พลังหยุดโลก: ได้รับมุเก็น(ไร้ขีดจำกัด) ในการปลุกพลังในตอนเริ่มต้น(นิยายแปล)

ลำดับตอนที่ #43 : ตอนที่43 ทูคาคุจูโฮ(เทคนิคการโจมตีอัตรา)

แผนกวัสดุของสถาบันเมจิกซิตี้ มีขนาดใหญ่มากมันดูเหมือนห้างสรรพสินค้าและยังตกแต่งอย่างทันสมัยอีกด้วย

ในเวลานั้น มันเห็นไม่ชัดเจนเมื่อดูมันบนโทรศัพท์มือถือของเขา เมื่อเขาไปยืนอยู่หน้าแผนกวัสดุจริงๆ กู่ ฟาน ยังคงตกใจเล็กน้อย

“ฉันพูดได้เพียงว่าที่นี่คู่ควรกับการเป็น1ใน3สถาบัน”

กู่ ฟาน อุทานและเดินเข้ามา

ชั้นแรกของแผนกวัสดุเป็นห้องโถง ในห้องโถงใหญ่มีแผนกต้อนรับเพียงโต๊ะเดียว ทำให้ กู่ ฟาน ประหยัดแรงไปได้มาก

กู่ ฟาน มาที่แผนกต้อนรับ หยิบบัตรประจำตัวนักศึกษาของเขาออกมา และพูดว่า "ผมคือ กู่ ฟาน และผมมาเพื่อรับรางวัลการสมัครเข้าที่นี้"

อาจารย์ที่โต๊ะยิ้มและพูดว่า “เชิญตามมาทางนี้ได้เลยค่ะ”

.............

ในไม่ช้า กู่ ฟาน ก็ได้รับรางวัลการเข้าเรียนด้วยความพึงพอใจ ซึ่งได้แก่ หินวิญญาณ 3,000 ก้อน ทักษะระดับ SS อาวุธวิญญาณระดับ 2 และชุดเกราะวิญญาณระดับ 2

เนื่องมาจากข้อจำกัดของพลังพิเศษ กู่ ฟาน จึงมีทักษะเพียงเล็กน้อยที่เขาสามารถปรับใช้ได้ และทักษะระดับ SS ที่เขาสามารถเลือกได้นั้นมีน้อยมาก

ขณะที่ กู่ ฟาน กำลังติดอยู่กับการตัดสินใจอันขมขื่น ระบบก็แจ้งเตือนขึ้นมาว่า:

“ติ๊ง ฟังก์ชั่นเปลี่ยนทักษะเปิดใช้งานแล้ว!”

“ฟังก์ชั่นเปลี่ยนทักษะ นี่คืออะไร?”

กู่ ฟาน ถึงกับตกตะลึงในจุดนั้น

“ข้อมูล การเปลี่ยนแปลงทักษะสามารถแปลงทักษะในโลกปัจจุบันเป็นไสยเวทย์ ทักษะที่ถูกแปลงเป็นไสยเวทย์จะเป็นแบบสุ่มและจะผันผวนหนึ่งระดับเหนือหรือต่ำกว่าระดับทักษะที่ใช้แปลง”

ระบบตอบกลับไปแล้ว.

“อีกนัยหนึ่งคือ ฉันเลือกทักษะระดับ SS แบบสุ่ม จากนั้นผ่านฟังก์ชั่นเปลี่ยนทักษะ ทักษะระดับ SS ของฉันจะถูกแปลงแบบสุ่มและอาจจะได้เป็นไสยเวทย์ระดับ S ถึงระดับ SSS ใช่หรือไม่”

กู่ ฟาน ถามด้วยความสงใส

"ถูกต้อง"

เสียงของระบบดังขึ้นอีกครั้ง

“โอ้ ฟังก์ชั่นนี้ดี!”

