คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2 : คำโกหก (2 จบ)
Chapter 2 : คำโกหก (2 จบ)
“อย่าทำอะไรคุณฮิบารินะ!!!”
“ไม่ต้องกลัวนะ
ชั้นจะปกป้องนายเอง
”ฮิบาริพูดเสียงเบาเหมือนจะพยายามไม่ให้มุคุโร่ได้ยิน ก่อนจะพามุคุโร่วิ่งหนีไปทางหน้าต่างของห้อง และวิญญาณนั้นยังคงตามมาไม่เลิกรา
“คุณฮิบาริเป็นอะไรรึเปล่าครับ?”
“อือ
โดนเล็บยัยวิญญาณนั่นนิดหน่อย แต่ก่อนอื่นต้องหาวิธีหนีออกจากยัยนี่ก่อน”
“พวกแกไม่มีทางหนีออกไปจากที่นี่ได้หรอกน่า!!!”วิญญาณพยาบาทนั้นเริ่มผลุบโผล่ไม่เป็นที่เพื่อให้ทั้ง 2 คนเกิดความกังวลขึ้น
“คิดว่าพวกนายปิดประตูห้องเรียนแล้วจะทำอะไรได้โดยที่ชั้นไม่รู้เรื่องรึไง ไอ้พวกโรคจิต”เสียงใสที่แฝงไปด้วยแววโกรธดังมาจากนอกห้องเรียนที่มุคุโร่และฮิบาริต้องผจญกับความลำบาก เรียกให้ทั้งสองเปิดประตูก่อนจะเริ่มมีเสียงปะทะกันมากกว่านี้
“หึ หึ หึ ฮ่า ฮ่า ฮ่า!!!! มาแล้วสินะ นังนั่นมันมาแล้วสินะ ฮ่าๆ!! คราวนี้ล่ะจะได้ตายกันซะทีนะ!!!”
“นี่แกต้องการอะไรกันแน่!?! ทำร้ายคุณฮิบาริเพื่ออะไร ทำไมจะต้องมาฆ่าพวกเราด้วย แกอยากจัดการกับใครก็ทำไปเซ่!!!!!”
มุคุโร่ตะโกนเสียงดัง แต่ภายนอกห้องนั้นก็ไม่ได้ยินเสียงใดๆเล็ดลอดออกมาจากห้องนี้เลย วิญญาณพยาบาทนั้นเริ่มใช้อะไรบางอย่างเปิดประตูห้องเรียน ให้นันทนาเข้ามาภายในห้องนี้
“นี่พวกแกปิดห้องทำ
ไม
”เมื่อนันทนาก้าวเข้ามาในห้องกำลังจะเริ่มต่อว่ามุคุโร่และฮิบาริ สายตาก็พลันไปเห็นวิญญาณพยาบาทที่ตอนนี้มีเลือดไหลออกตัวเมื่อมากกว่าก่อนหน้านี้
“เธอน่ะ
มาให้ชั้นฆ่าถึงที่เลยสินะ
เธอยังจำชั้นอยู่ได้รึเปล่าล่ะ
ยัยนัน
ฮิฮิฮิ”
“ยะ
ยัย
ปลายฟ้า
แกตายไปแล้วนี่!! ทะ
ทำไม?”
“เพราะเหล่าคนที่ชั้นฆ่าไป
ช่วยเพิ่มพลังให้ชั้นน่ะสิ เพิ่มพลังให้ชั้น เพื่อมาฆ่าแกยังไงเล่า!!!”
“กรี๊ดดด!!!”วิญญาณพยาบาทนั้นพุ่งตัวเข้าหาหญิงสาว นันทนาก้มตัวลงหลบการโจมตีนั้น แต่ก็ดูเหมือนจะไม่พ้นจากการทำร้ายร่างกายนี้
มุคุโร่จ้องมองภาพของวิญญาณที่กำลังเข้าทำร้ายมนุษย์ด้วยแววตาแฝงความกลัวปนไปเพียงนิด ฮิบาริกอดมุคุโร่ไว้และกดหัวของมุคุโร่ไม่ให้มองภาพที่น่ากลัวนั้น
“ทะ
ทำไม
ถึงไม่ช่วย
ชั้นล่ะ?”
“เพราะว่า
เธอไม่ใช่คนที่ชั้นต้องปกป้องน่ะสิ ทำไมชั้นจะต้องช่วยคนที่ชั้นไม่ชอบ ทำไมชั้นจะต้องช่วยคนที่ชั้น
ไม่ได้สนใจด้วยล่ะ?”
