ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KimMin] น้องหน้าใสกับพี่ชายปากเสีย

    ลำดับตอนที่ #5 : #ฟิคหน้าใส บทที่ 4 ขัดใจ

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ค. 58


     
     

     

                    





                         แกร๊ก

    เจ้าของห้องหมุนลูกบิดประตูก่อนจะ

     “ เซอร์ไพรส์ ”      เสียงร้องดังก่อนหน้าของเด็กหนุ่มข้างห้องจะปรากฏตัวในมือมันกำลังถือจอยเกม บนโต๊ะก็มีห่อขนมวางอยู่เต็ม

                     ทำเอาคนที่พึ่งเปิดประตูเข้ามาต้องถอยออกไปมองหมายเลขห้อง

    เมื่อเช้าพี่ลืมล็อคห้องอะ ฟ่าก็เลยเข้ามาเลย ”     เด็กข้างห้องบอกพร้อมกับหน้าตาที่เบิงบากอารมณ์ แล้วหันกลับไปทางจอทีวี

    สัส กูก็นึกว่าเข้าห้องผิด

    พี่คิมห้ามโกรธนะ ”    ในปากกำลังเคี้ยวขนมอยู่ตาก็ยังมองที่จอ แหม คำถามดูแคร์คำตอบกูมาก

    ตามบาย ”     คิมตอบก่อนจะเขวี้ยงหมอนที่วางอยู่ข้างๆฟีฟ่าไปลงที่หัวของเด็กติดเกมแทน

     ก่อนจะตรงไปยังประตูห้องนอนแล้วกระโดดลงบนเตียงอย่างผ่อนคลาย

    เดินเหมือนจะตาย เป็นไรวะ ”     ฟีฟ่าพูดกับตัวเอง เขารู้ตั้งแต่เห็นสีหน้าของพี่ชายข้างห้องเปิดประตูเข้ามาแล้วว่าต้องมีอะไรแปลกๆ ท่าทางแบบนี้  ไหนจะไม่เล่นเกมกับเขาอีก ยิ่งทำให้รู้ว่าคนที่เดินเข้าไปในห้องนอนกำลังมีเรื่องกังวล

     

                     หน้าต่างบานใหญ่ช่วยบอกให้คนที่พึ่งกลับห้องมารู้ว่าดึกแล้ว เงยมองนาฬิกาที่อยู่บนหัวเตียงก็แสดงเวลาว่าทุ่มกว่าๆแล้ว ถึงวันนี้จะต้องไปร้องเพลงที่ร้านของเพื่อน แต่เขาเลือกที่จะนอนหลับตาก่อนจะคิดว่าค่อยไปสองทุ่มก็ทัน

                     เพียงแค่หลับตาลงภาพเด็กผู้ชายหน้าใสอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนยืนยิ้มกว้างจนทำให้ตาหวานๆถูกปิดเหลือเล็กลงก็ลอยเข้ามาในหัว เสียงหัวเราะที่เขาได้ยินเพียงเบาๆก็ตามมา ปกติถ้าเขาเห็นแบบนั้นเขาคงกำลังยิ้มไปกับความคิดแล้ว แต่วันนี้มันไม่ใช่ ยิ่งนึกถึงยิ่งหงุดหงิด ยิ่งคิดว่าคนที่ทำให้เด็กคนนั้นแสดงอารมณ์มากมายต่างๆนานาออกมา ไม่ใช่เขา มันก็ทำให้แทบหายใจไม่ออก อึดอัดไปหมด

                     โอ้ยยยยย

    เสียงร้องด้วยความหงุดหงิดหลุดออกมาจากความคิดมือคว้าหมอนใบใหญ่มาอุดหน้าตัวเองหวังให้ภาพเหล่านั้นหายไป ขาสองข้างถูกเหวี่ยงลงเตียงขึ้นลงด้วยความหงุดหงิด ถ้าใครมาเห็นสภาพตอนนี้เขาคงเหมือนกับเด็กที่อยากได้ปลาโลมา

