ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จตุรธาตุ จตุรศัสตรา

    ลำดับตอนที่ #15 : ถ้ำเถาวัลย์น้ำตก

    • อัปเดตล่าสุด 23 มี.ค. 50


    เดินทางเข้าสู่เขตป่าอุดมสมบูรณ์ เด็กทั้งสี่มองหาถ้ำเถาวัลย์น้ำตก จะใช่ถ้ำนั้นรึปล่าว ประกายเพลิงพูด ลองลงไปดูกันเถอะ พสุธาวาทพูดและกระโดดลงไป เด็กอีกสามคนตามลงมา ทั้งสี่เข้าไปสำรวจภายในถ้ำ มีสระอันวิจิตรพิสดาร มีน้ำตกไหลริน สระนี้สวยมาก หยดน้ำใสๆของน้ำตก เป็นหยดเล็ก เล็กมากๆเป็นละอองน้ำ สวยที่สุดเท่าที่เคยเห็น สำหรับวาตการณ์แล้ว สระที่นี่สวยกว่าสระที่เมืองกินรีอีก สวยหนะ เราว่าใช่ สระนี้งดงามเหลือเกิน ประกายเพลิงพูด ใช่ สวยมาก สวยยิ่งกว่าสระในเมืองกินรีซะอีก ถึงที่นั่นจะสวยมากๆ สวยมากที่สุดแล้ว แต่ที่นี่ก็สวยมากเช่นกัน วาตการณ์พูด ทั้งสี่พี่น้องหันมองหน้ากัน ยังคิดไม่ตกว่าสระนี้จะใช่สระที่ท่านฤๅษีว่าหรือไม่ เอายังไงหละ ประกายเพลิงพูด ก็ต้องลองดูสิ พสุธาวาทพูด เด็กทั้งสี่ก้าวเข้ามาใกล้ๆบ่อนั้นยิ่งขึ้น แล้วก็มีอันต้องถูกขัดจังหวะ อาทิตยกรกับกริชคู่กายตามมาถึงนั่นพอดี อาทิตยกร เด็กทั้งสี่พูดเป็นเสียงเดียวกัน โอรสองค์น้อยผู้เปี่ยมด้วยความน่าเกรงขาม ตวาดลั่น เจ้าคิดเหรอว่าเราจะปล่อยให้พวกเจ้ามาชุบตัวกันเพียงฝ่ายเดียวหนะ อาทิตยกรพูด ก็ไม่ได้คิดนี่นา ประกายเพลิงยอกย้อน อาทิตยกรไม่ได้พูดอะไรแต่กลับกระโดดลงในสระทันที พลังวิเศษน่าพิสดารของสระนั้นเปลี่ยนแปลงเด็กผู้ชายโอรสแห่งสุริยะเทพให้กลายเป็นชายหนุ่มน่าเกรงขาม กระโดดขึ้นมาจากสระ สง่างาม... สง่างามเหลือเกิน แต่ชายหนุ่มผู้นี้หาได้มีนิสัยอ่อนโยนไม่ เกรี้ยวกราดเหลือเกิน อาทิตยกรเจริญวัยขึ้นแล้วดั้งที่ท่านฤๅษีกล่าว อาทิตยกรยิ่งเป็นต่อ กับจตุรธาตุทั้งสี่ อาทิตย์ใช้พลังแห่งกริชของตน เด็กทั้งสี่พยายามหลบ ข้างในถ้ำมีการต่อสู้กันอยู่อย่างดุเดือด เหล่าจตุรธาตุเรียกอาวุธของตนออกมาพยายามต้านอย่างสุดกำลัง