“หึ! นึกว่าที่พูดว่า ‘จะให้ชั้นทำอะไรก็ทำ’ น่ะ จะจริงสินะ ชั้นจะปล่อยให้พวกแกรอดก็ได้
”ปลายฟ้าที่ได้กลายเป็นวิญญาณนั้นเว้นช่วงคำพูดของตัวเอง ก่อนจะถูกนันทนาพูดขัดขึ้น
“ได้
โปรด
ช่วยชั้น
”
“ชั้นขอแค่นังนี่ก็พอแล้ว!!!! ฮ่า ฮ่า ฮ่า!!!”
“ดะ
เดี๋ยว!! ชั้นขอถามก่อนเธอจะไปได้มั้ย?”
“อะไรล่ะ เพื่อเป็นการตอบแทนที่ทำให้ชั้นฆ่ายัยนี่ได้สะดวก ชั้นจะตอบให้ก็ได้”
“ทำไมเธอถึง
อยากจะฆ่าหัวหน้าห้องนักล่ะ?”มุคุโร่เริ่มเงยหน้ามองวิญญาณที่ใบหน้าเริ่มเละมากกว่าเดิม ที่มือข้างหนึ่งจับที่หัวของหญิงสาวร่างบาง และมืออีกข้างก็ทะลวงเข้าไปที่ท้องของหญิงสาวคนนั้น เลือดสีแดงฉานหยดลงที่พื้นของห้อง ก่อนที่วิญญาณนั้นจะเริ่มปริปากตอบคำถาม
“เพราะว่ายัยนี่
ทำให้ชั้ันต้องไม่ได้เรียนต่อ เพราะยัยนี่ทำให้ชั้นต้องโดนพ่อและแม่ทอดทิ้ง เพราะมันพาชั้นไปหาไอ้เลวธวัชชัย เพราะมันคนเดียว!!!”
“หมายความว่า
ยังไง”
“ยัยนี่หลอกให้ชั้นไปหาไอ้ธวัชชัย แล้วมันก็ข่มขืนชั้น ทุกคนพากันรังเกียจชั้น พ่อแม่ก็รังเกียจชั้นไปด้วย เพราะยัยนี่คนเดียว!!!”
“มะ
ไม่ใช่นะ
เพราะเธอชอบอ่อยผู้ชาย ชั้นก็เลยอยากให้เธอเลิ
”
“หุบปาก!!!!!”นันทนาขยับปากพูดอย่างลำบากด้วยเหตุผลที่เข้าข้างตัวเอง ก่อนที่วิญญาณปลายฟ้าจะเริ่มเอามือออกจากท้องของนันทนา แล้วแทงทะลุเข้าที่หน้าอกด้านขวาจากทางด้านหลัง
“อะ
อ๊อก!!”
“อย่ามาพูดมาก!! ชั้นอุตส่าห์ยอมเป็นเพื่อนกับคนอย่างแก อุตส่าห์คอยช่วยเหลือเรื่องการเรียน และเรื่องฐานะทางบ้าน อุตส่าห์ให้พ่อแม่แกมาทำงานเป็นคนสนิทของพ่อแม่ชั้น แกยังไม่สำนึกแล้วพาชั้นไปหาไอ้ธวัชชัย!!”วิญญาณนั้นเริ่มแผดเสียงเป็นบริเวณกว้าง ก่อนจะโยนร่างที่เกือบจะไร้สติของนันทนาไปทางกระดานหน้าห้อง
“อย่าดูนะ
มุคุโร่
”
“คะ
ครับ”ฮิบาริหันหัวของมุคุโร่เข้าซบแผ่นอกกว้างของตัวเอง ก่อนจะกอดให้แน่นขึ้น มุคุโร่ไม่ปฏิเสธก่อนจะหันเข้าหาอ้อมกอดนั้น
“ฮ่าๆ ฮ่าๆ!! ทรมานสมใจแกมั้ยล่ะ!?! ฮ่าๆ! แกน่ะ กำลังจะเป็นเหมือนชั้นแล้วนะ!! ยัยเด็กฟ้าที่มาขอร้องชั้นไม่ให้ฆ่าแก และยอมเอาตัวเข้าแลกน่ะ น่าสงสารจังนะ ที่ไม่รู้ว่าคนที่พยายามเอาตัวเข้าแลกน่ะ มันเลวขนาดไหน
”
“ปลาย
ฟ้า
”
“ตายซะเถอะ!!!!”วิญญาณนั้นพุ่งตัวเข้าหานันทนา และมีดกว่า 10 เล่มที่ไม่รู้มาจากไหนพุ่งเข้าหาตัวของนันทนา เลือดสีแดงพุ่งกระฉูดย้อมสีของกระดานสีเขียวแก่ให้กลายเป็นสีแดงสด
ร่างของเด็กสาวเริ่มชักอย่างทุรนทุรายอยู่ที่พื้นห้อง ก่อนจะพยายามคลานอย่างทรมาน มือเปื้อนเลือดยื่นมือเหมือนจะคว้าหาอะไรบางอย่างโดยที่สายตามองไปทางฮิบาริและมุคุโร่ ด้วยสายตาที่เหมือนจะขอให้ช่วย
“ช่วย
ด้วย”
“พี่
นัน
ทำไม?”