                     โว้ยยยยยยยยยยยย

     

     

     

     

    ติ้ดติ้ด ตี้ดดดดด ติ้ด 

                    

                     เสียงนาฬิกาปลุกบนหัวเตียงดังขึ้น ทำให้คนที่นอนอยู่ต้องพลิกตัวไปมาด้วยความขี้เกียจ เขายังไม่อยากตื่นเลย

    มิน   มินลูก ตื่นได้แล้วนะ ”     คนที่พึ่งจะเอื้อมมือไปกดปิดเสียงนาฬิกา แทบคลั่งเมื่อแม่เดินมาเคาะประตูปลุก

    ค้าบบบบ  ”    คนที่ยังไม่อยากตื่นยันตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะงัวเงียล้มลงไปนอนอีกที

     

     

    สายยยยย   กูจะหักเงินเดือนนนนนน ”    วินาทีที่เปิดประตูร้านเข้ามา เสียงเจ้าของร้านตะโกนลั่นก่อนจะลากเสียงยาวๆเป็นการทำทีว่าจริงจัง

    ร้องดังทำไม หนวกหู้ววววววววววว  ”    ไม่ใช่เสียงของคนที่สายแต่เป็นเสียงของไอ้หัวเห็ดซิงที่กำลังเช็ดหน้าต่างตะโกนตอบกลับพร้อมกับเสียงสูงๆแบบเดียวกัน

    พวกมึง ตะโกนเหี้ยไรเนี่ยยยย  ”    คนตัวโตหันมาบ่นพร้อมกับเอามือปิดหู

    ไม่ตอบมาพูด มึงอะเมื่อวานก็โดดงาน ไอ้ชัพ กูจะหักเงินเดือน ”   กัปตันเดินมาใกล้ๆก่อนจะฟาดมือลงที่แขนของคนโดดงานดังป้าบ

    เด็กมอปลายนี่เสียงดังกันจังเลยนะ ”     คนถือถาดเค้กที่พึ่งอบเสร็จออกมาจากหลังร้านพร้อมกับใบหน้ายิ้มแย้มพูดก่อนจะโค้งรับไหว้น้องๆ

    เนอะพี่เกม บางทีกัปตันควรจะคิดใหม่ว่าจะไล่พวกมันออกดีรึเปล่า

    หรา! ”  เสียงประสานดังขึ้นก่อนจะตามมาด้วยผ้าเช็ดโต๊ะเช็ดหน้าต่าง ไม้กวาด ไม้ถูพื้นเขวี้ยงไปใส่เจ้าของร้านของเล็ก แล้วพนักงานทั้งร้านก็หัวเราะเสียงดังสื่อว่าเกรงกลัวเจ้าของร้านมากแค่ไหน

     

     

     
     

    18.00

    เมื่อวานไปไหนมา  ”      เพื่อนตัวสูงเจ้าของร้านถามด้วยสีหน้านิ่ง

    กูขอโทษ  กูจะไม่ทำอีกแล้ว ”     คนที่รู้สึกผิดตั้งแต่ตื่น แทบจะเอาหัวโขกกำแพงห้องตายเมื่อรู้ว่าตื่นมาก็เกือบเที่ยงแล้ว เมื่อคืนเผลอหลับไปดีที่หมอนไม่อุดจมูกตาย วันนี้เลยตั้งใจมาที่ร้านโดยเร็วแต่ติดตรงที่รถเจ้ากรรมนายเวรดันสตาส์ทไม่ติดต้องโทรตามช่างมาดูแล้วเอาเข้าอู่ไป กว่าจะได้ออกมาก็เกือบพระอาทิตย์ตก

    แม่งโทรไปเป็นร้อยๆสาย ”    คนที่เดินนำขึ้นบันไดมาทั้งเดินทั้งบ่น จนคนที่ตามต้องรู้สึกผิดไปอีก

