ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    tvxq fiction

    ลำดับตอนที่ #2 : No.2

    • อัปเดตล่าสุด 10 มี.ค. 51


    วันต่อมาแจจุงมาเรียนตามปกติ

    เฮ้ย พวกนายรู้จักคนชื่อ จุง ยุนโฮ หรือเปล่า?

    เป็นคำถามที่แจจุงถามขึ้นระหว่างนั่งรับประทานอาหารเช้าก่อนเข้าเรียนกับเพื่อนๆครบแก๊งค์

    ใครนะ? จุนซูเงยหน้าขึ้นจากแซนด์วิชของเขาพลางขมวดคิ้ว

    จุง ยุนโฮ แจจุงเน้นชื่อ กวาดสายตามองเพื่อนๆรอบโต๊ะอย่างประเมินสถานการณ์

    เอ...ไม่นะ ไม่เห็นจะเคยได้ยินเลย นายไปเอามาจากไหนเหรอแจจุง? เป็นคำตอบซื่อๆของจุนซู

    โอเค เขาเจอคนหนึ่งแล้วล่ะที่มีกระท่อมอยู่ปลายนาหลังเขาแบบที่สัญญาณโทรทัศน์เข้าไม่ถึงไม่แพ้กับเขา

    ฉันว่า...ชื่อนี้คุ้นๆนะ ดาราหรือเปล่า? ชางมินนิ่งคิดอย่างเอาจริงเอาจัง ผ่านไปซักครู่เขาก็ดีดนิ้วเป๊าะ นึกออกแล้ว! จุง ยุนโฮ ที่เป็นนายแบบ ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเป็นนักแสดงวัยรุ่นเต็มตัวไง! ชางมินอธิบาย ตอนนี้กำลังดังสุดๆไปเลยนี่

    โอ้ นายรู้จักด้วย? แจจุงประหลาดใจ แล้วนายรู้หรือเปล่าว่าเขาหน้าตาเป็นยังไง? แกล้งถามต่อ

    อือ...ถ้าจำได้ก็ได้แบบคลับคล้ายคลับคลาน่ะ ฉันไม่ค่อยสนใจวงการบันเทิงเท่าไหร่ ชางมินที่เคยได้รับรางวัลนักเรียนดีเด่นจากโรงเรียนมัธยมปลายกล่าวตอบ

    นายจะถามไปทำไมเนี่ยแจจุง? ยูซอนที่นั่งเงียบมานานถามขึ้น เดี๋ยวนี้เปลี่ยนจากสาวๆมาสนใจหนุ่มๆแล้วเหรอจ๊ะ? ถามกวนๆ

    แจจุงคนสวยเหลือบมองไอ้เพื่อนปากดีทางหางตาอย่างเหยียดๆ เลี่ยงไม่ตอบคำถามไปซะงั้น แล้วนายล่ะยูซอน? รู้จักไอ้ดาราชื่อนี้ไหม? คิดว่าตัวเองทำเสียงเหมือนไม่ใส่ใจอะไรมากมายแล้วนะ แต่ยูซอนก็ยังไม่วายกัด

    แหม...ท่าจะจริงจังสินะนี่? ชั้นไม่รู้จักว่ะ ดาราผู้ชายไม่เคยสนใจ ถ้าเป็นผู้หญิงค่อยมาถามละกัน ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจก่อนจะหันไปสนใจอาหารเช้าของตัวเองต่อ

    เหอะๆๆ งั้นก็แปลว่าไม่ได้มีเขาคนเดียวที่จำไอ้จุง ยุนโฮนี่ไม่ได้ใช่ไหม? ในเมื่อเพื่อนๆเขา...2 คนทั้งไม่เคยได้ยินชื่อและจำหน้าไม่ได้ มีชางมินเพียงคนเดียวที่จำชื่อได้ แต่ก็จำหน้าไม่ได้อีกเหมือนกัน...

    ...รู้งี้ค่อยโล่งใจหน่อย นึกว่าจะมีกรูที่มัวแต่งมโข่งอยู่คนเดียวซะแล้ว...

    ตกลงจะบอกได้ยังว่าถามไปทำแดจังกึมอะไร? ยูซอนส่งเสียงถามข้ามโต๊ะมา

    แจจุงจึงส่งสายตาเขียวปั๊ดกลับไปให้ เรื่องของฉันน่า!

    อ้าวไรวะ? แล้วทำไมถามแค่นี้ต้องเคืองด้วย? ยูซอนยิ้มแสยะ จ้องหน้าสวยๆของไอ้เพื่อนตัวดีอย่างพยายามจะจับผิดและค้นหาคำตอบ

    ถามเฉยๆเว้ย! แจจุงบอกปัดอย่างหงุดหงิด ยูซอนหัวเราะ

    ฮ่าๆๆๆ ไรวะ? แกเนี่ยโกหกไม่เก่งเลยนะไอ้โบแจ

    แจจุงทำตาโต กำลังจะอ้าปากด่าสวนท่านปาร์ค ยูซอนนักจับผิดผู้เก่งกาจ แต่แล้วก็ต้องชะงักค้างขึ้นมาทันใดเมื่อเห็นใครคนหนึ่งกำลังเดินมาทางนี้...

