ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KimMin] น้องหน้าใสกับพี่ชายปากเสีย

    ลำดับตอนที่ #16 : #ฟิคหน้าใส บทที่ 15 สัญญา

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ค. 58


     

     






     

                     ร่างสูงลืมตาตื่นขึ้นในยามเช้า แสงสีทองสาดส่องเข้ามาภายในห้องก่อนเจ้าตัวจะบิดกายหวังคลายความตึงของกล้ามเนื้อที่หลังแต่ก็ต้องสะดุดเมื่อแขนไปสัมผัสโดนอะไรบางอย่าง พอหันไปมองก็พบกับกองผ้าห่มกองโตที่ดูเหมือนจะมีคนเอามันพันๆไว้รอบตัว และไม่นานเขาก็จำได้ว่านี่ไม่ใช่ห้องของตัวเอง

                     เมื่อคืนหลังจากที่มาบ้านหลังนี้ร้องขอให้อีกคนออกไปหา คนตัวเล็กก็ไม่มีวี่แววจะออกไป เขาเลยถือวิสาสะปีนรั้วบ้านเข้ามาก่อนจะตรงเข้าบ้านมาได้อย่างง่ายดายเพราะประตูหน้าบ้านก็ไม่ได้ล็อคเอาไว้

                     คิมพลิกตัวนอนตะแคงเพื่อมองเด็กน้อยในผ้าห่มผืนหนาเจ้าของใบหน้าขาวเนียนกำลังหลับตาเผยให้เห็นขนตาที่ดำสวยเป็นแพยาว เมื่อคืนไม่รู้ว่าตัวเองหลุดปากหรือตั้งใจพูดคำนั้นออกไป แต่ในใจก็หวังว่าให้คนตรงหน้านั้นคิดถึงเรื่องนี้บ้างก็ยังดี

     

     


     ครืด ครืด

                     เสียงสั่นโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงดังเป็นจังหวะ ทำเอาคนที่กำลังจะเอื้อมมือไปปัดผมของคนที่นอนข้างๆต้องชะงักไว้กลางอากาศก่อนจะลุกขึ้นนั่งแล้วเดินออกนอกระเบียงไปรับโทรศัพท์

    โหล

    เปิดห้องให้หน่อย จะเอารองเท้า ”            เสียงดังจากปลายสายบอกจุดประสงค์แล้วพอมองดูหน้าจอก็ถึงเห็นว่าเป็นเบอร์ของเด็กข้างห้อง

    เปิดไม่ได้เว้ย ไม่ได้อยู่ห้อง ”       ก่อนจะตอบกลับไปแทบเป็นเสียงดังพอพอกัน

    ห้ะ ไม่อยู่ห้องแล้วนี่พี่ไปนอนไหน ”          ฟีฟ่าร้องออกมาด้วยความตกใจก่อนจะพูดต่อ

    เออๆ ไม่รู้ก็ได้ แค่นี้แหละ แค่นี้แหละ ”                 เด็กข้างห้องพูดซ้ำๆก่อนจะกดตัดสายไป

     

     

    ตื่นเช้าว่ะพี่ ”      และยังไม่ทันได้หันหลังกลับเข้าห้อง คนตัวเล็กที่นอนอยู่เมื่อกี้กลับมายืนบิดแขนอยู่ข้างเขาซะแล้ว

    ก็ธรรมดา ”      คิมตอบไปก่อนจะยักไหล่น้อยๆให้อีกคนแล้วยืนเท้าแขนบนขอบระเบียง

    แล้วสรุปเมื่อคืนทำไมเข้าบ้านมาได้ ”      มินเอามือปากห้าวก่อนจะหันมาถามพี่ชายตัวสูง

    ไม่บอก ความสามารถส่วนตัวเว้ย ”         

    หรา ปีนเข้ามาสินะ แจ้งตำรวจได้มั้ยเนี่ย ”    เด็กตรงหน้าส่ายหน้าก่อนจะหัวเราะเบาๆออกมา

    เขาไม่รับแจ้งหรอก เพราะคนหล่อย่อมไม่ผิด ”       พอพูดจบก็เหมือนเป็นการเพิ่มแรงหัวเราะให้คนตัวเล็กตรงหน้า เพราะมินยิ่งขำไปกันใหญ่

    อย่ามาขำ มันเรื่องจริงคิมหันไปชี้หน้าอีกคนก่อนจะเปลี่ยนเป็นขำตามแล้วเอื้อมมือไปลูบหัวอีกคนด้วยความหมั่นเขี้ยวแทน

                     คนตัวเล็กที่กำลังหัวเราะดีสดใสกว่าเมื่อคืนที่เขามาถึง ถ้าเรื่องร้ายๆมันเกิดจากเขาจริงๆ เขาก็ยินดีที่จะสร้างเรื่องดีๆให้เกิดขึ้นบ้างเหมือนกัน

     

    มินตื่นได้แล้วนะครับ กินข้าวกัน            เสียงเคาะประตูมาพร้อมกับเสียงสายวัยกลางคนที่ทั้งสองคนก็ต่างรู้ว่าใครก่อนมินจะตะโกนตอบกลับไปทั้งๆที่ยังหัวเราะอยู่