    ภายนอก ในป่ากว้าง เกศสิรินทร์รัตน์ธิดาแห่งแสงสุริยันเหาะมา พบกับธิดาราชกินรี วรยุภัทร เจ้าเป็นอะไรรึปล่าว เกศสิรินทร์รัตน์พูดทันทีที่เห็นสีหน้าไม่ปกติของวรยุภัทร เมือกินรี เมืองกินรีถูกเมืองนาคินทร์ยึด ไม่รู้ว่าใครจะชนะ เสด็จพ่อ เสด็จแม่ให้เราหนีมาก่อน แต่ท่าทาง นาคินทร์อาจจะเป็นฝ่ายชนะ วรยุภัทรพูด โถ่ เราเสียใจ เราขอโทษ เกศสิรินทร์รัตน์พูด เรื่องอะไร เรื่องที่เจ้าถามเรานาเหรอ ไม่เป็นไรหรอก... ว่าแต่เจ้าจะไปไหน วรยุภัทรพูด เราจะตามมาช่วยพวกจตุรธาตุ สุริยะเทพ กับ นรกานต์พยายามตามล่าพวกเขาเรากำลังตามหาพวกเขาอยู่ เราไปดูที่วนาบุรีมาแล้ว พบว่ากลายเป็นเมืองร้างเราก็เลยมาตามหาในป่า เกศสิรินทร์รัตน์พูด ตายจริง ที่นั่นคงแย่กว่าเรา วรยุภัทรพูด ไม่รู้สิ ยังไม่เจอใครเลย เกศสิรินทร์รัตน์พูด

    ภายในถ้ำยังต่อสู้กันอยู่ เด็กทั้งสี่พลาดโดนพลังของกริชนั่นไปหลายครั้ง ไม่มีเวลาคิดอะไรอีกแล้ว พสุธาวาท วาตการณ์พูด พสุธาวาทผงกหัวและกระโดดลงไปในสระนั้นในมือยังถือตรีศูลอันทรงพลังอยู่ ธารารักษ์หันมองหน้าวาตการณ์ กับ ประกายเพลิงก่อนจะกระโดดลงไปเป็นคนที่สอง ในมือก็ยังมือคทาธาร คนที่สามวาตการณ์ถือกงจักรวาโยกระโดดลงไปอย่างมุ่งมั่น สุดท้ายประกายเพลิง และสังข์เพลิง

    สระนั้นแผดแสงเจิดจ้า เจิดจ้าเหลือเกินยิ่งกว่าตอนที่อาทิตยกรกระโดดลงไป สระนั้นเปลี่ยนร่างเด็กทั้งสี่คน ให้โตเป็นหนุ่มเป็นสาว กระโดดขึ้นมา พสุธาวาท... กระโดดขึ้นมาเป็นคนแรกยิ้มๆนัยน์ตาดูมีพลังมากมายเหลือเกิน ตามมาด้วยราชนารีแสนอ่อนโยน... ธารารักษ์ ต่อด้วยโอรสผู้กร้าวกล้า... วาตการณ์ และสุดท้ายธิดาราชผู้รุ่มร้อนในทุกเรื่อง... ประกายเพลิง ทั้งสี่มองหน้ากันแล้วยิ้มหันไปมองคู่ต่อสู้ ทั้งสี่พร้อมใจกันใช้ศัสตราของตนเองพร้อมกันมุ่งสาดไปที่อาทิตยกร อาทิตยกรทรุดลงบาดเจ็บ รู้ว่าพลังของจตุรศัสตรากล้าแข็งเพียงไหนแล้วจึงรีบหนีไป ทั้งสี่ออกมาจากถ้ำ เมื่อออกมาจากถ้ำแล้ว ชลากรก็ กระโดดลงมาหน้าถ้ำพอดี พร้อมกันกับเกศสิรินทร์รัตน์ และ วรยุภัทร ทั้งสามจึงเข้าไปในถ้ำ

    ทั้งสี่คนแห่งจตุราตุ จตุรศัสตรา ตอนนี้มีพลังมากมายเหลือเกิน ออกไปเจอนรกานต์ ทั้งสี่หยุดชะงัก และกำหมัดพร้อมต่อสู้ ให้เป็นหน้าที่ของเราเถอะ วาตการณ์พูด เราช่วยด้วยอีกคนก็ได้ พสุธาวาทพูด เมื่อตกลงกันแล้ว ธารารักษ์ กับ ประกายเพลิงก็แยกไป

