่มี เตชภาสเทพพูด มาลย์มินตราถึงกับเงียบกริบ ไอ้เด็กคนนี้ มันพรากแก้วตา และ ดวงใจของเราไป มันจะต้องชดใช้อย่างสาสม เตชภาสพูด แค่นี้ก็สาสมแล้วหนิ ลูกของเราทรมานมากมายเท่าไหร่เราเชื่อว่าท่านรู้ มาลย์มินตราพูด ยังไม่พอ เจ้าต้องเจ็บมากกว่านี้อีก เมษวุฒิ เจ้าทำร้ายภาสภัสสร และ ภาสุวรรณบุตรีของเราในคราเดียวกัน เจ้ากล้าหยามใจบุตรีทั้งสองของเรา เจ้าต้องรับกรรม เตชภาสพูด เราก็แค่เด็กธรรมดา จะไปหยามใจใครได้ยังไง เราก็อยู่แต่ที่ภัคบุรี ตั้งเกิด จนมาถึงตอนนี้ เมษกรพูด เจ้ากล้ายอกย้อนเรางั้นเหรอ ตายซะเถอะ เตชภาสเทพพูด เตชภาสรวมพลังไว้ในมือและกำลังจะสาดใส่ มาลย์มินตรา และ เมษกร แต่ก็มีแสงๆหนึ่งฉายมาวาบเอาตัวพระโอรสน้อยเมษกร และ พระมารดาไป ใครมาช่วยมันไว้นะ เตชภาสเทพพูด

                ที่อีกมุมหนึ่งของป่า แสงหนึ่งฉายมา ร่างของพระโอรสเมษกร และ พระมเหสีมาลย์มินตราปรากฏขึ้น และก็มีเด็กผู้หญิงอีกคน แต่งตัวดี ปลอดภัยแล้วนะ เด็กผู้หญิงคนนั้นส่งยิ้มให้ ขอบใจหนูมากนะจ๊ะ หนูเป็นใครกัน มาลย์มินตราถามอย่างอ่อนโยน ใช่ เจ้าเป็นใครกันเหรอทำไมถึงมีพลังแบบนั้นด้วย เมษกรพูด เราชื่อภาสสุนันท์ เป็นพระธิดาของเสด็จพ่อภินท์ไพรี เจ้าแห่งนคร ภิรมย์วงศ์ แล้วเจ้าหละ เด็กผู้หญิงน่ารักน่าเอ็นดูคนนั้นพูด เราชื่อเมษกร เป็นพระโอรสของเสด็จพ่อภูวนาท เจ้าแห่งนครภัคบุรี เมษกรพูด แล้วทำไมถึงมาอยู่ในป่าสภาพนี้ พระธิดาน้อยพูด ป้าถูกใส่ร้าย อำมาตย์ชัชวาล บิดาแห่งพระมเหสีอีกคนของเจ้าพี่ คิดการใหญ่ หวังจะให้หลานชายได้เป็นใหญ่ในแผ่นดินภัคบุรี จึงหาทางกำจัดป้า และเมษกร มาลย์มินตราพูด อ๋อ เข้าใจแล้วเพคะ ถ้างั้นหม่อมฉันจะลองถามเสด็จพ่อดูว่ารู้จักเมืองภัคบุรีรึปล่าว ภาสสุนันท์พูด นครภัคบุรี และ นครภิรมย์วงศ์ เป็นเมืองพี่เมืองน้องกันอยู่แล้ว เพราะว่ามีชายแดนติดกัน น้าอยากจะขอเข้าเฝ้าเสด็จพ่อของเจ้า มาลย์มินตราพูดและยิ้มอ่อนโยนให้กับพระธิดาน้อย ได้สิเพคะ พลับพลาอยู่ทางโน้นหม่อมฉันจะพาไป ภาสสุนันท์พูด