    ครับแม่

                     ทั้งสองคนล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็ตรงลงบันไดมาที่ชั้นล่างเพื่อมาทานอาหารเช้ากับหญิงสาวเจ้าของบ้าน พอโผล่หน้าเข้ามายังห้องอาหารคนเป็นแม่ก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ

    เอ้า คิมมาตอนไหนลูก ”       หญิงสาวมองหน้าหนุ่มตัวสูงที่เดินตามหลังลูกชายเธอเข้ามา

    พอดีพี่คิมลืมของไว้หน่ะแม่ เลยมาเอาแต่เช้า ”                  ยังไม่ทันที่จะได้อ้าปาก คนตัวเล็กด้านหน้าเขาก็ตอบหญิงสาวไปก่อน

    อ้อ งั้นมากินข้าวด้วยกันเลยนะหญิงสาวเอ่ยปากชวนก่อนจะหันไปบอกแม่บ้านให้เตรียมข้าวให้อีกหนึ่งทีแล้วทั้งสองคนก็นั่งลงตรงข้ามกัน ก่อนจะเริ่มมื้ออาหารแรกเดียวกัน ระหว่างทานหญิงสาวก็เล่าเรื่องต่างๆเกี่ยวกับลูกชายให้คนมาเยือนฟัง ทำเอาคนเป็นลูกชายนั่งแทบไม่ติดห้ามแม่ตั้งหลายรอบแต่เหมือนจะไม่ได้ผลเลยสักครั้ง

     

     

    กลับก่อนนะครับ ”           คิมเอ่ยปากลาหลังจากทานข้าวเช้าด้วยกันเสร็จก่อนจะยกมือไหว้เจ้าของบ้านคนสวยและป้าแม่บ้านผู้ใจดีแล้วหันหลังเดินออกจากห้องอาหารตามอีกคนไป

    ว่าแต่กูลืมอะไรไว้วะ ”                พอเดินตามอีกคนทัน คิมก็เอ่ยแซวขึ้น

    เออ ลืมก็ลืมดิ หรือจะบอกแม่ว่าพี่ปีนรั้วบ้านมินเข้ามา ”      คนตัวเล็กจิ๊ปากใส่ก่อนจะเดินตรงไปยังหน้าบ้าน

    ก็บอกด้วยนะว่าลูกชายแม่งอนเป็นตุ๊ดเลย ”          คิมพูดขึ้นลอยลอยหวังให้อีกคนได้ยิน เหมือนจะได้ผลก่อนจะตามมาด้วยเสียงป้าบพอมือเล็กๆของอีกคนตีเข้าทีหัวไหล่

    โอ๊ยย เจ็บๆ ”     คนเป็นพี่ลูบไหล่ตัวเอาเบาๆก่อนจะหันไปมองหน้าอีกคน

    สม ไปเลยกลับบ้านไปเลย ”        คนตัวเล็กแลบลิ้นกลับมาพร้อมกับปัดมือไล่

    นี่ไล่เลยหรอ ”               คนตัวสูงที่ยังยืนอยู่หน้าประตูบ้านถามก่อนจะขมวดคิ้วใส่

    ไล่นี่เรียกว่าไล่ ไปไป้ ”         พร้อมกับกวักมือไล่

    ครับๆกูไปแล้วครับ ”      คนเป็นพี่พยักหน้าซ้ำๆก่อนจะหันหลังเดินลงบันไดหน้าบ้านไป

    บ้ายบาย ”     เสียงคนน้องตามหลังมา ก่อนครตัวสูงจะหันกลับมาถามเรื่องที่พึ่งนึกออก

    เดี๋ยว มึงจำเรื่องเมื่อคืนได้ปะ ”                คนที่พึ่งนึกออกหันมาก็ถามขึ้นทันที ทำเอาคนน้องชักสีหน้าตามแทบไม่ถูก

    เรื่องไหน ”        เมื่อคืนคุยกันหลายเรื่องมากก่อนจะหลับไป ไม่รู้ว่าพี่คิมหมายถึงเรื่องไหน

    เรื่องที่กูบอกมึงอะ ”       คนเป็นพี่ไม่รู้จะบอกยังไง ก่อนจะยกมือมาเกาหัวเบาๆ

    อ้อ มินก็รักพี่คิม ”          คนตัวเล็กตอบหน้ายิ้มๆก่อนจะเอ่ยประโยคต่อไป

    ก็เป็นพี่น้องกันไม่รักกันได้ไง ถูกปะล้า ”       คนตัวเล็กตอบอย่างร่าเริงก่อนจะยิ้มให้เขา

                     คิมยิ้มแห้งๆตอบกลับไปก่อนจะหันหลังเดินตรงออกไปยังรั้วหน้าบ้าน แล้วเดินไปขึ้นรถโดยเร็ว นี่กูเป็นบ้าเป็นหลังเองคนเดียวใช่มั้ย คิมคิดก่อนจะสตาร์ทรถแล้วพาตัวเองออกจากบริเวณหน้าบ้านไปด้วยใจห่อเหี่ยว

