ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KimMin] น้องหน้าใสกับพี่ชายปากเสีย

    ลำดับตอนที่ #14 : #ฟิคหน้าใส บทที่ 13 ปากเสีย

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ค. 58


     

     









    ชอบมินสินะ

    ‘ … ’

    เหอะ ไม่เป็นไรหรอกพี่  ผมแค่ดูออกเอง

    แล้วไงหรอ

    ก็ไม่แล้วไง..แค่จะบอกว่า ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน

     

                     พอลืมตาตื่นมาเจอกับแสงนอกหน้าต่างร่างสูงที่นอนอยู่บนเตียงก็แทบกุมขมับ เขาคิดถึงเรื่องที่พูดกันกับโอ๊ตได้ขึ้นใจ ตอนที่ยืนอยู่กันตามลำพังเด็กหนุ่มก็เอ่ยประโยคนั้นทั้งที่ยังไม่ได้ตั้งตัว ตอนนั้นก็เหมือนกับบอกเป็นนัยๆแล้วว่าเขาคือคู่แข่งคนสำคัญพร้อมกับยื่นคำขาดว่าจะไม่ให้ใครแย่งมินไปเด็ดขาด

                     ก็แค่คำของเด็กๆจะคิดอะไรมาก       เขาได้แต่บอกตัวเองแบบนั้นตั้งแต่ที่ได้ยินก่อนจะพ่นลมหายใจแล้วลุกขึ้นนั่งขว้างโทรศัพท์ที่หัวเตียงมาดูเวลา     

                     ถ้ามีคนคิดจะให้เป็นคู่แข่งตอนนี้ที่เขาควรทำก็คือทำคะแนน                คิมคิดได้ดังนั้นก็ลุกเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนสีขาวก่อนจะมุ่งตรงไปยังประตูห้องน้ำ วันนี้คงเป็นอีกวันที่เขาต้องไปร้านเค้กนั้นอีกแล้วสินะ

     

     



     

     สวัสดีครับบบ

                     เสียงทักทายลูกค้าดังไปทั่วร้านพนักงานชายยืนกันแทบเต็มทางเข้าทำเอาลูกค้าสาวๆที่เข้ามาทำหน้าไม่ถูกไม่รู้จะหันไปทางไหนก่อนดี

     

    มาเปิดร้านช่วยน้องหรอวะ ”            เสียงคุ้นเคยเอ่ยทักจากด้านหลัง

    เปิดร้านไร กูว่างไม่รู้จะไปไหน  ”              พอคนที่เยทักเดินมายืนข้างๆก็ตอบคำถามไปก่อนจะมองหน้าโต๊ะนั่งเองเพราะเขาเป็นคนบอกพนักงานว่าจะหาเองไม่อยากให้หาให้กลัวเสียเวลา

    ฟีฟ่านั่งอยู่นู้นอะ ”            ไวท์พูดขึ้นพร้อมกับชี้นิ้วไปโต๊ะที่ใกล้กับหลังร้านมากที่สุด ก่อนคิมจะหันตามนิ้วไปแล้วเจอกับเด็กหน้าเข้มกำลังนั่งคุยกับใครสักคนที่หันหลังให้เขาอยู่

    มันมาทำอะไรวะ ”               คนเป็นเพื่อนไม่ได้ตอบเพียงแต่ยักไหล่แล้วเดินหนีไป

                     

                   คิมยืนงงอยู่สักพักก่อนจะเดินตรงไปที่โต๊ะที่มีน้องชายหน้าเข้มนั่งอยู่  และเหมือนมันจะไม่สังเกตเห็นเขาเพราะมัวแต่มองหน้าคนที่นั่งตรงข้ามมันอยู่ตลอด

    ฟ่า ”           คิมเอ่ยทักน้องก่อนจะหันไปมองอีกคนที่นั่งตรงข้ามซึ่งก็ยิ่งงงไปกันใหญ่ว่าทำไมทั้งสองคนถึงมานั่งด้วยกัน

    เอ้า พี่คิม ”              ฟีฟ่าที่เหมือนพึ่งจะเห็นก็หันมาทักพี่ชายสุดเสียงและตามมาด้วยเสียงอีกคน