    ...ร่างสูงสง่าหุ่นนายแบบกับผมสีน้ำตาลฟูๆบนหัวโตๆนั่นควรจะเห็นเด่นชัดมาแต่ไกลในระยะ 500 เมตร แต่ ณ นาทีนี้ จุง ยุนโฮที่จู่ๆก็โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ กำลังเดินตรงมาทางโต๊ะที่แจจุงนั่ง...

    ...กำลังพูดถึงก็โผล่มาพอดี อายุยืนจริงนะมรึง...

    เป็นอะไรไปแจจุง? ชางมินเลิกคิ้วงงๆเมื่อเห็นว่าปากของแจจุงที่ตั้งท่าจะทำหน้าที่ถนัดของมัน นั่นก็คือ ด่า ถูกเผยอค้างเอาไว้เฉยๆ เจ้าตัวตอนนี้จึงกำลังนั่งอ้าปากหวอเหมือนนางฟ้าโดนเอ๋อกิน

    แต่คำถามนั้นไม่ได้ถูกส่งผ่านไปยังสมองของแจจุงเลย โดยเฉพาะเมื่อยุนโฮที่กำลังจะเดินผ่านมาสังเกตเห็นแจจุงเข้า คนร่างสูงฉีกยิ้มส่งมาให้คนที่นั่งอยู่อย่างร่าเริงพลางผงกหัวให้ทีหนึ่งทำนองว่า สวัสดี ตอนแรกยุนโฮทำท่าจะเข้ามาทัก แต่เมื่อมองเห็นเพื่อนๆอีก 3 คนของแจจุงที่นั่งล้อมรอบอยู่ เขาก็ลังเล

    ในวินาทีนั้นเพื่อนๆทั้งสามคนก็พร้อมใจกันหันไปมองทางทิศที่เห็นว่าแจจุงกำลังมองอยู่

    อ๋อ...ไอ้คนนั้นนั่นเอง จุนซูพูดเบาๆให้พอได้ยินกันในวง เขาแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นว่าเด็กหนุ่มคนนั้นกำลังมองมาทางกลุ่มเขาอยู่เหมือนกัน ตอนแรกดูเหมือนเขากำลังลังเลอะไรซักอย่าง แต่แล้ว...ท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคน เขาก็ผงกหัวให้เหมือนจะทักทายพร้อมกับรอยยิ้มสุภาพบนริมฝีปาก

    จุนซู ยูซอน และชางมิน ผงกหัวรับอย่างงุนงงไม่แพ้กัน

    เรารู้จักหมอนั่นกันเหรอ? ยูซอนหันกลับมากระซิบถามเพื่อนๆหลังจากยุนโฮดูเหมือนจะเจอเพื่อนเขาและเดินหายไปแล้ว

    ไม่นี่ จุนซูตอบทันที

    คนนั้นที่มานั่งเรียนติดกับแจจุงตอนคลาสวันจันทร์บ่ายไง เขาชวนแจจุงคุย ชางมินเฉลย และในบัดดลเพื่อนๆทุกคนก็หันขวับมามองแจจุงที่นั่งรูดซิบปากอยู่คนเดียวเขม็ง

    อะ...อะไร? แจจุงเลิ่กลั่ก

    ยูซอนหรี่ตามองเพื่อนเหมือนกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างในขณะที่แจจุงทำเป็นเสหน้าหันไปชมนกชมไม้ในสวนสวยยามเช้าอย่างไม่รู้ไม่ชี้ แต่เพียงครู่เดียวยูซอนก็เลิกติดใจ เอาเถอะ นายไม่ไปวีนเขาก็ดีแล้ว ฉันนึกว่านายจะไม่ชอบขี้หน้าหมอนั่นจนไปหาเรื่องอะไรเขาแล้วซะอีก...ช่างเถอะ ไปเข้าเรียนกันดีกว่า

    การตัดบทของยูซอนทำให้แจจุงโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เขาแอบถอนหายใจเบาๆในขณะที่เพื่อนๆลุกขึ้นจากที่นั่งเพื่อจะไปเรียน...ดีแล้วที่ยูซอนไม่ซักอะไรมากไปกว่านี้ เพราะเขาก็คงจะตอบเพื่อนๆไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมอยู่ดีๆไอ้บ้าจุง ยุนโฮมันถึงมาส่งยิ้มหวานปานน้ำผึ้งเดือนเจ็ดเป็นประหนึ่งคำทักทายยามเช้าแก่เขาได้?
    /////////////////////////////////////////

    หลังจากกวาดสายตาดูทั่วห้องบรรยายแล้ว แจจุงก็พบว่ายุนโฮและแก๊งค์หล่อของเขายังไม่เข้ามา คนร่างบางย่นจมูกขณะเดินตามเพื่อนไปหาที่นั่งตรงกลางๆห้อง เมื่อได้ที่ก็ทรุดตัวลงนั่งเป็นคนสุดท้ายในกลุ่มอีกเหมือนเคย

