ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พลังหยุดโลก: ได้รับมุเก็น(ไร้ขีดจำกัด) ในการปลุกพลังในตอนเริ่มต้น(นิยายแปล)

    ลำดับตอนที่ #18 : ตอนที่18 นี่คือ...อนันต์ใช่ไหม?

    • อัปเดตล่าสุด 10 ส.ค. 67


    "ทำไมถึงไม่มีรอยอะไรเลย?"

    เหอเหวยเจี๋ยขมวดคิ้ว

    ร่างกายของ กู่ ฟาน สะอาดมากไม่มีร่องรอยของการต่อสู้กับสัตว์ร้ายเลย

    “คุณถามว่าทำไมถึงไม่มีรอยอะไรเลยงั้นหรอ?”

    “โอ้ เดี๋ยวฉันจะอธิบายในสิ่งที่คุณถามให้ฟังเอง!”

    เดิมที กู่ ฟาน ตั้งใจจะไปเลยแต่เขาไม่มีอะไรทำ ดังนั้นเขาจึงหันไปมอง เหอ เหว่ยเจี๋ยแลัวอธิบาย:คุณรู้จักปฏิทรรศน์ของซีโนรึเปล่ามันคืออคิลลิสกับเต่าหรือก็คือ(อนันต์) "อคิลลิสไม่สามารถวิ่งไล่ทันเต่าได้"

    “มันหมายความว่าอะไรกัน?”

    เหอ เหว่ยเจี๋ยขมวดคิ้วลึกขึ้น

    “โอ้~นายน้อยจากเกียวโตไม่รู้เรื่องนี้หรือ? นี่ไม่ดีเลยนะ ทำไม่ถึงไม่ตั้งใจเรียนขนาดนี้!”

    กู่ ฟาน ส่ายหัวและถอนหายใจ

    “เลิกโกหกได้แล้ว!”

    เหอ เหว่ยเจี๋ยจ้องไปที่กู่ฟานแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: "กู่ ฟาน ฉันรู้ว่าคุณโกงการทดสอบ คุณคิดจริงๆ เหรอว่าฉันจะไม่รู้?"

    “โกงเหรอ? ฉันโกงตรงไหนกัน?”

    กู่ ฟาน ถามอย่างมีเลศนัย

    โอเค ฉันโกงจริงๆ ด้วยการเปิด มุเก็น

    "ฮ่าๆ คุณยังไม่ยอมรับว่าโกงสินะ!"

    "เหตุผลที่คุณอยู่อันดับที่1ต้องเป็นเพราะคุณใช้อาวุธวิญญาณระดับสองอย่างผิดกฎหมาย!"

    “ร่างกายของคุณสะอาดมากเกินไปไม่มีร่องรอยของเลือดเลย พูดอีกอย่างก็คือ คุณยังใช้เกราะวิญญาณระดับสองโดยฝ่าฝืนกฎระเบียบอีกด้วย!”

    เหอ เหว่ยเจี๋ยกล่าวด้วยความเหยียดหยาม

    “ฮ่าๆ คุณนี่มันตลกจริงๆ!”

    กู่ ฟาน รู้สึกขบขันทันที และแววตาของเขาที่มีต่อ เหอ เหว่ยเจี๋ย ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน กลายเป็นแววตาที่มีแต่ความห่วงใย:

    “เหอ เหว่ยเจี๋ย ฉันเป็นเด็กบ้านนอกอย่างที่คุณเรียก ฉันจะไปมีเงินซื้ออาวุธวิญญาณระดับสองและเกราะวิญญาณระดับสองได้ยังไง”

    “นอกจากนี้ การสอบเข้าวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ยังถ่ายทอดสดอีกด้วย แม้ว่าฉันจะมีอาวุธวิญญาณระดับสองและเกราะวิญญาณระดับสอง ตราบใดที่ฉันใช้มัน ผู้คุมสอบก็จะมาหาฉันทันที คุณคิดว่าโดรนเหนือหัวของคุณเป็นแค่ของตกแต่งเท่านั้นหรือ”

    “นี่ นี่……”

    เหอ เหว่ยเจี๋ยลังเลและไม่สามารถพูดอะไรดีๆ ได้เลยเป็นเวลานาน

    จู่ๆ เขาตระหนักได้ว่าสิ่งที่ กู่ ฟาน พูดนั้นสมเหตุสมผล

    อาวุธวิญญาณระดับสองและเกราะวิญญาณระดับสองมีราคาแพงมากและครอบครัวทั่วไปไม่สามารถซื้อได้

    ตอนนี้โดรนในท้องฟ้ากำลังบินวนเวียนและเฝ้าติดตามอยู่ตลอดเวลา

    หาก กู่ ฟาน โกงจริงๆ เขาคงโดนผู้คุมสอบจับได้และคะแนนของเขาจะถูกยกเลิกทันที แต่เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้น ซึ่งหมายความว่า กู่ ฟาน ไม่ได้โกง

    แต่ถ้าเขาไม่ได้โกงแล้ว กู่ ฟาน จะทำได้ยังไง? หรือว่าเขาจะใช้พลังของตัวเองจริงๆ?