    หวัดดีครับ... งั้นไปละ ”                 ผู้ชายหน้าตาคุ้นเคยเอ่ยทักเขาก่อนจะหันไปบอกประโยคหลังกับฟีฟ่าแล้วลุกขึ้นยืนเดินตรงเข้าไปยังหลังร้านทันที

    มาไรแต่เช้าพี่ ”            เด็กหนุ่มหันกลับมาถามหลังจากมองคนที่ตัวเองพึ่งนั่งคุยด้วยเดินหายเข้าไปหลังร้านจนสุดตา

    กูควรถามมึงมากกว่า ถึงขึ้นต้องมานั่งเฝ้ากันแล้วหรอวะ ”              คิมนั่งลงแทนที่เกมที่พึ่งลุกออกไปก่อนจะกอดอกแล้วมองหน้าน้องชายข้างห้องอย่างรอคำตอบ

    ก็ป่าว  แค่แวะมาเฉยๆ ”              คนน้องตอบก่อนจะยกมือขึ้นไปเกาหัวอย่างเขินๆท่าทางดูน่ารักมากแต่ถ้าเทียบกับหน้าตาคนทำแล้วมันแทบขัดกันไปเลย

    เออ เชื่อก็ได้ ”               ดูท่าทางเขินของมันแล้วไม่กล้าจะถามต่อ  ก่อนเด็กข้างหน้าจะยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มแล้ว

                     คนที่มองน้องอยู่สักพักก็หันไปมองทั่วร้าน ตั้งแต่เข้ามาเขายังไม่เห็นคนตัวเล็กที่ไปส่งเมื่อคืนเลย แม้แต่เสียงยังไม่ได้ยิน มองไปทางหน้าเคาน์เตอร์ที่เจ้าตัวต้องอยู่ประจำก็ไม่มีดันเป็นน้องหัวเกรียนกับเพื่อนของตัวเองที่ยืนอยู่ตรงนั้นแทน

     

    รับอะไรดีคร้าบบบ ”               เสียงสดใสดังขึ้นข้างหลังก่อนคิมจะหันไปมองแล้วก็เจอกับรุ่นน้องอีกคนที่เขาพึ่งถามเรื่องโอ๊ตไปเมื่อวาน

    เอาแบบไอ้ฟ่าอะ  ”               คนคิดอะไรไม่ออกหันไปตอบก่อนจะชี้นิ้วไปที่โต๊ะที่มีเค้กและแก้วน้ำวางอยู่

    ครับครับ ได้ครับ  .. มีอะไรจะถามมั้ยครับ ”                   เด็กหนุ่มตัวเล็กพยักหน้าไปมาก่อนจะถาประโยคหลังและยิ้มโชว์ฟันเหล็กเต็มที่

    ถามอะไร ไม่มีๆ ”                      คนโดนถามส่ายหน้าก่อนจะหันไปมองหาคนตัวเล็กอีกทีคราวนี้แทบทุกมุมของร้าน

    “  ไม่ถามก็คงต้องบอก  ”              ซิงพูดขึ้นเบาๆก่อนคิมจะหันมามองน้องชายตัวผอมอย่างงงๆ

    เอาหูมานี้ๆ ”            เด็กชายพูพร้อมกับกวักมือให้พี่ทำตามก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปใกล้ๆหูอีกคน คนพี่ก็ทำตามเอียงคอเข้าไปหาอีกคน


    “  มินลา...ไปบ้านโอ๊ต ”                           

                     เสียงกระซิบยังคงติดอยู่ที่ใบหูเมื่อน้องตัวผอมเดินออกไปแล้ว คนที่พึ่งฟังไปก็นั่งนิ่งและมีคำเมื่อกี้วนเวียนไปมาเต็มหัวไปหมด

    พี่คิม ”                ฟีฟ่าที่สังเกตเห็นว่าพี่ชายนั่งนิ่งก็ยื่นมือไปตบที่ไหล่เบาๆก่อนคนโดนเรียกจะสะดุ้งนิดหน่อยแล้วหันมาถาม

    หื้อ อะไรนะ ”    

