ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KHR] 1869 วิญญาณสื่อรัก [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 : คำโกหก (1)

    • อัปเดตล่าสุด 26 มี.ค. 54


    Chapter 1 : คำโกหก  (1)

     

    ณ โรงเรียนรัตติกาลอมตะห้องม.2/2

              เทอม 2 แล้วนะพวกเธอ เชื่อฟังครูซะบ้างสิ ไปนั่งที่ได้แล้ว!!”

              โห่ครู วันนี้เปิดเทอมวันแรก ขอพวกเราทักทายกันหน่อยสิ…”เด็กนักเรียนชายคนหนึ่งพูดขึ้นก่อนจะหันไปคุยกับเพื่อนของตนต่อ

              เออๆวันนี้ชั้นยอมก็ได้ เอาล่ะ!เทอม 2 นี้มีนักเรียนหน้าตาน่ารักมาเข้าเรียนที่นี่ พวกเธออยากเจอเค้ามั้ย?

              น่ารักจริงๆหรอครู ไม่ใช่หลอกให้พวกเราดีใจหรอกนะ

              นักเรียนใหม่จะสวยสู้พวกหนูได้หรอค่ะครู เนอะพวกเรา

              เน้อออ~~เด็กสาวอีก 3-4 คนตอบรับผู้เป็นหัวหน้ากลุ่ม

              ไม่รู้สินะ พวกเธอก็ยลโฉมของเค้าเองแล้วกันนะ   Come in

              อาจารย์สุมารีอายุประมาณ 40 ปี เรียกนักเรียนคนใหม่ให้เดินเข้ามาภายในห้องเรียนนั้น   และทุกคนก็ต้องตกตะลึงเมื่อบุคคลที่เข้ามานั้น มีผมที่น้ำเงินพลิ้วไหว ดวงตา 2 สีน้ำเงินและแดง กับใบหน้าที่หวานสวยของคนๆนั้น

              เด็กคนนี้ชื่อว่า โรคุโด  มุคุโร่ เป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น จะมาเรียนที่นี่เป็นต้นไปนะ

              ว้าว!ถ้างั้นห้องเราก็มีเด็กลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น 2 คนแล้วสิครับเด็กชายร่างสูงคนหนึ่งลุกขึ้นพูดกับครู

              อ้อนั้นสินะ ถ้าอย่างนั้น ฮิบาริช่วยดูแลมุคุโร่ทีนะ

              เข้าใจแล้วครับ

              แล้วตกลงนี่ผู้หญิงผู้ชายอ่ะครับ

              ดูจากเครื่องแบบคงไม่รู้สินะ เพราะว่าเด็กลูกครึ่งที่โรงเรียนนี้มีเครื่องแบบต่างกับนักเรียนธรรมดา เด็กคนนี้เป็นผู้ชายทั้งกายและใจ เพราะงั้นผู้ชายคนไหนที่แอบชอบอยู่ก็เสียใจด้วยนะ

              โห่……!!”เด็กนักเรียนชายต่างพากันร้องโห่ทั้งห้องเมื่อรู้ว่ามุคุโร่เป็นผู้ชาย และมุคุโร่เองก็เหมือนจะเข้าใจความหมายอยู่บ้างจึงได้หัวเราะออกมาเบาๆ

     

     

              เอ่อYou sat with him! He will take care of her. When you is here. What was he at the same consultant. [เธอไปนั่งกับเค้าสิ! เค้าจะช่วยดูแลเธอ เวลาที่เธออยู่ที่นี่ มีอะไรก็ปรึกษาเค้าแล้วกัน]”คุณครูหันมาพูดกับมุคุโร่เป็นภาษาอังกฤษเพราะเข้าใจว่ามุคุโร่เพิ่งมาอยู่ที่ประเทศไทย จึงไม่น่าจะพูดภาษาไทยได้มากเท่าไร

              Understand offline. [เข้าใจแล้วครับ]”มุคุโร่ยิ้มตอบรับ ก่อนจะเดินไปหาฮิบาริที่นั่งอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่างท้ายสุดของห้อง

              ถ้าตรงไหนที่มุคุโร่เค้าไม่เข้าใจ ยังไงฮิบาริช่วยแปลให้เค้าฟังด้วยนะ

              ครับฮิบาริตอบรับก่อนจะหันไปมองหน้าของมุคุโร่ ใบหน้ายามจ้องมองอะไรบางอย่างนั้นก็สวยไม่แพ้ใบหน้ายามปกติ