     

     

     

                     ผ่านไปเป็นอาทิตย์หลังจากวันที่คิมไปปีนบ้านน้องตัวเล็กตั้งแต่ต้นอาทิตย์นี้มาเขายังไม่ได้เจอคนตัวเล็กเลยเพราะเด็กมอปลายเปิดเทอมกันไปแล้วจะเหลือไว้ก็แค่คนเรียนจบแล้วไม่มีที่ไป วันนี้เป็นอีกวันที่เขาแวะไปร้านเค้กที่ตอนปิดเทอมมีคนเต็มไปหมดทั้งพนักงานและลูกค้าแต่ตอนนี้แทบนับคนได้เลยทีเดียว

    มาอยู่เป็นเพื่อนกูสินะ ”              เสียงทักทายจากเจ้าของคนที่ได้รับหน้าที่ให้ดูแลร้านระหว่างที่น้องๆไปเรียนหนังสือกัน กัปตันก็ยกหน้าที่นี้ให้ไวท์อย่างเต็มที่แต่ไวท์เรียกมันว่าก็โยนทิ้งภาระมาให้แทน

    เหงาอะดิ ”       คนที่เดินเข้าไปหาเพื่อนแซวก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์

    เออดิ กว่าจะเลิกเรียนกว่าพวกนั้นจะมาอีก ”          ตอนนี้มีพนักงานเพียงแค่สองคนในร้านนั้นก็คือพนักงานที่ไวท์แบ่งมาจากร้านอาหารของเขานั้นเอง พอตอนเย็นเลิกเรียนกัปตันก็จะแวะเข้ามาพร้อมกับเพื่อนอีกสี่ห้าคน แต่ไม่มีมินเพราะเจ้าตัวขอลาออกบอกว่าถ้าปิดเทอมจะมาสมัครใหม่ นั้นจึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เขาไม่ได้เจอเจ้าตัวเล็กเลย

    แล้วมึงไม่เหนื่อยแย่รึไง ”         คิมถามเพื่อนตัวเอง ตอนเย็นต้องเข้าไปดูร้านอาหารตอนเช้าต้องนั่งเฝ้าร้านเค้กมันจะไม่เหนื่อยก็คงจะแปลกไปหน่อย

    ไม่เท่าไหร่ กูมีผู้ช่วยน่าไวท์ยักคิ้วให้ก่อนจะชี้นิ้วข้ามหลังไปหาใครอีกคนที่ยืนเช็คของอยู่ตู้ด้านหลัง

    หวัดดีครับ ”         คิมเอ่ยทักคนด้านหลังเพื่อน หลังจากที่มองตามไปแล้วก็รู้ว่าเป็นใคร

    เอ้า สวัสดีครับ ”           เกมหันมายิ้มให้อีกคนก่อนจะขอตัวไปหลังร้านเพื่อทำงานต่อจนถึงปานนี้ฟีฟ่าก็ยังไม่เล่าความคีบหน้าเกี่ยวกับคนๆนี้ให้เขาฟังสักที

                     คิมมานั่งเฉยๆที่ร้านเหมือนอย่างที่ไวท์พูดคือมาอยู่เป็นเพื่อนลูกค้าในร้านก็เปลี่ยนไปจากเป็นแก๊งเด็กสาวเด็กหนุ่มก็เปลี่ยนเป็นคุณลุงมาคุยงานกับคุณป้ามานั่งเล่นเน็ตแทน

                     คนตัวสูงลอบถอนหายใจก่อนจะคิดว่าอาทิตย์ที่ผ่านมาเขาได้คุยกับน้องตัวเล็กน้อยมากเพียงแคไม่กี่ประโยคก่อนคนหน้าใสจะเข้านอนมีบ้างบางวันตอนเช้าที่คนตัวเล็กจะทักมาบอกว่าไปโรงเรียนแล้วนะ มีเพียงแค่นั้น นับวันเหมือนยิ่งห่างออกไปเขายังไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้นอย่างจริงจังสักที

    ฟีฟ่าก็เปิดเทอมแล้วเหมือนกันสินะ ”       เพื่อนตัวสูงกว่าเอ่ยถามก่อนจะนั่งลงตรงข้ามเขา

    เปิดแล้ว แม่งโวยวายทุกวันว่าตื่นสาย ”    คนข้างห้องบ่นเมื่อคิดถึงตอนเช้าของช่วงนี้ที่ไอ้เด็กหน้าเข้มข้างห้องจะมาเคาะประตูหาอะไรกินในตู้เย็นแล้วรีบวิ่งหยิบรองเท้าไปโรงเรียนพร้อมกับตะโกนสายแล้วๆไปมา

    ปิดซะดีมั้ยร้านนี้ ”         ไวท์พูดอย่างไม่จริงจัง คิมมองดูเพื่อนก่อนจะยิ้มออกมาดูก็รู้ว่าคนตรงหน้าไม่ได้หมายความถึงสิ่งที่พูดจริงๆ