    ป่าว นึกว่าโดนพ่นยาใส่เห็นนิ่งเลย ”                    ฟีฟ่าส่ายหน้าก่อนจะก้มไปเล่นเกมส์ในโทรศัพท์ต่อ


    มึงจะไปไหนต่อปะ ”                 เอ่ยถามทำลายความเงียบพอเค้กมาเสิร์ฟคิมก็กินจนหมดไม่รู้จะพูดอะไรดีเลยชวนน้องคุย

    ไม่ไปอะ ว่าจะอยู่นี้จนเย็นเลย ”               เด็กหนุ่มคลายคิ้วที่ขมวดพันกันออกก่อนจะวางโทรศัพท์ลงและหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม

    “  ไม่เบื่อตายหรอวะ ”                              คิมมองหน้าเด็กข้างห้องอย่างไม่เชื่อคนไม่เคยอยู่นิ่งๆจะมานั่งหงอยๆอยู่เฉยๆจนเย็นได้ยังไง  ไอ้ฟีฟ่าโม้ละ คิมคิด

    ไม่ตายหรอกมั้ง  ”                     ฟีฟ่าหัวเราะเบาๆพอเห็นหน้าของพี่ตัวเองมองมาด้วยสายตาแบบนั้นนี่คงกำลังไม่เชื่อเขาอยู่แน่ๆ ฟีฟ่าได้แต่คิดแล้วก็อดขำไม่ได้

    “  แต่กูมีที่ต้องไป ”                      หลังจากนั่งไตร่ตรองมาสักพักก็คิดว่าตัวเองควรจะทำอะไรสักอย่างมากกว่านั่งคิดอยู่เฉยๆ

    “  จะไปไหนอะ ”                         น้องหน้าเข้มเอ่ยถามพออยู่ๆพี่ชายก็ลุกขึ้นยืนแล้วก็เดินตรงไปยังเคาน์เตอร์ร้านที่มีตู้โชว์เค้กวางอยู่ติดกัน แล้วพี่ชายก็เดินเข้าไปคุยกับกัปตันที่ยืนอยู่คนเดียวตรงนั้นสักพัก ก่อนกัปตันจะทำหน้างงๆแล้วพูดอะไรไป ก่อนพี่ชายจะเดินมุ่งหน้าตรงออกจากร้านไปไม่ได้หันมาตอบคำถามเขาเลย   สงสัยจะเพี้ยนหนัก ฟีฟ่าส่ายหน้าเบาๆให้ความคิดตัวเอง ก่อนจะคิดได้ว่าพี่ชายชิงลุกออกจากร้านไปแล้วก็แสดงว่าค่าเค้กบนโต๊ะเขาต้องจ่ายให้สินะ

     





                     รถสีขาวแล่นมาชะลอที่ริมฟุตบาทหน้าบ้านหลังหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดในซอย ซึ่งถือว่าไกลจากร้านที่ตัวอยู่เมื่อกี้มามากพอสมควร ชายหนุ่มเหยียบเบรกก่อนเลื่อนเกียร์มาไว้ที่ P แล้ววางคางไว้บนพวงมาลัยสายตามองเข้าไปภายในรั้วสูง ที่ที่เขามาตามคำบอกของน้องชายคนสนิท ตอนที่เขาเดินเข้าไปถามที่ตั้งของบ้านโอ๊ตกับกัปตัน น้องก็งงอยู่สักพักก่อนจะต้องบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับมิน เด็กหัวเกรียนเลยเข้าใจแล้วก็บอกที่อยู่บ้านของโอ๊ตมาแบบง่ายๆ ดีที่แถวนี้มีบ้านหลังใหญ่ไม่กี่หลังเลยหาเจอง่ายหน่อย

                     หลังรั้วสูงนิ่งสงบไม่มีการเคลื่อนไหวใดใดที่สวนหน้าบ้านประตูบ้านก็ปิดสนิทเหมือนไม่มีคนอยู่ ชายหนุ่มหลังพวงมาลัยมองไปมารอบบ้านก็ไม่เห็นทีท่าว่าเขาควรจะทำอย่างไรเมื่อมาถึงแล้ว ก่อนสายตาจะเหลือบเห็นที่กระจกมองหลังที่มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังเดินมาด้วยหน้าตาคุ้นเคยที่เขาเห็นอยู่บ่อย พอเห็นดังนั้นก็รีบดับเครื่องและลงจากรถ