              ถ้าอย่างนั้นเรามาเริ่มเรียนก็ได้แล้วล่ะ! เอาหนังสือภาษาไทยขึ้นมา เรียนไปถึงไหนแล้ว…”คุณครูเริ่มสอน แต่มุคุโร่ก็ไม่ได้สนใจที่ครูสอนและไม่สนใจที่ฮิบาริแปลให้ฟัง กลับชวนฮิบาริคุย

              (ภาษาญี่ปุ่น)คุณน่ะ นามสกุลฮิบาริสินะครับ แล้วชื่อล่ะครับ

              (ภาษาญี่ปุ่น)เวลาเรียนไม่ใช่เวลามาถามชื่อ

              (ภาษาญี่ปุ่น)ต่อให้ถึงเวลาพัก คุณก็คงไม่ตอบผมสินะครับ ทั้งๆที่ผมอยากทำความรู้จักด้วยแท้ๆ

              (ภาษาญี่ปุ่น)แต่ชั้นไม่ได้อยากรู้จักนาย ชั้นทำตามหน้าที่

              ไม่ต้องแปลให้ผมหรอกครับ ผมก็ฟังและพูดได้เหมือนกันครับมุคุโร่พูดเป็นภาษาไทยด้วยเสียงที่คล้ายเสียงกระซิบเพื่อไม่ให้คนทั้งห้องได้ยิน พร้อมกับส่งรอยยิ้มหวานให้กับฮิบาริ

              ถ้างั้นทำไมนายถึงไม่บอกครูเค้าล่ะ ทำไมจะต้องมาเป็นภาระชั้นด้วย

              เพราะว่าผมชอบคุณไงล่ะครับ อีกอย่าง…”

              อีกอย่าง?ฮิบาริทวนคำปริศนาของมุคุโร่ซ้ำอีกครั้ง

              “…คุณนั่งดูอยู่ไม่ใช่หรือครับ เด็กสาวเลือดโชกที่ยืนอยู่มุมห้องด้านขวาในห้องนี้น่ะครับมุคุโร่ว่าพลางมองไปทางเด็กสาวผมสั้นถึงติ่งหูและไว้หน้าม้า ใส่เครื่องแบบโรงเรียนรัตติกาลอมตะที่เป็นสีแดงเพราะเลือดจากศีรษะ และจากภายในปากของเธอเอง

              นายก็เห็น…?”

              ครับ ผมก็เห็น เห็นตั้งแต่เดินเข้ามาภายในห้องนี้แล้วล่ะครับ

              ถ้าอย่างนั้น นายคงไม่ได้เห็นแค่เด็กคนนี้คนเดียวสินะ?”ฮิบาริถามซ้ำก่อนจะจ้องหน้ามุคุโร่ด้วยการคาดหวังคำตอบ

              ครับ เห็นทั้งที่เพิ่งจะตายเมื่อไม่นานมานี้ และอีกมากมายที่อยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ รู้สึกว่าผมจะเข้ามาในที่ๆไม่ควรซะแล้วสิ

              นายน่ะกลัวมั้ย?ฮิบาริถามอีกครั้งก่อนจะหันไปมองกระดานเพื่อไม่ให้ครูจับตามองพวกเค้า

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

              กลัวสิครับ ผมน่ะไม่มีใครเข้าใจผมซักคน บอกว่าผมตาฝาดบ้างล่ะ ว่าผมบ้าบ้างล่ะ ผมฝันบ้างล่ะ ผมน่ะผมน่ะ…”มุคุโร่พูดซ้ำพลางกลั้นน้ำตาเอาไว้เพื่อไม่ให้ใครได้เห็นน้ำตาของเค้า

              อย่าเพิ่งมาร้องตอนนี้สิ ถ้าจะร้องน่ะ ไว้รอตอนพักค่อยร้องเถอะ เวลาที่คนมีพลังแบบนี้อ่อนแอ สิ่งลี้ลับ หรือวิญญาณจะเข้าสิงหรือทำร้ายได้ง่าย ยิ่งอยู่กันหลายคนแบบนี้ยิ่งไม่ดี

              เป็นห่วงรึครับ?… คึหึหึชอบจังคนแบบคุณเนี่ย เข้าใจแล้วครับ ไว้ตอนพักผมจะร้องไห้ทีหลังล่ะกันนะครับมุคุโร่พูดขึ้นก่อนจะค่อยๆเช็ดหยดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่กี่หยดออกและตั้งหน้าตั้งตาเรียนต่อ

     

     

     

     