    เพียงไม่เกินห้านาที ไอ้หล่อร่างสูงที่มีผมสีน้ำตาลก็เดินเข้ามาพร้อมกับกลุ่มเพื่อน แจจุงย่อมเห็นอยู่แล้วเมื่อยุนโฮเดินเข้าประตูมา ตาตี่ๆของเขาจึงมองชายหนุ่มอยู่ไม่วาง ในขณะที่เด็กกลุ่มนั้นช่วยๆกันกวาดสายตามองหาที่นั่งในห้องบรรยายที่เกือบเต็มนี้ สายตาของยุนโฮก็กวาดมาเจอะเข้ากับดวงตาสีนิลของแจจุงพอดี

    จะว่าสะดุ้งก็สะดุ้งอยู่หรอก แต่แจจุงก็ยังคงเก๊กด้วยการนั่งทำหน้านิ่งไว้ได้ เมื่อยุนโฮส่งยิ้มมาให้ทั้งทางริมฝีปากและแววตาแจจุงก็ทำเป็นเบือนหน้าหนี แต่ถึงกระนั้นหางตาก็ยังคงเหลือบมองและเห็นว่ายุนโฮกำลังหันไปคุยกับเพื่อนและชี้ชวนให้มานั่งบริเวณเดียวกับเขา

    ไม่อาจพูดว่าโล่งใจได้เต็มปากได้เมื่อเพื่อนๆของยุนโฮตัดสินใจเดินไปนั่งอีกทางหนึ่งเพราะบริเวณที่กลุ่มของแจจุงนั่งดูแออัดเกินไป และถึงจะกำลังใช้หางตามอง แจจุงก็เห็นว่ายุนโฮหันมามองเขาครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินตามเพื่อนไป

    ยูซอน! เล่นอะไรยุกยิกอยู่ได้น่ารำคาญ อยู่เฉยๆเป็นไหมเนี่ย!? เสียงของจุนซูที่นั่งอยู่ติดกับแจจุงดังขึ้น แจจุงขมวดคิ้วก่อนจะหันไปมองเพื่อนที่ปกติจะเป็นคนง่ายๆ นิสัยเหมือนเด็กๆและไม่ค่อยมีปากมีเสียงกับใคร แล้วอะไรกันล่ะนี่ที่มากระตุ้นต่อมน้ำโหของคิม จุนซูให้อยู่ๆเขาพูดจาขึ้นเสียงแบบนี้

    ฉันไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย น้ำเสียงที่ตอบกลับมาของยูซอนดูอ่อยๆ ไม่เหมือนปกติเวลาเถียงกับแจจุงซึ่งเป็นคู่กัดขาประจำที่มักจะไม่มีใครยอมลงให้ใครก่อน แต่กับจุนซูหรือชางมิน ยูซอนจะไม่ปากเสียเท่า

    ...โดยเฉพาะกับจุนซู...

    ก็เอาแต่นั่งสั่นขาแล้วก็หยิบนู่นเกานี่อยู่ได้ โต๊ะมันสั่นเห็นไหมแล้วมันก็ทำให้โต๊ะฉันสั่นไปด้วย น้ำเสียงของจุนซูอ่อนลงและกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ท่าทางพฤติกรรมเมื่อครู่ของยูซอนคงจะทำให้เขาหงุดหงิดจริงๆนั่นแหละ

    ขอโต้ดค้าบ ยูซอนพึมพำขมุบขมิบ แล้วนั่งทำตัวลีบก้มหน้ามองโต๊ะเล็กเชอร์ตัวเอง แจจุงหัวเราะพรืด ถ้าเติมหูกับหางเข้าไปเขาก็พอจะจินตนาการถึงอาการหางลู่หูตกเหมือนหมาหงอยของยูซอนตอนนี้ได้เลย

    ฮิๆ ไม่ต้องทำหน้าหงอยอย่างงั้นหรอกน่า จุนซูที่หายหงุดหงิดอารมณ์ดีขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นท่าทางซึมๆของเพื่อน ขอโทษที่ฉันขึ้นเสียงน้า

    หึหึ เปล่าหงอยซักหน่อย...ถ้านายเลี้ยงไอศกรีมฉันเย็นนี้ฉันจะหายหงอย อยู่ๆยุซอนก็เงยหน้าขึ้นมาต่อรองทันที แจจุงขำ เปลี่ยนอารมณ์เร็วดีจริงวุ้ย

    อ่าวไรเนี่ย? นายต้องเป็นคนเลี้ยงฉันสิถึงจะถูก จุนซูแย้งด้วยรอยยิ้ม

    อือ...เอางั้นก็ได้ งั้นเย็นนี้ไปกินไอศกรีมก่อนกลับบ้านกันนะ และยูซอนก็ตกลงด้วยรอยยิ้ม

    อื้อ จุนซูยิ้มร่าเลยทีนี้

    ...เออ ว่าง่ายดีจังนะ...แจจุงคิดขำๆพลางละสายตาไปจากเพื่อนทั้งสอง...เป็นแผนการชวนคนอื่นไปเดทที่แยบยลมากเลย ไอ้ยูซอน!