     

     พี่คิม                         คนที่พึ่งเดินผ่านรถที่จอดอยู่ริมฟุตบาทถึงกับตกใจเพราะตนคิดว่ารถนั้นคุ้นมากแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรพอเดินผ่านพี่ชายตัวสูงก็โผล่ออกมาจากประตูรถ

    “  ตกใจไร  ”                   คนที่พึ่งประตูรถก็หันมามองก่อนจะยืนพิงรถคุยกับอีกคน

    “  พี่มาทำอะไรแถวนี้  ”                คนตัวเล็กหยุดเดินก่อนจะทำหน้าตาเลิกลักที่อยู่ดีดีพี่ชายก็มาโผล่แถวนี้

    มารับ กลับบ้าน  ”                     ร่างสูงที่ยืนพิงประตูรถก้าวออกมาก่อนจะจับที่ข้อมือแล้วดึงอีกคนให้เดินตามไปที่รถ

    กลับบ้านอะไร มินบอกแม่แล้วนะ  ”                     คนถูกดึงยังคงปล่อยตัวตามไปพร้อมกับถามอย่างงงๆที่พี่ชายพูดเมื่อตะกี้คืออะไร

    “  แม่ไม่เกี่ยว พี่แค่จะชวนไปเที่ยว ”            คนที่ลากน้องมาถึงประตูรถก็เปิดประตูรถฝั่งเบาะข้างคนขับออกก่อนจะดึงแขนอีกคนหวังให้เซเข้าไปข้างใน

    “  เห้ย อะไรๆ ไม่ได้ๆ  ”                 คนที่ปล่อยตัวตามแรงดึงของพี่มาสักพักต้องชะงักตัวไว้ก่อนจะแกะมือของคนเป็นพี่ออกพร้อมกับส่ายหน้าไปมา

    “  ขึ้นรถ ”           คนโดนแกะมือออกย้ำความต้องการของตัวเองก่อนจะยื่นมือหวังจะจับข้อมือของคนตัวเล็กที่ถอยออกไปอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้เพราะน้องถอยออกไปไกลขึ้นอีก

    “  ไม่ได้พี่คิม วันนี้มินไม่ว่าง  ”                   คนตัวเล็กส่ายหน้าไปมาก่อนจะถอยกลับไปยืนบทฟุตบาทแบบเดิม

    “  ไม่ว่างไร หนีงานมาเล่นบ้านเพื่อนเนี้ยนะ  ”                      คนพูดชายตามองเข้าไปในบ้านอีกครั้งก่อนจะหันมามองหน้าคนที่กำลังดื้อ

    “  หนีอะไร ลาแล้ว.. แล้วไม่ได้มาเล่น โอ๊ตไม่สบาย   มินเลยมาอยู่เป็นเพื่อน  ”          คนน้องยังคงตอบเสียงใสก่อนจะชูถุงหูหิ้วในมือขึ้นให้ดู

     มินออกมาซื้อโจ๊กไปให้มันกิน เค๊  ”             ทิ้งท้ายประโยคเสียงสูงก่อนจะเอียงคอมองคนพี่ที่จ้องตัวเองอยู่ไม่วางสายตา

    “  เพื่อนเป็นไร  ”              พอได้ยินว่าโอ๊ตไม่สบายคิมก็ยิ่งไม่วางใจทั้งๆที่เมื่อวานเด็กหนุ่มคนนั้นยังปกติอยู่เลยอยู่ๆจะมาป่วยอะไรกัน ไข้การเมืองหรอ

    “  ภูมิแพ้ แพ้อะไรไม่รู้  ”               เด็กหนุ่มตอบเสียงใสก่อนจะมองเข้าไปในบ้านที่เงียบสงบ

