ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทองเนื้อเก้า

    ลำดับตอนที่ #13 : รดามณี รพีพิมพ์ภัทร

    • อัปเดตล่าสุด 1 มี.ค. 51


    พี่นภราชเพคะ... ขอลูกคืนให้กับหม่อมฉันเถอะนะเพคะ อย่าทำร้ายลูกเลย จันทรัตน์เป็นลูกของพระองค์นะเพคะ สร้อยสายเพชรพูด อะไรนะ... นภราชยังคงตกใจกับคำพูดของสร้อยสายเพชรและแปลกใจ รวมทั้งมั่นใจว่าเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ไม่จริงหรอก... เรารู้สิสร้อยสายเพชร เรารู้ว่าเราทำอะไรลงไปบ้าง เจ้าจะโกหกเราแบบนี้ เจ้าบอกได้ไหมหละ ว่าเราไปมีลูกกับเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่ นภราชพูด ชนวนเหตุ ให้พระพี่นางเสด็จออกไปกับสำเภาหลวงไงหละเพคะ หม่อมฉันยอมรับผิด สร้อยสายเพชรพูดทั้งน้ำตาพลางคร่ำครวญอย่างห่วงหาลูกน้อยของนาง นภราชยิ่งแปลกใจตกใจ พลางคิดไปถึงเหตุการณ์วันนั้น นึกขึ้นได้แล้วก็ชะงักทำอะไรไม่ถูก รติวุฒิยังคงก้มหน้าเหมือนฝืนเก็บความรู้สึกที่เจ็บใจและคับแค้นเอาไว้ นภราชมองดวงหน้าทาริกาน้อยอีกครั้ง เด็กน้อยกระพริบตาปริบๆ แววตาน่ารักน่าเอ็นดูหนักหนา ทรงกลืนความรู้สึกลงคอก่อนจะเอ่ยเพรียกขึ้นว่า จันทรัตน์... ทรงเพรียกพระนามของธิดาน้อยในมือ เด็กน้อยเองก็จ้องมองพระองค์ด้วยแววตาที่สนพระทัย สร้อยสายเพชรร่ำไห้ สร้อยสายเพชร... เจ้าหนะใจง่ายเอง นภราชพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวไร้ความรับผิดชอบซึ่งก็ต่างจากเมื่อก่อน สร้อยสายเพชรทรุดลงกับพื้น สุดจะฝืนเก็บความรู้สึกใดๆอีกแล้ว รติวุฒิประคองนางให้ลุกขึ้นแต่ดูเหมือนนางจะบอบช้ำใจมากจนลุกไม่ขึ้น รติวุฒิหันมาจ้องมองนภราชด้วยความเจ็บแค้น นภราช... ทำไมเจ้าถึงได้กล้ารังแกดวงใจของเราถึงเพียงนี้ เกียรติและศักดิ์ศรีของพระธิดาแห่งมณีนพรัตนา ไม่ใช่สิ่งที่พึงจะทำลาย รติวุฒิเองก็คงทนมาถึงขีดสุดแล้วเช่นกันจะดิ่งเข้าไป เข้ามาสิ... อย่านึกนะว่าเราจะกลัว นภราชรวมพลังไว้ร่างแน่นิ่งเปล่งรัศมีสีทองขึ้นมาระยับทั้งร่าง ทั้งสองพระองค์กำลังจะตรงดิ่งเข้าหากันโดยใช้อารมณ์ลืมนึกถึงความปลอดภัยของราชธิดาน้อย หยุดทั้งสองพระองค์... สร้อยสายเพชรลุกขึ้นมา รติวุฒิถอยออกมาประคองสร้อยสายเพชร รัศมีรอบกายพระโอรสนภราชก็ดับลง พระองค์เพคะ... หม่อมฉันขอบพระทัย ที่ทรงปกป้องเกียรติยศ และ ศักดิ์ศรีให้กับหม่อมฉัน ขอบพระทัยจริงๆเพคะ สร้อยสายเพชรเอ่ยกับพระสวามี แล้วหันมามองนภราชอีกครา พี่นภราช... ต่อให้รัก รักมากเพียงไรก็ตาม แต่หม่อมฉัน ก็ย่อมรักเกียรติ รักศักดิ์ศรีของหม่อมฉันเช่นกัน หม่อมฉันอยากให้ทรงรับรู้ว่า จันทรัตน์ แม้จะเกิดมาเพราะความผิดพลาดของพระองค์ แม้หม่อมฉันจะไม่ต้องการให้เป็นแบบนี้ แต่ยังไง ลูกก็คือลูก หม่อมฉันจะเลี้ยงดูจันทรัตน์ โดยมิให้เจ้าตัวรู้ว่าพระองค์คือพระบิดาที่แท้จริง แต่หม่อมฉันขอ ขอลูกคืนให้กับหม่อมฉันเถอะนะเพคะ ไม่มีลูก หม่อมฉันก็ไม่เหลือใครจริงๆ สร้อยสายเพชรพูดทั้งน้ำตาที่รินไหล นภราชไร้ความปราณี เจ้ายังมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีอยู่รึ สร้อยสายเพชร เจ้ารักพี่ ก็ขอให้พี่เมตตาเจ้าดีๆ พี่ก็ยินดีรักเจ้า เช่นขนิษฐา แต่ทำไมต้องทำกับลูกเมียของพี่เช่นนี้ เจ้าให้รติวุฒิล่มสำเภาของสุวรรณลักษณาใช่ไหม นภราชพูด ทำไมถึงทรงปักพระทัยเชื่อเช่นนั้น หม่อมฉันไม่ได้ทำจริงๆ พี่สุวรรณลักษณา เป็นพระพี่นางของหม่อมฉันจะเพคะ หม่อมฉันรักพระองค์มากเพียงไร ใจคอจะฆ่าลูกของพระองค์ได้เช่นไร หม่อมฉันขอร้อง ทรงเมตตาจันทรัตน์ คืนจันทรัตน์ให้หม่อมฉันนะเพคะ ใจของแม่แทบจะแหลกสลายเป็นผุยผง นภราชใยจึงแข็งกร้าวนัก แข็งกร้าวเหลือเกิน ในเมื่อจันทรัตน์เป็นลูกของเรา เราก็จะเลี้ยงไว้เอง นภราชพูด ไม่... ขอลูกคืนหม่อมฉันเถอะ หม่อมฉันจะไม่มายุ่งกับชีวิตพระองค์อีกเลย หม่อมฉันจะลืม ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นให้ได้ สร้อยสายเพชรน้ำตาแทบจะเป็นสายเลือดถึงกับคุกเข่าลงวอนขอแทบจะกราบพระบาทพระโอรสนภราชอยู่แล้ว เจ้าลืมได้แต่เราลืมไม่ได้ เจ้าได้ลูกคืน แต่เราเสียลูกไป ไม่ยุติธรรม นภราชพูด แล้วเช่นนี้ยุติธรรมนักฤๅไร เจ้าเห็นความรู้สึกของลูกผู้หญิงเป็นอะไรนภราช สร้อยสายเพชรสู้อุตส่าห์รักเจ้าจนหมดใจ เจ้าหมิ่นเกียรตินาง ทำร้ายทั้งกายและใจนาง เจ้าเคยคิดบ้างไหมว่านางจะรู้สึกเช่นไร นางไม่มีความสุขหรอกนะ นางต้องทรมานมากกว่าเจ้าซะอีก เราย้อนถามเจ้า คำถามนี้หากเจ้าไม่รู้คำตอบ ก็ไปถามพระมารดาของเจ้า หรือว่าแม่นมของเจ้าก็ได้ ว่าเกียรติ และ ศักดิ์ศรีของผู้หญิงอยู่ตรงไหน รติวุฒิเอ่ยขึ้นด้วยความที่ว่าอดทนจนถึงขีดสุด และคงทนเห็นสร้อยสายเพชรทรมานใจต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว นภราชมีสีหน้าเรียบเฉย พระธิดาน้อยจันทรัตน์เกิดกันแสงขึ้นมา จันทรัตน์ลูกแม่ สร้อยสายเพชรจะตรงเข้าไปหาลูกตามสัญชาติญาณทันทีที่ยินเสียงลูกร้องไห้ นภราชใจร้ายผลักร่างนางล้มลงแล้วพยายามปลอบขวัญธิดาน้อยให้หยุดร้อง รติวุฒิสบโอกาสรุดเข้าชิงตัวพระธิดาน้อยมาแล้วหันกลับมาโอบร่างสร้อยสายเพชรแล้วพาเหาะขึ้นไป

