ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KimMin] น้องหน้าใสกับพี่ชายปากเสีย

    ลำดับตอนที่ #9 : #ฟิคหน้าใส บทที่ 8 เคลิ้ม

    • อัปเดตล่าสุด 29 เม.ย. 58


     

     



     

     

                    แสงสีทองสาดส่องเข้ามาภายในห้องผ่านม่านสีน้ำตาลที่บดบังหน้าต่างบานใหญ่ก่อนจะทอดเงาเข้ามากระทบกับร่างของคนที่นอนอยู่บนเตียง ผู้ชายตัวบางยันตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะเกาหัวไปมาแล้วบิดกายก่อนจะลุกเดินตรงออกจากห้องนอนของตัวเอง

                     เมื่อวานเจ้าของห้องตัวสูงก็นั่งคุยเล่นกับคนที่มาเยือนจนดึก พอเห็นว่าฟ้ามืดแล้วเขาก็อาสาไปส่งน้องที่บ้านระหว่างทางทั้งคู่ก็แวะกินโจ๊กที่หน้าปากซอยเป็นอันว่ามื้อนั้นเป็นการกินข้าวกันครั้งแรก ถือว่าตอนนี้เขากำลังเริ่มความสัมพันธ์ที่ดีได้อีกครั้ง พอนึกถึงหน้าอีกคนตอนที่หัวเราะก็ทำให้วันนี้เป็นวันดีดีไปอีกวัน เขาคิดว่าวันนี้ควรจะออกไปทำงานและหาอะไรทำบ้างซะแล้ว

                    
                          เมื่อคิดได้ดังนั้นก็วางขวดน้ำที่พึ่งดื่มเสร็จลงบนโต๊ะก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์กดหาเบอร์ที่น่าจะโทรออกมากที่สุดในเครื่องแล้ว

     “ โหล.. ตื่นยัง ”     เมื่อสัญญาณดังว่าปลายสายกดรับแล้ว เขาก็เอ่ยทักอย่างที่ทำปกติก่อนจะถามต่อไม่ได้ยินสียงตอบจากปลายสาย

    อืมม.. โทรมาทำไมแต่เช้าวะ ”     เสียงทุ้มต่ำของปลายสายตอบมาก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงอีกคนปิดปากหาว

    กูโทรมาถามว่าวันนี้มึงจะไปร้านเค้กป่าว ”    รีบเอ่ยปากบอกจุดประสงค์ที่โทรไปหา กลัวว่าอีกคนจะตัดสายทิ้งหนีไปนอนต่อซะก่อน

    ไป..ไปๆ สักพัก สิบโมงมั้ง สิบโมง..สิบโมง ”   คนตอบขึ้นมาลอยๆ ก่อนจะพูดย้ำไปย้ำมาแบบที่ตอบเป็นประจำเวลาพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง คิมนึกขำเพื่อนตัวเองก่อนจะเอ่ยบอกปลายสาย

    เออ แวะมารับกูด้วยแล้วกัน แค่นี้แหละ .. นอนๆ ”   ก่อนจะกดตัดสายเป็นกลายปล่อยเพื่อนไปเข้าสู่ภวังค์เดิมที่ลาจากมา เขาเองก็อยากนอนต่อสักพักแต่ทำไมร่างกายเจ้ากรรมถึงลุกขึ้นมาก็ไม่รู้ เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนขาวก่อนจะตรงไปยังประตูห้องน้ำ อาบน้ำแล้วค่อยมานอนต่อแล้วกัน เขาคิด

     

     

     

     

     

    “  สวัสดีครับบบบ ”    เสียงตอนรับดังทันทีทั้งสองคนเดินเข้ามาภายในร้าน วันนี้คนยืนหน้าประตูไม่ใช่คนเดิมแต่วันเปลี่ยนเป็นเจ้าของร้านหัวเหม่งแทน

    มายืนไรตรงนี้ ”    ไวท์หันไปเห็นคนตัวเล็ก  ก่อนจะเดินไปยีหัวคนที่กำลังส่งยิ้มแป้นมาทางพวกเขา  

    ก็ว่างไง อยากทำทุกอย่างเลย ”    เด็กหัวเกรียนเอ่ยตอบก่อนจะหัวเราะคิกคัก

                     เมื่อเห็นท่าว่าเพื่อนกับน้องคงจะยืนคุยกันอีกนาน คนที่คิดว่าตัวเองคงเป็นส่วนเกินอยู่ ณ เวลานี้ ก็เอี่ยวตัวหลบทางก่อนจะตรงไปยังโซฟาตัวยาวข้างเคาน์เตอร์ วันนี้ร้านดูค่อยข้างเงียบอาจจะเพราะยังเป็นเวลาเช้าอยู่และวันนี้ก็เป็นวันทำงานด้วย