              เอาล่ะ อีกไม่กี่วันนี้ก็จะถึงวันพ่อแล้วนะ ครูเลยจะให้ทำการ์ดวันพ่อส่งครู ซึ่งจะมีการจัดประกวดของโรงเรียนอีกด้วย แล้วก็การ์ดนี้ได้คะแนนถึง 2 วิชา ไทยกับศิลปะ ออกแบบตามใจชอบ เธออยากจะวาดอะไรให้พ่อของพวกเธอก็ได้ตามใจ อยากเขียนอะไรถึงพ่อก็ตามใจ ทำให้สุดความสามารถก็พอ

              ครูครับ! แล้วถ้าเกิดชนะไปจะได้อะไรหรอครับ? ผมไม่เห็นจะเข้าใจ

              ได้เกียรติบัตรน่ะ แค่นั้นล่ะ แต่ว่าถ้าพวกเธอรักพ่อล่ะก็นะ ทำให้เต็มที่ก็แล้วกัน คาบต่อไปเรียนอะไรล่ะ?”ครูสุมารีพูดจบก็ถามถึงชั่วโมงเรียนต่อไปทันที เพราะว่าเวลาในชั่วโมงของภาษาไทยนั้นเหลืออีกประมาณ 20 นาทีเองเท่านั้น

              ศิลปะครับครู!!”เด็กนักเรียนชายคนหนึ่งตะโกนบอกครู

              หรอ เอองั้นก็นั่งทำต่อไปจนหมดคาบ 2 แล้วกัน วันนี้ครูศศิมาขอลาป่วย

              เย้!!!!”

              แมวไม่อยู่หนูร่าเริงนะพวกเธอ เอาล่ะทำไป ครูจะไปสอนห้องอื่นแล้ว ทำไปอย่าเสียงดังล่ะ ฮิบาริ!ถ้าเกิดว่ามุคุโร่เค้าไม่เข้าใจตรงไหนก็ช่วยดูแลเค้าทีนะ

              เข้าใจแล้วครับฮิบาริตอบรับก่อนจะมองตามครูสุมารีผู้สอนวิชาภาษาไทยเดินออกไปจากห้องเรียนของเค้า

              ผมไม่มีพ่อนี่ครับ จะให้ผมทำไปทำไมกัน?”มุคุโร่พูดขึ้นกับฮิบาริเมื่อคุณครูได้ออกไปจากห้องเรียนแล้ว

              นั่นสินะ ชั้นก็ว่ามันไม่เห็นจำเป็นจะต้องทำของแบบนี้เลย พ่อของชั้นก็อยู่ที่ญี่ปุ่น

              ถ้างั้นก็ขอครูพาผมไปชมโรงเรียนสิครับ ผมไม่อยากที่จะมานั่งทำอะไรไร้สาระแบบนี้มุคุโร่ว่าก่อนจะลุกขึ้นยืนและพยายามจะพาฮิบาริออกนอกห้อง

              ขอโทษนะ ฮิบาริช่วยบอกเค้าทีว่าชั้นเป็นหัวหน้าของห้องนี้ มีหน้าที่ดูแลเพื่อนๆแทนครู เพราะฉะนั้นชั้นไม่อนุญาตให้พวกเธอออกไปข้างนอกในเวลาเรียนเด็กสาวร่างเล็กผมสั้นประมาณติ่งหูสวมแว่นดำที่ไม่หนาเท่าไรลุกขึ้นเดินเข้าไปขวางหน้าของฮิบาริและมุคุโร่

              (ภาษาญี่ปุ่น)ยัยนี่บอกว่าเค้าเป็นหัวหน้าห้องของห้องนี้ มีหน้าที่ดูแลเพื่อนๆแทนครู และไม่ให้พวกเราออกจากห้องในเวลาเรียน

              (ภาษาญี่ปุ่น)ควันสีดำหัวหน้าห้องนี่โชคร้ายจังนะครับมุคุโร่ส่งยิ้มให้กับเด็กสาวคนนั้น ก่อนจะหันไปทางฮิบาริและส่างสายตาประมาณว่า ก็แปลไปสิครับ

              หมอนี่บอกว่า อยากจะคุ้นเคยกับที่นี่ให้เร็วที่สุดน่ะ เวลาพักคงจะมีน้อยเลยอยากจะไปตอนว่าง

              แล้วงานนี่ล่ะจะทำยังไง?”