    ...งั้นเย็นนี้เขาไปกินไอศกรีมด้วยเป็นก้างขวางคอสองคนนี้ดีกว่า...ก๊ากกกกกกกกกกกก ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
    /////////////////////////////////////////

    หลังจากเรียนคาบเช้าไป 2 คาบก็ได้เวลาอาหารกลางวัน กลุ่มของแจจุงเดินไปนั่งที่โต๊ะตัวหนึ่งในโรงอาหารของคณะ

    พวกนายไปซื้อกันก่อนก็ได้ เดี๋ยวฉันเฝ้าโต๊ะให้ แจจุงอาสา

    โอ้ วันนี้เกิดเป็นแม่พระอะไรขึ้นมานี่? ยูซอนแซว และไม่รอการต่อปากต่อคำกลับมาของอีกฝ่าย เขาก็ลากแขนจุนซูเดินไปหาซื้ออะไรกินทันที

    แจจุงนั่งเท้าคางอยู่ที่โต๊ะรอเพื่อนๆกลับมา สายตาของเขากวาดมองเรื่อยเปื่อยไปยังร้านรวงต่างๆพลางคิดว่าจะแด๊กอะไรดี พลันก็มีเสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นข้างๆตัวเขา

    นั่งอยู่คนเดียวเหรอครับ?

    แจจุงสะดุ้งเฮือก หันขวับมามองทันที นะ...นาย!!!

    ยุนโฮหัวเราะกับอาการสะดุ้งของคนสวยที่เขาเดินเข้ามาทัก ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งข้างๆอย่างถือวิสาสะ ก็ผมน่ะสิครับ นึกว่าผีที่ไหนล่ะ?

    ...ไม่ได้นึกว่าเป็นผีหรอก แต่คิดว่าเป็นหมีน่ะสิ! แจจุงคิดในใจ แล้วใครอนุญาตให้นายนั่งตรงนี้ไม่ทราบ? เริ่มทำเสียงแข็ง

    ยุนโฮยักไหล่ ก็ไม่เห็นมีใครแปะป้ายว่าห้ามนั่งนี่? ทำไม? ผมนั่งตรงนี้แล้วรังเกียจหรือครับ?

    อือรังเกียจ แจจุงตอบทันควัน

    ยุนโฮทำหน้าบู้ พูดอย่างงี้ไม่น่ารักเลยน้า...

    แล้วใครอยากให้นายคิดว่าน่ารัก!? เริ่มหงุดหงิด

    คนร่างสูงหัวเราะ ฮ่าๆๆ เปล่า...ถึงคุณไม่อยากให้ผมคิด ผมก็จะคิดเอง

    จบประโยคนั้น แจจุงก็นิ่งอึ้งไปเลยเพราะเถียงไม่ออก...

    ...เมื่อกี๊หมอนั่นมันชมเขาหรือเปล่าวะ?

    แจจุงจะกินอะไรครับ? ยุนโฮเปลี่ยนเรื่อง เขากวาดสายตามองไปรอบๆโรงอาหารด้วยสีหน้าครุ่นคิด

    ฉันจะกินอะไรแล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย? ไม่ยอมตอบดีๆ

    ก็ถามเฉยๆน่ะ เพราะผมคิดไม่ออกว่าจะกินอะไรดี คนร่างสูงยังคงตอบอย่างสุภาพ

    แจจุงยักไหล่ ไม่รู้สิ...ข้าวหน้าเนื้อย่างเกาหลีมั้ง

    อืมมม...ก็น่ากินดีเหมือนกันนะ ยุนโฮพยักหน้าเออออ

    ถ้านายจะไปซื้อก็ซื้อให้ฉันด้วยสิ แจจุงบอกพลางฉีกยิ้มอย่างชั่วร้าย ไหนๆฉันก็ช่วยนายคิดว่าจะกินอะไรเป็นอาหารกลางวัน

    หืม...ค่าที่ปรึกษาแพงจังนะครับ คนร่างสูงพูดกวนๆพลางหัวเราะขำ

    เฮ้ยโบแจ อ้าว... ยูซอนกับจุนซูที่ถือชามเน็ง เมียน(บะหมี่เย็น)เดินกลับมาถึงชะงักทันทีที่เห็นว่านอกจากเพื่อนของเขาแล้วยังมีบุคคลอื่นนั่งอยู่ที่โต๊ะด้วย

    งั้นผมไปก่อนนะครับ ยุนโฮรีบเผ่นทันที เขาหันไปผงกหัวให้กับยูซอน จุนซู รวมทั้งชางมินที่เพิ่งเดินมาถึงอย่างสุภาพ แล้วรีบเดินหายไป

    คนนั้นชื่ออะไรน่ะแจจุง? ชางมินถามขึ้นพลางวางจานข้าวของตัวเองลงบนโต๊ะแล้วหย่อนก้นลงนั่ง ทำไมไม่แนะนำให้รู้จักล่ะ?

    ฉันไปซื้อข้าวก่อนนะ โดยไม่อยู่ตอบคำถามหรือให้โดนเพื่อนๆเค้นคอหอยขาวๆของเขามากไปกว่านี้ แจจุงก็ลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วรีบเดินไปยังร้านอาหารทันทีท่ามกลางความงงของเพื่อนๆทุกคน

    แจจุงมันเป็นอะไรของมัน? จุนซูพึมพำ แต่แล้วความสนใจของเขาก็ถูกดึงกลับมายังชามบะหมี่เย็นกลิ่นหอมหวนยวนน้ำลายตรงหน้า และเมื่อนั้นความคิดเรื่องแจจุงก็ไม่อยู่ในสมองของเขาอีกต่อไป

    ...เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ตอนนี้กินก่อนดีก่า...


