คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : หนึ่ง สอง สาม สี่
เด็กสี่คนอยู่ในวัยที่ซุกซนได้ที่ วิ่งไล่กันเลยตลาดไปแล้ว วิ่งไปเล่นไปเรื่อยๆ แต่ไม่รู้ทาง “หนึ่ง สาม สี่หยุดเถอะกลับบ้านเถอะนะ ตากับยายคงเป็นห่วงแย่แล้ว” สองพูด “เราเห็นด้วยกับสอง แต่ใครจำทางกลับได้บ้างหละ” หนึ่งพูด “จริงสิ หนึ่ง สอง สาม จะกลับยังไง” สี่พูด “หลงทางแล้วหละมั้ง” สามพูด
ในตำหนักมเหสีวิฤดี เกศสิรินทร์รัตน์ ถูกตีใหญ่เลย วิฤดีฟาดเกศสิรินทร์แต่ละที ใช่ว่าจะเบาๆ ฤดีรินทร์ก็ยืนมอง “เจ้าขัดใจฤดีรินทร์ทำไม” วิฤดีพูด “ฤดีรินทร์เย้ยลูกก่อน ลูกไม่ผิด เรื่องแค่นี้ทำไม่ต้องขี้ฟ้องด้วย” เกศสิรินทร์รัตน์พูด “เสด็จแม่ เกศสิรินทร์รัตน์ว่าลูกเพคะ” ฤดีรินทร์พูด “เจ้ากล้ามากนะเกศสิรินทร์รัตน์” วิฤดีตีเกศสิรินทร์รัตน์สุดแรง “มเหสีวิฤดี ถึงหม่อมฉันจะไม่ใช่ลูกในไส้เหมือนอย่างฤดีรินทร์ แต่เมื่อพระมเหสีรับหม่อมฉันมาเลี้ยงเป็นธิดาบุญธรรมแล้ว ทรงทำแบบนี้ ไม่ถูกต้องนะเพคะ” เกศสิรินทร์รัตน์พูด “หุบปากนะ เจ้าไม่ใช่ลูกเรา แล้วเจ้าก็ไม่ใช่หลานแท้ๆ” วิฤดีเผลอพูดอะไรบางอย่างออกไป “อะไรนะเพคะ หม่อมฉันไม่ใช่หลานพระมเหสี แล้วหม่อมฉันเป็นใคร ทรงเอาหม่อมฉันมาเลี้ยงไว้ทำไม เลี้ยงไว้ให้พระธิดาของพระองค์ระบายอารมณ์ใส่งั้นเหรอเพคะ” เกศสิรินทร์รัตน์พูดและเริ่มจะสู้โดยการใช้ฝ่ามือทั้งฝ่ามือ รับเอาไม้เรียว และหักไม้นั้นเสีย ซึ่งเด็กคนนี้ก็ไม่นาจะทำได้ เกศสิรินทร์รัตน์จึงรีบวิ่งออกไป
ฝ่าย หนึ่ง สอง สาม สี่ ยังคงหาทางกลับบ้านไม่ได้ อยู่ๆสามก็นั่งลงดื้อๆ “นั่งลงทำไมหละสาม” หนึ่งพูด “มืดขนาดนี้แล้ว พักก่อนดีกว่า” สามพูด สี่นั่งลงเป็นคนที่สอง “เห็นด้วยอย่างที่สุดเลย” สี่พูด ทุกคนลองนั่งลง อยู่อยู่ ภายใต้ความมืดมิดแห่งราตรีกาล กับเสียงหมาเห่าหอนหลอนใจ สองเบียดสี่อย่ากลัวๆ สี่มองไปรอบๆด้าน “วังเวงจัง” สี่พูด “ก็แน่นาสิ” สามพูด อยู่ๆพื้นดินตรงหน้าก็กระเพื่อมขึ้น เด็กสี่คนตกใจเบียดเสียดกันอย่างกลัวๆ ร่างที่มีแต่โครงกระดูกผุดขึ้นมาจากใต้ผืนพิภพ “ผี” เด็กสี่คนอุทานเป็นเสียงเดียวกัน พากันปิดตาไม่กล้ามอง เสียงกระดูกลั่นแกรกๆน่าตกใจ “เฮ้ยไอ้หนู นังหนู อย่าตกใจ น้าผีมาดี” น้าผีพูด “จะมาดีมาร้ายมันก็ผีเหมือนกัน” หนึ่งพูด “อยู่ใครอยู่หมันเถอะนะจ๊ะ พวกเรากลัวแล้ว” สองท่าทางจะกลัวผีมาก “น้าผีใจดีนะ มาเล่นด้วยกันก็ได้ เดี๋ยวน้าผีพาไปส่งบ้านก็ได้” โครงกระดูกชวนขนหัวลุกพูด “พากลับเหรอ” สามพูดอย่างตั้งสติได้แล้ว สี่ค่อยๆเปิดตาตาม สองเกาะแขนสี่แน่น สี่พยายามจับสองให้ลืมตา เด็กทั้งสี่ ตั้งสติได้แล้ว