    ที่นครมณีนพรัตนา พระตำหนักพระธิดาสร้อยสายเพชร พระธิดาสร้อยสายเพชรอยู่ในอ้อมกอดของคุณท้าวกานดา โถ่ พระธิดาของหม่อมฉัน ทำไมพระโอรสนภราชถึงได้พระทัยร้ายนัก โถ่ เสียแรงรักเหลือเกิน หยุดเถอะนะเพคะ หยุดรัก คนที่ไม่ควรรักเสียเถอะ คุณท้าวกานดาพูด สร้อยสายเพชรยังคงสะอึกสะอื้น คุณท้าว... เราเสียใจ เสียใจเหลือเกิน เราจะทำยังไงดี เรานึกอะไรไม่ออกแล้วหละคุณท้าว ช่วยเราทีนะ สร้อยสายเพชรพูดพลางร่ำไห้ไปด้วย มณี ตรีรัตน์กำลังไกวเปลเด็กอยู่หันมามองด้วยความเห็นใจ รติวุฒิเสด็จเข้ามา มณี ตรีรัตน์ก้มลงกราบ คุณท้าวกานดาคลายกอดแล้วถอยออกมากราบกรานลง รติวุฒิเข้ามาโอบสร้อยสายเพชรเอาไว้ มีอะไรในใจ ไม่ต้องปิดบังพี่ พี่ไม่เคยโกรธ ไม่เคยเคืองใจเจ้าใดๆเลย แม้เจ้าไม่ได้รู้สึกกับพี่ เช่นที่พี่รู้สึกกับเจ้า พี่รักเจ้า แล้วก็จะรักต่อไปไม่มีวันจบสิ้น สร้อยสายเพชร เศร้าใจเรื่องใด บอกพี่เถอะนะ ให้พี่ปลอบขวัญ เผื่อว่าเจ้าจะดีขึ้น รติวุฒิเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงน่าเกรงขาม แฝงด้วยความอบอุ่น สร้อยสายเพชรสะอึกสะอื้น หม่อมฉันผิดเหรอเพคะ ผิดมากไหม หม่อมฉันทำอะไร สู้อุตส่าห์รักพี่นภราชแทบตาย แต่ใยพี่เค้าทำกับหม่อมฉันเช่นคนไร้ความรู้สึก ชีวิตหม่อมฉัน ไม่เหลือเกียรติ ไม่เหลือศักดิ์ศรีอีก หม่อมฉันไม่มีค่าใดๆเลย สร้อยสายเพชรพูดทั้งน้ำตาที่พึ่งเดียงกัดฟันแน่นเหมือนว่าจะเจ็บใจไปด้วย ไม่จริงหรอกสร้อยสายเพชร เจ้ายังเป็นนารีที่สูงศักดิ์อยู่เสมอ ในใจของพี่แล้ว ไม่มีนางใดที่สูงล้ำกว่าเจ้า มั่นใจเถิด ว่าชีวิตเจ้ามีค่ากับพี่ และอสุรเวหานคร รติวุฒิรับสั่งด้วยน้ำเสียงมั่นคงเยียบเย็น สร้อยสายเพชรยังคงสะอึกสะอื้น ทรงโชคดีนักแล้วนะเพคะพระธิดาสร้อยสายเพชร พระสวามีทรงแสนดีเหลือเกิน ตรีรัตน์เอ่ยขึ้น สร้อยสายเพชรยิ้มให้ทั้งน้ำตา แล้วก็มีนางกำนัลยกสำรับมาถวาย อาหารวันนี้น่ากินมากเลย มีหลากหลาย กินให้อิ่ม แล้วพี่จะพาไปเดินเล่นในอุทยาน รติวุฒิพูด สร้อยสายเพชรเช็ดน้ำตาแล้วยิ้มให้ เพคะ นางเอ่ยขึ้นพลางจะเสวยพระกายหาร แต่แล้วก็วางช้อนลง หม่อมฉันกินไม่ได้เพคะ อยากกินอะไรหวานๆ ประมาณว่า ทับทิมกรอบหนะเพคะ สร้อยสายเพชรพูด คนครัวยังไม่ทำเครื่องหวานหรอกเพคะเช้าๆแบบนี้ ต้องรอตกบ่าย ทนเสวยสักนิดไปก่อนนะเพคะ คุณท้าวกานดาพูด ก็ได้ สร้อยสายเพชรพูดและจะกลั้นใจกินอาหารมื้อนั้น แล้วเกิดคลื่นไส้ขึ้นมา รติวุฒิช่วยลูบหลัง และรู้สึกแปลกใจกับพระอาการของพระชายาปะปนไปกับความรู้สึกปลาบปลื้มใจ เพราะเหมือนจะเดาออกว่านี่คืออาการของคนท้อง สร้อยสายเพชร... นี่เจ้า เจ้าท้องลูกของพี่เหรอ รติวุฒิพูด สร้อยสายเพชรยิ้มให้นั่นแสดงถึงคำตอบ รติวุฒิท่าทางจะตื่นเต้นดีใจเป็นหนักหนา คุณท้าวกานดา มณี ตรีรัตน์หันสบตากันด้วยความปลาบปลื้มยินดีกันไปหมด ว่ายังไงหละสร้อยสายเพชร รติวุฒิพูด เพคะ สร้อยสายเพชรตอบ รติวุฒิยิ่งใจมาก มณี ตรีรัตน์ ไปบอกคนครัวทีให้เตรียมเครื่องหวานด้วย บอกว่าพระราชนัดดาแห่งมณีนพรัตนาพระองค์น้อยที่อยู่ในพระครรภ์ของพระธิดาสร้อยสายเพชร อยากจะเสวย รติวุฒิพูด เพคะ นางรับใช้ทั้งสองก้มลงกราบกรานพร้อมกันพลางรีบออกไป ไม่เห็นต้องรีบ รอตอนบ่ายๆก็ได้นี่เพคะ สร้อยสายเพชรพูด ไม่ได้หรอกสร้อยสายเพชร เดี๋ยวลูกพี่จะหิว รติวุฒิพูด