    อะไรๆๆๆ  ใครจะปิดร้าน ”          ยังไม่ทันได้พูดกันต่อ เสียงตะโกนก็ดังข้ามหัวคิมมาพอหันไปดูก็เห็นกัปตันเดินใส่เข้ามาในร้านแต่งชุดนักเรียนเต็มยศ

    เลิกแล้วหรอครับ เลิกเร็วจัง ”      ไวท์ทำเป็นไม่ได้ยินก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปหาน้องหัวเกรียนที่กำลังจะโวยวาย

    ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่องพี่ไวท์ อะไรใครจะปิดร้าน ”       กัปตันเดินหนีไปอีกทางก่อนจะถามขึ้นมาเสียงดัง

    ไม่มี ไม่มี ไม่มีเลย ใครจะกล้าปิดร้านกัปไม่มีหรอก ”   ไวท์พูดซ้ำๆก่อนจะส่ายหน้าไปมา

    ก็เมื่อกี้พี่ไวท์พูดกับพี่คิม ได้ยินนะ ”          กัปตันชี้หน้าไวท์ก่อนทั้งสองคนจะวิ่งไล่กันเหมือนเด็กอนุบาลที่กำลังจะถูกแย่งของเล่น คิมมองดูสองคนก่อนจะลุกออกจากร้านมาก้มมองนาฬิกาก็พึ่งจะบ่ายสามทำไมกัปตันเลิกแล้ว ถ้างั้นก็แสดงว่ามินก็ต้องเลิกแล้วเหมือนกันสินะ พอขึ้นนั่งบนรถเรียบร้อยคนตัวสูงหลังพวงมาลัยก็กดโทรศัพท์โทรหาเบอร์ของน้องทันที

    ครับ ”    รอไม่นานปลายสายก็กดรับก่อนจะขานตอบ

    เลิกยัง ”   

    เลิกอะไรยังไม่ได้คบ อ๊ะ ล้อเล่น เลิกเรียนแล้วครับ ”            คนตัวเล็กเล่นเองแก้เองก่อนเขาจะได้พูดอะไร

    ไปกินข้าวเป็นเพื่อนหน่อยดิ ”      คิมเอ่ยถามไปอย่างระมัดระวัง เขากลัวว่าอีกคนจะตอบว่าไม่

    มารับดิ ”   ได้ยินแค่นั้นก็เหมือนถูกรางวัลที่หนึ่ง คิมวางสายอีกคนก่อนจะเคลื่อนรถตรงไปที่โรงเรียนของอีกคน วันนี้โชคชะตาอาจจะเป็นใจให้เขาแล้วก็ได้

     

     

    อิ่มแล้ววว ”      เสียงจากคนตัวเล็กพูดยาวๆก่อนจะตบท้องตัวเองเบาๆ

                     พอคิมไปรับอีกคนที่โรงเรียนก็รีบพามาหาของกินทันทีกลัวเด็กน้อยของเขาจะหิวตายไปซะก่อน พอเข้ามาในร้านคนตัวเล็กก็สั่งๆ ก่อนจัดการทุกอย่างไม่เหลือแม้แต่ซาก

    กินอะไรอีกปะ ”            คนเป็นพี่ถามต่ออยากจะชดเชยที่ไม่ได้เจอกันมานาน

    บ้า มินกินอีกนี่ท้องแตกแล้วนะน้องที่บ่นหิวอยู่ตอนชั่วโมงก่อนส่ายหน้าไปมาปฏิเสธของกินที่โหยหามาตลอด

    งั้นไปเดินเล่นกัน

                     คิมยอมรับว่านี่คือการเห็นอีกคนในชุดนักเรียนครั้งแรก ดูเป็นเด็กยิ่งกว่าเดิมที่สำคัญหน้าตาก็น่ารักมากกว่าเดิมซะอีก

    มองอะไรพี่คิม ”        คนที่เดินอยู่ข้างๆพอจะรู้ว่าถูกมองก็ถามทันทีก่อนจะหันไปมองหน้าพี่ชายที่เดินอยู่ข้างๆ

    ป่าว แค่คิดว่าใส่ชุดนักเรียนแล้วดูเด็กลงเนอะ ”     คนเป็นพี่หันหน้ากลับก่อนจะตอบ

    เอ้า นี่ว่ามินหน้าแก่หรอวะ ”        คนเป็นน้องดึงแขนไว้ให้อีกคนหันมา

    ป๊าววว นี่ไม่เคยว่าน้องเลย ไม่เคยๆ ”        คิมตอบยิ้มๆก่อนจะโบกมือให้อีกคนเห็น

    หรา.. เออๆมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง เล่าแล้วจะหาว่าโม้ ”            คนตัวเล็กเลิกคิ้วกวนก่อนจะพูดเรื่องต่อไปทันทีเหมือนพึ่งนึกออกมาได้

    อะไรละ ”     คนเป็นพี่เดินตามอีกคนไปเดินข้างๆ

    วันนี้มีคนมาสารภาพรัก บอกชอบมินมานาน ”       คิมอยู่ดีๆก็รู้สึกว่าตัวเองหน้าชาทำอะไรไม่ถูกก่อนจะตั้งสติแล้วฟังน้องเล่าต่อ