    เหอ เหว่ยเจี๋ยรู้สึกสับสน

    กู่ ฟาน ไม่สนใจเหอ เหว่ยเจี๋ย และหันหลังเดินไปทางสะพานที่พังทลาย หากพูดอะไรมากกว่านี้กับผู้ชายคนนี้ IQ ของเขาคงจะลดลงแน่นอน

    “เฮ้ คุณจะไปที่ใจกลางเหรอ?”

    เหอ เหว่ยเจี๋ยถาม

    กู่ ฟาน ไม่ตอบแต่เดินตรงไปข้างหน้า เดินไปที่ขอบสะพานที่พัง กระโดดลงไปและกล่าวว่า
    "คุณชายจากเกียวโต คุณจะตามฉันมาได้หรือเปล่านะ?"

    “คุณ...คุณกล้าดียังไงมามองฉันแบบนั้น!”

    เหอ เหว่ยเจี๋ยกัดฟันด้วยความโกรธและเดินอย่างรวดเร็วไปที่สะพานที่พัง

    ใต้สะพานที่พังนั้นมีแม่น้ำอยู่ และอีกฝั่งของแม่น้ำนั้นมีหนองน้ำที่เต็มไปด้วยต้นไม้ ซึ่งเป็นพื้นที่ใจกลางของเมืองร้างแห่งนี้

    เดิมทีเหอ เหว่ยเจี๋ยคิดว่ากู่ ฟานจะซ่อนตัวอยู่ใต้น้ำ แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง กู่ ฟานเดินอยู่บนน้ำราวกับว่าเขากำลังเดินอยู่บนพื้นดินที่ราบเรียบ

    “เฮ้ เกิดอะไรขึ้นกันทำไมคุณเดินบนน้ำได้!”

    สมองของเหอ เหว่ยเจี๋ยหยุดทำงานทันที ตั้งแต่เขาได้พบกับกู่ฟาน เขาไม่รู้ว่าจะเขียนคำว่า "สามัญสำนึก" อย่างไรดี

    “ฉันไม่อยากจะอธิบายเรื่องนี้ซ้ำอีกแล้ว”

    กู่ ฟาน กล่าวอย่างใจเย็น

    "แม่ง!"

    เมื่อเห็น กู่ ฟาน เดินห่างออกไปเรื่อยๆ หัวใจของ เหอ เหวายเจี๋ย ก็เต้นแรงขึ้นและกระโดดลงไป

    ทันทีที่เขากระโดดลงมา เหอ เหว่ยเจี๋ยก็รู้สึกเสียใจ

    สัตว์ร้ายก็มีอยู่ในแม่น้ำเช่นเดียวกับบนบก ส่วนใหญ่เป็นปลา เมื่อได้รับพรจากน้ำ พวกมันก็จะดุร้ายมากขึ้น

    ยกเว้นผู้ที่ใช้แห่งน้ำ ประสิทธิภาพการต่อสู้ของผู้ใช้พลังอื่นๆ จะลดลงอย่างมากเมื่ออยู่ในน้ำ

    กรณีนี้เกิดขึ้นกับเหอ เกว่ยเจี๋ยเช่นกันหอกของเขาหนักถึง 50 กิโลกรัม ในแม่น้ำที่เชี่ยวกรากเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เขาจะหลีกเลี่ยงการจมลงได้

    หากเขาเผชิญกับสัตว์ร้ายละก็ ไม่ต้องพูดถึงสัตว์ร้ายงระดับ 1ขั้นสูงเลยแม้แต่ สัตว์ร้ายระดับ 1 ขั้นกลางก็สามารถฆ่าเขาได้

    ฟู่!