กู่ ฟาน เริ่มสนใจขึ้นมาทันใด เขากำลังกังวลอยู่เลยว่าจะเลือกทักษะอะไรดี

ไม่ใช่ว่าทักษะระดับ SS ของสถาบันเมจิกซิตี้นั้นไม่ดี แต่เป็นเพราะมันไม่เข้ากันกับเขาและเขาก็ไม่รู้ว่าควรจะเลือกแบบใหนดี

ฟังก์ชันการเปลี่ยนทักษะใหม่ของระบบถูกสร้างขึ้นมาสำหรับเขาโดยเฉพาะ

ไม่ใช่แค่ครั้งนี้เท่านั้น หากเขาได้รับทักษะที่ไม่สามารถใช้ได้อีกในอนาคต เขาก็สามารถใช้ฟังก์ชันเปลี่ยนทักษะนี้เพื่อเปลี่ยนทักษะเหล่านั้นให้กลายเป็นไสยเวทย์ที่สามารถใช้งานได้

“ติ๊ง คุณอยากเปลี่ยนทักษะของคุณใช่หรือไม่?”

หน้าต่างแจ้งเตือนระบบจะปรากฎขึ้นมา

"ใช่!"

กู่ ฟาน ยัดทักษะระดับ SS ที่เพิ่งถูกเลือกใหม่เข้าไปในระบบโดยไม่ลังเล ทักษะระดับ SS นั้นไม่มีประโยชน์สำหรับเขาอยู่แล้ว

หากเขาได้ไสยเวทย์ระดับ S รับรองว่าได้ของดีแน่นอน หากเขาได้ไสยเวทย์ระดับ SS เขาจะโชคดีมากมายและหากเขาได้ไสยเวทย์ระดับ SSS เขาก็จะโคตรโชคดี!

“ติ๊ง กำลังเปลี่ยนทักษะ กรุณารอสักครู่...”

“ติ๊ง การเปลี่ยนทักษะสำเร็จแล้ว!”

"ขอแสดงความยินดีกับเจ้าภาพที่ได้รับทูคาคุจูโฮ(เทคนิคการโจมตีอัตรา!)"

ระบบได้อธิบายออกมาว่า

[ทูคาคุจูโฮ]: หลักการทำงานก็คือการแบ่งเป้าหมายหรือศัตรูของเขาด้วยเส้นตรง เส้นที่แบ่งออกมาจะแบ่งเป็น 10 ส่วน บังคับสร้างจุดอ่อนที่อัตราส่วน 7:3 และกำหนด ‘จุดอ่อน’ ของศัตรู จากนั้นก็บังคับการโจมตีโดยมุ่งเน้นไปที่จุดอ่อนของศัตรูตามอัตราส่วนที่แบ่งออกมา ซึ่ง ทูคาคุจูโฮ นั้นสามารถสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับคู่ต่อสู้ สามารถทำให้ศัตรูถูกฟันขาดเป็นท่อนได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว

แม้แต่ศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าผู้ใช้ก็ยังสามารถสร้างความเสียหายได้ในระดับหนึ่ง ส่วนใด ๆ ก็สามารถกำหนดให้เป็นเป้าหมายของการโจมตีได้ และยังมีประสิทธิผลต่อวัตถุอื่นๆ นอกเหนือจากสิ่งมีชีวิตอีกด้วย

“ทูคาคุจูโฮเหรอ? ฉันจำได้ว่านี่เป็นเทคนิคไสยเวทย์ของนานามิ เคนโตะ และเป็นระดับ S ด้วย”

แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับไสยเวทย์ระดับ SS แต่ กู่ ฟาน ก็ไม่ผิดหวัง เพราะถึงอย่างไร ไสยเวทย์ทูคาคุจูโฮนี้ก็เหมาะกับเขาดีทีเดียว

