ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KimMin] น้องหน้าใสกับพี่ชายปากเสีย

    ลำดับตอนที่ #7 : #ฟิคหน้าใส บทที่ 6 ไม่สบาย

    • อัปเดตล่าสุด 26 เม.ย. 58


     

    ปิ๊งป๋อง

          เสียงประตูเตือนเมื่อมีคนเข้ามาภายในร้าน คนที่กำลังมองหาหนังสือแต่งห้องเล่มใหม่อยู่ก็ไม่ได้หันไปดู เขาไม่ให้เจ้าของร้านจะหันไปทำไมกัน

    เล่มนี้น่ารักดี ’     คนตัวเล็กวางเล่มในมือลงที่ชั้นเดิมก่อนจะเดินไปหยิบเล่มที่อยู่ใกล้ๆอีกเล่มมาดู แต่ด้วยเงาอะไรเคลื่อนไหวที่หน้าประตูจนเขาต้องเหลือบหันไปมองทางหน้าร้าน ภาพที่เห็นผู้ชายใส่หมวกสแนปแบคใบคุ้นตากำลังก้มหน้าก้มตาทำเหมือนกำลังดูตุ๊กตาหมีที่หน้าร้านก่อนจะรีบเดินหายไปยังซอกของอีกฝั่งนึง

                   
                     พอรู้ว่าใครเข้ามาในร้านก็ไม่ต้องรอให้ใครมาบอกมินรีบเดินออกมาจากร้านเพราะกลัวว่าผู้ชายคนนั้นจะเห็นเขาเข้า เขาไม่อยากโดนแกล้งหรือโดนอะไรอีก เมื่อคืนก็กว่าจะหลับลงสภาพมองกระจกเมื่อเช้าเหมือนศพเปื่อยๆกำลังเดินยังไงยังงั้นไม่ต้องเดาก็รู้ว่าทำไมกัปตันถึงมาถามเขา ขนาดเห็นตัวเองมินยังยอมรับเลยว่าไม่โอเคแค่ไหน

     

    เห้ย มิน ”     สองเท้าที่กำลังรีบก้าวตรงไปยังร้านที่เพื่อนสนิทอยู่ก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อได้ยินเสียงคนเรียกชื่อตัวเอง ยังไม่ทันที่จะหันไปมองก็ถูกมือหนามากระชากที่แขนให้หันไปสบตา คนที่ดึงแขนเขาไว้กำลังสายตาวูวไหวเหมือนกำลังคิดบางอย่างก่อนจะเอ่ยปากพูด

    พี่ขอโทษ เรื่องเมื่อวานอะ ขอโทษ ”     คนพูดคำว่าขอโทษซ้ำไปซ้ำมามือที่กำแน่นอยู่ที่แขนของเขาก็เริ่มชื้นขึ้น คนขอโทษก้มหน้ามองพื้น

     “ เมื่อวานแม่งไม่ได้ตั้งใจ ”    และพูดประโยคต่อมาอย่างไม่รอช้า แต่ยังคงก้มหน้าก้มตามองพื้นต่อไป

    รู้เว้ยว่ามันแย่มาก แต่พี่ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ

    พี่..

    พูดขอโทษแบบไม่มองหน้า นี่เชื่อได้แค่ไหน ”    เด็กหนุ่มที่มองคนตรงหน้ามาตั้งแต่โดนดึงแขนจนตอนนี้ผู้ชายตรงหน้าไม่ยอมเงยหน้ามาคุยกันดีๆสักที เอาแต่ก้มหน้าแล้วแบบนี้เขาควรจะเชื่ออะไร  เชื่อพื้นที่พี่แกกำลังมอง หรือรองเท้าที่อยู่ตรงนั้น

    เออ ขอโทษ ”    คนตัวสูงยอมเงยหน้าขึ้นมาพูดแต่สายตากลับมองไปทางอื่น

                     ไม่มีคำพูดใดใดออกมาจากคนที่แขนถูกกำไว้ก่อนแน่น มินยังคงยืนนิ่ง มองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจแล้วเวลาแบบนี้เขาต้องทำยังไง ไม่ได้คิดไว้ว่าถ้าคนๆนี้จะมาขอโทษเลย