              (ภาษาญี่ปุ่น)ทำไมนายไม่ตอบไปเองเลยล่ะ จะให้ชั้นไปเป็นล่ามทำไม น่ารำคาญ

              (ภาษาญี่ปุ่น)เพราะว่าทุกๆคนยังคิดว่าผมเป็นเด็กใหม่ที่พูดภาษาไทยไม่ได้ไงล่ะครับมุคุโร่ส่งยิ้มและสายตาแบบเดิมให้กับฮิบาริ

              เค้าบอกว่าเดี๋ยวจะไปทำต่อที่บ้านชั้น ชั้นลืมไปว่าเคยเรียนที่เดียวกับหมอนี่ตอนประถมที่ญี่ปุ่นมาแล้ว

              งั้นหรอถ้างั้นก็ตามสบาย มัธยมต้นมันพักก่อนมัธยมปลายอยู่แล้ว หมดคาบศิลปะก็คงพักพอดีเด็กสาวคนนั้นอนุญาต พลางมองไปที่ฮิบาริกับมุคุโร่ที่เดินออกจากห้อง ก่อนจะกลับไปนั่งที่

     

     

              อยากเป็นฮิบาริจังเลยน้าจะได้โดดเรียนไปอยู่กับคนน่ารักๆแบบนั้นบ้าง

              นี่เอ็งชอบผู้ชายตอนไหนเนี่ย!?!”

              ช่วยไม่ได้ ถ้าเกิดว่าผู้หญิงไม่สวย ไม่น่ารัก ชั้นก็ขอผู้ชายแล้วกัน

              อย่ามาใกล้กูเลยนะมึงเด็กหนุ่มที่นั่งวาดรูปการ์ดอยู่ก็ถอยออกห่างจากเพื่อนของตนเมื่อได้ยินแบบนั้น

              กูไม่เอาคนอย่างมึงหรอก สู้มุคุโร่จังของชั้นก็ไม่ได้ แล้วพวกคุณมึงว่าไม่น่ารักรึครับ?”

              น่ารักดิ แต่ว่ายังไม่กล้าชอบว่ะ กลัวหน้าตาแบบนี้ แต่นิสัยเป็นอีกแบบน่ะสิ

              นั่นดิ 5555”เด็กหนุ่ม 5 คนหัวเราะร่วนเมื่อคุยกันอย่างสนุกสนาน แต่ผู้เป็นหัวหน้าห้องกลับเดินเข้ามาขัด

              พวกนายจะเริ่มทำงานได้รึยัง? จะนั่งคุยเรื่องโฮโมอีกนานมั้ย? ปัญญาอ่อน

              นี่เธอว่าอะไรนะ!!! อย่านึกว่าเป็นหัวหน้าห้องแล้วกูจะยอมมึงนะ ทำไมยัยแว่นโรคจิตนี่ถึงไม่โดนลักพาตัวไปฆ่าซะทีว่ะ!!!”เด็กหนุ่มคนหนึ่งในกลุ่มลุกขึ้นด้วยอารมณ์โกรธจัดก่อนจะด่าไปที่หัวหน้าห้องคนนั้น เพื่อนๆในกลุ่มก็พยายามจะยุติการทะเลาะกันครั้งนี้

              พอเหอะน่าไอ้เอ็ม! เดี๋ยวก็ถูกเรียกไปฝ่ายปกครองหรอก

              ช่างหัวสิ! ใครมันจะไปยอมยัยนี่กันล่ะ!! บ้ารึเปล่า!!”

              นายนี่มันปัญญาอ่อนจริงๆนะ สู้ชั้นไม่ได้แล้วยังจะมาเถียงได้หน้าด้านๆอีก ไปทำงานให้เสร็จได้แล้ว ถ้ายังไม่อยากจะไปฝ่ายปกครองเด็กสาวพูดตัดจบอย่างมีชัยก่อนจะเดินไปนั่งที่ของตนเพื่อทำงานต่อ

              โธ่เว้ย!!!”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

              คุณก็เห็นสินะครับ ไอ้ควันดำๆรอบๆตัวของคุณหัวหน้าห้องน่ะ?”

              อือแต่ชั้นไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นนักหรอกนะฮิบาริพูดตัดบทก่อนจะพามุคุโร่ไปนั่งใต้ต้นไม้หลังอาคารเรียนเก่า

              แล้วถ้าเกิดว่าเป็นเรื่องของผมล่ะครับ? คุณจะสนใจบ้างมั้ย?”