ความแข็งแกร่งของคาถาไสยเวทย์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับระดับเสมอไป ไสยเวทย์เดียวกันจะทำให้ผู้คนรู้สึกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเมื่อใช้โดยบุคคลที่แข็งแกร่งและโดยบุคคลที่อ่อนแอ

เรียกได้ว่าไม่มีไสยเวทย์ใดที่ยากต่อการใช้ มีเพียงผู้ใช้ไสยเวทย์เท่านั้นที่ไม่สามารถใช้เทคนิคไสยเวทย์เหล่านั้นได้ สุคุนะ ราชาแห่งคำสาป สามารถจัดการทุกคนได้ด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว

หลังจากจัดการปัญหาเรื่องทักษะเรียบร้อยแล้ว กู่ ฟาน ก็เลือกอาวุธวิญญาณระดับ 2 และเกราะวิญญาณระดับ 2 ตามใจชอบ เพราะถึงอย่างไรก็ไม่จำเป็นต้องใช้สิ่งเหล่านี้

ราคาอาวุธวิญญาณระดับ 2 และเกราะวิญญาณระดับ 2 อยู่ที่ประมาณ 500,000 เหรียญ ต้าเซีย ซึ่งรวมเป็น 1 ล้านเหรียญ ต้าเซีย ซึ่งเท่ากับ 50 คะแนน

หลังจากรวบรวมสิ่งของทั้งหมดแล้ว กู่ ฟาน ก็กล่าวลากับอาจารย์ที่โต๊ะหน้าและออกจากแผนกวัสดุ

เนื่องจากเป็นช่วงบ่ายแล้ว กู่ ฟาน จึงแวะไปที่โรงอาหารขณะเดินทางกลับเพื่อกินอาหารเย็น

ไม่น่าแปลกใจเลยที่อาหารที่นี่อร่อยมาก นอกจากอาหารรสเลิศตามปกติแล้ว ยังมีเนื้อของสัตว์ร้ายอีกด้วย

ไม่ต้องพูดถึงสิ่งอื่นใด ปูขนยาวสามเมตรทำให้ กู่ ฟาน มองดูอย่างว่างเปล่า

ในโรงอาหารของสถาบันเมจิกซิตี้ อาหารธรรมดาๆ จะมีบริการให้ฟรี แต่อาหารแบบรสเลิศนัเนจะต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง

ระบบนี้มีความน่าสนใจมาก มันเทียบเท่ากับการใช้สัตว์กินเนื้อที่ทำกำไรมหาศาลมาอุดหนุนอาหารจานธรรมดา เพื่อให้นักเรียนที่มีความสามารถทางการเงินไม่ดีได้กินฟรี

มีเหตุผลว่าทำไมอาหารที่ทำจากสัตว์ร้ายถึงมีราคาแพง เพราะเนื้อของสัตว์ร้ายมีพลังวิญญาณ แม้ว่าเนื้อของสัตว์ร้ายระดับต่ำจะไม่มีพลังวิญญาณมากนัก แต่การกินมันก็ยังดีกว่าไม่ได้กินเลย

หากคุณกินเนื้อสัตว์ร้ายเป็นเวลานานก็อาจส่งผลในการเพิ่มพลังจิตวิญญาณของคุณได้

“จะเลือกอาหารธรรมดาหรือจะเลื่อเนื้อสัตว์ร้ายดีนะ?”

กู่ ฟาน ครุ่นคิดสักครู่แล้วเลือกอาหารธรรมดา ไม่ใช่ว่าเพราะเขา ไม่สามารถซื้ออาหารมื้อใหญ่ได้ แต่เป็นเพราะว่าอาหารธรรมดาจะคุ้มค่ากว่า

หลังจากได้รับอาหารเสร็จแล้ว กู่ ฟาน ก็พบที่นั่งว่างนั่งลง แต่ก่อนที่เขาจะได้กินก็มีเสียงที่ทำให้น่ารำคาญดังขึ้นมา

“แม้แต่ผู้ที่ได้อันดับหนึ่งในมณฑลเจียงเป่ยก็ไม่มีเงินที่จะซื้ออาหารดีๆ ทานสักมื้อหรือไง”

“โอ้ ฉันจำได้แล้ว คุณดูเหมือนจะเกิดที่เมืองบ้านนอก ขอโทษ ขอโทษ!”