    วันเวลาผ่านไปไม่หวนกลับ                              ฟ้าสลับสับเวียนแลเปลี่ยนสี

    มณีนพรัตนาราชธานี                                                         สมฤดีที่จะได้ราชนัดดา

                                    รติวุฒิเฝ้ารอที่จะพบ                                            รอประสบบุตรีดวงยี่หวา

    ได้ยินเสียงสำเนียงร้องพร้องแว่วมา                                องค์ยักษารีบเสด็จมายืนรอ

                                    กานดาอุ้มเด็กมาพาใจสั่น                                  เจ้าจอมขวัญจะเหมือนใครไฉนหนอ

    อุ้มลูกน้อยสร้อยสายใยเหมือนถักทอ                              ลูกของพ่อสวมแหวนงามน้ำทับทิม

                    รติวุฒิโอบอุ้มลูกน้อยเอาไว้ด้วยความชื่นชมยินดี พระพักตร์ของพระธิดาเหมือนพระบิดักนะเพคะ คุณท้าวกานดาพูด รติวุฒิยิ้มรับ แหวนทับทิม... น้ำงามเหลือเกิน รติวุฒิพูดขึ้นด้วยความตื่นตาตื่นใจ ไม่คิดว่าลูกของตนจะมีแหวนทับทิมติดตัวมา รดามณี... หมายถึงทับทิม รพีพิมพ์ภัทรเจ้าคือแสงสว่างแห่งดวงตะวัน ที่พิมพ์อยู่กลางใจพ่อ ใช่ เจ้าชื่อ รดามณี รพีพิมพ์ภัทร รติวุฒิพูด

