คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : จุติภพใหม่
ณ มหานคราอันอุดมสมบูรณ์ นามวนาบุรี ต้นไม้ใบหญ้าต่างเจริญงอกงามบนผืนปฐพีแดนนี้ ชาวบ้านชาวเมืองต่างรื่นรมย์ ในเวียงวังมีการเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่ มีการฟ้อนรำงดงามตระการ ดอกไม้ไฟเปลวโคมเปลวเทียนสว่างไสวเจิดจ้ายามราตรี ทั่วธานีต่างเต็มไปด้วยแสงสุพรรณจากเปลวโคม
องค์เหนือหัววนาวุฒิกษัตริย์มีสีหน้าปลื้มปีติโสมนัสยิ่งนัก เช่นเดียวกันที่พระมเหสีมาลีรินทร์ก็เป็นปลื้มยิ่งนัก บ้านเมืองอยู่ในช่วงเฉลิมฉลอง ท้าวนางชั้นผู้ใหญ่นามคุณท้าว มิ่งขวัญอุ้มพระโอรสอยู่ นางกำนัลรับใช้ใกล้ชิดอีกสามนางอุ้มพระโอรสไว้อีกพระองค์ และ พระธิดาอีกสองพระองค์ พระมเหสีมาลีรินทร์มีพระประสูติกาลพระโอรส และ พระธิดาทั้งสี่พระองค์พร้อมกันเมื่อเจ็ดราตรีที่แล้ว ชาวบ้านชาวเมืองต่างดีใจกันถ้วนหน้า งานเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในมหานคร
ในตำหนักอีกตำหนัก เงียบเชียบ “นังมาลีรินทร์ลูกของมันเป็นผู้ชายตั้งสองคน เจ้าพี่ก็เป็นปลื้มกับมันมากจัดงานเฉลิมฉลองซะยิ่งใหญ่เชียว เรายอมไม่ได้นะคุณท้าว” วิฤดีมเหสีฝ่ายซ้ายไม่พอใจ “พระทัยเย็นๆก่อนสิเพคะ หม่อมฉันคิดอะไรออกแล้ว” คุณท้าวสินีพูด “ลองว่ามาซิ” วิฤดีพูด มเหสีวิฤดีคิดการบางอย่างที่ไม่ค่อยประสงค์ดีกับพระโอรส พระธิดาน้อยทั้งสี่เลย
ค่ำคืนอันมืดมิด มีเพียงแสงจันทรา ดาราดวงพริบพราวเต็มทั่วท้องฟ้า ในตำหนักเงียบเชียบ นางกำนัลหลับใหลไปหมดแล้ว คุณท้าวสินีเดินนำนางกำนัลสองสามคนเข้ามา นางกำนัลถือตะกร้าใบใหญ่ คุณท้าวสินีนั้นมาลักตัวพระโอรส พระธิดาทั้ง 4 นั่นเอง
ที่ท่าเรือ “จะเอายังไงดีเจ้าคะคุณท้าว” นางกำนัลพวกนั้นพูด “ลอยไปทั้งตะกร้านั่นแหละ” คุณท้าวสินีพูด เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จสับคุณท้าวสินีและนางกำนัล ก็กลับไปรายงานมเหสีวิฤดี
ในตำหนักมเหสีวิฤดี เสียงหัวเราะสะใจของพระนางก้องกังวานเหลือทั้งเล็กแหลมราวเสียงแม่มด “พวกเจ้าทำดีมาก นังมาลีรินทร์มันจะไม่มีวันเจอลูกของมันอีก... ตลอดไป...” วิฤดีพูดอย่างริษยา
ในตำหนักมเหสีมาลีรินทร์ เมื่อเหนือหัววนาวุฒิทรงทราบก็รีบเสด็จมา มเหสีมาลีรินทร์ร้องไห้เสียใจมาก “มาลีรินทร์” องค์เหนือหัวรับสั่งเรียกเบาๆ “เจ้าพี่ ลูกของหม่อมฉัน ลูกของหม่อมฉันหายไปเพคะ” มาลีรินทร์ร้องไห้หนักไม่หยุด
สองตายายกำลังพายเรืออยู่กลับจากตลาดมา “ตาน้อย เห็นตะกร้านั่นไหม” ยายนิ่มพูด “ไหนวะ เออ เห็นแล้วพายเรือเข้าไปดูกันเถอะ” ตาน้อยพายเรือเข้าไปดูที่ตะกร้านั่น เปิดออกมา เป็นเด็กทารกน่าเอ็นดูสี่คน นั่นก็คือพระโอรสพระธิดาทั้งสี่ สองตายายตกใจมากจึงรีบพาเด็กสี่คนกลับบ้านไปก่อน
บ้านของตาน้อย ยายนิ่ม เป็นเรือนไม้ทั้งหลัง ท่าทางก็มีอันจะกินมีบ่าวไพร่สองสามคนทำความสะอาดเรือนอยู่ “ตา... เลี้ยงพวกมันไว้เถอะนะ ดูสิมันน่ารักน่าเอ็นดูกันทั้งสี่คนเลย” ยายนิ่มพูด “เอางั้นเหรอ เออๆแล้วจะตั้งชื่อมันว่าอะไรหละ” ตาน้อยพูด “อืม เจ้าหนึ่ง เจ้าสอง เจ้าสาม เจ้าสี่ดีไหม” ยายนิ่มพูด “อืม ตกลง เจ้าหนึ่ง เจ้าสอง เจ้าสาม และ เจ้าสี่” ตาน้อยพูด