    ร้านขายข้าวหน้าเนื้อย่างเกาหลีมีคนต่ออยู่เป็นแถวยาว แจจุงเดินไปต่อที่ปลายแถวพลางเงยหน้ามองรายการอาหารที่ติดอยู่บนหัวร้านอย่างครุ่นคิด เขาจะกินเนื้อย่างดี หรือจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นดี?

    แจจุงมองเห็นร่างสูงๆคุ้นตาต่อแถวอยู่ข้างหน้าเขาห่างไป 2-3 คนก็อมยิ้ม ตกลงหมอนั่นก็กินข้าวหน้าเนื้อย่างเกาหลีอย่างที่เขาบอกจริงๆหรือนี่? เขาเสนออะไรก็เอาเลย ช่างไม่มีความคิดเป็นของตัวเองเลยนะนายยุนโฮ

    เพียงครู่เดียวก็ถึงคิวของยุนโฮ ตอนแรกแจจุงกะจะเดินไปหาแล้วฝากสั่งของเขาไปด้วย แต่แล้วก็เปลี่ยนใจเพราะเกรงใจคนที่ต่อแถวอยู่หน้าเขา อีกอย่างอีกแค่ไม่กี่คนก็จะถึงคิวเขาแล้ว ยืนรอต่ออีกแป๊บก็ไม่เสียหายอะไร

    ...รีบกลับไปเดี๋ยวไอ้พวกนั้นก็ซักเขาไม่หยุดอีก ขี้เกียจตอบคำถามพวกมัน...

    ยุนโฮได้ข้าวหน้าเนื้อย่างเกาหลีของเขาแล้ว แจจุงเห็นคนหัวฟูควักเงินออกมาจ่าย ก่อนจะถือจานอาหารมา 2 จาน

    ...จะกินคนเดียว 2 จานเลยเหรอ?...หล่อแล้วยังไม่วายตะกละอีกนะ...

    ยุนโฮเดินสวนมาทางที่แจจุงยืนต่อแถวอยู่ เมื่อสบตากันคนร่างบางก็แกล้งเบือนหน้าหนี แต่ถึงอย่างนั้นยุนโฮก็ยังมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขา

    นี่ของแจจุง

    แจจุงหันหน้ากลับมาทันที คิ้วเรียวสวยบนใบหน้าขาวๆกระหวัดรัดเป็นโบว์อย่างงุนงงเป็นที่สุดเมื่อเห็นจานข้าวหน้าเนื้อย่างเกาหลีถูกยื่นมาตรงหน้าตัวเอง

    อะไร? ถามออกไปอย่างที่ใจคิดจริงๆ ดวงตาสีนิลสวยมองจานข้าวทีสลับกับมองหน้าคนถือทีเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา

    ยุนโฮอมยิ้ม ก็แจจุงบอกให้ผมซื้อเผื่อไม่ใช่เหรอ? นี่ไงของแจจุง เมื่อเห็นว่าคนสวยตรงหน้ายังทำหน้าเหรอหรา เขาก็เสริมต่อ หรือปกติกินข้าวสองจาน? ก็ไม่บอก งั้นเอาไปหมดนี่เลยก็ได้เดี๋ยวผมไปซื้อใหม่เอง เสียงทุ้มนุ่มฟังดูสุภาพ แต่ทำไมแจจุงถึงรู้สึกว่ามันแอบกวนตีนยังไงชอบกล

    เฮ้ยไม่ต้อง! คนร่างบางบอกปัด เมื่อกี๊ฉันพูดเล่น เดี๋ยวฉันซื้อเอง

    อ้าว ได้ไง? แล้วจานนี้ใครจะกินล่ะ? ผมอุตส่าห์ซื้อมาเผื่อ แกล้งทำเสียงโหวงๆ

    นายก็กินไปสิ ตัวออกจะอ้วนแบบนี้กินได้อยู่แล้วนี่

    ...อ่าว...นี่ด่ากรูใช่ไหมนี่? พ่อหมีอ้วนคิดในใจ

    ผมซื้อมาให้ครับ รับไปเถอะ ถึงตัวจะอ้วนอย่างงี้แต่ให้ผมกินคนเดียว 2 จานก็ไม่หมดหรอก...จะรับไม่รับ? ถ้าไม่รับตรงนี้เดี๋ยวเอาไปวางให้ที่โต๊ะเลยนะ คำขู่นั้นได้ผล แจจุงรีบรับจานมาทันทีเพราะกลัวเพื่อนๆเขาที่โต๊ะจะปราะหลาดใจไปตามๆกัน

    งั้นเอาเงินไป แจจุงส่งเงินให้

    ไม่เป็นไรครับ อาหารมื้อนี้ถือเป็นค่าที่ปรึกษาที่ช่วยคิดว่าผมจะกินอะไรดีเป็นมื้อกลางวัน ผมเต็มใจเลี้ยงนะ คำพูดเหมือนจะประชด แต่ก็ไม่ใช่เสียทีเดียว แจจุงยังคงทำหน้าเหวอไม่เลิกในขณะที่ครุ่นคิดว่าประโยคนั้นหมอนั่นมันประชดหรือเปล่า พลางมองตามแผ่นหลังของคนร่างสูงที่เดินจากไปแล้วอย่างอึ้งกิมกี่

    ...ก่อนจะหันมามองจานข้าวในมือตัวเองอย่างงุนงง...