    มาลีรินทร์หนีลูกไฟมาจนสะดุดล้ม คิดว่าตัวเองจะไม่รอดเสียงแล้วก็มีพลังหนึ่ง เพลิงพิคาต พลังนั้นมาพร้อมกับเสียงนี้ เหล่าลูกไฟหยุดโจมตีซะแล้ว ประกายเพลิง กับ ธารารักษ์กระโดดลงมา เสด็จแม่ ทั้งสองพูดพร้อมกัน มาลีรินทร์มองดูทั้งสองอย่างพิเคราะห์ละเอียด ธารารักษ์ กับ ประกายเพลิงไงเพคะ ธารารักษ์พูด ธารารักษ์ ประกายเพลิง... ลูกแม่มาลีรินทร์พูด พระธิดาทั้งสองรีบวิ่งเข้ามาสู่อ้อมกอดของพระมารดา ก้มลงกราบกราน น้ำตาของมาลีรินทร์ไหลพราก ทำไมเสด็จแม่ทรงเชื่อ ว่าเป็นพวกเรา ธารารักษ์พูด เพราะแม่เห็นหน้าเจ้า แม่ก็หลงรักเสียแล้ว ถ้าสองคนนี้ไม่ใช่ลูกแม่ แล้วทำไมแม่ถึงรู้สึกผูกพันเพียงนี้ มาลีรินทร์พูด

    วาตการณ์ กับ พสุธาวาท นรกานต์ท่าทางจะแย่เสียแล้ว ปฐวีเดช พสุธาวาทส่งเสียงและกำลังจะสาดพลังของตนใส่นรกานต์ แต่นรกานต์กลับหายตัวหนีไปเสียก่อนแล้ว มันไปแล้ว ไปหาเสด็จแม่กันเถอะ วาตการณ์พูด

    มาลีรินทร์กอดพระธิดาทั้งสองของนางอยู่ พระโอรสอีกสองของนางก็กระโดดลงมา พสุธาวาท วาตการณ์... มาลีรินทร์ส่งเสียงร้องเรียกลูกชาย แม้จะยังไม่มีใครบอก แต่ก็แน่ใจว่าสองคนนี้ต้องใช่ ทั้งสองวิ่งเข้ามากราบกรานพระมารดา ลูกแม่ มาลีรินทร์น้ำตาไหล สุริยะเทพกระโดดลงมา ทั้งสี่คนรีบยืนขึ้น ยืนเรียงซ้อนกันโดยมีประกายเพลิงอยู่ด้านในสุด ต่อด้วยวาตการณ์ ถัดออกมาก็ธารารักษ์ และนอกสุดก็พสุธาวาท อย่าทำอะไรเสด็จแม่นะ แม้จะพูดไม่พร้อมกัน แต่ความหมายของคำพูดของทั้งสี่กลับตรงกัน สุริยะเทพสาดพลังแสงสุริยันใส่ ทั้งสี่ที่ยืนเรียงซ้อนกันแยกกันออกมาและใช้พลังของตนต้านไว้ พลังสีน้ำตาลแข็งแกร่งและแข็งกล้าเป็นของพสุธาวาท ปฐวีเดช... และพลังสี่ฟ้าใสสะอาดบริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นของธารารักษ์ ฤทธิ์ธารา... พลังสีเขียวทรงอานุภาพกร้าวแข็งและรุนแรงเป็นของวาตการณ์ วาโยเวท... พลังสีสุดท้ายสีแสดกระจ่างประดุจเปลวไฟในการทลายล้าง เพลิงพิคาต...