    แต่มินว่าเขาอาจจะสับสนเลยไล่เขากลับไปคิดดูใหม่ ”        เด็กหนุ่มที่เดินอยู่ข้างๆหันมามองก่อนจะแสดงสีหน้าเหนื่อยๆแหันกลับไปเดินและพูดต่อ

    บางที่คนที่บอกว่ารักเรา อาจจะไม่ได้รักเราจริงๆก็ได้ ”   เด็กหนุ่มลอบถอนหายใจแผ่วเบาก่อนจะหันมายิ้มแห้งให้พี่ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ

    เขาอาจจะรักจริงๆก็ได้ มึงอะคิดมาก ”     คิมพูดก่อนจะเอื้อมมือไปผลักหัวคนตัวเล็ก

    เวลาสั้นๆจะไปรักกันได้ยังไงหละ ”          คนน้องที่เซไปตามแรงผลักกลับมายืนที่เดิมก่อนจะพูดอย่างเลื่อนลอย

    ได้ดิ ทำไมจะไม่ได้ ”      คนเป็นพี่ตอบตามความจริงไม่กี่วันก็ทำให้รักกันได้ เวลากับความรักมันแทบไม่เกี่ยวกันเลยด้วยซ้ำ

    ยังไงอะ ”  มินหันมามองพี่ชายข้างตัวก่อนจะเอียงคอน้อยๆด้วยความสงสัย

    ก็เหมือนที่กูรักมึงไงครับ     คิมตอบไปก่อนจะยีหัวอีกคนเบาๆ

    ไม่ๆ มันไม่เหมือนกัน พี่คิมก็รักมินแบบน้องใช่มั้ยละ แล้ว..

    ใครบอกว่ารักแบบน้องคนตัวสูงกว่าตัดบทคนตัวเล็กทันที เขามองหน้าอีกคนด้วยสายตาจริงจังหวังให้อีกคนเข้าใจความหมายก่อนสีหน้าของเด็กตรงหน้าจะนิ่งไปเล็กน้อย

    กูเคยบอกหรอว่ารักมึงแบบน้องคิมพูดย้ำคำเดิมก่อนจะเดินเข้าไปใกล้อีกคนที่ยังคงยืนนิ่งอยู่แต่ก็ไม่ได้หลบสายตาเขาไปไหน

    หื้ม ”    คิมยื่นหน้าไปใกล้อีกคนก่อนจะส่งเสียงในลำคอ อยากได้ยินคำตอบจากอีกคน

    คนตัวเล็กตรงหน้าไม่ได้ตอบอะไรหรือไม่ได้ถอยหลังห่างไปไหนยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ก่อนจะออกแรงผลักที่อกของพี่ตัวสูงเบาๆ

    อย่าแกล้งน้อง พอๆ วันนี้มินโดนแกล้งมาทั้งวัน ”      คนตัวเล็กผลักอกพี่ชายออกห่างตัวก่อนจะหันหน้ากลับไปเดินแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมือของคนข้างหลังดึงแขนไว้

    จริงจัง หน้าพี่นี่ล้อเล่นหรอ ”       คิมดึงแขนอีกคนให้หันมามองก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง

     

    “…” คนตัวเล็กที่โดนมองไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่มองไปทางอื่น

    มิน ”        คนตัวสูงกว่าเรียกชื่อให้อีกคนหันมามองหน้าและก็ได้ผลอย่างที่คาดคนตัวเล็กยอมหันมาสบตาเขา

    คิดว่าพี่รักมินแบบไหนกัน ”         คนตรงหน้าถามอย่างไม่เขินอายเขาเลยจุดที่จะต้องอายมาแล้วดีกว่าเสียเด็กคนนี้ไป ถ้าเกิดพรุ่งนี้มีคนมาบอกรักน้องตัวเล็กอีกแล้วมินไปตอบตกลงแล้วสิ่งที่เขามีจะจำเป็นอะไรอีก

    ไม่รู้ ”      คนตัวเล็กตอบเสียงสูงก่อนจะเอามือมาผลักที่หน้าของพี่ตัวสูงแล้วตัวเองก็รีบเดินไปอีกทางโดยเร็ว คนโดนผลักเซน้อยๆก็จะหลุดยิ้มออกมาแล้ววิ่งตามอีกคนไป

    สรุปรู้หรือไม่รู้ ”             พอวิ่งตามไปใกล้แล้วคิมก็ถามอีกคน

    ไม่รู้ไง มินไม่รู้ ”             คนตัวเล็กตอบก่อนจะก้าวขายาวๆออกไปยังลานจอดรถโดยไม่ได้หันมามองหน้าพี่ที่เดินตามมา

    รู้ใช่มั้ย ”          คนตัวสูงยังถามย้ำพร้อมกับเดินเร็วๆตามหลังอีกคนมาติดๆ

    บอกว่าไม่รู้ ”          พอมาถึงรถที่เขานั่งมาคนตัวเล็กหันมาตอบก่อนจะย้ำคำหลังอย่างหนักแน่น