“ฟ้า! พะ
พี่ไม่ได้เป็นอย่างที่มันพูดนะ พี่เปล่า
”ร่างวิญญาณอันเลือนรางของฟ้า เด็กสาวที่ตั้งใจช่วยพี่ที่สนิทกับตนมากที่สุดปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของนันทนา
“หนู
ผิดหวังกับตัวพี่จริงๆ
หนูไม่น่ายอมมอบร่างกายอันมีค่าของหนูเพื่อตัวพี่เลย
พี่มัน
เลวที่สุด!!!!”เสียงของเด็กสาวที่หายไปจากโลกนี้นานแล้วเริ่มแผดเสียงกว้าง ร้องไห้สะอึกสะอื้นกับความโง่เขลาของตัวเอง ก่อนจะทรุดตัวลง ก้มหน้าซ่อนใบหน้าตนเอง
“หึ
หึ
ฮ่า ฮ่า ฮ่า!!! มันน่าแค้นใจใช่มั้ยล่ะ? ที่ยัยจอมโกหกนี่มันทำทุกอย่างเพื่อตัวมันเอง โกหกแม้กระทั่งน้องที่รักของมันเองน่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า!!!”
“ฟ้า
พะ
พี่ไม่ได้ตั้งใจจะโกหก แต่พี่
ไม่อยากให้ฟ้ารู้เรื่องของพี่
ฟ้า
ช่วยพี่อีกครั้ง
เถอะนะ
พี่ขอร้อง
”
“ยังจะมีหน้ามาขออีกหรอ?...ตัวเองทำอะไรไว้บ้าง? เคยถามตัวเองรึเปล่า? ทั้งๆที่ชั้นนึกว่าแกจะกลับตัว ชั้นรู้อยู่แล้ว ว่าแกเป็นคนแบบนี้
อยากไปตายที่ไหนก็ไป!!!”
“มะ
ไม่นะฟ้า!!!”วิญญาณร่างเล็กของเด็กสาวหยิบมีดที่อยู่บนมาพื้นมาเล่มหนึ่งก่อนจะวิ่งเข้าไปหานันทนาที่นอนอย่างทุกข์ทรมานอยู่ที่พื้นห้อง
มีดนั้นเสียบเข้าที่กลางหน้าผาก ก่อนวิญญาณนั้นจะหายไป ม่านตาของนันทนาเบิกกว้างด้วยความตกใจ และความกลัว ก่อนจะสิ้นใจลงที่พื้นห้องนั้นด้วยความทุกข์ทรมาน
“พวกนายน่ะ
ถ้ายังอยู่ตรงนั้นเดี๋ยวก็ถูกจับหรอก
ขอบใจมากนะ
ที่ช่วยชั้น
ฮิบาริ”
“หือ?...หรือว่าเธอ
เมื่อตอนนั้น
”ฮิบาริเงยหน้าขึ้นด้วยความงุนงงก่อนจะใช้สมองคิดอะไรบางอย่าง ก่อนที่ตาจะเบิกกว้างและกลับเป็นปกติด้วยความตกใจเมื่อรู้ตัวว่าวิญญาณที่อยู่ตรงหน้านั้น คือคนที่ตัวเองเคยช่วยเอาไว้เมื่อไม่นานที่ผ่านมา
“กรี๊ดดดดด!!!! ม่ายน้า!!!!!”เสียงของหญิงสาวที่เล็กและแหลมกรีดร้องดังลั่น เพราะการกระทำของชายที่แสนระยำตรงหน้า เธอต้องการความช่วยเหลือจากใครซักคน แต่เพราะว่าเธอถูก ‘มัน’ ผู้ชายตรงหน้าพามาในที่ๆไม่มีใครรู้ ไม่มีใครได้ยินเสียง และไม่มีรู้ว่าที่แบบนี้ยังมีอยู่ใกล้โรงเรียนใหญ่นั้น
“ต้องขอบใจยัยนันจริงๆนะ ที่ทำให้ชั้นได้เธอมา เพราะงั้น เป็นของชั้นเถอะ!!!”
