วิมานหนึ่ง งดงามยิ่งนัก มีแสงทองนวลๆ ดูอบอุ่น ละมุน ละไม แสงนั้นงดงาม งามยิ่งกว่าแสงรวีในยามรุ่งสางและพลบค่ำ ดอกไม้บุปผาชาติในวิมานแห่งนั้นชูช่องามตายิ่งนัก เทพนารีสง่างามยิ่งนักนางหนึ่ง นางนั้นห่มสไบสีแสงตะวัน ทรงอาภรณ์สีทอง ทุกอย่างดูเข้ากัน นางเหม่อมองออกไปในอุทยานอันน่าสราญรมย์ตรงหน้า ทว่าจิตใจนางในยามนั้น หาได้รื่นรมย์ไม่
ดอกไม้ดอกงามถูกส่งมาให้ถึงตรงหน้า เทพนารีหันมาผู้ที่เข้ามา พบบุรุษสง่างาม เขาคือเทพบุตร “ภาสุวรรณ ท่านได้โปรดรับดอกไม้ดอกนี้จากเราเถิด เราไม่อยากเห็นท่านต้องหม่นหมองใจเช่นนี้” เทพบุตรเอ่ย เทพนารีนามภาสุวรรณถอนหายใจ “ทำไมท่านทำเช่นนี้ เมษวุฒิ ทำไมท่านต้องมาทำดีกับเรา” ภาสุวรรณเอ่ย “ท่านยังไม่รู้อีกฤๅ เหตุผลของเรานั้นมีเพียงเหตุผลเดียว” เมษวุฒิตอบ “เหตุผลเดียวของท่านคืออะไรเล่า ท่านไม่เคยเผลวจีให้เราได้รับรู้แม้สักครั้ง” ภาสุวรรณพูด “หากท่านต้องการให้เราบอก เราก็จะบอกท่าน... เรารักท่าน” เมษวุฒิพูด “รักรึ... รักแล้วมีอะไรดีขึ้นไหม... อยากให้เรารับดอกไม้ใช่ไหม... ได้” ภาสุวรรณพูดและรับดอกไม้มาก่อนโยนลงไปกับพื้นวิมานนั้นแล้วเหยียบดอกไม้ดอกนั้นจนหมดงาม เมษวุฒิได้แต่มองตามดอกไม้ดอกนั้นที่แหลกลาญคาเท้าของเทพนารีผู้อยู่ตรงหน้า “คนที่ท่านควรจะไปพบยามนี้ ไม่ใช่เรา ภาสภัสสรพระพี่นางของเราต่างหาก นางรอเจ้าอยู่” ภาสุวรรณพูดและเดินจากไป “เดี๋ยวภาสุวรรณ... เรารักเจ้า ไม่ได้รักนาง” เมษวุฒิเรียกตาม ภาสุวรรณเดินหนีไปทั้งน้ำตาแต่ก็ใจแข็งไม่หันกลับมา เมษวุฒิก้มหน้าลงอย่างจนใจและเหาะออกไป
ภาสุวรรณเดินมาทั้งน้ำตา “ภาสภัสสรลูกพ่อ...” เสียงหนึ่งดังมาก้องกังวานไปทั่วทั้งวิมาน ภาสุวรรณถึงกับชะงักนิ่งไป ภาสุวรรณท่าทางตกใจกับเสียงนั่นพอควร นางรีบเช็ดน้ำตาแล้ววิ่งไปที่ตำหนักของพระพี่นาง
ในตำหนักหนึ่ง องค์เทพผู้หนึ่ง โอบกอดร่างของเทพนารีผู้เป็นราชธิดาเอาไว้ นางได้จากไปแล้ว ภาสุวรรณรีบวิ่งเข้ามาถึงก็ทรุดนั่งลงอย่างหมดแรงทันทีที่เห็นภาพนั้น “เสด็จพ่อ...” ภาสุวรรณเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “องค์เทพหันมายังราชธิดาองค์เล็ก “ภาสุวรรณ... ภาสภัสสรพี่เจ้า... ภาสภัสสรพี่เจ้าฆ่าตัวตาย... นางช้ำใจ ช้ำใจเพราะไอ้เทพเมษวุฒิ” องค์เทพองค์นั้นพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ภาสุวรรณเข้ามาช่วยพระบิดาประคองร่างพระพี่นาง น้ำตาของนางนั้นไหลรินลงอาบแก้ม “เสด็จพ่อเตชภาสเทพ พระพี่นางต้องไม่ได้เจ็บคนเดียวเพคะ... ลูกจะลากคอไอ้คนที่ทำร้ายพระพี่นาง มาสำเร็จโทษด้วยมือของลูกเอง” ภาสุวรรณพูด
