ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KimMin] น้องหน้าใสกับพี่ชายปากเสีย

    ลำดับตอนที่ #15 : #ฟิคหน้าใส บทที่ 14 ผู้ชายนิสัยไม่ดี

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ค. 58


     

     





    มึงกลับบ้านก็ได้นะ..เดี๋ยวแม่กูก็มาแล้ว ”             

              เด็กชายตัวเล็กที่ตอนนี้กำลังนอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มบนเตียงหันมาบอกเพื่อนที่นั่งอยู่โซฟาใกล้ๆกัน

    รอแม่มึงมาก่อนก็ได้ ”                เพื่อนตัวสูงกว่าหันมาตอบก่อนจะหยิบหมอนที่อยู่ข้างตัวมากอดไว้บนตัก

    ตามใจ งั้นนอนละ ”         โอ๊ตว่าก่อนจะหลับตาลงแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาปกไว้ถึงคอ เขารู้ว่าเวลานี้เพื่อนของตัวเองกำลังมีอะไรในใจ อะไรสักอย่างที่ไม่ได้บอกเขา อะไรสักอย่างที่อยากเก็บไว้คนเดียว เขาขอทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นและปล่อยให้เพื่อนอยู่คนเดียวดีกว่า        

     

     

     

    เอ้า มาแล้วหรอพี่ ”        พอเจ้าของห้องเดินเข้ามาภายในเขาก็ได้ยินเสียงทักจากในครัว

    อืม ”         เสียงตอบจากในลำคอเบาๆก่อนจะถอดรองเท้าแล้วเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวยาว

    ที่ห้องไม่มีอะไรกิน ขอยืมก่อนนะ ”           ฟีฟ่าที่โผล่ออกมาจากในครัวหันมาบอกพร้อมกับชูข้าวกล่องสำเร็จรูปสองกล่องในมือขึ้นให้ดู

                     พี่ชายเจ้าของห้องพยักหน้าให้ก่อนจะล้มตัวลงไปนอนบนโซฟา

    เป็นไรป่ะเนี่ยน้องชายที่เห็นท่าทางพี่แปลกๆก็เอ่ยปากถามทันทีตามปกติ ก่อนจะไม่ได้คำตอบอะไรจากปากของคนที่นอนหลับตาอยู่ จึงไม่คิดจะถามอะไรต่อแล้วเดินออกจากห้องปิดประตูให้อีกคน

     


     

     

    ไปบ้านโอ๊ตสนุกรึป่าวจ้ะ ”             เสียงของคนที่เป็นทุกอย่างของมินทักขึ้นทันทีหลังจากที่เขาเดินเข้ามาในบ้าน

                     พอโอ๊ตบอกจะนอนในห้องเลยเหลือแค่มินที่นั่งอยู่ เขาคิดสับสนวุ่นวายไปหมดภายในใจก็มีอะไรแปลกๆโผล่พ้นออกมาจนแทบไม่เข้าใจสิ่งที่เป็น คิดอยู่จนฟุ้งซ่านสักพักแม่โอ๊ตก็กลับมาก่อนจะชวนทานข้าวเย็นที่บ้านแล้วคนป่วยมาทั้งวันก็อาสามาส่งเขาที่บ้านเอง

    ดูแลตัวเองด้วยนะ ’       นั้นคือสิ่งที่โอ๊ตบอกเขาก่อนจะลงจากรถ มินรู้ว่าโอ๊ตอาจจะเห็นความผิดปกติของตัวเองแต่พอคิดไปถึงสิ่งที่พี่คิมบอก มินก็แทบจะรู้สึกผิดต่อเพื่อนตัวเองขึ้นมา เขาคิดกับโอ๊ตแค่เพื่อนเท่านั้นอาจจะเป็นเพื่อนคนหนึ่งที่สำคัญมากแต่ถ้าเป็นอย่างอื่นมินก็ไม่แน่ใจว่าจะยอมรับได่หรือเปล่า

    ทำไมทำหน้าอย่างนั้นหล่ะลูก โดนแม่โอ๊ตดุมาหรอจ้ะ ”           พอลูกชายเดินเข้ามานั่งใกล้ๆ หญิงสาววัยกลางคนก็ถามทันทีที่เห็นสีหน้าลูกชายอิดโรย

    ป่าวครับ มินแค่เหนื่อยลูกชายส่ายหน้าเบาๆก่อนจะขยับเข้ามากอดเธอไว้แน่น

    อ้อนแม่ทำไม เป็นอะไร ”                 คนเป็นแม่แปลกใจเล็กๆก่อนจะกอดลูกชายตอบแล้วลูบหัวเบาเบาทุกครั้งที่รู้ว่าลูกไม่สบายใจมันก็พลอยทำให้เธอกังวลไปด้วย