นำหนักมเหสีมาลีรินทร์ มเหสีวิฤดี และ ฤดีรินทร์เดินเข้ามา “พระพี่นางมาลีรินทร์ อยากจะพบพระโอรสพระธิดาไหมเพคะ” ฤดีรินทร์พูด “ทำไม” มาลีรินทร์พูด “หม่อมฉันก็จะให้พระพี่นางออกไปพบนาสิเพคะ”วิฤดีพูดและกระชากขนมาลีรินทร์ออกมา “พระมเหสี พระมเหสีเพคะ” คุณท้าวมิ่งขวัญร้องตามแต่ก็ถูกพวกคุณท้าวสินีขวางไว้
ส่วนวิฤดี ลากมาลีรินทร์ออกมาปล่อยไว้นอกเมือง “แกตามหาลูกของแกให้เจอนะ” วิฤดีพูดและหัวเราะอย่างสะใจมาลีรินทร์ร้องไห้คร่ำครวญและต้องเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้ทิศรู้ทางในป่า
ในวังวนาบุรี วิฤดีเสแสร้งแกล้งสะอึกสะอื้น “โถ่ เกศสิรินทร์รัตน์ไม่น่าทำแบบนี้เลย จะพามเหสีมาลีรินทร์ไประหกระเหินที่ไหนก็ไม่รู้ เด็กคนนี้คนนี้หัวแข็งจริง หนีออกไปคนเดียวก็ไม่ แต่นี่...” วิฤดีพูดแบบสะอึกสะอื้น วนาวุฒิกษัตริย์ส่ายหน้าเบาๆ “ไม่น่าเชื่อจริงๆ” วนาวุฒิพูด
ที่เรือน ตาน้อย ยายนิ่ม “ตาจ๋า ยายจ๋า” เด็กสี่คนร้องเรียกและวิ่งขึ้นเรือนมา “หนึ่ง สอง สาม สี่ ไปไหนมาลูก” ยายนิ่มพูด “แถวๆนี้แหละ พวกเรากลับมาแล้ว ไม่มีอะไรแล้วจะ” สี่พูด “ตายายเป็นห่วงมากนะรู้ไหม” ตาน้อยพูด “ไม่ทำอีกแล้วจะตา” หนึ่งพูด
มเหสีมาลีรินทร์ระหกระเหินอยู่ในป่า ก็พบกับเกศสิรินทร์รัตน์ “พระมเหสี” เกศสิรินทร์วิ่งมาทำความเคารพ “อ่าว เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า ออกมาอยู่ข้างนอกได้ยังไงกันเกศสิรินทร์รัตน์” มาลีรินทร์พูด “แล้วพระมเหสีหละเพคะ ทรงออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วเกิดอะไรขึ้น” เกศสิรินทร์รัตน์ย้อนถาม
มาลีรินทร์ และ เกศสิรินทร์รัตน์เดินป่าอยู่ก็พบอาศรมฤๅษี “นั่นอาศรมฤๅษีนี่เพคะพระมเหสี” เกศสิรินทร์รัตน์พูด “”ท่านฤๅษีเจ้าขา” เด็กผู้หญิงพูดขึ้น “ไม่มีที่ไปก็พักอยู่ที่ที่นี่ก่อนก็ได้” ท่านฤๅษีพูด และเนรมิตเรือนแก้ว สวยงามอยู่บนต้นไม้ใหญ่ “ขอบพระคุณท่านฤๅษีมากนะเจ้าคะ ไปลูก” มาลีรินทร์เรียกเกศสิรินทร์รัตน์ “พระมเหสีเรียกหม่อมฉันว่า...” เกศสิรินทร์รัตน์แปลกใจ “ใช่จะ... ลูกแม่” มาลีรินทร์พูดและทั้ง สองก็ขึ้นเรือนแก้ว
วันต่อมาในตลาด หนึ่ง สอง สาม สี่เดินเที่ยวอยู่ “ไปหาน้าผีกันดีไหม” สี่พูด “จะบ้าเหรอสี่ น้าผีหนะ เป็นผีนะ” สองพูด “แต่วันนี้เราใจคอไม่ค่อยดีเลย สังหรณ์อะไรแปลก กลับบ้านกันดีกว่า” หนึ่งพูด
ตัวอย่างตอนต่อไป
“พวกเราตายแล้ว” สองพูด “น่าจะใช่” หนึ่งพูด เด็กสี่คนเหลือแต่วิญญาณที่เร่ร่อน น้าผีก็โผล่มา “ไอ้หนู นังหนู พวกเจ้าเป็นเหมือนข้าแล้ว” น้าผีพูด “น้าผี พวกเราตายแล้วจริงๆเหรอ” สี่พูด “ก็ใช่นาสิวะ” น้าผีพูด สี่ก้มมองกำไล “กำไลนี้ปกป้องสี่ตลอด แต่ทำไมตอนนี้...” สี่พูดอย่างผิดหวัง
“พระโอรส และพระธิดาคงอยากพบพระมารดา” ท่านฤๅษีพูด “แม่ของพวกเรางั้นเหรอ” หนึ่งพูด “ใช่... พระมารดา และตาจะชุบชีวิตพระโอรส และ พระธิดาทั้งสี่ขึ้นมาใหม่ ด้วยจตุรธาตุ” ท่านฤๅษีพูด
ความคิดเห็น