                    เป็นหญิงเพคะ ตามที่ใครๆได้คาดเดาไว้ ชื่อรดามณี รพีพิมพ์ภัทร เพราะมีแหวนทับทิมติดตัวมา ท่าทางรติวุฒิหลงใหล แล้วก็ลูกรักลูกสาวคนนี้มาก พระมเหสีกรกนกทูลต่อพระสวามีด้วยความตื่นเต้นดีพระทัยเช่นกัน องค์เหนือหัวฤทธิ์นาทยิ้มอย่างพอพระทัยมาก

                    ฝ่ายทางด้านนครนภาภัทร พระโอรสนภราชเอาแต่นิ่งเงียบครุ่นคิดถึงบางสิ่งบางอย่างเหมือนมีอะไรในพระทัยตลอดเวลา แล้วก็ค่อนข้างเก็บตัวหลังจากที่กลับมาพร้อมชัยชนะเมื่อคราครั้งนั้น เมืองยักษ์พินาศล่มจมไปแล้ว นภาภัทรนครสงบร่มเย็น สองเมืองก่อสงครามด้วยความใจร้อนฉุนเฉียวของบุรุษสองผู้ มีแต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้น ความเข้าใจผิดแท้ๆที่ก่อให้เกิดเรื่อง นภราชนึกถึงร่างทาริกาน้อยในอ้อมแขนเมื่อครั้งนั้น ทรงส่ายหน้าอย่างไม่น่าเชื่อว่า นั่นคือลูก ลูกเราอย่างงั้นเหรอ นภราชพูดพลางถอนหายใจหนักๆด้วยความสับสนในพระทัย อยู่ๆก็ทรงพรวดลุกขึ้นเหมือนจะทรงตัดสินพระทัยอะไรบางอย่าง ไหนๆ ก็ ไหนๆแล้ว เรากับรติวุฒิต้องตายกันไปข้างหนึ่ง นภราชตัดสินใจรุดออกไปเพียงลำพัง

                    อะไรนะ ทรงควบเอกอาชาแก้วออกไปเพียงลำพังงั้นเหรอ... ทำไมพวกเจ้าถึงไม่รั้งไว้ พระมเหสีนิตย์นภาน้ำตาคลอ ข้าพระองค์ผิดไปแล้ว ขอทรงลงพระอาญา ทหารพูด อาญาโทษของเจ้าเราลงแน่ แต่ว่าตอนนี้รีบตามนภราชไปกันเถอะ ไม่รู้จะตัดสินใจทำบ้าอะไรอีก องค์เหนือหัวภัทราชรับสั่ง

                    ในป่า องค์รติวุฒิพร้อมด้วยทหารยักษ์คู่ใจ วิรัชกร เสด็จเดินป่าล่าสัตว์ด้วยหน้าไม้เหมาะมือ ทรงยุรยาตรนำหน้าไป ตามมาด้วยวิรัชกร รติวุฒิมองเห็นกวางตัวหนึ่งอยู่ไกลๆก็ยิ้มออก แล้วเล็งหน้าไม้ไปที่ตรงนั้น เบาๆนะวิรัชกร เราจะเอาเขากวางไปทำเครื่องอาภรณ์รับขวัญรดามี องค์รติวุฒิรับสั่ง วิรัชกรยิ้มรับ ขณะที่กำลังจะตวัดหน้าไม้ไป ก็มีศรหนึ่งพุ่งมาเฉียดร่างพระองค์ รติวุฒิหยุดการกระทำแล้วมองหาเจ้าของศรที่ท้าทายนั่น เช่นเดียวกับวิรัชกร ใคร... ใครกล้าท้าทายองค์รติวุฒิ เจ้าพญาแห่งยักษา วิรัชกรประกาศร้องไป เราเอง นภราชเดินออกมาอย่างไม่หวั่นเกรงสิ่งใดๆทั้งนั้น เจ้า... นภราช รติวุฒิเรียกชื่อ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×