    ...รู้งี้บอกว่าอยากกินของแพงกว่านี้ก็ดีหรอก!!!
    //////////////////////////////////////////

    เลิกเรียน และชางมินก็ขอตัวกลับบ้านไปอ่านหนังสือตามประสาเด็กเรียน จึงเหลือเพียงแจจุง ยูซอน และจุนซูอยู่กันแค่ 3 คน

    ในขณะที่แจจุงกำลังคิดอยู่ว่าจะทำตัวนิสัยเลวโดยการไปเป็นก้างขวางคอไอ้ยูซอนดีหรือไม่ จุนซูก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงใสซื่อบริสุทธิ์ นี่แจจุง ไปกินไอศกรีมกันไหม? ยูซอนชวนน่ะ ถามพลางยิ้มร่า

    แต่ฉันไม่ได้ชวนไอ้โบแจ! ยูซอนรีบท้วงทันที จุนซูไปชวนมันทำไมน่ะ? หันไปถามอีกคนอย่างไม่พอใจ

    อ้าว...ก็ถ้าแจจุงไปด้วยจะเป็นไรไปล่ะ? ก็เพื่อนกันทั้งนั้นนี่ ยูซอนเถียงไม่ออก ในขณะที่แจจุงแทบจะกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่อยู่ อยากจะเฉลยให้เพื่อนผู้ใสซื่อรู้เสียเหลือเกินว่าไอ้ยูซอนมันไม่อยากให้แจจุงคนสวยคนนี้ไปเป็นก้างขวางคอหร๊อกกกกกกกก!!!

    แต่ในเมื่อมันเป็นความต้องการของยูซอน ทำไมเขาจะต้องทำตามด้วยล่ะ? และในทันใดแจจุงก็รู้สึกว่านางฟ้าแสนสวยอย่างเขาก็ดูจะมีหูและหางของปีศาจงอกออกมา...แต่ก็ยังคงเป็นปีศาจแสนสวยอยู่ดีละนะ อิยะฮ่าฮ่าฮ่า!!!

    ไปสิไป แจจุงตอบอย่างกระตือรือร้น หางปีศาจกระดิกดิ๊กๆ ใช้หางตามองไปทางยูซอนก็เห็นมันกำลังทำหน้าบูดและส่งสายตาอาฆาตมาดร้ายมาทางเขาแล้วก็รู้สึกสะใจเล็กๆ

    ...ช่วยไม่ได้ไอ้ยูซอน ที่รักแกชวนชั้นเอง...

    โอเค งั้นไปกินร้านหลังมหาลัยกันไหม? ฉันเห็นตอนขึ้นมาจากรถไฟใต้ดินน่ะร้านน่านั่งมากเลย... แล้วจุนซูก็พูดๆๆชักชวนเพื่อนๆในระหว่างทางที่พวกเขาเดินไปด้วยกัน โดยไม่ได้สังเกตเอาเล๊ยว่ายูซอนกำลังทำหน้าเหมือนปวดขี้ขนาดหนักตลอดเวลา

    ปีศาจแสนสวยละอยากจะขำก๊ากกกกกก ฮ่าๆๆๆๆ~


    เอาเชอร์รี่ไหมจุนซู? โดยไม่รอฟังคำตอบ ยูซอนก็หยิบเชอร์รี่ที่ตกแต่งอยู่บนไอศกรีมรสวานิลลาของเขาไปให้จุนซูเพราะรู้อยู่แล้วว่าอีกคนชอบทาน

    ขอบใจนะ จุนซูเอ่ยพลางส่งยิ้มร่าตาหยีไปให้เพื่อน โดยไม่รู้ตัวเลยว่าทำให้อีกคนนั่งตาค้างใจเต้นระรัวได้แค่ไหน

    โอ๊ยยยยยยย ทำไมยิ้มน่ารักอย่างเง๊!!!???

    หลังจากนั่งเคลิ้มอยู่ซักพักยูซอนก็เหลือบตาไปมองแจจุงที่นั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่ข้างๆอย่างรู้สึกอยากไสหัวมันออกไปให้พ้นๆมากขึ้นอีก...แม๊งงงงงง มันจะมาทำไมวะ!!??? คนเขาจะจู๋จี๋กันซักหน่อย ดันมีไอ้นี่มานั่งเป็นก้างขนาดความยาว 178 ซ.ม.เกะกะลูกตาจนหมดอารมณ์จ้ำจี้ไปเลย!(เฮ้ย!)