    หรอ แน่ใจ้ ”     พอเห็นมาน้องหันมามอง คิมก็อมยิ้มก่อนจะเดินตรงเข้าไปใกล้อีกคน

    เออ ไม่รู้ กลับบ้านได้แล้ว ”         มินเคาะกระจกรถให้อีกคนปลดล็อคประตูแต่พี่ตัวสูงไม่ได้สนใจยังคงเดินเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ

    สรุปไม่รู้ใช่มั้ยว่าพี่รักมินแบบไหน ”           คำถามที่มาเต็มรูปแบบทำให้ใบหน้าขาวของคนตัวเล็กเปลี่ยนสีน้อยๆก่อนใบหูจะแดงขึ้นมา

    อื้ม ”         คนตัวเล็กไม่ได้ตอบแบบเถียงต่อเพียงแค่ส่งเสียงเบาๆก่อนจะก้มหน้าลงพื้น

    ได้ ไม่รู้ก็ไม่รู้ ”               คิมตอบเสียงดังฟังชัดก่อนจะเดินเอื้อมไปขึ้นรถอีกทาง ทำเอาคนตัวเล็กที่ก้มหน้าอยู่เปิดประตูรถตามแทบไม่ทันก่อนจะขึ้นไปนั่งแล้วรถก็เคลื่อนออกจากลานจอดอย่างรวดเร็ว

     

                     ตลอดทางไม่มีใครยอมพูดอะไรมีคนตัวเล็กที่นั่งเบาะข้างคนขับเท่านั้นที่แอบมองคนขับรถเป็นระยะ เขาเดาอารมณ์ของพี่ชายข้างๆตัวไม่ออกตอนนี้กำลังโกรธเขาที่ไม่ยอมตอบดีดีหรือกำลังหงุดหงิดอะไรอยู่ ส่วนทางคนขับรถก็นั่งเงียบตลอดทางขับรถไปตามทางถนนมุ่งหน้าไปที่บ้านของอีกคนโดยไม่ได้มองคนที่นั่งข้างๆเลย

    เป็นไรป่ะเนี่ย ”              และในที่สุดคนน้องก็ทนความอึดอัดในรถไม่ไหว จึงหลุดปากถามออกไป

    ป่าว ”        คนที่กำลังหมุนพวงมาลัยตอบเสียงนิ่งไม่ได้หันมามองหรือยิ้มให้ทั้งสิ้น

    โกรธอะไรอีก ”              ยิ่งเห็นแบบนั้นใจของคนตัวเล็กก็กระตุกวูบกลัวว่าคนข้างๆกำลังโกรธเขาอยู่

    ป่าว ”       ตอบคำเดิมสีหน้าแบบเดิม มินยิ่งกลัวคนตรงหน้าจะโกรธเข้าไปใหญ่

    พี่คิมเป็นอะไร ”            คนตัวเล็กเอื้อมมือไปเขย่าแขนอีกคนเบาๆหวังให้พี่ชายหน้านิ่งตอนนี้หันมาตอบ

    ... ”       คราวนี้ไม่มีแม้เสียงตอบจากปากของอีกคนพอเลี้ยวเข้าซอยบ้านของมินคิมก็จอดรถนิ่งที่หน้าบ้านของอีกคน แต่ไม่ได้หันหน้ามามองหรือพูดอะไรกับคนตัวเล็ก

    พี่คิมโกรธอะไรมินเนี่ย ”             คนตัวเล้กยังคงนั่งอยู่บนรถพร้อมกับเขย่าแขนอีกคนเบาๆ

    ป่าว ถึงบ้านแล้วลงไป ”             พี่ชายที่ขับรถมาส่งเอ่ยปากบอกเสียงเรียบ

    ไม่ จนกว่าพี่คิมจะบอกว่าเป็นอะไร ตอนอยู่ห้างยังดีดีอยู่เลยนะ ”  คนตัวเล็กนั่งหันเข้าหาพี่ชายข้างๆ

    ก็นั่งอยู่นี่แหละ ”           คิมไม่ได้หันไปมองอีกคนก่อนจะยกแขนขึ้นมากอดอกแล้วพิงหลังลงบนเบาะคนขับ

    เอ้า พี่คิม ”       คนตัวเล็กเขย่าแขนเสื้อพี่ชายแรงๆพร้อมกับส่งเสียงเหมือนเด็กกำลังจะงอแง

    บอกมา เป็นอะไร        จากที่มือข้างเดียวที่กำแขนเสื้อของอีกคนไว้แน่นก็เปลี่ยนเป็นสองมือที่กระตุกแขนเสื้อแรงๆ

    พี่คิม  บอกมา ให้มินทำอะไรก็ได้ บอกมา ”            คนตัวเล็กกระตุกเสื้อแรงๆติดๆกันก่อนจะเอ่ยปากถามด้วยเสียงยานคาง

    ทำหมดเลยนะ ”           คนที่นั่งนิ่งมานานหันมามองทันทีด้วยแววตาที่ไม่มีแววโกรธโหดเหี้ยมใดใด