    กูขอโทษษษ  กูไม่ได้ยิน  ”  

    ไม่ยกโทษให้หรอก ไม่มีทาง ”   ไวท์หันมาตะโกนเสียงดังก่อนจะหันไปหัวเราะเดินตรงไปที่หน้าเวที

    ไอ้ไวท์ ไอ้.... ไอ้หล่อ ไอ้รวย ไอ้.... โอ้ยยย ด่ามึงว่าไรได้บ้างวะ ”    พอจะด่าเพื่อนสนิทก็ต้องคิดหนัก เมื่อคิดข้อเสียมันแทบไม่ออก คนเหี้ยไรไม่มีอะไรให้เอามาด่าได้เลย

    ด่างี้ กูก็เจ็บดิ ฮะฮ่า ”     พูดขึ้นก่อนจะเอามือขึ้นทุบอกตัวเอง กูขอให้มึงเจ็บจริงๆเถอะ

    ไปเลยนะ ไปเลย ”      เมื่อความหวั่นไส้เข้ามาบังตา คิมก็ยกขาขึ้นมาเตะตูดก่อนจะกระโดดถีบเบาๆให้อีกคนหลบไป เพื่อเขาจะได้เตรียมเพลงและเตรียมตัวร้องเพลงคืนนี้

    อย่าๆๆ เออๆ เดี๋ยวกูลงไปเช็คของแล้ว ”     ไวท์วิ่งหลบเท้าอีกคนไปมาก่อนจะยกมือขึ้นยอม แล้วก็รีบเดินลงบันไดไปยันชั้นล่างตามที่บอก

     

     

     

    เธอเข้ามากระชากหัวใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เราพบกัน

    อยากจะสานสัมพันธ์กับเธอต่อไปให้ยาวนาน

    อยากหยุดเวลาเอาไว้ตรงนี้ หยุดประเดี๋ยวนี้    ตอนที่เราจ้องตาเป็นมัน

    พร้อมกับส่งสัญญาณว่าฉันชอบเธอ ~

     

    เสียงที่คุ้นเคยกับบรรยากาศเดิมๆกลับมาอีกครั้ง ดาดฟ้าที่ตอนนี้มีแสงจากโคมไฟประดับประดาไปทั่วบริเวณ ผู้คนกำลังทยอยขึ้นมายังชั้นนี้เพื่อมาดื่มดำกับสายลมและจ้องมองดวงดาวจากตรงนี้

     

    แต่แล้วฝันมันก็สลายไปในพริบตา

    เมื่อมีคนนึงเดินเข้ามา   จับมือเธอแล้วเดินจากไป

    ไม่อยากจะขัดใจตัวเอง ที่มันชอบเธอไม่ให้ชอบเธอก็คงเป็นไปไม่ได้

    เพราะใจมันคิดไปไกลยากที่จะดึงกลับแล้ว จำเป็นต้องขัดใจตัวเอง

    ข่มตาลงแล้วหันหลังกลับ บอกใจว่าไม่เป็นไร คิดว่าเป็นความสุขเล็กๆน้อยๆไป

     

    เสียงกีต้าสอดประสานไปกับสายลม วันนี้เพลงรักเศร้าๆกับการคลุกเคล้าอารมณ์ของเขาเข้าไปด้วยแล้วนั้น บอกเลยโคตรอิน

                     คนบนเวทีหลับตาพริ้มร้องเพลง ในยามราตรีนี้ เขาอยากเพียงแค่จะจมไปกับความคิดของตัวเอง อยากขอให้สายลมพัดเขาไปให้ล่องลอยบนฟ้าผืนกว้าง ถ้ามันจะเศร้าก็ต้องมีน้ำตา และถ้ามันจะเจ็บมันก็ต้องเจ็บเจียตายกว่านี้

     

     