                ที่พลับพลาของเจ้านครภิรมย์วงศ์ องค์เหนือหัวภินท์ไพรี ประทับอยู่กับพระมเหสีสองพระองค์ พร้อมด้วยองค์พระธิดาองค์น้อยๆอีกพระองค์ เสด็จพ่อเพคะ พระธิดาน้อยภาสสุนันท์เข้ามาหาพระบิดาที่นั่งเคียงพระมเหสีฝ่ายขวา และพระธิดาน้อยนั่งอยู่ตรงกลาง ภาสสุนันท์ มานั่งกับแม่ดีกว่าลูก พระมเหสีฝ่ายซ้ายที่นั่งอยู่อีกแท่นเรียก แต่ว่าน้องพิลาสฤดี ยังนั่งกับเสด็จพ่อได้เลยนี่เพคะ ภาสสุนันท์พูด แต่ เจ้าเป็นลูกแม่ แม่เป็นแค่มเหสีฝ่ายซ้าย ลูกจะเข้าไปอยู่เทียมเทียบพระธิดาพิลาสฤดี ที่เกิดกับมเหสีฝ่ายขวาได้เช่นไร มเหสีฝ่ายซ้ายพูด ภาสสุนันท์ถอนใจเล็กน้อยและเดินมานั่งข้างๆพระมารดา เจ้าก็เคร่งเรื่องยศศักดิ์มากไปได้ ศรีสุภา องค์เหนือหัวภินท์ไพรีพูด ใช่ ภาสสุนันท์ก็เป็นพระธิดาของเจ้าพี่เหมือนกันนะศรีสุภา ซ้ำยังเป็นพระธิดาองค์แรกอีกด้วย พระมเหสีฝ่ายขวาพูด โถ่พระพี่นางสุรางรัตน์เพคะ น้องเป็นคนอบรมนางกำนัลเรื่องกฎเกณฑ์ และ ศักดินา หากน้องปล่อยให้ลูกลืมศักดินา นางกำนัลที่ไหนจะเชื่อถือน้องเล่า ศรีสุภาพูด จริงของเจ้า องค์เหนือหัวภินท์ไพรีพูด เออ แล้วพี่ภาสสุนันท์รีบเข้ามาแบบนี้ มีอะไรรึปล่าวเพคะ พระธิดาน้อยนามพิลาสฤดีที่นั่งอยู่ตรงกลางระหว่างองค์เหนือหัวกับมเหสีฝ่ายขวาเอ่ยถามพระพี่นางที่นั่งอยู่ข้างพระมเหสีฝ่ายซ้าย อ๋อ เกือบลืมไปเลย เสด็จพ่อเพคะ พระมเหสีจากภัคบุรีขอเข้าเฝ้าหนะเพคะ ภาสสุนันท์พูด ให้นางเข้ามา เหนือหัวภินท์ไพรีพูด พระมเหสีมาลย์มินตรา และ พระโอรสเมษกรเดินเข้ามา เมื่อเข้ามาถึงก็ก้มลงกราบ มาลย์มินตรา ศรีสุภาลุกขึ้นยืนอย่างตกใจและดีใจที่ได้พบ พระพี่นาง มาลย์มินตรายิ้มออก เจ้าพี่เพคะ มาลย์มินตราเป็นน้องสาวของหม่อมฉันเองเพคะ ศรีสุภาพูด





    ตัวอย่างตอนต่อไป




    เสด็จกลับพลับพลาก่อนเถอะนะเพคะ ชบาพูดอย่างเกลี่ยกล่อม ก็บอกว่าไม่ยังไงหละ ไม่ได้ยินเหรอ อยู่เฉยๆน่า พระธิดาน้อยพูดและเข้าไปหมายจะเอากงจักรนั่นมาเป็นของตน กงจักรหมุนอย่างแรงและเร็ว พระธิดาน้อยไม่ทันระวังถูกบาดเอาที่แขนข้างขวาพระธิดาน้อยรีบถอยออกห่าง พระธิดาสุพรรณวิลาส ชบาเรียกอย่างตกใจแล้วถ้ำนั่นก็สั่นไหว
    เราคงต้องตายแน่ๆแล้วหละลูกเอ๋ย มาลย์มินตราพูด

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×