     

     

    เอ้า พี่คิม ”    เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหลัง คนถูกเรียกหันไปมองก่อนจะพบว่าเป็นไอ้เด็กข้างห้องของเขา นี่มันจะมาก่อกวนอะไรแถวนี้

    มึงมาทำอะไร ”    เมื่อเห็นว่าน้องเดินเข้ามาทัก คิมก็ไม่ลืมที่จะถามขึ้นทันที ปกติไม่น่าเจอคนแบบฟีฟ่าแถวนี้นะถ้าว่ามีร้านเกมส์ก็ว่าไปอย่าง

    อ้าวว  มาร้านเค้กมากินข้าวต้มมั้ง ”    เด็กตัวสูงเดินเข้ามาจับหัวเขาโยกก่อนจะตอบคำถามได้กวนสุดๆ

    เออ ขอให้ข้าวต้มลวกปากมึง ”    เขาเอ่ยปากตามน้ำไป ก่อนจะเอื้อมมือไปตีแขนไอ้น้องชายที่กำลังเล่นกับหัวของเขาอยู่

    ฮิๆ ไปละๆ ไปเรียนดีกว่า ”   ลากเสียงยาวก่อนจะยิ้มหน้าบานแล้วโบกมือให้ จากนั้นก็หันหลังตรงไปทางประตูหน้าร้าน แปลกว่ะไอ้นี่  

     


     

    กินอะไรดีพี่ ”    เมื่อสองคนที่ยืนคุยกันอยู่หน้าประตูซะนาน ก็เดินมาที่โต๊ะก็คนที่เป็นน้องสุดจะถามแล้วเดินเข้าไปยังหลังร้าน

     

     

    พี่คิม ”    เสียงใสใสเอ่ยทัก ก่อนจะโบกมือให้เขาเป็นการทักทาย คนตัวเล็กที่วันนี้ใส่เสื้อยืดแขนยาวกางเกงยีนส์เดินเข้ามาทักเขา ก่อนจะหันไปโค้งหัวให้กับไวท์

    มานานยังพี่ ”    คนที่เดินมาใกล้ถามก่อนจะหันมองไปทั่วร้านเหมือนสำรวจอะไรสักอย่าง

    สักพัก มาสายอะดิ๊ ”    พอดูเวลาก็พอจะรู้ว่านี่ไม่ใช่เวลาที่พนักงานทั่วๆไปควรมาทำงาน คิมก็ถามอีกคนก็จะทำหน้าแหน่เต็มที่

    จุ๊ๆ เดี๋ยวกัปตันโผล่มา... มินไปเปลี่ยนชุดแล้ว ”     เด็กหนุ่มหันมาเอานิ้วชี้แนบปากตัวเองก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปยังหลังร้านเป็นจังหวะเดียวกันที่เด็กหัวเกรียนเดินออกมาพอดี

    มินนนน ”     ทักเสียงดังก่อนจะบ่นตามมายืดยาวแล้วเด็กสองคนก็หายไปยังหลังร้าน โดยที่เค้กในถาดของกัปตันก็กลับเข้าไปอีกครั้งด้วย

                     หลังจากนั้นชายหนุ่มที่นั่งอยู่โซฟารอของกินก็คุยกันเรื่อยเปื่อย จนในที่สุดเด็กทั้งสองคนก็เดินออกมาเด็กหัวเกรียนเดินตรงมาทางพวกเขา ส่วนอีกคนก็เดินไปประจำที่หน้าเคาน์เตอร์ตามหน้าที่ของตัวเอง

     

     

     

    ห้ามชวนออกไปไหนนะ วันนี้จะอยู่ร้าน ”   กัปตันพูดขัดคนที่นั่งข้างๆ ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธอีกคน โดยที่ไวท์ยังไม่ทันได้พุดอะไรเลย

    เห้ยยย  พี่ยังไม่ได้ชวนเลยนะ ”   ไวท์พูดก่อนจะทำหน้านิ่งๆ ไม่อยากจะบอกว่าเขากำลังจะชวนน้องตัวเล็กออกไปเดินห้าง