              สายลมยามเช้าพัดเป็นระยะๆ พาฝุ่นละอองเศษเล็กๆปลิวมา และยังมีใบไม้แห้งและใบไม้ที่เป็นสีเหลืองปลิวมาพร้อมกับสายลม เมื่อคำถามนี้ได้ถูกถามขึ้นทั้งสองก็ปล่อยให้ความเงียบครอบงำ ไม่คิดจะพูดหรือตอบอะไรหลังจากนั้น

              ทำไมชั้นจะต้องสนใจด้วยล่ะ? นั่นมันก็เรื่องของนาย ไม่ใช่เรื่องของชั้น แล้วอีกอย่างเราไมได้เกี่ยวข้องอะไรกันซักหน่อย

              แล้วทำไมถึงไปบอกคุณหัวหน้าว่าจะให้ผมไปบ้านคุณล่ะ? เสียแรงที่อุตส่าห์ชอบมุคุโร่ว่าก่อนจะอมลมไว้ในปากเป็นแก้มป่องๆเป็นสัญญาณบอกให้ฮิบาริรู้ว่าเค้ากำลังงอน

              ทำไปก็ไม่ได้ช่วยให้นายน่ารักขึ้นหรอก ถ้าอยากนั่งอยู่ตรงนี้ก็ตามใจนายแล้วกัน ชั้นไปล่ะ

              ดะเดี๋ยวสิครับ! คุณจะทิ้งเด็กหนุ่มสุดน่ารักอย่างผมได้ลงคอหรอครับ?”มุคุโร่ไม่ว่าเปล่า รีบจับมือของฮิบาริไว้ก่อนที่ฮิบาริจะเดินหนีไป

              เออชั้นเอียนคำพูดของนายเลยอยากจะกลับไปที่ห้องแล้วน่ะสิ

              ทำไมล่ะ ผมยังไม่ได้เดินชมโรงเรียนเลยนะ คุณพาผมมาชมวิญญาณอย่างเดียวหรอครับ เนอะ! คุณวิญญาณ

              วิญญาณ!!!”เมื่อฮิบาริรู้ว่ามุคุโร่มีวิญญาณมาใกล้ตัว ก็รีบดึงร่างบางๆของมุคุโร่เข้าหาตัวเองทันทีโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าทำไปได้ยังไง

              ช่วยช่วยทีช่วยนัน…”

              ช่วยนัน?”มุคุโร่ทวนคำในขณะที่ร่างของเค้ายังอยู่ในยังอยู่ในอ้อมกอดของฮิบาริ

              นันทนาสินะเธอเป็นใครน่ะ…”

              ชั้นพูดได้แค่นี้ ช่วยปกป้องนันด้วยฮือช่วยนันเด็กสาวเลือดโชกเลือดเปรอะเครื่องแบบของรร.รัติกาลอมตะว่าด้วยเสียงที่เศร้าก่อนจะหายไปต่อหน้าของฮิบาริและมุคุโร่

     

     

     

     

     

     

              นันทนาตกลงเจ้าของชื่อนั้นมันใครน่ะครับ?”

              หัวหน้าห้องของพวกเราไง ควันสีดำๆรอบๆตัวของยัยนั่น คงจะเป็นเรื่องแบบนี้ล่ะมั้งฮิบาริเล่าไปพามุคุโร่เดินไปรอบๆโรงเรียน

              แล้วคุณคิดว่าควันนั่นมันคืออะไรกันล่ะครับ

              ช่วงนี้แถวนี้มีคดีลักพาตัวเด็กผู้หญิงเกิดขึ้นบ่อยๆ เด็กส่วนใหญ่ที่ถูกลักพาตัวไปก็เป็นนร.ของรร.นี้แล้วก็รร.ข้างเคียงบ้างเล็กน้อย จำนวนเด็กที่ถูกลักพาตัวไปคือ 12 คน

              คุณคิดว่ามันต้องเกี่ยวกับคุณหัวหน้าห้อง? คุณคิดว่าเค้าอาจจะถูกลักพาตัว?”

              ชั้นไม่ได้ปักใจเชื่อ ก็แค่บอกเท่านั้นฮิบาริเดินเข้าสหกรณ์ร้านค้าประจำโรงเรียนที่ไม่ใหญ่มากเท่าไร เพื่อเข้าไปซื้อน้ำอัดลมมาดื่มแก้กระหาย

              (ภาษาญี่ปุ่น)ผมเอาน้ำเปล่าขวดนึงนะครับ จ่ายให้ผมด้วยล่ะ ผมไปรอข้างนอกนะครับ

              เฮ้อเอานี่ครับ

              เด็กใหม่หรอจ้ะ ฮิบาริคุณป้าหน้าตาใจดีที่เป็นคนเก็บเงินในสหกรณ์ของโรงเรียนชวนฮิบาริคุยเมื่อมุคุโร่ได้เดินออกไปรอที่ด้านหน้าประตู

              อื้อเด็กใหม่สุดแสนจะกวนพระบาท

              ไม่เอาน่าๆ น่ารักออกแบบนั้นน่ะ แต่ว่านะช่วงนี้ฮิบาริรู้เรื่องคดีลักพาตัวรึเปล่า?”