    ลองชิมไอศกรีมของฉันไหม? จุนซูถามบ้างพลางตักไอศกรีมรส Strawberry Short Cake ของตัวเองยื่นมาข้างหน้า จ่อเข้าให้ที่ปากของยูซอน

    เอ้อ... ยูซอนอึกอักอย่างเขินจัด ก่อนจะรับมันเข้าปากอย่างงกๆเงิ่นๆ แจจุงถึงจะแกล้งทำเป็นนั่งชมนกชมไม้ แต่ก็อดขำไม่ได้เมื่อเห็นท่าทางแบบนั้นของเพื่อน

    ...ก็ท่าไอ้ยูซอนเวลาเขินมันฮาจริงๆนี่นา...
    //////////////////////////////////////

    จะรีบไปไหนครับ?

    แจจุงสะดุ้งโหยงเมื่ออยู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นข้างหลังเขา...ใกล้ๆหูนี่เอง คนสวยหันไปมองแล้วก็แว้ดคนทักเข้าให้ทันที เพราะนึกรู้อยู่แล้วตั้งแต่วินาทีที่ได้ยินเสียงว่ามันเป็นเสียงของใคร

    ทำไมนายชอบโผล่มาแบบไม่ทันตั้งตัวหา!? ตอนทานข้าวกลางวันก็ทีหนึ่งแล้วนะ!

    ผมชอบทำอย่างงั้นเหรอ? เอ...ไม่รู้สิ...เท่าที่รู้ก็เพิ่งตกจากสวรรค์ลงมาโผล่ตรงหน้าคุณนี่แหละ จุง ยุนโฮตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ

    แต่ไอ้เนื้อความนี่มันไม่ได้ดูสุภาพเรียบร้อยเหมือนกับน้ำเสียงเลยนะ!

    จ้ะ พ่อเทพบุตร! แจจุงพึมพำอย่างเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ยุนโฮเงี่ยหู

    หา? ว่าอะไรนะครับ? เขาถามเพราะไม่ได้ยินจริงๆ

    เปล๊า!

    แต่จะว่าไปผมก็คงตกลงมาไม่ถึงพื้นโลก เพราะหล่นลงมาเจอนางฟ้า ยุนโฮพูดต่อ

    ประโยคนี้เล่นเอาแจจุงอึ้งไปเลย

    อยู่ๆแจจุงก็รู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองร้อนราวกับโดนไฟรัก(?)แผดเผาขึ้นมาเสียเฉยๆ สายตาของเขาที่ตอนแรกสบอยู่กับดวงตาสีดำของยุนโฮ มาตอนนี้จึงต้องรีบหลบทันที

    ฉันไปล่ะ วิธีแก้เขินที่ดีที่สุดที่เขาจะนึกได้ตอนนี้ก็คือเผ่นไปจากที่ที่ไอ้หล่อนี่อยู่เสีย!

    อ้าวจะไปไหนล่ะครับ? ยุนโฮเดินตาม

    กลับบ้านน่ะสิถามได้! แหวเข้าให้ทั้งๆที่ยังก้มหน้างุดไม่เลิก หลังจากทานไอศกรีมเสร็จเขาก็แยกกับยูซอนและจุนซูเดินทะลุมหาลัยมาขึ้นรถทางด้านหน้าคนเดียว...จนมาซวยเดินเจอหมีหลงป่าที่ไม่ได้รับเชิญเข้านี่แหละ!

    ให้ผมไปส่งไหม?

    แจจุงสะอึกกับคำถามนั้นครู่หนึ่งก่อนจะตอบ ไม่ต้อง!

    แต่คุณยังติดความลับผมอยู่ข้อหนึ่งนา

    คนสวยขมวดคิ้ว ตอนแรกยังไม่เก็ท แต่แล้วเขาก็นึกได้

    ...อ๋อ...ไอ้เกมบ้าที่นายยุนโฮตั้งขึ้นน่ะเอง...

    ความล้งความลับอะไร!? ใครจะไปเล่นกับนายกัน!? เมื่อวานนายพูดเองเออเองชัดๆ! แล้วที่บอกว่านายเป็นดารานั่นมันเป็นความลับตรงไหน ไม่ใช่ความลับเสียหน่อย!

    ฮ่าๆๆๆ ก็คุณไม่รู้นี่ อีกอย่างคุณเป็นคนพูดเองว่าผม เก็บเรื่องนั้นเป็นความลับ เพราะฉะนั้นมันก็ต้องเป็นความลับสิ

    แจจุงอ้าปากพะงาบๆเถียงไม่ออก เขารีบจ้ำเดินให้เร็วขึ้นหวังจะให้อีกคนตามไม่ทัน

    นี่ เดินช้าๆหน่อยสิครับ ยุนโฮขอร้องเสียงนุ่ม

    ไม่! ฉันไม่เล่นเกมกับนายหรอก! นางฟ้าส่งเสียงแว้ด

    ฮ่าๆๆ โอเคไม่เล่นก็ไม่เล่น แต่คุณอยากรู้เรื่องของผมไม่ใช่เหรอ? งั้นผมยอมเสียเปรียบเล่นคนเดียวให้คุณรู้ความลับของผมคนเดียวก็ได้ ยุนโฮยังไม่ละความพยายาม

    ใครอยากรู้เรื่องของนายกัน!? ไอ้นี่มันตื๊อจริงเว้ย!!!

    จะไม่ให้ผมไปส่งจริงเหรอ? เปลี่ยนเรื่อง

    บอกว่าไม่ก็ไม่ไงเล่า! แจจุงยืนยันคำเดิม ฉันกลับเองได้น่ะฝนไม่ตกซักหน่อย!