กู่ ฟาน ขมวดคิ้วและมองไปข้างหน้า

ฉันเห็นชายหนุ่มแต่งตัวหรูหราคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามเขา จานอาหารของชายหนุ่มเป็นอาหารจานใหญ่ที่แพงที่สุดในโรงอาหาร ใบหน้าของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความภูมิใจ และเขากล่าวว่าเขาขอโทษ แต่ไม่มีท่าทีจะขอโทษแต่อย่างใด

"แม่ง แม้แต่ตอนจะกินข้าวแกก็อยากจะโดนตีรึไง!"

กู่ ฟาน โกรธขึ้นมาทันที ชี้ไปที่ชายหนุ่มแล้วด่าว่า: "ไอ้โง่ แกมาจากไหนกันวะ แกกำลังมองหาเรื่องเดือดร้อนใช่มั้ย ถ้าแกไม่อยากมีชีวิต ก็พูดมาเลย!"

ชายหนุ่มที่แต่งตัวสวยงามคนนี้มีชื่อว่า ซู่เฉาหลง ลูกชายคนโตที่มีชื่อเสียงในเมืองเมจิกซิตี้ พ่อของเขาเป็นประธานของซู่กรุ๊ปและมีอิทธิพลมากในพื้นที่ในเมืองเมจิกซิตี้นี้

ซู่เฉาหลงตกใจกับการระเบิดอารมณ์อย่างกะทันหันของกู่ฟาน เขาไม่เคยคิดเลยว่ากู่ฟานจะมีอารมณ์ร้ายได้ขนาดนี้เพราะคนที่มาจากเมืองเล็กๆ มักจะเชื่อฟังเขามาก ทำไมกู่ฟานถึงดื้อรั้นขนาดนี้เพราะเขาเป็นผู้ที่ได้อันดับหนึ่งในมณฑลเจียงเป่ยทำให้เขามีความกล้าเหรอ ?

“นี่คือผู้ที่ได้อันดับหนึ่งของมณฑลเจียงเป่ยใช่หรือไม่หยาบคายจริง”

ใบหน้าของซู่เฉาหลงเริ่มมืดมนลง

"ฉันไม่จำเป็นต้องสุภาพเมื่อคุยกับคนโง่!"

กู่ ฟาน ตอบกลับอย่างเย็นชา

“คุณ คุณ……”

ซู่เฉาหลงยืนขึ้นด้วยความโกรธ ร่างกายของเขาสั่นสะท้านไปหมด และใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดง

เขาเติบโตมาด้วยการมีแต่คนเชื่อฟัง วันนี้เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นใครกล้าพูดจาเช่นนี้กับเขา

“กู่ ฟาน คุณมีปัญหาใหญ่แล้ว คุณกล้าทำให้คุณซู่ โกรธเหรอ คุณรู้ไหมว่าเขาเป็นใคร ถารู้ล่ะก็มันคงจะทำให้คุณกลัวจนตัวสั่น เขาคือทายาทคนต่อไปของตระกูลซู่!”

“เอาล่ะ คุกเข่าลงแล้วขอโทษนายน้อยซู่ นายน้อยซู่มีความเมตตา บางทีนายน้อยอาจจะให้อภัยคุณก็ได้!”

ในขณะนี้ ซ่งชง ลูกน้องของซู่เฉาหลง กระโดดออกมา มองไปที่กู่ฟานด้วยท่าทางอวดดีและพูดออกมา

*โปรดติดตามตอนต่อไป*Ratio Technique ทูคาคุจูโฮ(เทคนิคการโจมตีอัตรา)