                     เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ายืนนิ่งเงียบไป คนที่พยายามหลบตาก็หันมามองก่อนจะสบเข้ากับสายตาคู่หวานที่กำลังมองมาที่เข้าอยู่เหมือนกัน ก่อนจะพูดย้ำให้อีกคนได้รู้ถึงจุดประสงค์ที่เขาต้องการจะบอกจริงๆ

     

    พี่ขอโทษ

     

     

     

     

     

     


     

    ลงไปเลย ส่งแค่นี้แหละ ”     เสียงใสของเพื่อนที่นั่งข้างๆพูดขึ้นก่อนที่เขาจะลงจากแท็กซี่มา

    เออ กลับบ้านดีๆนะ ”     มินหันไปโบกมือลาก่อนจะเห็นว่ารถเขียวเหลืองวิ่งไปแล้วก็เดินเข้าซอยบ้านของตัวเอง

                     หลังจากที่พี่คิมพูดย้ำคำขอโทษสองสามรอบ เขาก็ทำแค่ยืนนิ่งฟัง ไม่นานโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงจะดังขึ้น มินรับโทรศัพท์จากกัปตันที่กำลังตามหาเขาอยู่ก่อนจะหมุนตัวเดินตรงไปยังสถานที่ที่เพื่อนบอกโดยไม่ได้หันกลับมองคนที่ดึงแขนเขาไว้อีก

                     แล้วจะให้เขาทำยังไง ถึงจะรู้สึกดีที่เขารู้สึกผิด มาขอโทษแต่ในใจมันก็ยังรู้สึกแย่อยู่ดี ต่อให้ใครบอกว่าเขามาขอโทษแล้วก็หายสิ พูดหน่ะมันพูดง่ายแต่โดนมาขนาดนี้จะให้ไปยิ้มร่าเบิกบานกระโดดกอดคอมันก็ไม่ใช่ปะ ขอเวลาทำใจสักพัก จะบอกว่าเขาทำตัวไม่ถูกเรียกแบบนั้นก็ได้

    กลับบ้านเร็วจัง  แม่นึกว่าจะกลับดึกๆซะอีก ”      พอเปิดประตูรั้วเข้ามาในบ้าน ก็พบกับแม่ที่กำลังนั่งปลูกต้นไม้อยู่สวนหน้าบ้านกับคุณป้าแม่บ้าน

     เห็นมินเป็นคนยังไงเนี่ยแม่ ”    เด็กหนุ่มลอบถอนหายใจสะบัดเรื่องในหัวออกแล้วเดินตรงไปหาแม่ตัวเองก่อนจะย่อตัวนั่งลงข้างๆ

    ทำไมหน้าแย่ขนาดนี้ ดูสิตำมากเลย เมื่อคืนไปทำอะไรมามิน ”    พอนั่งลงใกล้ๆคนเป็นแม่ที่พึ่งหันมามองหน้าลูกชายก็ต้องขมวดคิ้วก่อนจะเอื้อมมือมาปัดผมที่ตกลงมาปกหน้าของลูกชายออกเพื่อดูชัดๆ

    นอนดึกอะแม่ อ่านการ์ตูนนิดหน่อย ”    มินรีบหันหน้าไปทางป้าแม่บ้านเพื่อขอกระถางดอกไม้ เขาลืมไปเลยว่าหลบหน้าแม่มาตั้งแต่เช้าแล้วเพราะกลัวแม่จะถามถึงเรื่องนี้

    แน่นะ... ไม่ใช่โดนสาวบอกเลิก ร้องไห้ขี้มูกโป่งไม่ยอมบอกแม่นะ ”    แม่พูดแซวเมื่อรู้ว่าลูกชายกำลังพยายามทำตัวกลบเกลื่อน

    ป่าววว ไม่มีแม่ ”      คนโดนแซวรีบส่ายหน้าปฏิเสธก่อนจะตักปุ๋ยมาใส่ในกระถางใบเล็กที่ถืออยู่