    “  หรอ มันก็เลยอ้อนมินให้มาดูเนี่ยนะ  ”                 คนเป็นพี่เริ่มถามเสียงดังจนคนน้องที่ได้ยินสะดุ้งเบาๆ

    “  โอ๊ตไม่ได้อ้อน แม่โอ๊ตโทรหามิน...  ”

    “  แล้วไง มินก็รีบมาลางานมานั่งเฝ้าเลยหรอ ”                     ยังไม่ทันได้อธิบายจนจบพี่ชายก็เดินตรงเข้ามาจับไหล่แล้วถามเสียงดัง

    “  พี่คิมเป็นไรเนี่ย  ”              คนโดนบีบต้นแขนเริ่มนิ่วหน้าด้วยความเจ็บก่อนจะถามพี่ชายตัวสูงที่พูดจาเสียงดังผิดปกติไป

    “  ก็มินดูไม่ออกหรือไง ว่ามันป่วยจริงหรือป่วยปลอม  ”               คนตัวสูงตอบเสียงดังเน้นย้ำความคิดที่แล่นเข้ามาในหัวตัวเองออกไป อะไรจะบังเอิญขนาดมาป่วยวันถัดมาหลังจากที่เด็กชายคนนี้พึ่งบอกเรื่องอย่างนั้นกับเขา

    “  นี่พี่คิมกำลังว่าโอ๊ตอยู่นะ  ”           คนตัวเล็กเริ่มหงุดหงิดที่อยู่ดีดีก็โดนเสียงดังใส่หนำซ้ำยังบีบต้นแขนเขาซะจนเจ็บแล้วยังมาว่าเรื่องเพื่อนเขาโกหกอีกนี่ดูหนังเยอะไปหรือเปล่า

     ก็ใช่ไง  มินจะอย่าไปเชื่ออะไรมันมาก  

    “  พี่คิม นั้นเพื่อนมินนะ เพื่อนสนิทมิน  ”             คนตัวเล็กตอบเสียงดังย้ำอยากให้อีกคนรู้ตัวว่ากำลังพูดไม่ดีเกี่ยวกับเพื่อนของเขาอยู่

    “  เพื่อนหรอ คิดว่ามันคิดกับมินแค่เพื่อนหรอ  ”                    คนตัวสูงที่กำลังสีหน้าเปลี่ยนบีบมือข้างที่จับอยู่บนต้นแขนของเด็กหนุ่มข้างหน้าตัวเองรงขึ้นก่อนจะใช้มืออีกคนขึ้นมาจับที่ต้นแขนอีกข้างแล้วเขย่าตัวอีกคนแรง

    “  พี่คิม ”            คนที่เซไปมาตามแรงสะบัดของอีกคนพูดขึ้นเสียงดังก่อนจะพยายามแกะมือที่จับอยู่ต้นแขนของตัวเองออก

    “  ทำไม หรือรู้แล้วแค่แกล้งไม่รู้วะ  ”           คิมบีบต้นแขนนั้นแน่นเมื่ออีกคนพยายามแกะมือของตัวเองออก

    “  พี่คิม พูดไม่รู้เรื่องแล้วอะ ”           คนเป็นน้องหงุดหงิดไปใหญ่ยิ่งพยายามแกะมือคุ่นั้นออกเท่าไหร่คนตรงหน้าก็ยิ่งบีบแรงขึ้นไปอีกเท่านั้น

    อ่อ เป็นคนอย่างนี้หรอกหรอ ”    คนตัวสูงแสยะยิ้มที่มุมปากก่อนเอ่ยอีกคำที่ทำให้สีหน้าของคนตัวเล็กที่เขาตามมาเปลี่ยนไป

    อ่อยคนไปทั่วสินะ  ”                  เหมือนคำนั้นจะทำอีกคนหลุดออกจากความหงุดหงิดแล้วแปรเปลี่ยนไปเป็นความโกรธเจ้าตัวสะบัดตัวออกจากมือของอีกคนอย่างแรงก่อนถอยหลังห่างออกมา หน้าฉายแววเต็มไปด้วยความโกรธ