                     มินไม่ได้ตอบคำถามแม่เพียงแต่กอดหญิงสาวไว้อย่างนั้น ถ้าเขาบอกว่าเกิดอะไรขึ้น พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ บอกว่าลูกชายอีกคนที่แม่เคยชมว่าดี พึ่งทำร้ายหัวใจเขามาแม่จะว่ายังไง แม่จะจะอยู่ข้างเขาหรือเปล่า แล้วถ้าบอกสิ่งที่อยู่ในใจแม่จะให้คำตอบเขาได้มั้ยว่ามันคืออะไร

                    

                   หลังจากที่กอดกันอยู่เงียบๆมาเนิ่นนาน มินก็ผละออกก่อนจะขอตัวขึ้นห้องนอน แม่ก็ไม่ได้ถามอะไรเขาอีกเพียงแต่บอกฝันดีเขาอย่างที่ทำทุกคืน

    Oattrt  : นอนยัง

                     มินวางโทรศัพท์ลงบนเตียงก่อนจะเห็นแจ้งเตือนจากเพื่อนสนิทค้างอยู่ที่หน้าจอ เขาไม่ได้หยิบมันขึ้นมาเปิดดูเพียงแต่มองแล้วเดินไปยังห้องน้ำเพื่อนอาบน้ำชะล้างร่างกายหวังให้สายน้ำชะเอาเรื่องวุ่นวายในใจวันนี้ให้ออกไปด้วย

     



     

     

      ไปโดนอะไรมา                        คนที่พึ่งเปิดประตูเข้ามาถามเสียงดังก่อนจะตรงเข้าไปหาเจ้าของห้องที่นั่งพิงโซฟาโดยเปลือยท่อนบนอยู่

                     ฟีฟ่าที่กลับมาห้องของพี่ชายอีกครั้งก็รีบเดินตรงเข้าหาพี่ข้างห้องก่อนจะนั่งลงข้างๆและมองดูรอยแดงเทือกที่อยู่กลางอกอีกคน เหมือนไปดูน้ำร้อนลวกมาแต่น้ำร้อนแก้วไหนจะใหญ่ขนาดนั้น

    พี่คิมไปทำไรมาวะ  ”          คนที่นั่งลงข้างๆถามขึ้นด้วยสีหน้ากังวล

    “ … ”         เจ้าของรอยแดงไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่ส่ายหน้าแทนคำตอบเท่านั้น

    ทายายัง        ฟีฟ่ามองรอยแดงๆอีกครั้งก่อนจะเงยไปถาม เจ้าของหน้านิ่งไม่ได้ตอบอะไรก็สื่อได้ว่ายังไม่ได้ทำอะไรกับมันเขาจึงลุกขึ้นยืนก่อนจะไปหายามาทาให้อีกคน

                     ร่างสูงหน้าเข้มเดินตรงไปที่ตู้เก็บของในห้องนอนของอีกคนก่อนจะมองหาหลอดยาที่มีฉลากเขียนว่าใช้สำหรับทาน้ำร้อนลวก ตั้งแต่ตอนที่มาขอข้าวกล่องไปจนถึงตอนนี้ก็ดึกแล้ว พี่ชายตัวเล็กยังคงปล่อยสีหน้านิ่งเรียบออกมาอยู่ตลอดแล้วไหนจะร้อนแดงบนหน้าอกอีก เขาเริ่มจะหงุดหงิดแล้วที่พี่ชายทิ้งให้ตัวเองเป็นแบบนั้นโดยไม่วนใจตัวเองเอาซะเลย

    สรุปไปทำอะไรมา ”           ฟีฟ่ายื่นหลอดยาให้คนที่นั่งอยู่ ก่อนตัวเองจะนั่งลงข้างๆ

                     คนที่รับหลอดยาไปไม่ได้ตอบอะไรออกมาเพียงแต่บีบยาสีขาวลงบนมือแล้วค่อยค่อยลูบมันลงบนอกของตัวเองอย่างช้าช้าพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมา

    ไม่รู้หรอกนะว่าพี่ไปโดนอะไร ”          คนเป็นน้องที่ทนไม่ได้ที่พี่เขาไม่ยอมบอกอะไรเลย เจ้าตัวจึงตัดสินใจพูดอะไรบางอย่างให้อีกคนเก็บไว้คิด