    22.00

    วู้วววว แปะๆๆๆ 

    เสียงปรบมือดังขึ้นหลังจากคืนนี้เวลาล่วงเลยมานานนับเพลงที่แขกได้ฟังไปในวันนี้ก็เกือบยี่สิบเพลงวนเวียนไปตามแบบฉบับของนักร้องคนเดิม

    ขอบคุณครับๆ พรุ่งนี้เจอกันใหม่ อย่าลืม ใครที่กำลังอกหักรักตุ๊ด พึ่งรู้ว่าแฟนเป็นเกย์ บอกเลยนะครับ อย่าให้ใครมาทำเราเจ็บช้ำได้นอกจากตัวเราเอง รักตัวเองให้มากๆเข้าไว้ แล้วเราจะผ่านมันไปได้ เค๊ ”    พูดฝากทิ้งท้ายก่อนจะโค้งให้กับคนฟังแล้วสะพายกีต้าลงจากเวที

     

    วันนี้อัลบั้มคนอกหักหรอพี่ แม่งโคตรเศร้า ”     โต๊ะหน้าสุดขอบเวทีหันมาถามหลังจากเข้ามานั่งตั้งแต่ต้น

    ไม่หรอก นิดหน่อยเอง ”    คนโดนถามยิ้มตอบก่อนจะเดินไปยังโต๊ะประจำที่เขาลงมานั่งทุกวัน นั่งลงไม่นานพนักงานก็เดินเข้ามาบริการเครื่องดื่มก่อนจะถามว่าเขาจะทานอะไรเป็นอาหารรอบดึก

    เห็นไวท์ปะครับ ”     พอบอกเมนูที่อยากกินไปแล้ว ก็ตามหาเพื่อนสนิทที่ปกติจะต้องอยู่แถวๆนี้แต่วันนี้เขามองยังไงก็หาไม่เจอ

    อ้อ คุณไวท์บอกจะออกไปข้างนอกหน่ะค่ะ ”    พนักงานวัยกลางคนเอ่ยตอบก่อนจะขอตัวไปรับลูกค้า 

     

     

    พี่คิมมม ”     เสียงใสที่คุ้นเคยดังมาจากโต๊ะประจำ เมื่อคนที่นั่งอยู่ลงไปเข้าห้องน้ำ พอขึ้นมายังดาดฟ้าก็โดนเด็กหนุ่มเรียกพร้อมกับโบกมือส่งสัญญาณให้เขาเห็น

    กูก็นึกว่าไปไหน ที่แท้ก็ไปรับเด็ก ”    คนที่เดินมาถึงโต๊ะทำหน้าล้อเลียนเพื่อนกับน้องที่นั่งตรงข้ามกันอยู่สองคน

    พอ นั่งลง ”   ไวท์ตบเบาะข้างตัว ก่อนที่เพื่อนตัวบางจะนั่งลง

    ความจริงก็ไม่อยากมาหรอกพี่คิม พี่ไวท์ดิ บังคับ ”   คนน้องที่นั่งเยื้องๆเขาไปหันมาบอกพร้อมกับทำหน้าเหมือนคนลำบากใจ

    หรออออ  กูเห็นของฟรีที่ไหนก็เห็นมึงอะ ”    คิมเลิกคิ้วก่อนจะลากเสียงยาวถามกวนไอ้น้องขี้โม้

    อย่าว่าน้อง ”     เพื่อนที่นั่งข้างๆพูดขึ้นจะทำหน้าดุใส่เบาๆ

    “…. นี่พวกมึง ไปได้กันตอนไหน ”   ทำตาโตก่อนจะเอามือขึ้นทาบอก แต่สิ่งที่ได้คือหน้าของกัปตันกลับค่อยๆแดงขึ้น

    ชิบหาย อะไร ยังไง บอกกู ”     คนที่แซวเล่นๆเขย่าแขนของเพื่อนที่นั่งทำนิ่งจิบเบียร์ เขาแค่แซวขำๆแต่ตอนนี้สัมผัสได้ว่ามันต้องมีเค้าโครงเรื่องจริงเข้ามาเกี่ยว