    ไม่มีสาว ... หรือแอบไปคบหนุ่ม ”    คุณแม่ยังสวยหันมาเลิกคิ้วพร้อมกับอ้าปากค้าง

    บ้าหรอแม่ มินแมนนะ ”     ลูกชายได้ยินคำถามแม่ก็มือไม้อ่อนก่อนจะรีบวางกระถางต้นไม้ลงที่เดิม

    เข้าบ้านดีกว่า ร้อนมากเลยเนี่ย ”     ยกมือขึ้นมาพัดๆ ก่อนจะรีบเดินเข้าบ้าน เสียงหัวเราะของแม่ดังตามหลังมา นี่ขนาดในสายตาแม่เขายังดูไม่แมนอีกหรอเนี่ย

     

     

     

     

     

      ก๊อก ก๊อก

                  เสียงคนเคาะประตูดังขึ้น เด็กหนุ่มที่กำลังนอนกลิ้งอยู่บนเตียงเด้งตัวขึ้นก่อนจะรีบวิ่งไปเปิดประตู

    กินข้าวเป็นเพื่อนหน่อย กูเหงา ”    และไม่ใช่ใครที่มาเคาะดึกดื้นขนาดนี้ พี่ชายข้างห้องเดินเข้ามาก่อนจะวางถุงโจ๊กลงบนโต๊ะ

    กี่โมงกี่ยาม มาชวนกินข้าว ”    เจ้าของห้องตัวสูงเกาหัวก่อนจะเดินเข้าครัวเพื่อไปเอาถ้วยกับช้อน

    เออ กูรู้ว่ามึงก็กินอยู่ดี

                     ตอนที่คิมเข้ามาอยู่ที่คอนโดนี้เมื่อสองปีก่อนฟีฟ่าก็อยู่ห้องข้างๆนี้อยู่แล้ว วันแรกที่ย้ายของเข้ามาไอ้เด็กคนนี้ก็เป็นคนช่วยไปยกของ หลังจากนั้นเราก็ถือว่าเป็นพี่เป็นน้องกันเวลามีอะไรฟีฟ่าก็จะไปหาเขาที่ห้องตลอด เช่นเวลาที่มันไปดูหนังผีแล้วกลัวจนนอนไม่หลับ หรืออยากดูบอลแต่ดึกแล้วกลัวหลับก็จะขอนั่งดูที่ห้องด้วย มีบางทีผมก็ต้องมาเคาะประตูมันถี่ๆเวลาเจอแมงสาปบินในห้องครัว

     

    เล่นเกมป่ะ ”    คนเป็นน้องหันมาถามหลังจากหายไปในครัวเพื่อล้างถ้วยชามที่พวกเขาพึ่งใช้ไป

    ไม่ๆ ”    คนเป็นพี่ส่ายหน้าก่อนจะทิ้งตัวลงทอดตัวบนโซฟาตัวยาว เขาแค่ไม่อยากอยู่ในห้องคนเดียวบอกตรงๆเขากลัว กลัวความคิดของตัวเองจะกระเจิง ทุกอย่างมันตีกันปนเปไปหมดอยู่คนเดียวมีหวังได้เป็นบ้ากับการเถียงตัวเองแน่ๆ

    ช่วงนี้เป็นไร หน้าพี่แม่งโคตรแย่อะ ”   คนเป็นน้องที่เห็นพี่แปลกๆมาหลายวันก็พอจะเดาออกว่าต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น

    กูเนี่ยนะ หล่อทุกวันหนิ ”    คนโดนจับผิดเอามือขึ้นมาก่ายหน้าผาก ก่อนจะถอนหายใจเสียงดัง

    มึงคิดว่าคนเราแม่งจะชอบกันได้มั้ยวะ

    ตลกละพี่คิม มีแฟนมากี่คนแล้ว จะมาถามอย่างนี้อีก ”     สองปีที่ผ่านมาพี่ชายข้างห้องมีแฟนมาแล้วไม่ต่ำกว่าสี่คน แต่ละคนนี้เด็ดๆทั้งนั้นแต่สุดท้ายพวกเธอทั้งหมดก็เป็นคนบอกเลิกพี่ชายของเขาเอง