    แต่ถ้ามันเกิดจากพี่ไปพูดอะไรไม่ดีให้ใครหละก็...พี่คิมต้องคิดดูนะ ถ้าพี่โดนด่าทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรผิด พี่จะเสียใจหรือเปล่า โดนว่าเสียๆหายๆ พี่จะโกรธคนที่ว่าพี่มั้ย แล้วถ้ายิ่งคนคนนั้นเคยทำพี่เสียใจมาก่อน มันง่ายหรอที่จะให้อภัยเขาอีกครั้งน่ะ คนเราโดนทำร้ายมันก็แย่มากแล้วนะพี่ แล้วถ้าโดนบ่อยๆมันจะแย่ขนาดไหน ”      ฟีฟ่าเอนตัวพิงโซฟาแล้วหันไปมองทางพี่ชายที่เขารักที่สุด ก่อนจะเห็นว่าแววตาของอีกคนไหววูบ มือที่ทายาอยู่นั้นก็หยุดชะงักไว้นิ่งบนอก

    แล้วกูควรทำยังไง ”        นั้นถือว่าเป็นคำพูดแรกที่ออกมาจากปากของคนเป็นพี่ตั้งแต่กลับมาที่ห้อง ฟีฟ่าเห็นแววตาที่เหนื่อยอ่อนสื่อออกมาจากร่างบางข้างตัวเขา

    ผมตอบไม่ได้หรอก มันอยู่ที่พี่เอง อยู่ที่ตรงนี้ ”           ฟีฟ่าเอื้อมมือไปแตะที่อกข้างซ้ายของอีกคนก่อนจะตบไหล่พี่ชายเบาๆแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องไป

                    

     

     

                     แม่ไปบ้านน้า พรุ่งนี้เช้าจะกลับนะครับ  ’          นั้นคือประโยคที่แม่แวะมาบอกที่หน้าประตู ก่อนที่เขาจะขานรับและมองออกนอกหน้าต่างสักพักรถสีดำก็แล่นออกจากประตูรั้วหน้าบ้านไป

                     ร่างบางนั่งกอดเข่าตัวเองแน่นอยู่บนเตียงใบหน้าขาวเนียนซุกไว้ระหว่างหัวเข่าทั้งสองข้าง ภายในใจก็คิดเรื่องเดิมๆวนเวียนอยู่อย่างนั้น ทั้งคำพูดทั้งสีหน้าของพี่ชายที่เขาตัดความสัมพันธ์ลงไปเมื่อตอนบ่ายยังคงเด่นชัดอยู่ในความคิด ทั้งๆที่เคยบอกเขาไว้ว่าจะไม่พูดอะไรที่ทำร้ายจิตใจเขาอีก เจ้าตัวที่พูดเองก็ยังมาทำมันย้ำอีกหนำยังแย่กว่าครั้งก่อน แต่พอคิดว่าตัวเองโกรธมากขนาดไหนเสียใจมากขนาดไหนแต่มีอีกความรู้สึกหนึ่งที่โผล่ออกมาจนชนะทุกอย่าง

     

     


     

    ใครเอาศพมาส่งกูวะเนี่ย ”          เสียงทักจากเจ้าของร้านคนเดิมดังจากโต๊ะประจำที่เขานั่งอยู่บ่อยๆ ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหา

    หน้าป่วยมากครับไอ้น้อง ไปทำอะไรมา ”               ไวท์ตบหน้าเพื่อนตัวเองเบาเบา ก่อนคนโดนตบจะส่ายหน้าไปมาแล้วตรงไปยังเวทีที่ประจำของเขาแล้วจัดการต่อสายเครื่องดนตรีอย่างที่ทำอยู่ทุกวัน

    กัปดูนู้นดิ ”        พอเห็นหน้าเพื่อนตัวเอง เจ้าของร้านหน้าหล่อก็เดินกลับไปที่โต๊ะเดิมก่อนจะเห็นว่าเด็กหัวเกรียนกำลังก้มหน้าก้มตาทำบัญชีจนไม่สังเกตเห็นว่าตัวเองเดินกลับมา

    ดูอะไรพี่ไวท์ ”               กัปตันเงยหน้าขึ้นมามองคนที่เรียกชื่อก่อนจะหันหน้าไปมองทางที่อีกคนบอก แล้วก็เห็นพี่ชายตัวเล็กกำลังวุ่นอยู่กับการต่อสายนู้นนี่บนเวที

    ทำไมอะ       กัปตันหันมาถามทางพี่ตัวสูงก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ

    หน้ามันแย่มาก มันไปทำอะไรมาวะเนี่ย ”  ไวท์พูดขึ้นก่อนเกาหัวตัวเอง คุยด้วยมันก็ไม่ตอบ ลูกค้านี่จะไม่หนีกันหมดหรอวะ นึกว่าเอาผีมาร้องเพลงอะไรแบบนั้น