              รู้ครับ ทำไมล่ะครับ?”

              ก็ระวังเด็กใหม่คนนั้นโดนลักพาตัวไปล่ะ ยิ่งน่ารักๆอยู่ด้วย ฮิบาริก็ปกป้องเค้านะจ๊ะ! 19 บาทจ้า

              นี่ครับ แล้วทำไมผมจะต้องไปปกป้องหมอนั่นด้วยล่ะครับฮิบาริทำหน้าไม่พอใจเล็กน้อยก่อนจะยื่นเงินให้คุณป้า

              ก็เดี๋ยวเค้าถูกลักพาตัวน่ะสิ!!”

              เมื่อไรจะเสร็จล่ะครับฮิบาริ ผมรอจนเมื่อยเลยนะครับมุคุโร่เดินเข้ามาในสหกรณ์และพูดโวยวายเป็นภาษาไทยเมื่อเค้าต้องยืนรอฮิบารินาน

              อ้าว! หนูเป็นผู้ชายหรอกหรอ? ป้าก็นึกว่าเป็นผู้หญิง เห็นหน้าสวยๆ ตัวเล็กๆน่ะ

              ไม่เป็นไรครับ แต่ว่าอย่าไปบอกใครนะครับว่าผมพูดภาษาไทยได้น่ะครับ

              อ่อได้จ้า ว่าแต่หนูชื่ออะไรล่ะจ๊ะคุณป้าเบี่ยงประเด็นไปคุยกับมุคุโร่แทนการคุยกับฮิบาริด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

              โรคุโด  มุคุโร่ครับ เรียกว่ามุคุโร่ก็ได้ครับ

              อ่อมุคุโร่ กำลังเดินสำรวจโรงเรียนหรอจ๊ะ

              ครับ ถ้าอย่างนั้นผมไปก่อนนะครับมุคุโร่พูดกับคุณป้าก่อนจะเดินออกจากสหกรณ์ไปหาฮิบาริที่ยืนรออยู่หน้าประตูเมื่อไรก็ไม่รู้

              แล้วเจอกันใหม่นะจ๊ะ!”คุณป้าส่งยิ้มหวานให้กับมุคุโร่ก่อนจะหันไปจัดของที่เคาน์เตอร์

     

     

     

     

     

     

              ที่นี่เค้าเป็นกันเองจังนะครับ

              หรอแล้วยังไงล่ะ

              คุณนี่มันไม่มีมนุษยสัมพันธ์เลยนะครับ แบบนี้สินะถึงได้ไม่มีคนคบ

              ชั้นไม่ต้องการยุ่งกับคนอื่นอยู่แล้ว ตอนนี้ชั้นก็รำคาญนายพอๆกับพวกคนในห้องนั่นล่ะฮิบาริว่าจบก็ยกกระป๋องน้ำอัดลมดื่มน้ำเพื่อแก้กระหาย

              นี่คุณบังอาจรำคาญเด็กหนุ่มสุดน่ารักอย่างผมหรอครับ จำไว้นะ!”มุคุโร่กลับมางอนอีกครั้งเมื่อฮิบาริพูดไม่รักษาน้ำใจของมุคุโร่

              เออสิ! หือ? มันจะได้เวลาพักของมัธยมต้นแล้ว ไปโรงอาหารไป

              ใจร้าย!!!”มุคุโร่ตะโกนตามหลังฮิบาริก่อนจะรีบวิ่งตามฮิบาริไป

     

     

     

     

     

     

     

     

              มุคุโร่จัง~~ชั้นขอกินข้าวด้วยคนได้มั้ย?

              (ภาษาญี่ปุ่น)คืนนี้นายจะไปหาคนร้ายคดีลักพาตัวกับชั้นมั้ย?

              (ภาษาญี่ปุ่น)ไปสิครับ น่าสนุกดีออก ผมจะได้คุยกับคุณวิญญาณอีกด้วย ว่าแต่คุณช่วยไล่พวกเค้าไปทีสิครับ ผมอยากนั่งกินกับคุณ 2 คน

              เค้าบอกว่าถ้าพวกนายอยากนั่งกินกับเค้าก็ได้ เค้าก็อยากนั่งกับพวกนายเหมือนกัน

              จริงๆหรอเนี่ยมุคุโร่จัง แบบนี้สิน่ารักที่สุดเลย!!!”เด็กหนุ่มที่เป็นเพื่อนห้องเดียวกับฮิบาริ และมุคุโร่เอ่ยขึ้นเมื่อได้รับคำตอบที่ฮิบาริตั้งใจแกล้งมุคุโร่ แต่คิดว่าเป็นคำตอบจากปากของมุคุโร่จริงๆจึงตกลงกันนั่งรายล้อมมุคุโร่ มุคุโร่ส่งยิ้มให้กับเพื่อนๆคนอื่นๆและหันไปแยกเขี้ยวใส่ฮิบาริ

              (ภาษาญี่ปุ่น)นี่คุณตั้งใจจะแกล้งผม?”