    งั้นถ้าฝนตกผมก็ไปส่งคุณได้ใช่ไหม?

    แจจุงสะอึกอีกรอบ เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองเปิดช่องโหว่เบ้อเร้อเข้าให้เสียแล้ว

    ฉันไม่ได้พูดยังงั้นเฟ้ย!

    แต่คุณหมายความว่าอย่างงั้น ยุนโฮหัวเราะ งั้นวันนี้ผมไม่ไปส่งก็ได้ แต่ถ้าวันไหนฝนตกให้ผมไปส่งคุณละกันนะ พูดเองเออเอง

    ไม่จำเป็น! แจจุงร้องลั่น

    ไปยืนรอรถบัสมันก็เปียกน่าครับ ยังหว่านล้อม

    ไม่เป็นไรฉันยอมเปียก

    นั่งมาสเซอราติสบายๆไม่ชอบอีกแน่ะ

    ประโยคนั้นทำเอาเท้าของแจจุงหยุดเดินทันทีทันควันพร้อมกับทำตาโต

    ...หนอย...คิดว่าหล่อรวยเป็นดาราขับมาสเซอราติแล้วมันมีดีนักเรอะไงวะ!!??(เออดิ)

    ...แล้วนอกจากหล่อ รวย ขับมาสเซอราติแล้ว มันยังไม่วายกวนตีนอีกนะ...

    เออฉันไม่ชอบ โดยเฉพาะถ้าเป็นรถของนาย ยอมนั่งรถบัสยังดีซะกว่า! แจจุงเถียงขาดใจ

    คุณเนี่ยโกหกไม่เก่งเลยนะ โบแจ

    และนั่นก็ทำให้แจจุงเบิ่งตาตี่ๆของตัวเองให้โตเป็นไข่จระเข้ได้เป็นรอบที่ 8 ภายในเวลาไม่ถึง 5 นาที เขาหันขวับมามองคนข้างๆทันที ก็พบกับสายตาชวนเคลิ้มที่ยุนโฮส่งมายังเขาอยู่ก่อนแล้ว

    ...อย่าโง่ไปหลงสายตามันเชียวนะ!!!...

    นะ...นาย! นายรู้ชื่อเล่นของฉันได้ไง!? แจจุงแทบจะกรี๊ด

    ก็ได้ยินเพื่อนคุณพูด ยุนโฮยักไหล่ตอบ แล้วแจจุงก็คิดได้...ตอนอาหารกลางวัน ไอ้ยูซอนมันเรียกเขาด้วยชื่อนี้ตอนที่ยุนโฮนั่งอยู่พอดีนี่นา...

    ...ดันจำได้อีกนะไอ้หล่อ...

    ...อีกอย่าง ไอ้ประโยคที่ด่าว่า โกหกไม่เก่ง เนี่ย วันนี้เขาเจอมาสองรอบแล้วนะ!

    ทำไมวันนี้ถึงได้เจอแต่คนกวนประสาทวะ!!???

    ถ้าคุณไม่ให้ผมไปส่งที่บ้าน งั้นผมเดินไปส่งคุณที่หน้ามหาลัยแล้วกัน ยุนโฮต่อรอง

    ไม่ต้อง ส่งแค่นี้ก็เป็นพระมหากรุณาธิคุณใหญ่หลวงพอแล้ว! แจจุงว่าก่อนจะหันกลับไปจ้ำเดินต่อ

    ฮ่าๆๆ แจจุงนี่ดื้อนะ คนร่างสูงหัวเราะ แต่ก็ยังคงเดินตามอยู่ไม่ห่าง

    ฉันบอกให้ส่งแค่นี้พอไงเล่า! คนสวยส่งเสียงไล่เมื่อเห็นว่าอีกคนยังไม่ไป พูดด้วยภาษาโคเรียนนี่ไม่เข้าใจเรอะยังไงห๊ะ!? หมีสมัยศตวรรษที่ 21 นี่มันต้องพูดด้วยภาษาอะไรถึงจะเข้าใจ!?

    ยุนโฮยักไหล่อย่างไม่แยแส ก็ผมต้องเดินไปทางนี้พอดี อีกอย่างถึงคุณจะว่าไงผมก็ไม่สนใจอยู่แล้ว ก็ผมจะไปส่งนี่นา

    ...เจอลูกหน้าด้านแบบนี้แจจุงก็เถียงไม่ออกเลย ปากเรียวสวยอ้าพะงาบๆอยู่อย่างนั้น

    หะ...หน้าด้าน! คนเขาไล่แล้วยังไม่ไปอีก! โวยวายลั่น แต่ก็ดูเหมือนพ่อหมีสุดหล่อจะไม่สะทกสะท้านอะไรเลยจริงๆ

    ขอบคุณที่ชมครับ ทำความคุ้นเคยกับความหน้าด้านของผมเอาไว้นะ คุณต้องเจอกับมันอีกนานเลย แล้วเขาก็หัวเราะ

    ...ปล่อยให้คิม แจจุงอ้าปากพะงาบๆอย่างด่าไม่ถูกอยู่ต่อไป...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×