    เห้ยยย ทางนี้ๆ  ”    น้องหัวเกรียนที่ทำอะไรไม่ถูกก็หันหน้าหันหลัง มองทางนู้นทางนี้ไปเรื่อย ก่อนจะยกมือขึ้นมาโบกเหมือนตอนที่ตะโกนเรียกผม

    คนเยอะ นึกว่าจะหาไม่เจอซะแล้ว ”    แต่เสียงของคนที่พึ่งจะมาถึงทำเอาคิมที่กำลังจะก้มไปกินข้าวต้องเงยขึ้นมามอง และคนที่นั่งลงตรงข้ามก็หันมาสบตาเขาพอดี

    เคยเจอกันแล้วหนิ นี่พี่คิม ส่วนนี่ก็ไอ้มิน ”    เมื่อเห็นว่าสองคนมองหน้ากันนิ่งอยู่นานกัปตันก็เอ่ยแนะนำให้

    หวัดดีครับ  ”    มินที่นั่งลงหนไปทักพี่ไวท์ก่อนจะหันมามองคนที่นั่งตรงข้ามแล้วก็รีบหันไปหาเพื่อนที่นั่งข้างๆแทน

    สั่งไรให้กูยัง ”   

    สั่งไปแล้วครับ รอแป๊ปๆ

    แล้วมินมาไงอะ ”   ไวท์ที่เห็นคนข้างตัวเองนิ่งแปลกๆเลยหันไปชวนน้องชายอีกคนคุยแทน

    อ้อ พอดีมินเรียนร้องเพลงอยู่แถวนี้พอดีอะพี่ เลยให้เพื่อนแวะมาส่ง

    แหมมม มึงมากับไอ้โอ๊ตหละสิ ใช่มั้ย ใช่มั้ย ”   กัปตันสวมบทเป็นนักสืบก่อนจะยกนิ้วชี้มาวนที่หน้าของเพื่อนตัวเอง

    เอออออออ แล้วจะทำไม ”     คนโดนถามรีบตอบกลัวไอ้คนที่ถามจะเอามาทิ่มตาซะก่อน  พอได้คำตอบกัปตันก็ยักไหล่ทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้

    เสียดาย มาไม่ทันพี่คิมร้องเพลง ”    พอเห็นพี่ชายที่พูดมากๆเงียบไปหน่อยกัปตันก็หันไป ความจริงเขาตั้งใจจะมาดูพี่ชายผู้น่ารักร้องเพลง แต่รถดันติดกว่าพี่ไวท์จะไปถึงร้านเค้กได้ก็เกือบชั่วโมงสุดท้ายก็เลยกลับมาไม่ทัน

    ไว้วันหลังก็ได้ ร้องอีกนาน ”    คิมหันมาตอบน้องก่อนจะเหลือบไปมองคนนั่งตรงข้ามที่กำลังมองไปมารอบด้าน

                     เมื่ออาหารอีกสามจานถูกนำมาเสิร์ฟบทสนทนาบนโต๊ะก็ค่อยๆเป็นไป แต่ส่วนใหญ่จะเป็นน้องหัวเกรียนกับเพื่อนข้างๆของคิมมากกว่า เพราะเท่าที่ฟังมาเหมือนเด็กชายที่นั่งตรงข้ามจะไม่ค่อยพูดแต่จะฟังแล้วยิ้ม แล้วขำตามซะมากกว่า

    เออๆ รู้เปล่า ว่ากินข้าวกับอะไรอร่อยที่สุด   ไวท์ที่วันนี้ดูอารมณ์ดีสุดๆถามขึ้นมาก่อนจะมองรอคำตอบจากทีละคน