    พลังทั้งสี่รวมกันช่างยิ่งใหญ่ ดิน น้ำ ลม ไฟ คือจตุรธาตุ พลังแห่งจตุรธาตุ ธาตุทั้งสี่ สุริยะเทพพูด กระทั่งสุริยะเทพผู้ยิ่งใหญ่ยังไม่กล้าเสี่ยงกับฤทธามหัศจรรย์นี้ รีบหนีไปเสียก่อน ทั้งสี่ถอนหายใจเหมือนปลดเปลื้องภาระหนักอกลงได้ แต่ก็ไม่หรอก สุริยะเทพ และ นรกานต์ ไม่เลิกราง่ายๆ ชั่วครู่มีเทพนารีผู้สง่างามนามหนึ่งกระโดดลงมา พร้อมกันกับธิดาราชอีกนางซึ่งดูเดี๋ยวเดียวก็รู้ว่านางคือกินรีเพราะนางบินลงมา และราชโอรสอีกคนที่ดูเก่งฉกาจไม่เบา พระมเหสี...เสด็จแม่... เกศสิรินทร์รัตน์พูด มาลีรินทร์หันมามอง เกศสิรินทร์รัตน์ไงเพคะ เกศสิรินทร์รัตน์พูด เกศสิรินทร์รัตน์ เกศสิรินทร์รัตน์เหรอนี่ ช่างสง่างามเหลือเกินลูก อาภรณ์สีร้อนแรงแสงอาทิตย์ของเจ้า เหมาะแล้ว เจ้าสง่างามราวเทพธิดาอาภาทิตย์ มาลีรินทร์พูด อาภาทิตย์ พสุธาวาททวนคำของพระมารดา อาภาทิตย์ ก็คือรัศมีสุริยะ แสงตะวันไงหละลูก มาลีรินทร์พูด เสด็จอา หม่อมฉันวรยุภัทรเองเพคะ นางกินรีพูดด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่ก็ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม คงเป็นเพราะยังกังวลถึงกินรีนคราอยู่ วรยุภัทร เจ้าช่างสวยสมเป็นนางกินรีจริง แล้วเจ้ามีอะไรรึปล่าวอาเห็นสีหน้าเจ้าแล้วท่าทางไม่ค่อยดีเลย มาลีรินทร์พูด วรยุภัทรก้มหน้าลง กินรีนคราของหม่อมฉัน อยู่ในชะตากรรมเดียวกันกับวนาบุรี เสด็จพ่อ เสด็จแม่ของหม่อมฉันจะเป็นอย่างไงบ้างก็ไม่รู้เพคะ วรยุภัทรพูด วรยุภัทร เราขอโทษแทนเสด็จพ่อของเรา ที่เสด็จพ่อของเรายกทำไปตีเมืองกินรี ชลากรพูด เจ้าไม่ได้เป็นคนทำซะหน่อย วรยุภัทรพูด ถ้าเสร็จเรื่องที่วนาบุรี เราจะช่วยเจ้า วาตการณ์พูด


    ตัวอย่างตอนต่อไป

    เจ้า ฤดีรินทร์พูด ทำไม เจ้าจะทำอะไรเรา แต่สภาพเจ้าตอนนี้ทำอะไรเราไม่ได้หรอก ดูสิ อีกสักเจ็ดแปดปีโน่นหนะ เจ้าถึงจะอายุเท่ากับเราตอนนี้ แล้วเจ้าจะทำอะไรเรา ประกายเพลิงหัวเราะเบาๆและเดินหนีไป ฤดีรินทร์เจ็บใจและอยากจะเพิ่มอายุบ้าง
    วาตการณ์กำลังจะเรียกจักรมา ก็ถูกวรยุภัทรตัดหน้ากระโดดขึ้นไปยืนบนจักรและบังคับจักรเหาะไป วรยุภัทร วาตการณ์ร้องตาม และกระโดดขึ้นเหาะตามไป
    ทำไมหละวรยุภัทร ทำไมเจ้าไม่ไปกับเรา วาตการณ์พูด เพราะเราจะรอให้พวกนาคราชมาฆ่าเราที่นี่ วรยุภัทรพูด นาคราชอย่างนั้นเหรอ ชลากร... วาตการณ์ท่าทางจะโกรธจัดแค้นจัด เรียกจักรมาเก็บและรีบเหาะขึ้นไป เจ้าคิดจะทำอะไรหนะวาตการณ์ วรยุภัทรพูดและรีบเรียกปีกกับหางมาแล้วรีบบินตามไป
    ทำไมหละวรยุภัทร ทำไมเจ้าไม่ไปกับเรา วาตการณ์พูด เพราะเราจะรอให้พวกนาคราชมาฆ่าเราที่นี่ วรยุภัทรพูด นาคราชอย่างนั้นเหรอ ชลากร... วาตการณ์ท่าทางจะโกรธจัดแค้นจัด เรียกจักรมาเก็บและรีบเหาะขึ้นไป เจ้าคิดจะทำอะไรหนะวาตการณ์ วรยุภัทรพูดและรีบเรียกปีกกับหางมาแล้วรีบบินตามไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×