เวลาหมุนผ่านไปเร็วเหลือเกิน ตะวันลับ 8 ปีเศษในเวียงวัง มเหสีหารู้ความเป็นไปของพระโอรสพระธิดาไม่ ได้แต่ประทับอยู่ในตำหนัก แทบตรอมพระทัยไปแล้ว “โถ่พระมเหสี หม่อมฉันเห็นแล้วใจคอไม่ค่อยดีเลย ทรงออกไปนอกตำหนักบ้างเถอะเพคะ” คุณท้าวมิ่งขวัญพูด “โถ่คุณท้าว เราไม่มีกะใจหรอก ลูกของเราหายไปทั้งสี่คน เป็นตายร้ายดียังไงบ้างก็ไม่รู้” มเหสีมาลีรินทร์แทบพระทัยสลาย ให้ทหารออกตามหาเป็นแรมเดือน แรมปี ก็ยังไม่พบข่าวคราว
ทางเดียวกัน มเหสีวิฤดีนั่งอยู่ในตำหนักกับพระธิดาวัย 8 ปี นามว่าพระธิดาฤดีรินทร์ “ไหนฤดีรินทร์ลูกรักของแม่อยากไปเที่ยวไหนไหม บอกแม่ได้นะลูก” วิฤดีท่าทางจะรักพระธิดาคนนี้มาก “ลูกไม่อยากไปเล่นที่ไห แต่ลูกอยากได้เพื่อนไปเล่นด้วยที่ตำหนักเพคะ” ฤดีรินทร์พูด “เพื่อนเล่นงั้นเหรอ ได้สิลูก” วิฤดีพูดและปรายสายตาไปยังเด็กผู้หญิงน่าเอ็นดูคนหนึ่งที่นั่งอยู่กับพื้นใกล้ๆตัว “เกศสิรินทร์รัตน์” มเหสีเรียกชื่อเด็กคนนั้น “เพคะเสด็จแม่” เด็กผู้หญิงตอบ “ไปเล่นกับพี่เจ้าในตำหนัก หากฤดีรินทร์ไม่อยากให้เจ้าออกมา เจ้าก็อย่าออกมา” วิฤดีพูดราวกับไม่รักพระธิดาองค์นี้เลย
ในตำหนักพระธิดาฤดีรินทร์ “เจ้าอยากจะเล่นอะไร” เกศสิรินทร์รัตน์พูด ฤดีรินทร์เดินมานั่งที่น่ากระจก “เจ้าไปยกหีบอาภรณ์มาให้หน่อย” ฤดีรินทร์พูด เกศสิรินทร์รัตน์ราชธิดาน้อยส่ายหน้าอย่าเอือมระอาแต่ก็ต้องทำ ฤดีรินทร์เปิดหีบออก “อาภรณ์พวกนี้เสด็จพ่อเสด็จแม่ประทานให้เรา แล้วเจ้าหละ ได้อะไรบ้าง” ฤดีรินทร์พูดแบบเย้ยๆ เกศสิรินทร์รัตน์ถอนหายใจแรงๆอย่างหน่ายๆอีกครั้ง “เจ้ารู้อยู่แล้วอย่าถามได้ไหม ขี้เกียจตอบ” เกศสิรินทร์รัตน์พูดและเดินออกจากตำหนัก “นี่เจ้า เกศสิรินทร์รัตน์ กลับเข้ามานะ” ฤดีรินทร์ร้อง
ที่เรือนไม้น่าอยู่ รายรอบเรือนร่มรื่นไปด้วยพฤกษานานาพรรณ หนึ่ง สอง สาม และ สี่ วิ่งเล่นอยู่บนเรือนอย่างสนุกสนาน “ไปเล่นที่อื่นดีไหม เล่นอยู่บนเรือนอย่างนี้ชักเบื่อแล้ว” เด็กผู้ชายที่ชื่อสามพูด “ใช่ สี่เห็นด้วยกับสาม” เด็กผู้หญิงชื่อสี่ส่งเสริม “แต่ตาน้อย กับยายนิ่มไปตลาดอยู่นะแล้วเราจะขออนุญาตใคร” สองซึ่งเป็นเด็กผู้หญิงพูด “ไม่เป็นไรหรอก” สี่ลากสองลงมาเด็กทั้งสี่วิ่งลงเรือนไปแล้ว “คุณหนู จะไปไหนขอรับคุณหนู คุณหนู...” พวกบ่าวไพร่เรียกตาม
ตัวอย่างตอนต่อไป
“วังเวงจัง” สี่พูด “ก็แน่นาสิ” สามพูด อยู่ๆพื้นดินตรงหน้าก็กระเพื่อมขึ้น เด็กสี่คนตกใจเบียดเสียดกันอย่างกลัวๆ ร่างที่มีแต่โครงกระดูกผุดขึ้นมาจากใต้ผืนพิภพ “ผี” เด็กสี่คนอุทานเป็นเสียงเดียวกัน พากันปิดตาไม่กล้ามอง เสียงกระดูกลั่นแกรกๆน่าตกใจ
มเหสีมาลีรินทร์ระหกระเหินอยู่ในป่า ก็พบกับเกศสิรินทร์รัตน์ “พระมเหสี” เกศสิรินทร์วิ่งมาทำความเคารพ “อ่าว เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า ออกมาอยู่ข้างนอกได้ยังไงกันเกศสิรินทร์รัตน์” มาลีรินทร์พูด “แล้วพระมเหสีหละเพคะ ทรงออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วเกิดอะไรขึ้น” เกศสิรินทร์รัตน์ย้อนถาม
ความคิดเห็น