              ก็ใช่น่ะสิ นายมันน่าหมันไส้ซะไม่มี เพราะอย่างนั้นก็นั่งอยู่อย่างนั้นล่ะฮิบาริพูดจบก็นั่งกินข้าวหน้าตาเฉยไม่สนใจมุคุโร่

              หมอนี่พอจะฟังภาษาไทยออกอยู่บ้าง แต่ยังพูดไม่คล่อง เพราะงั้นพูดอะไรไปเค้าก็อาจจะเข้าใจ ชั้นไปก่อนล่ะ

              ชะชั้นไปนะฮิบาริเดินหนีไปหน้าตาเฉยเมื่อเค้ากินข้าวหมดราวกับสูดเข้าเป็นอากาศธาตุจนมุคุโร่ต้องแกล้งทำเป็นพูดภาษาไทยไม่เก่งและวิ่งออกมา

              เดี๋ยวสิ!!! มุคุโร่จัง!!”

     

     

     

     

     

     

     

              คุณทำอะไรของคุณเนี่ย?”

              ชั้นจะกลับแล้วน่ะสิ ชั้นเบื่อคนอย่างนายฮิบาริว่าไปพลางเดินขึ้นบันไดอาคารตึก 4 ชั้นที่ทาสีด้วยสีเนื้อนวลๆเพื่อกลับไปที่ห้องและเอากระเป๋า

              ผมไปด้วยสิครับ ผมอยากจะลองไปที่ๆมีคนโดนลักพาตัว คุณช่วยเล่ารายละเอียดที่มากกว่านี้หน่อยสิครับ

              ชั้นไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น แล้วก็ออกไปห่างๆตัวชั้นซะที

              ทำไมอยู่ๆนิสัยก็เปลี่ยนไปล่ะครับ? ผมจะไปด้วย!!”เมื่อฮิบาริหยิบกระเป๋าได้ก็เตรียมจะเดินออกจากห้อง แต่มุคุโร่ที่หยิบกระเป๋าได้ก็รีบวิ่งมาขวางหน้าไม่ให้ฮิบาริออกจากห้องเรียนไป

              อย่ามายุ่งกับชั้นได้มั้ย!?! นายมันเป็นแมลงสาปรึยังไง ไล่ก็ไม่ไป

              ผมจะเป็นอะไรก็ช่างผมสิครับ! ก็ผมจะไปด้วย…”อยู่ๆมุคุโร่ก็ทรุดตัวลงเหมือนมีอะไรบางอย่างกระชากขาของเขาให้ต้องลงไปนั่งกองกับพื้นห้อง
              ผู้ที่ถูกกระชากขาก็ทำหน้าตกใจและหวาดกลัว ก่อนจะพยายามหันไปด้านหลังของตนเอง โดยที่ไม่หันไปมองสีหน้าของคนร่างสูงที่กำลังทำหน้าตกใจกับสิ่งที่เห็นไม่แพ้กัน

              อย่าหันไปนะ!!”ฮิบาริว่าก่อนจะกระชากแขนบอบบางของมุคุโร่และจะพาวิ่งออกจากห้องเรียน แต่แล้วประตูห้องเรียนและหน้าต่างภายในห้องก็ปิดพรวดเข้ามาอย่างแรงเหมือนลมพัด ท้องฟ้ามืดคล้ายฝนตก แต่สำหรับเค้าทั้งสองไม่คิดเช่นนั้น

              กะเกิดอะไรขึ้นน่ะครับ

              ชั้นจะไปรู้ได้ยังไงกันล่ะ!! ยังไงนายก็ห้ามห่างจากชั้นเด็ดขาด!! เข้าใจมั้ย!?!”

              ขะเข้าใจแล้วครับมุคุโร่ยิ้มรับ ก่อนจะทำหน้ามีความสุขที่ฮิบาริยังเป็นห่วงเค้าอยู่บ้าง ถึงแม้นี่อาจจะเป็นอารมณ์ชั่ววูบไปบ้างก็ตาม

              เค้าเป็นห่วงเราดะดีใจจัง

     

              มันเกิดอะไรขึ้นกันล่ะเนี่ย!?!”