    ทันใดนั้น ละอองน้ำจำนวนมหาศาลก็พุ่งออกมาจากแม่น้ำข้างหน้า และปลาคาร์ปตัวใหญ่ที่มีความยาวหลายเมตรก็กระโดดขึ้นมาจากน้ำและกัด กู่ ฟาน ที่กำลังเดินอยู่บนแม่น้ำ

    “นี่ มันเป็นสัตว์ร้ายระดับ1เกียราดอสกู่ฟานกำลังจะถูกมันกิน!” (ไรท์:ไปเลยเกียราดอส)

    เหอ เหว่ยเจี๋ยตะโกนด้วยความกังวล

    ไม่ใช่ว่าเขากังวลเกี่ยวกับ กู่ ฟาน แต่เขารู้ว่าหลังจากที่เกียราดอสกิน กู่ ฟาน แล้ว เป้าหมายต่อไปจะต้องเป็นเขาแน่นอน

    เขาคงจะชนะได้ถ้าเขาอยู่บนฝั่งแต่ตอนนี้ที่เขาอยู่ในน้ำและเคลื่อนไหวได้อยาก เขาไม่มีพลังพอที่จะต่อสู้กับ เกียราดอส ได้ ภายในไม่กี่นาที เขาคงจะถูก เกียราดอสกินไปอย่างแน่นอน

    “นี่มัน…ทำไมมันหยุดอยู่กับที่?”

    ดวงตาของเหอ เหว่ยเจี๋ยเบิกกว้าง และฉากที่น่าประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา——

    เขาเห็น กู่ ฟาน ยืนตัวตรงอยู่บนน้ำเกียราดอสตัวใหญ่กว่ารถเปิดปากที่เต็มไปด้วยเลือดและพยายามกลืน กู่ ฟาน ทั้งตัวจากด้านข้าง

    แต่เกียราดอสก็ล้มเหลว ไม่ว่ามันจะพยายามแค่ไหน ปากของมันก็ปิดไม่ได้

    เขี้ยวที่น่ากลัวของมันกำลังสัมผัสชุดต่อสู้ของ กู่ ฟาน อย่างชัดเจน แต่มันไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้แม้แต่ก้าวเดียว

    “ไม่ มันไม่ได้หยุด นี่ไม่ใช่การหยุด ถึงแม้ว่าความเร็วจะช้ามาก แต่ปากของเกียราดอสยังคงปิดอยู่อย่างช้าๆ…”

    "มันช้ามาก ช้าอย่างมากถึงมากที่สุด ยากที่จะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่มันก็ไม่ได้หยุด..."

    เหอ เหว่ยเจี๋ยมองไปที่ฉากตรงหน้าอย่างว่างเปล่าและพึมพำกับตัวเอง

    ทันใดนั้น เขาก็จำได้ว่า กู่ ฟาน พูดว่า(อนันต์)คืออคิลลิส ไล่ตามเต่า

    ในชั้นเรียนคณิตศาสตร์ เขาฟังครูพูด

    ความเร็วของอคิลลิสนั้นว่ากันว่าเร็วกว่าเต่า 10 เท่า แต่เขาไม่สามารถไร่ตามเต่าได้ทันอยู่ดี นั่นเป็นเพราะระยะห่างระหว่างอคิลลิสกับเต่านั้นไม่มีที่สิ้นสุด

    “นี่คือ...อนันต์ใช่ไหม?”

    เหอ เหว่ยเจี๋ยดูเหมือนจะเข้าใจนิดหน่อยแล้ว

    ปากของเกียราดอสเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา แต่ระยะห่างระหว่างมันกับกู่ ฟานนั้นไม่มีที่สิ้นสุด ดูเหมือนว่าจะใกล้มาก แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่สามารถเข้าใกล้ได้

    ความสามารถในการเดินบนน้ำของ กู่ ฟาน ก็ได้รับการอธิบายเช่นกัน จริงๆ แล้ว กู่ ฟาน จมน้ำลงอยู่ตลอดเวลา แต่ระยะเวลาในการจมนั้นไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้นดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้จมน้ำอยู่

    นี่คือพลังพิเศษของ กู่ ฟาน ที่ อนันต์(ไม่มีขีดจำกัด)!

    "กาเหว่า!"

    เกียราดอสเริ่มดุร้ายมากขึ้น ร่างกายของมันพลิกตัวอย่างรุนแรง และมันเพิ่มแรงกัดให้แรงขึ้น

    อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ล้วนไร้ประโยชน์ ไม่ว่าเกียราดอสจะกัดแรงแค่ไหน มันก็ไม่สามารถกินกู่ฟานได้

    “นี่กัดแบบนี้ ไม่เหนื่อยบ้างเหรอ”

    กู่ ฟาน เงยหน้าขึ้นมองดวงตาปลาที่น่ากลัวซึ่งใหญ่กว่าลูกบาสเก็ตบอล แล้วก็ชกออกไป

    บูม!

    เกียราดอสระเบิดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยตั้งแต่หัว เกล็ดปลาและเลือดร่วงลงมาเหมือนหยดน้ำฝน ผิวน้ำถูกย้อมด้วยเลือดสีแดง และกลิ่นคาวปลาก็ยังคงอยู่เป็นเวลานาน(ไรท์:ไม่น้า~เกียราดอส)

    "ติ๊ง ฆ่า เกียราดอส สำเร็จแล้วได้รับ แต้ม +12!"

    เสียงแจ้งเตือนจากระบบดังขึ้น

    "หมัดเดียว...ฆ่า เกียราดอส เขาฆ่าเกียราดอสระดับ1ขั้นสูงทันทีด้วยหมัดเดียวเหรอ?"

    เหอ เหว่ยเจี๋ยตกตะลึงจนพูดไม่ออก เขาฆ่าสัตว์ร้ายตัวนั้นด้วยมือเปล่า นี่มันพลังอะไรกันเนี่ย!

    “เดี๋ยวนะ...ด้วยกำปั้นเหรอ?”

    ตอนนี้เองที่ เหอ เหวายเจี๋ย ตระหนักได้ว่ากู่ ฟาน ต่อสู้ด้วยหมัดของเขา ซึ่งหมายความว่า กู่ ฟาน ไม่มีแม้แต่อาวุธ ไม่ต้องพูดถึงอาวุธวิญญาณระดับสองที่เขาจินตนาการไว้เลย

    *โปรดติดตามตอนต่อไป*

    เอาล่ะมาเข้าสู่ช่วงเรียนรู้ความรู้เกี่ยวกับพลังของโกโจคล่าวๆเขียนไว้เฉยๆจะอ่านก็ได้นะ


    ปฏิทรรศน์นี้จะเป็นการอ้างเหตุผลแบบเดียวกันกับปฏิทรรศน์ของการแบ่งเป็นสอง หากแต่ต่างกันที่ไม่ได้มีการแบ่งสิ่งต่างๆ ออกเป็นครึ่งหนึ่ง โดยรูปแบบข้ออ้างเหตุผลของปฏิทรรศน์นี้จะเป็นดังนี้

    1) ในการที่จะวิ่งไล่ทันเต่าได้ อคิลลิสต้องไปให้ถึงจุดที่เต่าเริ่มต้นออกตัวก่อนเสมอ

    2) จุดเริ่มต้นที่เต่าออกตัวมีจำนวนที่ไม่จำกัด

    3) เป็นไปไม่ได้ที่จะทำการกระทำที่มีจำนวนไม่จำกัดในเวลาที่จำกัด

    4) ดังนั้น อคิลลิสไม่สามารถวิ่งไล่ทันเต่าได้

    อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาในข้อเขียนของอริสโตเติลให้ดี (Physics 239b14) จะพบว่าการตีความข้างต้นไม่ถูกต้อง อริสโตเติลกล่าวไว้เพียงว่า “ผู้ที่วิ่งช้ากว่าจะไม่มีทางถูกไล่ทันได้โดยผู้ที่วิ่งเร็วที่สุด เพราะในลำดับแรกผู้ที่ไล่ตามจะต้องไปให้ถึงจุดที่ผู้ถูกตามจากไปเสียก่อน อันทำให้ผู้ที่วิ่งช้ากว่านำหน้าอยู่เสมอ” ทั้งนี้โดยไม่มีการกล่าวถึงจำนวนที่ไม่จำกัดของจุดเริ่มต้นออกตัว หรือความเป็นไปไม่ได้ของการทำการกระทำที่มีจำนวนไม่จำกัดแต่อย่างใด หัวใจสำคัญของปฏิทรรศน์จึงอยู่ที่คำว่า “เสมอ” (always) และ “ไม่มีทาง” (never) ซึ่งจะนำไปสู่ข้ออ้างเหตุผลในรูปแบบที่ต่างไปจากเดิม ดังนี้

    1) อคิลลิสวิ่งไล่ทันเต่าเมื่อเขาไปถึงจุดที่เต่าอยู่

    2) ในแต่ละครั้ง ก่อนที่จะวิ่งไล่ทันเต่าได้ อคิลลิสต้องไปให้ถึงจุดที่เต่าเริ่มต้นออกตัวก่อน

    3) เมื่ออคิลลิสไปถึงจุดที่เต่าเริ่มต้นออกตัว เต่าก็ได้เคลื่อนที่นำหน้าไปแล้ว

    4) ดังนั้น เต่าจึงอยู่ในระยะที่นำหน้าอคิลลิสอยู่เสมอ (จากข้ออ้าง 2 และ 3)

    5) ดังนั้น อคิลลิสจึงไม่มีทางวิ่งไล่ทันเต่าได้ (จากข้ออ้าง 4)


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×