    อ่า ”         กัปตันไม่ได้ตอบอะไรต่อ ก่อนจะหันไปมองที่พี่ชายบนเวทีอีกครั้งก่อนจะนึกถึงเรื่องเมื่อตอนกลางวันที่ร้านว่าพี่ตัวเล็กมาถามเขาถึงที่อยู่บ้านของโอ๊ตบอกว่ามีธุระจะคุยกับมิน หรืออาจจะเป็นเพราะเรื่องนั้นหรือเปล่า

     


     

     

    ครืด~

                     เสียงโทรศัพท์สั่นอยู่ข้างตัวเด็กหนุ่มร่างบางที่กำลังนั่งกอดเข่าอยู่เรียกเขาให้คลายแขนออกจากขาตัวเองก่อนจะหันไปมองหน้าจอโชว์เบอร์ที่เขาเมมชื่อไว้ว่า...พี่คิม

                     คนตัวเล็กไม่ได้ชั่งใจหรือคิดอะไรมากเพียงแค่เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่กำลังสั่นแต่รู้สึกจะสั่นน้อยกว่าใจเขาตอนนี้ขึ้นมากดรับสาย

    “...จริงอยู่ว่าเราใกล้กันแค่นี้ แต่ในสายทุกวินาทีช่างห่างไกล…”         ยังไม่ได้ขานรับหรือพูดอะไรเสียงจากปลายสายก็ดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงกีตาร์เข้าจังหวะแบบที่พี่ชายที่โทรเข้ามาดีดอยู่ทุกวันบนเวทีในร้านอาหาร

    “…คำตอบในใจเปลี่ยนไปช้าๆ เมื่อได้รู้ตัวว่าคนไม่ดีก็คือฉัน ที่เคยบอกเกลียดเธอแค่ไหน  ก็ยิ่งเกลียดตัวเองทุกวัน เพิ่งได้ทบทวนความผูกผันที่มีให้กันมานาน…”              เสียงร้องที่ดังชัดเจนทำเอาคนที่ฟังอยู่ต้องตั้งใจฟังในมือที่ถือโทรศัพท์อยู่นั้นก็เริ่มสั่น

     

    เหนื่อยไหมที่ต้องทนอยู่กับฉันแบบนี้

    ผู้ชายนิสัยไม่ดีเธอรับได้ไหม

    ที่ยังทำตัวร้ายๆ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร

    ยังคงไม่กล้าแสดงความจริงออกไป

    ทั้งหมดในใจแค่รักเธอ

     

                     ชายหนุ่มตัวสูงบนเวทีร้องเพลงอย่างตั้งใจทุกๆคำที่เขาร้องล้วนแต่อยากสื่อให้ทุกคนที่ฟังได้เข้าใจถึงคำร้องของเพลงทุกคำและคนที่เขาอยากให้เข้าใจถึงใจจริงๆของเขาก็คือคนที่เขากดเบอร์โทรหาก่อนจะวงโทรศัพท์ไว้ที่ขาตั้งโน๊ต เขาไม่รู้ว่าวิธีไหนที่พอจะทำให้อีกคนหายโกรธได้ ที่จะยอมยกโทษให้กับความผิดซ้ำซากแบบนี้

    ..ยังคงไม่กล้าแสดงความจริงออกไป ทั้งหมดในใจแค่รักเธอ ได้โปรดอภัยได้ไหมเธอ..

                     กีตาร์โซโล่อยู่เพียงสักพักก่อนจะจบลง มินไม่ได้พูดอะไรตอบปลายสายก่อนจะกดวางสายแล้ววางโทรศัพท์ลง ลงมือข้างที่เคยถือโทรศัพท์ยังคงสั่นอยู่ และไม่นานน้ำใสใสที่คลออยู่ในตาก็ไหลลงมาอาบแก้มขาวทั้งสองข้าง คนตัวเล็กเพียงแค่ปล่อยให้มันไหลไปเรื่อยๆ ก่อนจะยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดหน้าไว้ ในใจทั้งเจ็บปวดและสับสนไปหมด เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่ชายที่ทำร้ายเขาจะโทรมาทำแบบนี้ทำไม และก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองนั้นไม่เข้าใจหรือแค่ไม่อยากเข้าใจ

                     และไม่รู้ว่าผ่านไปนานเพียงใดที่ร่างบางเอามือปิดหน้าและตัวสั่นอยู่อย่างนั้น



    มิน ”        เสียงตะโกนดังผ่านมากับสายลมคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ลดมือที่ปิดหน้าลงก่อนจะก้าวขาลงจากเตียงเดินตรงไปที่หน้าต่างเพื่อมองลงไปยังหน้าบ้าน