    เออ บอกมาดิ            มินที่ยังคงคิดว่าพี่ชายโกรธพยักหน้าก่อนจะตั้งใจฟังคำบอกของพี่ชายที่ขับรถมาส่ง

    เป็นแฟนกัน

    ห๊ะ! ”       พอคนตัวเล็กข้างๆร้องล่นด้วยความตกใจออกมา คิมก็หลุดขำก่อนจะยิ้มกว้างออกมา

    โอ้ยพี่คิมอะ อย่าแกล้งมิน ”        คนตัวเล็กฟาดฝ่ามือลงที่ต้นแขนเขาดังป้าบก่อนหน้ายู่ใส่

    เอ้าพูดจริงๆ มาเป็นแฟนกัน ”     คิมที่นั่งนิ่งมาตลอดทางยิ้มตาแทบปิดก่อนจะเอียงคอไปใกล้น้องที่นั่งอยู่เบาะข้างๆ

    ม่ายยยย แสดงว่าไม่ได้โกรธอะไรใช่ปะ ”               พอรู้ตัวว่าโดนอีกคนแกล้งมาตลอดทาง มินก็ยู่หน้าใส่ก่อนจะกอดอกมองอีกคนอย่างเอาเรื่อง

    อืม จะให้โกรธอะไรวะ ”       คนตัวสูงที่นั่งยิ้มแก้มแทบแตกตอบก่อนจะขำออกมาน้อยๆ

    เอออออ จำไว้เลยๆ ”       มินค้อนใส่อีกคนก่อนจะหันไปเปิดประตูจะลงจากรถ แต่ประตูก็ล็อคไปซะก่อน

    อย่าพึ่งดิ ฟังก่อนๆ มีเรื่องจะบอก ”          คนตัวสูงที่แกล้งน้องสำเร็จล็อคประตูรถไว้ก่อนจะดึงแขนอีกคนให้หันมามองหน้าตัวเอง แต่คนตัวเล็กสะบัดแขนออกก่อนจะหันมามองทำหน้าตาโกรธแบบสุดๆ

    มีอะไร ”       มินตามเสียงดังแกล้งทำเป็นหงุดหงิดใส่

    หยุดทำหน้าอย่างนี้ก่อน ”           คนเป็นพี่เอื้อมมือไปแตะที่ระหว่างคิ้วก่อนจะมองหน้าอีกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเขาอยากให้เด็กตรงหน้าตั้งใจฟัง

    “…”           มินไม่ได้คัดค้านอะไรต่อเพียงแค่ลดมือที่กอดอกลงและเปลี่ยนสีหน้าก่อนจะมองไปทางอื่น

    รู้ใช่มั้ยว่าพี่รักมินแบบไหน ”        คนตัวสูงถามเสียงดังฟังชัด ทำเอาคนที่มองไปทางอื่นแทบอดยิ้มไม่ได้

    แต่พี่เองก็ยังไม่แน่ใจหรอกนะว่ารักมินแบบไหน ”   ประโยคนี้ทำให้คนตัวเล็กที่หลบสายตามานานหันไปมองหน้าพี่ชายตัวสูงที่กำลังมองเขาอยู่

    พี่แค่คิดถึงมินทุกเช้าตอนตื่นนอน มีความสุขทุกครั้งที่คุยกับมินทุกคืนก่อนจะนอน อยากให้มินโทรมาเล่าเรื่องให้ฟังทุกวัน 
    อยากมีมินไปกินข้าวด้วยกันตลอด อยากไปดูหนังด้วยกันอีกหลายๆครั้ง อยากให้มินงอแงกับพี่คนเดียว อยากให้มินบอกคิดถึงพี่ทุกวัน  อยากจูงมือมิน อยากได้มินมานอนกอด อยากหอมแก้มมิน อยากไปทุกๆที่ที่มีมิน อยากให้มินมาเป็นของพี่  
    อยากให้มินบอกรักพี่แค่คนเดียว ...นี่แหละที่จะบอก


                     คนตัวสูงพูดทุกอย่างออกไปจนหมดทุกคำที่พูดออกไปคือสิ่งที่เขาคิดมานาน เขายิ้ม
    ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องแบบนั้น เขาไม่รู้ว่าคนตรงหน้าจะเข้าใจความรู้สึกของเขาจริงๆมั้ยแต่ที่ทำได้คือบอกออกไปให้คนตัวเล็กรู้

    จบยัง ”     คนตัวเล็กตรงหน้าถามออกมาเสียงนิ่งก่อนจะเม้มริมฝีปากสวยไว้แน่น

    พี่รักมินจริงๆนะ ”        คนตัวสูงเอื้อมมือไปกุมมืออีกคนแน่น เขาไม่รู้ว่าคนตัวเล็กกำลังคิดอะไรอยู่เพียงแค่อยากสื่อให้คนตรงหน้ามั่นใจได้ง่าทุกคำที่พูดออกไปมันมาจากใจทั้งหมด

                     คนตัวเล็กไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่บีบมือของพี่ชายไว้แน่นก่อนจะโผเข้าไปกอดพี่ตัวสูงที่นั่งอยู่ พร้อมกับเอ่ยซ้ำๆด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