    ดูหน้าก็รู้ละ ไม่ๆ วันนี้จะไม่ไป

                     คนที่นั่งมองคนเพื่อนกับน้องคุยกันก็แอบยิ้มไปด้วย ก่อนจะเนียนๆลุกเดินตรงไปยังเก้าอี้ที่เรียงกันอยู่หน้าเคาน์เตอร์

     

     
     

    ให้พี่ช่วยทำงานมั้ยจ้ะ ”    เอ่ยปากถามด้วยสีหน้าท่าทางทะเล้น ทำเอาคนที่พึ่งเงยหน้ามามองทำหน้าเหวอใส่

    ไม่ต้องๆ ไม่ต้องเลย ”     รีบส่ายหน้าก่อนจะปัดมือเหมือนกำลังไล่เขาออกไป

    อุส่าหวังดีนะเนี่ย

    ไม่จำเป็นครับบบบ งานมินครับ มินทำเอง ”   เด็กหนุ่มหน้าใสยังคงพูดย้ำยืนยันคำเดิมก่อนจะเอามือตบอกตัวเองเบาๆเขาต้องรับผิดชอบงานตัวเองต่อไป

     
     

    เย็นนี้ว่างป่ะ ”    เท้าคางบนเคาน์เตอร์ก่อนจะเอ่ยปากถามน้องที่กำลังก้มหน้าก้มตากับคอม

    ก็ว่าง .. ทำไมอะ ”    คนที่กำลังเปิดโปรแกรมคิดตังก็เอ่ยปากตอบแต่ไม่ได้หันมามองคนถามแต่อย่างใด

    ไปดูหนังเป็นเพื่อนหน่อยดิ ”   

    ห้ะ ดูหนัง ”   มินหันมามองคนที่ถามก่อนจะขมวดคิ้ว หนังอะไร ทำไมมาชวนเขาไปดู

    เออ รอบห้าโมง หนังผี..เบาๆ ”    คนที่ชวนรีบบอกรายละเอียดหนังไป ก่อนจะถามย้ำอีกที

    ไปปะ ”  

    ไม่อะ กลัวนอนไม่หลับ ”     ไม่ต้องคิดนานพอรู้ว่าเป็นหนังผีก็แทบไม่อยากไปดู ถึงเขาจะชอบเล่าเรื่องผีบ่อยๆแต่เอาเข้าจริงๆถ้าให้ไปดูหนังนี่คงไม่ไหว ยังไม่พร้อมกับหนังผีในโรงรอบนี้ซะจริงๆ

    โหยยยย ไรว้า ”   คนเป็นพี่โวยขึ้นมา ก่อนจะทุบมือรัวๆลงบนเคาน์เตอร์

    เดี๋ยวๆๆๆๆ ... คิดว่าที่ทำนี่น่ารักมั้ย ”     คนเป็นน้องพอเห็นแล้วก็รีบยกมือขึ้นมาห้ามไว้ก่อนจะขำกับคำถามของตัวเอง

    เออ น่ารักมากเนี่ยยยย ”      คนโดนถามยักคิ้วก่อนจะอมลมเข้าปากแล้วชูสองนิ้วขึ้นมาแนบแก้มทั้งสองข้าง

    ไปๆ ไปเลยพี่ ไปเล่นที่อื่นเลย ”      มินชี้นิ้วตรงไปอีกฝั่งหลังจากที่ไล่อีกคนไป

    ไอ้บ้า อย่ามาไล่ ”    คิมขำก็จะยืนมือไปผลักหัวน้องเบาๆ

    โม้ น่ารักไม่เท่ามินนี่ต้องมาพูดเลย ”      เด็กหนุ่มพูดก่อนจะยักไหล่แล้วก็หันหน้ากลับไปทำงานที่คอมเหมือนเดิม

    เออครับ กูน่ารักไม่เท่ามึงหรอกก ”     คิมบ่นเบาๆก่อนจะชำเลืองมองอีกคน

     

     

                     คนโดนมองไม่ได้ตอบอะไร แค่อมยิ้มน้อยๆแล้วก็ทำงานต่อไปไม่ได้หันมาต่อปากต่อคำด้วย คนเป็นพี่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อแค่นั่งมองอีกคนเงียบๆ ก่อนจะนั่งเท้าคางมองนู้นนี่ไปเรื่อย แล้วก็กลับมาหยุดอยู่ที่เดิมตรงที่เคยมอง คนหน้าใสที่กำลังจดจ่ออยู่กับจอคอมพร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากันแล้วก็คลายออกสลับกันไปกันมาก่อนจะลอบถอนหายใจแล้วพยักหน้าเหมือนคุยกับตัวเองเสร็จแล้วก็หันหน้ากลับมามองอีกคนที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์