              วิญญาณของโรงเรียนนี้รึเปล่าครับ…”

              มันก็ไม่แน่ แต่ว่ามันไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย หรือมันอาจจะเกี่ยวกับเรื่องของยัยหัวหน้าห้องนั่นฮิบาริว่าก่อนจะพยายามเปิดประตูห้องด้วยวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะผลัก ถีบก็ไม่เป็นผล เขาจึงจับพามุคุโร่ไปประตูหน้าห้องเพื่อจะเปิดประตูออกไปข้างนอก แต่ผลก็เป็นแบบเดิม

              ฮิฮิบารินะนั่น

              อะไของนายอีก…”มุคุโร่พูดด้วยเสียงที่สั่นเครือทำให้ฮิบาริตกใจนิดๆก่อนจะหันไปตามนิ้วเรียวยาวของมุคุโร่ที่ชี้ไปทางหลังห้อง

              ก็พบกับหญิงสาวที่ผูกผมรวบไว้ด้านหลังด้วยโบว์สีแดงสด กับเครื่องแบบของโรงเรียนรัตติกาลอมตะที่เป็นสีแดงเฉกเช่นเดียวกับโบว์นั้น ใบหน้าของเธอเละไปถึงครึ่งหน้าตามด้วยเลือดที่ไหลออกมาเป็นจำนวนมากที่หยดเป็นทางในขณะที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ฮิบาริและมุคุโร่

              พวกแกออกไป๊!!!!”

              โธ่เว้ย!!”ฮิบาริกระชากแขนของมุคุโร่เข้ามาอ้อมกอดก่อนจะกดให้หน้าของมุคุโร่ซบลงที่อกของเค้าและหันหลังให้กับวิญญาณอันน่าสะพรึงกลัวนั้น

              พวกแกจะมาขัดขวางชั้น!! พวกแกจะไม่ให้ชั้นแก้แค้นยัยนันใช่มั้ย!!!!”

              แกจะทำอะไรนั่นก็เรื่องของแกสิ มาเกี่ยวอะไรกับพวกเรา นั่นมาเรื่องของพวกแก!!”

              ไม่ต้องมาพูดดีเลย พวกแกมันก็สวะทั้งนั้นแหละ!!!”วิญญาณสาวคนนั้นยกมือขึ้นเตรียมจะเข้ามาบีบคอของฮิบาริ และพยายามเร่งความเร็วในการเดิน

              อย่าทำอะไรคุณฮิบารินะ!!!”

    ดีจ้า!

    ห่างหายไปนานโขเลย ก็คนเรามีเรียนบ้าง อะไรบ้าง เรียนพิเศษบ้างด้วย

    แล้วยิ่งเราใกล้ขึ้นม.1 เลยยิ่งต้องพยายามมากขึ้น ก็เลยไม่ค่อยจะมีเวลามาอัพเท่าไร

    แต่ก็ได้อัพ ตอนลักพาตัวนี้มาจากความแค้นส่วนตัวของเราเองกับเพื่อนคนนึง ก็เลยเอามาแต่ง มี 2 ตอนเน้อ ส่วนตอนอื่นๆอาจจะมาจากเค้าโครงเรื่องจริงบางส่วน เพราะโรงเรียนจะต้องมีเรื่องพิศวงบ้างแหละ โรงเรียนเราอ่ะเยอะเลย

    บางเรื่องต่อไปเรื่อยๆ เราอาจจะเล่าเรื่องจริงที่ได้ยินมาจากโรงเรียนของตัวเองมาเล่าให้ฟังกันบ้าง สยองมากๆเลย ฟังเองยังขนลุกเอง แต่ว่าตอนนี้เป็นเพียงความแค้นส่วนตัว+จินตนาการ เลยไม่มีเรื่องจริงเท่าไร ยังไงก็รอเรื่องต่อไปอ่ะเน้อ ถึงจะมี

    เราก็กลับจากเข้าค่ายมาอัพให้หลังจากเขียนเสร็จก่อนเข้าค่ายวันเดียว แล้วเจอกันตอนหน้าเน้อ ถ้ามีเวลาว่างก็จะพยายามมาอัพเร็วๆ อ้อ!แล้วก็กลับจากเข้าค่ายก็ปีใหม่ แล้วก็กีฬาสีเลย อ๊ากก!!(พ่นไฟ)

    เหนื่อยมาก แล้วจะกลับมาอัพเน้อ บ๊ายบาย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×