“ช่วยด้วย!!!!!”
“อ๊อก!”เท้าของใครบางคนประทับลงที่กลางหัวของธวัชชัย คนที่โดนถีบเข้าอย่างจังสลบลงกับพื้น หญิงสาวยังคงรู้สึกกลัว ร่างกายสั่นเทาก่อนจะเงยหน้าไปมองคนที่มาช่วยตนเอง
“ไม่เป็นอะไรสินะ เธอน่ะเป็นเพื่อนของยัยหัวหน้าห้องนั่นใช่มั้ย ชั้นได้ยินหัวหน้าห้องกับหมอนี่คุยกันเรื่องของเธอ
”
“นาย
จะมาช่วยชั้ืนใช่มั้ย? ไม่ได้จะมาทำอะไรชั้นใช่มั้ย?”
“เออ
ใส่เสื้อผ้าซะ ชั้นจะไปส่ง”
“ขอบใจมากนะ ฮิบาริ ถ้าไม่ได้นายตอนนั้นชั้นคงแย่
แต่ว่าพอนายช่วยชั้นแล้ว หลังจากนั้นไม่นาน มันก็มาทำแบบนั้นกับชั้นอีก ชั้นก็ร้องขอความช่วยเหลือแต่ก็ไม่มีใครได้ยิน เพราะยัยนันมันไปบอกชาวบ้านเค้าว่ากำลังเล่นกันเฉยๆ
”
“มันเข้ามาหาอะไรปิดปากชั้น
แล้วสุดท้ายมันก็เป็นอย่างที่นายเห็น ขอบใจนายจริงๆ ฮิบาริ”วิญญาณนั้นจากที่หน้าตาเละได้กลับมาเป็นแบบเดิม ใบหน้านั้นยิ้มแย้มสดใสเหมือนกับว่าตัวเองได้ทำอะไรบางอย่างได้สำเร็จลุล่วงแล้ว
“ตื่นมา
พวกนายจะอยู่ที่หลังอาคารของโรงเรียนนี้นะ
ลาก่อน”
มุคุโร่มองวิญญาณนั้นที่กำลังลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า เค้ากำลังสงสัยว่าทำไม ทั้งๆที่ทำบาปหนักขนาดนี้
ทำไมจะยังได้ขึ้นสวรรค์ ทำไมกันล่ะ?
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
7 วันผ่านไปงานศพของนันทนาถูกจัดขึ้นท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติพี่น้อง เพื่อนๆภายในห้องเรียนของนันทนาต่างก็มาร่วมงานศพครั้งนี้
“ดีจังเนอะที่ยัยนันมันตาย
”
“นั่นสินะ
ถ้าไม่ตายป่านนี้พวกเราคงจะเป็นทาสของมันแน่ๆเลย”
“นี่พวกเธอรู้อะไรมั้ย? ว่ายัยนันเคยหลอกพาปลายฟ้าไปหาไอ้ธวัชชัยด้วย เลวสุดๆเลยเนอะ”
“อ๋อ
รู้สิๆ ทำไมครูจะต้องบังคับพวกเราให้มางานศพมันด้วยนะ อยากดูหนังจะตายอยู่แล้วนะเนี่ย
”
เสียงของนักเรียนหญิงจับกลุ่มคุยกันในเรื่องของนันทนา ทั้งๆที่ควรจะโศกเศร้ากับการตายของนันทนา กลับดีใจในการตาย สมน้ำหน้าหญิงสาวที่ตายไป
งานศพจบลงโดยการนำโลงที่ภายในนั้นมีร่างอันไร้วิญญาณของนันทนา เด็กสาวที่ตอนนี้กลายเป็นคนที่ถูกรังเกียจหลังเรื่องคดีลักพาตัวจบลง ขึ้นเมรุและเผา
ตำรวจสรุปคดี ‘ลักพาตัว’ ของเด็กสาว 12 คน ว่าเป็นฝีมือของ ‘จ๋า(นามสมมติของนันทนา) และ เอ(นามสมมติของธวัชชัย)’ กับกลุ่มเพื่อนอีกมากมาย โดยที่กล่าวกับสื่อมวลชนโดยที่ไม่เอ่ยชื่อของทั้งสองคนว่า ‘เด็กหนุ่ม และเด็กสาวที่เอ่ยชื่อ เป็นหัวโจกในการก่อเรื่อง โดยที่เด็กหญิงจ๋าไปหลอกเด็กสาวที่รู้จักมาให้เด็กชายเอและเพื่อนๆข่มขืน จากนั้นก็ฆ่าทิ้ง และเอาของมีค่าที่ติดตัวเด็กเหล่านั้นไป’
“ทำไม
ทั้งๆที่เป็นฝีมือของวิญญาณ คนเราถึงได้สรุปในเรื่องที่ไม่เป็นจริงกันล่ะครับ?”