    อะไรพี่...มองขนาดนี้นี่กินเข้าไปเลยมั้ย ”    คนตัวเล็กเลิกคิ้วถามก่อนจะทำหน้ากวนๆก็เล่นนั่งมองมาตั้งนานไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้นะแค่กำลังทำงานไม่อยากจะจับผิด

    ไม่ๆ ตัวใหญ่ขนาดนี้ติดคอตายพอดี ”     คิมแซวก่อนจะชี้นิ้วล้อน้องไปมา

     

     

                     หลังจากนั้นไม่นานคนในร้านก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ คิมเลยต้องปลีกตัวออกจากหน้าเคาน์เตอร์แล้วย้ายก้นตัวเองกลับมานั่งยังโซฟาที่เดิม

    จะกลับยัง ”        ไวท์หันมาถามหลังจากที่ไอ้น้องหัวเกรียนลุกเดินเข้าไปยังหลังร้านไม่นาน

                     เพราะคนในร้านเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ จนแทบไม่อยากจะนั่งเปื่อยๆให้เปลืองที่นั่งร้านเขาเลย ไวท์จึงอาสาออกไปส่งที่ปากทางเข้าคอนโดแล้วมันก็วนรถกลับไปที่ร้านเหมือนเดิม

     

     

                     คนที่ลงจากรถอมยิ้มแก้มปริก่อนจะรีบก้าวเข้าไปยังบริเวณอาคารแล้วเลี้ยวไปยังสวนย่อมของคอนโดที่อยู่ด้านหลัง เลือกนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ตัวยาวก่อนจะเอนหลังพิงกับพนักพิง

                     ฮ้า

                     ถอนหายใจด้วยอาการสดชื่นสุดๆก่อนจะแขนทั้งสองขึ้นมากอดอกและมองไปยังสวนตรงหน้าอย่างเพลิดเพลินเวลาบ่ายแก่ๆต้นไม้สูงใหญ่ที่รายล้อมสวนอยู่ดูเขียวสบายตาและแสงส่องประกายสะท้อนออกมาจากใบไม้ของตัวมันเอง ไม่ได้มานั่งมองธรรมชาติก็นอนแล้วหวังว่าต่อไปนี้เขาคงมีเวลามานั่งที่นี้บ่อยขึ้นแน่นอน

     
     

    มองขนาดนี้นี่กินเข้าไปเลยมั้ย’  

                     ประโยคคำถามขำๆพร้อมกับหน้ากวนๆลอยเข้ามาในหัวของคนที่กำลังเคลิ้มไปกับสายลม คิมไม่ได้สับมันออกแต่กับยิ้มไปกับความคิดที่ลอยขึ้นมานั้น จากหนึ่งภาพกลายเป็นสองเป็นสาม จากประโยคเดียวกลายเป็นคำพูดมากมายที่คุยกัน เขาไม่คิดเลยว่าคนที่ตัวเองแกล้งแรงไปขนาดนั้นจะยอมรับคำขอโทษแล้วทำตัวสบายๆกับเขาแบบนี้ เขาได้แต่ขอบคุณฟ้าเบาๆ ที่ยอมให้โอกาสเขาอีกครั้ง วโรดมคนนี้คงไม่กล้าปากเสียไปอีกนาน ถ้าปากพาเขาให้พลาดโอกาสมากมายไป เขาคงต้องเสียใจมากแน่นอน

     

     





     

     

     

     คิดไรเนี่ยๆข้าวมาแล้วๆ ”       เสียงจากคนที่นั่งตรงข้ามเอ่ยพูดขึ้นก่อนจะยื่นมาสะกิดที่แขน     หลังจากเลิกงานแล้วเพื่อนตัวเล็กก็โทรไปชวนเขาออกมากินข้าวที่ร้านประจำที่ไอ้คนที่ชวนชอบมากินบ่อยๆ บอกว่าอร่อยเด็ดที่สุดแล้ว

    ตกลงนี่ชวนมากินทำไม เหงาหรอ ”     ครั้งล่าสุดที่เราเจอกันก็หน้าจะหลายวันก่อน ตอนที่โอ๊ตเข้าไปหาเขาที่ร้านหลังจากที่เพื่อนตัวเล็กคนนี้หนีไปต่างประเทศมา