                  ผัวะ          ถุงที่เคยถืออยู่ในมือตอนนี้ถูกขว้างมาอยู่ที่กลางแผงอกของคนที่พึ่งทำร้ายเขาด้วยคำพูดก่อนมันจะตกไปอยู่ที่พื้นทิ้งไว้แต่คราบสีขาวเต็มเสื้อของอีกคนก่อนคนตัวเล็กจะประกาศเสียงแข็ง

    “  ถ้าจะพูดแบบนี้ ไม่ต้องมาเป็นพี่น้องกันเลย  ”                  ยังไม่ต้องให้อะไรเกิดขึ้นต่อจากนี้ มินหันหลังเดินตรงไปยังประตูรั้วบ้านก่อนจะก้าวเข้าไปภายในจากเดินกลายเป็นก้าวยวาๆและสุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นออกวิ่งตรงไปยังตัวบ้านแทน

     

    " มิน  "          ผู้ชายตัวสูงที่ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิมตะโกนสุดเสียงเพื่อเรียกชื่อของน้องคนตัวเล็กที่เขาพึ่งทำลายความสัมพันธ์ลงไปเมื่อไม่นาน ภาพที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้าคือ คนตัวเล็กที่ตัวเล็กลงไปเรื่อยๆ วิ่งห่างเขาออกไปโดยไม่หันกลับมามอง  ภาพคนตัวเล็กนั้นค่อยๆ เลื่อนลาง และแผ่นหลังนั้นก็หายเข้าไปยังบ้านหลังใหญ่ที่ข้างในคงมีใครอีกคนรออยู่







     

    “  ไหนโจ๊กกูวะ  ”             เอ่ยปากถามทันทีที่เพื่อนสนิทของเขาก้าวเข้ามาในบ้าน

    “  มึงมานั่งอะไรอยู่นี่  ”                     คนที่พึ่งเดินเข้ามาถามเสียงเหนื่อยๆก่อนจะทรุดตัวนั่งลงที่เก้าอี้ตัวยาวข้างๆตัวที่เจ้าของบ้านนั่ง

    “  ก็มึงไปนาน เลยลงมารอ ว่าแต่อยู่ไหนอะ  ”                      คนเป็นเพื่อนที่ยังไม่ได้สังเกตสีหน้าของอีกคนนักก็ถามต่อพร้อมกับมองหาถุงโจ๊กที่เจ้าตัวอยากกินเลยบอกให้อีกคนไป
    ซื้อให้หน่อย

    “  ร้านไม่เปิดอะ  โทษที  ” พอได้ฟังคำตอบโอ๊ตก็หวังจะแกล้งอีกคนด้วยการงอแงแต่พอเงยหน้าขึ้นมาสบตาอีกคนก็ต้องหยุดความคิดนั้นไว้แล้วใจก็กระตุกแทน ใบหน้าขาวที่ตอนนี้แทบจะเปลี่ยนเป็นสีแดงไปหมด ดวงตาคู่สวยมีน้ำใสใสคลอยู่ พร้อมกับแววตาที่เขาแทบจะไม่เคยเห็นมันมาก่อน

    “  มึงเป็นอะไร..  ”          

    “  กูเข้าห้องน้ำนะ  ”         ถามยังไม่จบเจ้าของคำตอบก็รีบลุกจากเก้าอี้ไปก่อนจะทิ้งความสงสัยไว้ให้เพื่อนตัวเอง

                     ก่อนโอ๊ตจะเดินไปปิดประตูบ้านให้สนิทและสิ่งที่เขาเห็นนั้นคงพอจะเป็นคำตอบให้เขาได้ ผู้ชายตัวสูงที่ยืนอยู่หน้าบ้านเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งต่อมาไม่นานรถคันนั้นก็แล่นออกจากหน้าบ้านเขาไปโดยเร็ว ถึงจะยืนอยู่ตรงนี้โอ๊ตก็ยังจำได้ว่าเขาเป็นใคร















    __________________________

    ปากพาซวยแล้วครับพี่คิมเรา

     จะเป็นยังไงติดตามต่อ
    รักคิมมิน รักคนอ่านทุกคน  

    ผิดพลาดยังไงว่ากล่าวเราได้เลย ขอบคุณน้า






     

    mx-xine
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×