    มินรู้แล้ว มินรู้แล้ว ”       คนตัวเล็กกอดพี่ชายไว้แน่นเขารับรู้ได้ถึงความรู้สึกทั้งหมดของพี่ชาย เขารู้มาสักพักแต่ทำเป็นไม่เข้าใจมันเอง เขาแค่ไม่อยากให้ดูเหมือนคิดไปเอง แต่วันนี้ทุกอย่างยืนยันแล้วว่ามันคือเรื่องจริงคนตรงหน้ากำลังบอกรักเขาจริงๆ กำลังยืนยันกับเขาว่าสิ่งที่เขาคิดมาทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องจริง น้ำตาแห่งความสุขไหลออกมาไม่หยุดคนตัวสูงกอดเขาไว้แน่นไม่มีคำพูดใดใดออกมาจากทั้งสองคนเพียงแค่กอดกันอยู่อย่างนั้นก่อนพี่ตัวสูงจะผละเขาออกแล้วยีหัวแรงๆ

    ร้องไห้เป็นตุ๊ดเลย ”        คิมพูดแซวอีกคนก่อนจะเอื้อมมือไปปาดน้ำตาที่แก้มอีกคน น้องตัวเล็กที่กำลังร้องไห้แค่นหัวเราะเบาๆออกมาก่อนจะยิ้มกว้างส่งมาให้เขา

    ขอบคุณนะพี่คิม ขอบคุณมากๆ ”            คนตัวเล็กพูดทั้งน้ำตาก่อนจะยิ้มให้พร้อมกับใช้หลังมือตัวเองปาดน้ำตาเสียงสะอื้นดังตามมาเป็นระยะ

    เลิกร้องเลย เดี๋ยวแม่มินว่าพี่รังแก หยุดๆ ”            คิมลูบหัวคนตัวเล็กไปมาก่อนจะยิ้มให้ เขาอุ่นใจมากที่คนตรงหน้ารับฟังความรู้สึกที่เขามีให้พร้อมกับยอมรับมันไว้ได้ ความสุขที่ไม่มีวันลืม เขาสัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่ทำให้คนตรงหน้าผิดหวัง


    ขอบคุณนะพี่คิม ”         มินยังคงยิ้มกว้างให้พี่ชายอยู่อย่างนั้นแต่น้ำตายังคลอเต็มตาไปหมด เขาเอื้อมมือไปจับมือของพี่ชายที่กำลังลูบผมเอาไว้เปลี่ยนเป็นกุมมือ

    ครับ ”       คิมตอบรับคนตัวเล็กตรงหน้าเบาๆ ก่อนจะกุมมืออีกคนไว้แน่นเช่นกัน ใบหน้าแกร่งยื่นเข้าไปใกล้หน้าใสเรื่อยๆก่อนจมูกโด่งจะแนบเข้าไปที่แก้มขาวก่อนริมฝีปากบางของคนตัวสูงจะแนบลงไปประทับรอยบนแก้มเนียนฝังให้จมูกจมลึกลงในแก้มขาวสูดดมกลิ่นหอมจากคนตรงหน้าอย่างเนิ่นนาน

                    
                     เขาจะไม่มีวันลืมว่าคนตรงหน้าสำคัญกับเขาเพียงใด เขาจะไม่มีวันลืมทุกความรู้สึกที่เขามีให้อีกฝ่าย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเขาจะไม่มีวันทิ้งให้คนตัวเล็กต้องอยู่คนเดียว จะไม่มีวันทำให้เด็กขี้งอแงของเขาต้องเสียใจ และเขาจะไม่มีวันหยุดมอบความรักให้เด็กที่แสนน่ารักคนนี้ ไปจนถึงวันสุดท้ายที่เด็กคนนี้จะไม่ต้องการมันจากเขาอีก...เขาสัญญา


     






    ______________________________   __________________________________









    จบแล้ว  นิยายเรื่องน้องหน้าใสกับพี่ชายปากเสี

    ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม ทุกคอมเมนต์ ทุกกำลังใจ ทุกๆอย่างเลย ตอนนี้ไรท์มีความสุขมาก 

    มีอะไรเม้นบอกได้เลยหรือจะเมนชั่นไปคุยกันได้ที่ @lightdot_ นะคะ

     ขอบคุณสุดๆคือ พี่คิมกับมิน   ขอบคุณบ้านคิมมินทุกบ้านที่ทำให้เราได้ดูโมเม้นน่ารักๆ

    ขอบคุณอีกครั้งนะคะทุกคนเลย ฝ่ายตรวจอักษรเราก็ขอบคุณมากนะเพื่อน 555555


    ไว้โอกาสหน้าฟ้าใหม่จะมาเปิดฟิคเรื่องใหม่น้า

    ถ้าคิดว่าฟิคสนุกฝากแชร์ต่อด้วยนะคะ จะรักคิมมินต่อไป #จะจิ้นคิมมินจนกว่าโลกจะแตก 

    มาเดินไปพร้อมๆพี่คิมและมินกันนะคะ 


    ❤ 。◕‿◕。 ♡

        





    mx-xine
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×