                     ร่างสูงที่คุ้นเคยยืนอยู่ที่หน้าประตูรั้วยังคงตะโกนเรียกชื่อเขาซ้ำอีกที คนตัวเล็กที่เห็นก็ยืนมองอยู่อย่างนั้นก็จะเอื้อมมือไปดึงผ้าม่านให้มากั้นระหว่างตัวเองกับหน้าต่างอีกที มินถอยหลังกลับมานั่งลงบนเตียงอีกครั้งก่อนจะล้มตัวลงนอน เขายังไม่อยากจะคุยอะไรตอนนี้ เขาแค่รู้สึกอ่อนแอเกินไป

                     ไม่นานเสียงนอกหน้าต่างก็เงียบไป ทำให้มินใจชื้นขึ้นมาบ้าง ก่อนร่างบางจะเอื้อมมือไปดึงผ้าห่มผืนหนาขึ้นมาคลุมตัวเองเอาไว้ และข่มตาลงหวังให้เรื่องราวของวันนี้จบลงสักที

     


    มิน มิน มินเราคุยกัน ”               แต่ยังไม่ทันไรเสียงเคาะหนักๆจากหน้าประตูห้องก็ดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงของคนที่อยู่นอกรั้วเมื่อตะกี้นี้ คนตัวเล็กกระขับมือกับผ้าห่มไว้แน่น

    มิน พี่รู้ว่ามินยังไม่หลับ เปิดประตู มิน ”         เสียงคนพูดดังชัดเจนลอดประตูเข้ามาภายในห้อง

    มินเปิดประตู.. ”        และเหมือนจะไม่ต้องทวนคำพูดเดิมอีกครั้ง เพราะพูดยังไม่ทันจบ คนตัวเล็กที่เขาเรียกชื่ออยู่นั้นก็กระชากประตูเปิดออกก่อนจะเผยให้เห็นใบหน้าขาวที่ตอนนี้มีคราบน้ำตาบนสองแก้มขาว คนตัวสูงไม่รอช้าเดินเข้าไปหาก่อนจะดึงอีกคนเข้ามากอด

     

    ขอโทษ ”          ก่อนจะเอ่ยคำสั้นๆแล้วกอดอีกคนแน่นกว่าเดิม คิมไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปเพียงแต่ทำสิ่งที่เขาอยากจะทำตามสิ่งที่หัวใจบอกแบบที่ฟีฟ่าบอกเขาไว้

                     คนตัวเล็กในอ้อมกอดไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่กอดเขาตอบแล้วซุกหน้าลงที่ไหล่ตัวเล็กๆสั่นเบาๆและไม่นานก็สัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่ไหล่ของตัวเอง

    พี่ขอโทษ ”                   คนตัวสูงกว่ายังคงย้ำอีกครั้งก่อนจะยกมืออีกข้างขึ้นไปลูบหัวอีกคนเบาๆ เขาไม่ได้ต้องการให้อีกคนยกโทษให้เพียงแค่ไม่อยากทำให้คนตัวเล็กร้องไห้เพราะเขาอีก

     “ พี่รักมินนะ ”        คนตัวสูงพูดให้อีกคนได้ยินชัดๆถึงสิ่งที่อยู่ในใจมานั้น เขาไม่รู้ว่าควรจะเก็บมันไว้ต่อไปทำไม ถ้าไม่บอกตอนนี้ทุกอย่างอาจจะสายไปก็ได้ ก่อนจะลูบหัวเบาๆแล้วผละอีกคนออกจากอ้อมกอด ก่อนร่างสูงจะเอื้อมมือไปเกลี่ยน้ำตาที่ไหลเป็นคราบอยู่บนแก้มขาวออก ก่อนที่คนตัวเล็กจะยกมือมาวางบนมือของเขาทำให้มือข้างนั้นยังคงแนบแก้มใสอยู่อย่างนั้น

    ขอโทษจริงๆ ”   

    คิมยังคงเอ่ยคำนั้นขึ้นมาอีกครั้ง แค่อยากจะย้ำให้อีกคนรู้ว่าเขารู้สึกผิดจริงๆ








    ________________________

    แอ้วววว มาต่อแล้ว 

    บอกเขาไปแล้ว แล้วน้องจะทำยังไงละคะลุง

       มาเม้นมาเม้ากันนะจ้ะ รักคนอ่านทุกคนเหมือนเดิม และรักคิมมินบ่เปลี่ยนแปลงจ้า






    mx-xine
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×