    เออ นั้นดิเนอะ

    ทำไม จะไปจีบใคร

    แล้วถ้ากูชอบผู้ชายหล่ะวะ ”    ไม่ได้คำถามของน้องเลยด้วยซ้ำ เมื่อความอัดอั้นตันใจทำให้คนที่นอนอยู่พลั้งปากออกมาก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้เด็กที่กำลังหันมามองหน้าเขาด้วยความแปลกใจ

    พี่ว่าไรนะ ”    คนได้ยินไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

    ถ้ากูชอบผู้ชาย ... จะยังไงวะ ”    และคำถามที่สองก็ชี้ชัดเจนว่าครั้งแรกที่เขาได้ยินน่ะถูกแล้ว ฟีฟ่าแทบหน้ามืดไม่เคยคิดมาก่อนว่าพี่ข้างห้องจะเปลี่ยนแนว ถึงพี่จะตัวเกตัวบางแต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นแบบนั้น

    พี่แน่ป่ะ

    ไม่รู้เว้ย  โว้ยยยย  ”   คนที่นอนอยู่บนโซฟาขยี้หัวตัวเองก่อนจะดิ้นไปมาบนเตียง ไม่สงสัยหรอกว่าน้องมันจะถามทำไม เพราะเขาเองก็ยังสงสัยตัวเองอยู่เลย ที่เป็นอยู่แบบนี้เป็นเพราะอะไร ที่อารมณ์ขึ้นๆลงๆ ไปปากไม่ดีใส่คนอื่นแบบนั้นมันไม่มีเหตุผลเลย

    ไม่เห็นเป็นไรเลยพี่ ... ก็มองแค่เขาเป็นคนที่เราชอบดิ จะไปมองทำไมว่าเขาเป็นอะไร ไม่เห็นต้องใส่ใจขนาดนั้นเลย ”    คนที่ตั้งสติได้ก่อนพูดขึ้น แล้วเอื้อมมือไปตบบ่าพี่ชายที่ดิ้นไม่ยอมหยุด

    แล้วถ้าเขาไม่ชอบหน้ามึงอะ เขาแม่งไม่อยากรู้จักมึงด้วยซ้ำ เจอทีไรมึงก็ไปด่าเขา ทำเขาร้องไห้ทั้งๆที่พึ่งเจอกันหละ ”   คำถามเป็นร้อยผุดขึ้นมาในห้องของคนที่กำลังฟุ้งซ่านเขาไม่รู้ว่าความรู้สึกแบบนี้จะเรียกว่าอะไร ใครจะเข้าใจขนาดตัวเขาเองยังไม่เข้าใจมันเลย นี้เป็นครั้งแรกที่เขาสับสนจนไม่รู้จะหันไปปรึกษาใคร

    แต่พี่ก็ชอบเขาไปแล้วหนิ

    แล้วแค่นั้นจะไปล้างความผิดได้ยังไงวะ ”    เอ่ยปากตอบทันทีที่น้องพูดยังไม่ทันจบ

    ก็ไปขอโทษดิ คนเรารู้สึกผิดก็ต้องขอโทษ

    กูไปแล้ว แต่เขาไม่พูดอะไรเลย ”     คิมลุกขึ้นนั่งก่อนจะเอ่ยปากตอบ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนสุดท้ายที่จับแขนคนตัวเล็กไว้ตอนนั้นเขากำลังรู้สึกอะไรอยู่ แล้วคนที่ฟังคำขอโทษของเขากำลังคิดอะไรอยู่เขาไม่รู้มันด้วยซ้ำ

    กูควรทำยังไงต่อไปวะ

     

     

     

     

     

                  ติ้งต่อง

    เสียงประตูร้านถูกผลักเข้ามาก่อนจะตามมาด้วยเสียงทักทายอย่างสดใสจากพนักงาน

    สวัสดีครับ

    ขอโทษนะครับ นี่ใช่ร้านเค้กของกัปตันปะครับ ”    ลูกค้าตัวสูงหน้าเข้มเดินเข้ามาถามพนักงานที่เคาน์เตอร์ก่อนจะได้คำตอบว่าที่นี้แหละคือที่ที่เขากำลังถามหา