สรวงสวรรค์ ที่ริมแม่น้ำ เทพบุตรนามเมษวุฒิเหม่อมองด้วยสายตาทุกข์ตรม และแล้วก็มีพลังบางอย่างพุ่งมาที่แม่น้ำ ผืนน้ำกระจายขึ้น เมษวุฒิรีบถอยออกห่างแม่น้ำทันที ภาสุวรรณกระโดดลงมาข้างหลัง “ไอ้เมษวุฒิ... เจ้าต้องชดใช้ให้กับพระพี่นางภาสภัสสร พระพี่นางปลิดชีพตนเองเพราะเจ้า... เจ้ามันชั่วช้า เราจะเอาชีวิตเจ้าไปสังเวยแก่พระพี่นาง” ภาสุวรรณพูดและเรียกดาบออกมา ภาสุวรรณจะแทงเมษวุฒิ เมษวุฒิหลบไปด้านข้าง “เราทำอะไร... เกิดอะไรขึ้น” เมษวุฒิพูด “เจ้ามันคนลวงโลก เจ้าทำให้พระพี่นางรักเจ้า แล้วเจ้าก็มาบอกว่ารักเรา พระพี่นางของเราทุกข์ใจมากแค่ไหนเจ้าไม่เห็นหรอกรึ พระพี่นางจากไปแล้ว... จากไปเพราะเจ้า เราจะฆ่าเจ้า” ภาสุวรรณพูดและโจมตีเข้าไปเรื่อยๆ เมษวุฒิหลบหลีกได้ทันทุกครั้งแต่ก็ไม่ได้ตอบโต้ใดๆ “ท่านต้องการอะไรจากเราภาสุวรรณ ท่านต้องการสิ่งไหน... บอกเรามา เราให้ท่านได้ทุกอย่าง” เมษวุฒิพูด “พร่ำพลอดออกมาลอยๆอีกแล้วรึ... ครานี้ไม่มีใครเชื่อเจ้า” ภาสุวรรณพูด “ชีวิตเราก็ให้ท่านได้ ความสบายใจของท่าน เราให้ได้เสมอ” เมษวุฒิพูด “ความทรมานของเจ้า นั่นแหละคือสิ่งที่เราต้องการ เราขอสาปตัวเอง หากเราทำให้เจ้าเจ็บปวดทรมานไม่ได้ ขอเราเป็นคนเจ็บปวดทรมานแทน” ภาสุวรรณยกดาบขึ้นมาฟาดฟันลงมาใส่เมษวุฒิ เมษวุฒินิ่งเฉยมองตานางไม่กระพริบ สาตายคู่นั้นของเมษวุฒิมั่นคงยิ่งนัก เทพนารีใจร้อนราวเปลวไฟเหมือนถูกอะไรเข้าขัด นางนิ่งไปเช่นกัน เหมือนหวั่นไหวในใจเล็กน้อย นางรีบหลบตาก่อนที่น้ำตาของนางจะไหลรินลงมา “ฟันสิภาสุวรรณ ท่านอยากเห็นความทรมานของเรามิใช่หรือ รึว่าท่านอยากจะทรมานซะเองหละ” เมษวุฒิพูด ภาสุวรรณน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด นางลำบากใจ ท่าทางของนางดูเหมือนจะทำไมลง “ไม่เอา... เราทำไม่ได้” นางปล่อยดาบออกจากมือแล้วทรุดลงนั่ง เมษวุฒิรีบโอบประคองนางเอาไว้ “ภาสุวรรณ...” เมษวุฒิเรียก “ต้องได้สิภาสุวรรณ...” เตชภาสเทพเดินมา “เตชภาสเทพ” เมษวุฒิหลุดเสียงออกมา “เสด็จพ่อ... ลูกทำไม่ได้จริงๆเพคะ ลูกฝืนทำไม่ได้ ลูกเสียใจ” ภาสุวรรณพูด “เจ้ารักเมษวุฒิเข้าแล้วรึไงภาสุวรรณ” เตชภาสเทพพูด พระธิดาก้มหน้าลงไม่ตอบ “ถามเมษวุฒิสิ ว่าเค้าจะยอมเจ็บเพื่อเจ้าไหม เพราะถ้าหากเค้าไม่เจ็บ เจ้าก็ต้องเจ็บ” เตชภาสเทพพูด “กระหม่อมยอมทุกอย่างพระเจ้าข้า ภาสุวรรณ คว้าดาบนั่นมา ฟาดฟันเรา เราพร้อมจะทรมานแล้ว” เมษวุฒิพูด “เราจะยอมเจ็บเอง... เจ้าไม่ต้องเจ็บ เราโง่สาปตัวเองเองแหละ” ภาสุวรรณพูด “ถึงเจ้าไม่สาปตัวเอง พ่อก็จะต้องบังคับให้เจ้าทำอยู่แล้ว ฆ่าไอ้คนที่ทำร้ายพี่เจ้าซะภาสุวรรณ เจ้าเห็นคนรัก ดีกว่าสายโลหิตรึไร” เตชภาสเทพยุยง ภาสุวรรณตัดสินใจคว้าดาบมาทั้งน้ำตา ภาสุวรรณฟาดดาบลงไปที่กลางหลังของเมษวุฒิ เสียงร้องดังขึ้น ภาสุวรรณหลับตามิด น้ำตายิ่งไหลลงไปอีก เมษวุฒิทรมานทุรนทุรายเจ็บปวดยิ่งนัก เลือดไหลออกมาแทบหมดกายเพราะบาดแผลที่นางฝากให้นั้นลึกมาก เตชภาสเทพมองด้วยสายตาพอใจแต่ก็ไม่ได้ยิ้มออกมาอย่างออกหน้าออกตา “อีกหลายๆแผล... เราพร้อมรับผิดอย่างลูกผู้ชาย” เสียงของเมษวุฒิช่างทรงพลังและน่าเกรงขามแม้จะไม่เหลือแรงกำลังใดๆอีกแล้ว ภาสุวรรณมองดาบที่แดงฉานไปด้วยเลือด น้ำตาของนางนั้นไหลรินลงมาเรื่อยๆ เปลวเพลิงลุกขึ้นโชติช่วงตรงแผ่นโลหะเฉียบคม ภาสุวรรณมองด้วยสายตาตกใจ “เสด็จพ่อ” ภาสุวรรณหันไปหาพระบิดาแล้วส่ายหน้า “โลหะร้อนนี้ จะสร้างแผลที่ทรมานที่สุด ครานี้เลือดเจ้าได้ไหลออกมาหมดกายแน่ เมษวุฒิ ไอ้คนโอหังเจ้ากล้าทำลูกสาวของเราเจ็บปวด ภาสุวรรณ กรีดแทง... ช้าๆ...” เตชภาสเทพสั่งการแก่พระธิดา
ตัวอย่างตอนต่อไป
“ภาสุวรรณ...” เตชภาสตกใจมาก เตชภาสนั่งลงประคองร่างพระธิดาองค์เล็กไว้ในอ้อมกอด “ภาสุวรรณ... ทำแบบนี้ทำไมลูกพ่อ” เตชภาสกัดฟันเอ่ยขึ้นอย่างเจ็บปวดใจ “ลูกมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้เพคะ
“เป็นยังไงบ้างเพคะเจ้าพี่” นางเอ่ยถาม “ชวาลี... เจ้าดูลูกของพี่ กับมาลย์มินตราสิ” องค์เหนือหัวพูด ชวาลีมีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย นางมองเด็กผู้ชายคนนั้นเห็นบาดแผลลึกน่าเกลียดน่ากลัวที่กลางหลัง “ตายจริง...” นางเผลออุทานออกมาอย่างตกใจ
“คือ บาดแผลของพระโอรส ทางเดียวที่จะทำให้หายได้คือเลือด... เลือดของคนที่สร้างบาดแผลนี้” โหรหลวงพูด
ความคิดเห็น