    นิดหน่อย..นิดๆ ”    คนโดนจับได้ทำหน้าจืดก่อนจะเท้าคางแล้วบ่นต่อ

    นี่ก็ไม่รู้จะทำอะไรไง เรียนก็ไม่อยากเรียน งานก็ไม่อยากทำ มึงก็ทิ้งไปทำงานอีก ”     ไอ้คนที่ตัวเล็กแถมหน้าเด็กกว่าผมทำหน้าตางอแงก่อนจะยกมืออีกข้างขึ้นมาเท้าคางเพิ่ม

    ไม่ต้องมาพูด ไม่ใช่ความผิดกูครับ

    มึงแหละ มึงเลยทิ้งกู ”    พูดพร้อมกับเอื้อมมือมาผลักหัวผม

    กินข้าวๆ ”   ผมสะบัดหน้าม้าด้วยมือก่อนจะกวักมือให้มันกินข้าว มัวมานั่งงอแงอยู่นี่แล้วเมื่อไหร่จะได้กินล่ะ



    จะไปไหนอีกปะ ”    พอกินข้าวเสร็จไอ้ตัวเล็กก็ชวนไปเดินดูกระเป๋าที่มันบอกว่าพึ่งเข้ามาใหม่เป็นคอลเลคชั่นที่มันอยากได้มากที่สุดตอนนี้ พร้อมกับบ่นงอแงว่าจะอ้อนแม่ซื้อให้เขาให้ได้เลย

    เหนื่อยแล้วววว อยากกลับบ้านแล้ว ”     ผมบ่นก่อนจะบิดตัวไปมาแสดงให้เห็นว่ากูกำลังเหนื่อยตัวแทบบิดแล้วครับส่งกูกลับบ้านที

    ไปๆ เดี๋ยวไปส่งขึ้นแท็กซี่ ”   โอ๊ตเดินมาจับแขนก่อนจะลากผมไปทางบันไดเลื่อน

    ส่งแค่นี้แหละ เดี๋ยวกูกลับแล้ว ”    พอเดินออกมาจากประตูห้างผมก็เอ่ยปากบอกเพื่อนที่กำลังจะลากแขนเดินต่อไปอีก

    ไม่ได้ เดี๋ยวแม่มึงจะด่า ”   ส่ายหัวก่อนจะดึงแขนให้เดินตามไปที่ริมฟุตบาทตรงจุดที่แท็กซี่จะมาแวะรับคน

    รถมาละ ปล่อยๆ ”     ผมพูดขึ้นเมื่อเห็นว่ารถสีน้ำเงินที่มีป้ายไฟสีแดงขึ้นว่าว่างกำลังแล่นเข้ามาทางที่เรายืน แล้วก็ตีมือคนที่จับแขนไว้ไปสองสามที

    เออ กลับบ้านดีๆ ..ถึงแล้วไลน์มาบอกด้วย ”   คนที่จับแขนอีกคนมานานปล่อยออกก่อนจะเดินไปส่งที่ข้างรถแล้วปิดประตูให้

                     คนหน้าใสในรถโบกมือให้ ก่อนรถจะเคลื่อนตัวออกไปเข้าถนน คนที่ยืนอยู่ริมฟุตบาทโบกมือให้เช่นกัน พอรถหายไปจนสุดสายตาเขาก็ก้มลงมือของตัวเองแล้วก็ต้องอดอมยิ้มไม่ได้เมื่อคิดว่ามือข้างนี้พึ่งจะทำอะไรไป อมยิ้มเล็กๆก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้างอีกครั้ง ยังไม่ถึงเวลาที่เขาอยากกลับบ้านเลย เขายังอยากเดินไปเรื่อยๆ อยากเดินไปกับคนที่พึ่งส่งคนรถเมื่อกี้ไปนานๆ แค่อยากเห็นหน้า แค่อยากได้ยินเสียง แค่อยากอยู่ใกล้ๆให้นานกว่านี้ โอ๊ตก็แค่คิดเท่านั้นเอง











     

    ____________________________________________________________ 



     

    - แง่ววว ต่อแล้วๆ 
    เมื่อวานไม่ว่างมาต่อเพราะคิดเรื่องไม่ออก โทษทีน้า


    ตอนนี้ฉันแอบรัก #ทีมตัวเล็ก เอ๊ะ เดี๋ยว เรานี่ #จะจิ้นคิมมินจนกว่าโลกจะแตก นะ 555555
    อ่านกันแล้วเป็นไงเม้าๆได้นะ แต้งกิ้ว



    mx -xine
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×