“โลกของเรามันก็เป็นแบบนี้ล่ะ บางสิ่งบางอย่างต่อให้รู้ว่ามันคือสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ แต่ก็ไม่สามารถจะบอกใครต่อใครได้หรอก มันก็เหมือนกับครั้งนี้แหล่ะ
คนพวกนั้นน่ะ ดูยังไงก็รู้ว่าไม่ใช่ฝีมือมนุษย์ แต่มันก็ไม่สามารถบอกกับสื่อมวลชนได้ว่า ‘เป็นฝีมือของวิญญาณอาฆาต’ ได้หรอก”
“นั่นสินะ
ครับ คนเราน่ะ คงไม่ยอมรับหรอกว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ถ้าไม่ได้เจอกับตัวเอง หรือต่อให้รู้ว่ามันมีจริง ก็พยายามจะทำตามคนอื่น ไม่เชื่อตามคนอื่น
มนุษย์เรานี่
เกินเยียวยาจริงๆนะครับ”
“ขึ้นชื่อว่ามนุษย์ก็เป็นแบบนี้แหล่ะ ถึงปากจะบอกว่าเป็นสัตว์ที่ประเสริฐที่สุด แต่จริงๆแล้ว คือสัตว์ที่ต่ำช้าที่สุดต่างหาก”
ฮิบาริว่าจบก็พิงผนังด้านข้างมุคุโร่ก่อนจะเอามือขึ้นมากอดอก มุคุโร่มองกริยาท่าทางของฮิบาริที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ทั้งกอดอก ทั้งนำมือล้วงไปในกระเป๋ากางเกง ทั้งเอามือเกาหัว ทำให้คนที่มองอยู่นั้นถึงกับกลั้นหัวเราะไม่อยู่
“ฮะ ฮะ คุณนี่
ทำอะไรของคุณ
“หัวเราะออกมาจนได้สินะ
”
“ก็เพราะคุณนั่นแหล่ะ
ยังไงก็ขอบคุณที่เป็นห่วงนะครับ”มุคุโร่ยิ้มหวานให้กับฮิบาริ ก่อนจะกลับมาหัวเราะอีกครั้ง ถึงจะไม่เสียงดังมาก แต่ก็ทำให้เพื่อนๆหันมามองเป็นระยะๆ
“นายเลิกหัวเราะได้แล้วน่า นี่มันงานศพนะ”
“ขอโทษครับ
ก็มันหยุดไม่ได้นี่นา
ฮะ..ฮะ”
“หัวเราะอยู่ได้ เดี๋ยวพวกผู้ใหญ่ก็มารุมด่าหรอก ตามมานี่
”ฮิบาริจับข้อมืออันบอบบางนั้น เพื่อจะพาเจ้าของมือเล็กไปยังที่ๆไม่ค่อยจะมีผู้คนอยู่
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“คุณพาผมมาที่นี่ทำไมน่ะครับ มันวังเวงไปรึเปล่า?”