    ฟีฟ่า  ”    เสียงเรียกชื่อทำคนถกเรียกสะดุ้งก่อนจะโบกมือให้คนที่ทักเขา

    ว่าไง ”    เจ้าของร้านตรงเข้าไปหาน้องข้างห้องของพี่ชายตัวเล็ก เขาสองคนรู้จักกันมาก่อนหน้านี้แล้วเขาเคยไปเรียนทำอาหารที่เดียวกัน กัปตันจำได้ว่าเจอฟีฟ่าไม่ถึงสิบครั้งหลังจากนั้นฟีฟ่าก็ไม่เข้าเรียนคลาสนั้นอีกเลย

    ว่าจะมาหาพี่ไวท์ พี่คิมบอกถ้าอยากเจอให้มาที่นี้ ”     พอฟีฟ่าเอ่ยชื่อพี่ชายที่ฝากเขามาทำธุระแทน พนักงานที่น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ก็หันมามองก่อนจะรีบหลบสายตาไป

    อ้อ นู้นๆ  นั่งอยู่นั้นอะ ”    กัปตันมองหาร่างของคนตัวสูงก่อนจะชี้ไปหาเมื่อเห็นว่ากำลังนั่งพิมพ์งานอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่าง

    อ้อ งั้นเดี๋ยวมานะ ”    คนตัวสูงขอตัวแล้วเดินเข้าไปนั่งตรงข้ามกับพี่ชายที่เขาก็รู้จักเช่นกันเพราะเคยเจอกันตอนที่พี่ไวท์ไปเล่นเกมกับพี่คิมอยู่บ่อยๆ

     

     

    พี่คิมฝากมาลาอะพี่

    มันเป็นไรวะ

    บอกว่าคืนนี้คงไปไม่ไหว ปวดหัวมากๆเลยขอพัก

    แล้วมันเป็นไรวะ

    ฟ่าก็ไม่รู้เหมือนกัน อกหักมั้ง


                     นั้นคือสิ่งที่มินได้ยินมาจากบทสนทนาของคนสองคน เขาไม่ได้ไปแอบฟังนะ แค่เดินผ่านๆไปก็เท่านั้น หลังจากที่กลับมาประจำที่เดิมคนที่ชื่อฟีฟ่าก็เดินมาลากัปตันก็จะหันายิ้มให้เขาแล้วเดินออกจากร้านไป

    กัปตัน เห็นโทรศัพท์พี่บ้างมั้ย  ”    พี่ไวท์เดินมาถามหาโทรศัพท์ก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกงตัวเองซ้ายขวาหาก็ไม่เจอ

    อยู่บ้านมั้ย เมื่อเช้าเห็นพี่ชาร์ต

    แน่เลยหวะ ถึงว่าใครโทรหาก็ไม่ได้ ”   พี่ไวท์ทำหน้าเซงก่อนจะลากน้องหัวเกรียนให้พากลับบ้านไปเอาโทรศัพท์ฒือถือที่ตอนนี้คงนอนอยู่บ้านเตียง

     

     

                    

     

    ฟ่าก็ไม่รู้เหมือนกัน อกหักมั้ง

    ประโยคคำพูดของผู้ชายที่เขาพึ่งเจอหน้าครั้งแรกยังคงดังก้องอยู่ในหัว

     

     












    ไม่ได้หลงเรื่องนะ แค่จะมาบอกว่าสองคนนี้คงกลับบ้านไปหาโทรศัพท์จนดึกแน่ๆเลย -,-//

     


    ใจเย็นๆกันนะ  เดี๋ยวก็คงเขาใจกัน 55555
    ก็ดูพี่คิมดิ พอจะจริงจังก็ป็อดซะ น้องก็งอนไปดิ
    ตอนหน้ามาลุ้นกันนะว่าจะไงต่อ

    แต๊งกิ้วนักอ่านและคอมเม้น
    ทุกคนนะคะ ;D 


     

    mx -xine
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×