    กินกับตะวัน ”   กัปตันตอบคนแร แต่คนที่ถามก็ส่ายหน้า

    กับข้าวผัด ”   คนที่ถามคำถามยากๆก็ส่ายหน้าแรงกว่าเดิม

    กับอะไรก็อร่อย กินฟรี  ”    พอโดนจ้องหน้าอยู่นาน คิมก็เอ่ยตอบส่งๆไปเพราะคิดไม่ออก แต่เพื่อนตัวสูงก็ยังส่ายหน้าก่อนจะยื่นหน้าเข้ากลางวงคล้ายๆจะพูดเรื่องสำคัญ

    ก็ กินกับ ... กับ ... กับ... ”   คนที่ตอบไม่ถูกต่างก็กำลังยื่นหน้าไปใกล้ๆเพื่อตั้งใจฟังเฉลยของปัญหานี้ และคำตอบที่ได้ก็คือ

    กัปตันไง อร่อยที่สุดละ ”    คนพูดจบก็หัวเราะเอาเอง  แต่สามคนที่ฟังอยู่ถึงกับอึ้ง

    คำถามเหี้ยไร นี่มึงใช้อะไรคิด โอ้ะ โคตรน้ำเน่า”   คิมทำหน้ารับไม่ได้สุดแรงก่อนจะเอ่ยขึ้นมา พร้อมกับส่ายหน้าแรงๆ เสียงหัวเราะของอีกสองคนก็ตามมา

                     คนที่เห็นว่าคนตรงข้ามกำลังหัวเราะก็เผลอหลุดยิ้มออกมาก่อนจะรีบหันไปมองอีกทางเมื่ออีกคนหันมาสบตาเขาเข้า

    โทรศัพท์ป่ะ ”    กัปตันหันไปถามคนที่นั่งข้างๆก่อนจะจับไปที่กระเป๋ากางเกงของเพื่อน

    เออว่ะ  ... ฮัลโหลโอ๊ต ”      ราวกับเทวดามีตาทิพย์คนที่พึ่งจะหลุดยิ้มกว้างออกมาก็หุบยิ้มแทบจะไม่ทัน เมื่อรู้ว่าปลายสายที่คนนั่งตรงข้ามรับคือใคร

    อ่าๆ  ...แป็ปนะ เดี๋ยวมา  ”  คนตัวเล็กหันมาบอกเพื่อน ก่อนจะลุกขึ้นและเดินออกไปคุยโทรศัพท์ที่ริมระเบียง

    เอ้า มึงจะไปไหน ”    ไวท์ถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนที่นั่งข้างๆกำลังหันไปสะพายกีต้าเตรียมจะลุกจากเก้าอี้

    กูจะกลับละ ง่วงนอน ...พี่กลับก่อนนะ ”   คิมสะพายกีต้าขึ้นบ่าก่อนจะหันมาบอกน้องและเพื่อนที่กำลังมองเขาด้วยความงุนงง ยกมือขึ้นเป็นการลาและเดินตรงไปทางบันไดทันที

                     เขาชักจะหงุดหงิดตัวเองไปกันใหญ่ เมื่ออยู่ดีดีก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ แค่ได้รู้ว่าใครโทรมาเขาก็แทบจะบ้า แล้วยิ่งเห็นท่าทางก่อนจะลุกออกไปคุยโทรศัพท์ของคนตัวเล็กด้วยแล้วยิ่งพาลให้หงุดหงิด

    กูเป็นเอามากแล้วนะ  นี่กูใจง่ายขนาดนั้นเลยหรอวะ








    _____________________________________

    มาต่อแล้ววว  > <
    ขอโทษนะค้าา ที่ไม่ได้มาอัพ2วันแล้ว คือเราไปต่างจังหวัดมา
    กลับมาวันนี้ สัญญาจะอัพสองตอนเลย รอหน่อยนะ

    ขอบคุณทุกคอมเม้นและทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
    ดีใจมากสองร้อยวิวแล้ว ฝากด้วยน้า เยิปๆ
       
     

    **อีดิทอีกรอบ






     

    mx -xine
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×