“ก็ที่นี่มันไม่มีใคร จะหัวเราะก็ไม่เป็นไรหรอก”
“แต่มาถึงนี่แล้ว ผมก็หยุดหัวเราะไปแล้วล่ะ เพราะเอาแต่คิดว่าคุณจะพาผมไปไหนน่ะสิ”มุคุโร่มองที่ๆฮิบาริพาเค้ามา
บรรยากาศแม่น้ำริมวัดที่เงียบสนิท ถึงแม้ว่าวัดที่จัดงานศพของนันทนาจะอยู่ติดชุมชน แต่ก็ไม่มีใครออกมาเดินข้างนอกในเวลานี้เลยซักคนเดียว มุคุโร่เดินมานั่งบนราวที่กั้นทางไม่ให้คนตกลงไปในแม่น้ำ ก่อนจะยิ้มกับวิวด้านหลังในตอนกลางคืนที่แสงไฟนีออนคอยให้แสงสว่าง
“ชั้นมีอะไรจะถามนาย
”
“ครับ
มีอะไรหรอครับ?”หลังจากที่เงียบอยู่นาน ฮิบาริก็เปิดคำถามเพื่อทำลายความเงียบที่เริ่มปกคลุมพวกเค้าเมื่อไรก็ไม่รู้
“นายชอบชั้นจริงๆรึเปล่า?”
“เอ่อ
ที่ผมพูดไป ผมล้อเล่นน่ะครับ ก็เห็นว่าคุณเป็นเหมือนผม ก็เลยอยากสนิทกันไวๆน่ะ คุณคงไม่คิดมากหรอก ใช่มั้ยครับ?”
“เออ
ชั้นก็แค่ถามเฉยๆ งานศพจะเลิกแล้ว ไปอยู่ในงานกันเถอะ”
“ครับ
”มุคุโร่ส่งยิ้มอีกครั้ง ก่อนจะเดินตามฮิบาริเพื่อเข้าไปร่วมงานศพของนันทนาอีกครั้ง
งานศพจบลง โดยการที่นำโลงที่ภายในนั้นมีร่างอันไร้วิญญาณของนันทนาบรรจุอยู่เพื่อขึ้นเมรุและเผา
“ต่อไปนี้
บนโลกนี้
ก็จะไม่มีคนที่ชื่อนันทนาแล้วล่ะครับ ต่อไปนี้ก็จะมีแต่ความทรงจำที่เกี่ยวกับเค้าคนนั้นแค่นั้นสินะครับ”
“อือ
”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เมื่องานจบลง คนที่มาร่วมงานก็ต่างแยกย้ายกันเพื่อกลับบ้านไปพักผ่อน เพื่อเตรียมตัวไปทำงานในเช้าวันต่อไป
“นี่
มุคุโร่
ถ้าเกิดว่าสิ่งที่นายพูดตอนอยู่ริมน้ำนั่น เป็นเรื่องโกหก มันก็เป็นเรื่องโกหกที่ชั้นรู้สึกมีความสุขมากๆเลยล่ะ”
“หรอครับ
”ถึงเสียงที่ฮิบาริกระซิบบอกกับมุคุโร่จะดังพอให้ได้ยินกันแค่สองคน แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่ามุคุโร่จะได้ยิน เพราะว่าเสียงผู้คนด้านนอกวัดดังจ้อกแจ้กจนเกินกว่าที่หูของมุคุโร่จะรับได้
มุคุโร่เลยได้แต่ตอบปัดไป เพราะไม่อยากจะโดนหาว่าหูไม่ดี หรือไม่อยากจะให้โดนต่อว่ามาก
“ให้ชั้นไปส่งมั้ย? นายยังไม่คุ้นชินนี่นา แถมวัดแถวนี้ก็ดันไกลมากซะด้วย”
“คงต้องพึ่งคุณอีกแล้วล่ะครับ
ยังไงก็ขอบคุณนะครับ”
ตัดจบได้ซะที
ยังไงก็ขอโทษนะ ที่หายไปนานมากๆ เกือบ 2-3 เดือนเลยนะเนี่ย
ก็ขออนุญาตเปลี่ยนชื่อตอนนะ เพราะถ้าใช้ชื่อตอนว่า ‘ลักพาตัว’ มันคงจะยาว และต้องอธิบายว่าหายไปได้ยังไง ยากหลายๆ
ยังไงก็เอามาลงแล้ว เม้นบ้างเน้อ คิดว่าปิดเทอมแล้วจะว่างแท้ๆ ดันไม่ว่างซะงั้นอ่ะนะ
ทั้งเรียนซัมเมอร์สร้างความคุ้นเคยกับรร.ใหม่ ไม่ว่างแล้วเนี่ย
เขียนมาจนจบได้เนี่ย สุดยอดแล้วน้า แล้วจะพยายามคลอดอีกตอนมานะจ๊า
เจอกันตอนน้าเน้อ^^
ความคิดเห็น