คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : #ฟิคหน้าใส บทที่ 12 โอ๊ต
“ แม่ สวัสดีครับบ
” เสียงเด็กหนุ่มดังมาจากประตูรั้วหน้าบ้าน
พอหญิงสาววัยกลางคนที่กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ได้ยินก็รีบเดินตรงไปหาทันที
“ สวัสดีครับ
มาแต่เช้าเลยนะคิม ” หญิงสาวยิ้มทักทายด้วยท่าทางอบอุ่นก่อนจะเปิดประตูรั่วให้อีกคนเดินเข้ามา
“ พอดีออกมาออกกำลังหน่ะครับ
เลยซื้อน้ำเต้าหู้มาฝากคุณแม่ ”
หนุ่มตัวสูงท่าทางทะมัดทะแมงตอบพร้อมกับชูถุงหูหิ้วในมือขึ้นให้ดู
“ ปะ เข้าไปในบ้านกัน
” หญิงสาวเจ้าของบ้านหันมายิ้มให้ชายหนุ่มก่อนจะเดินนำตรงไปทางประตูหน้าบ้านที่เปิดอยู่
‘ สวัสดีครับ
’
‘ สวัสดีจ้ะ ’ หญิงสาววัยกลางคนรับไหว้เด็กหนุ่มตัวสูงที่มายืนอยู่หน้าบ้านเธออย่างงงๆก่อนจะหายงงเมื่อเด็กหนุ่มเอ่ยต่อ
‘ คิมครับ พอดีมาหาน้องมิน ’ เด็กหนุ่มตัวสูงพอเห็นว่าเจ้าของบ้านทำหน้างงก็รีบแนะนำตัวพร้อมกับยิ้มให้อย่างจริงใจ
‘ อ้อ คิมนี่เอง มาๆลูกเข้ามา
’ พอรู้ว่าคนแปลกหน้าคือคนที่ลูกชายชอบพูดถึงบ่อยๆและเป็นคนที่มาส่งที่บ้านตอนดึกเกือบทุกวัน
เธอก็ไม่รอช้ารีบเปิดประตูบ้านให้อีกคนเข้ามา
นั้นเป็นครั้งแรกที่คิมได้เจอกับแม่ของน้องตัวเล็ก
หญิงสาววัยกลางคนท่าทางอบอุ่นใจดี ดูรักธรรมชาติและมีแววตาที่คล้ายกับลูก
อยู่ด้วยแล้วสบายใจทำเอาหนุ่มตัวสูงอดคิดถึงแม่ตัวเองไม่ได้เลย
‘ เห็นมาส่งมินบ่อยๆหน้าตาเป็นอย่างนี้เองนะ
’ แม่ของน้องตัวเล็กเอ่ยขึ้นก่อนจะนั่งลงที่โซฟาตัวยาวภายในบ้านของเธอ
‘ แหะๆ ครับ
คิมก็เสียมารยาทไม่เข้ามาฝากเนื้อฝากตัวกับคุณแม่เลย ’ ชายหนุ่มเอ่ยตอบด้วยท่าทางเกรงใจก่อนจะนั่งลงที่โซฟาอีกตัวที่อยู่เยื้องกัน
‘ ไม่หรอกจ้ะ
อย่างน้อยก็ดีแล้วที่มินมีพี่ชายดีดีมาส่งที่บ้าน ’
‘ แล้วนี่รู้จักกันได้ยังไงหล่ะ
’ คนเป็นแม่ถามต่อเมื่อเห็นว่านอกจากโอ๊ตแล้วลูกชายก็แทบไม่ให้ใครมาส่งที่บ้านเลย
‘ ผมเห็นน้องน่ารักดีเลยมาตีสนิทอะครับ
ฮะฮ่าๆ ’ คนตัวสูงพูดติดตลกก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อคิดได้ว่าสิ่งที่ตอบก็มีส่วนเป็นเรื่องจริงบ้างอยู่
‘ นี่อย่าบอกนะว่ากำลังจีบลูกแม่อยู่
’ แต่หัวเราะอยู่ไม่นานชายตัวสูงก็ต้องสะดุ้งก่อนจะนั่งตัวตรงคิดหาคำตอบมาตอบแม่ของน้อง
‘ จีบได้ไงละครับ
ลูกแม่เป็นผู้ชาย ถ้าจีบนี่ผมคงโดนไล่เตะพอดี ’ คนตอบเอ่ยตอบพร้อมกับนึกภาพตามถ้าตัวเองตอบว่ากำลังจีบลูกชายแม่อยู่มีหวังแม่คงไล่เขาออกจากบ้านตอนนี้พอดี
ข้อหาพาลูกเขาเสียตัว เอ้ย เสียคน
‘ แม่ไม่ซีนะ
แม่รับได้ ฮะฮ่าๆ ’ และเป็นอีกครั้งที่ทำเอาคิมแทบหงายหลังหญิงสาวหันมาตอบพร้อมท่าทางจริงจังก่อนจะเอามือขึ้นมาปิดปากไว้ตอนหัวเราะดังๆออกมา
‘ จริงหรอครับ
’
‘ ดูหน้าก็รู้ว่าคิดไม่ซื่อกับลูกแม่..
ใช่มั้ย ฮะฮ่า ’ พอคิมเอ่ยถามอย่างอึ้งๆหญิงสาวก็รีบตอบกลับก่อนจะชี้นิ้วมาที่คิมพร้อมกับจ้องเขม็ง
‘ ฮ่า นิดหน่อยครับ
’ คนโดนจับได้เกาหัวแก้เก้อก่อนจะยิ้มแห้งๆให้
‘ ถ้าลูกชายแม่โอเค
แม่โอเคจ้ะ ไม่ต้องคิดมากหรอก ลุยๆเลย ’ หญิงสาวยิ้มสดใสก่อนจะยกมือขึ้นมากำเป็นกำปั้นทั้งสองข้างเหมือนเรียกกำลังใจ
‘ ลุยเลย ’ ชายหนุ่มตัวสูงก็มีแรงฮึดตามก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหาเบอร์ปลายทางพร้อมกับเหลือบมองหญิงสาวที่นั่งใกล้ๆก็เห็นว่าเธอกำลังยิ้มให้เขาอยู่เหมือนกัน
“ แม่พึ่งไปส่งมินมาตะกี้เอง ” หญิงสาวที่เดินนำหน้าหันมาตอบก่อนจะดึงสติคิมให้กลับมาจากการนึกถึงวันแรกที่ได้เจอกันกับเธอ
“ อ่อ..
ทำไมวันนี้ไปเช้าจัง ” พอตั้งสติได้
ชายหนุ่มก็เดินมานั่งลงที่เก้าอี้ก่อนจะยื่นถุงน้ำเต้าหู้ให้กับแม่บ้านที่พึ่งเดินเข้ามาขอถุงจากมือเขาไป
“ กัปตันโทรมาตาม
รีบลุกมาให้แม่ไปส่งใหญ่เลย ”
คุณแม่หันมาตอบก่อนจะยิ้มให้แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้าม
พอคุณป้าแม่บ้านกลับมาก็ถือถาดใส่แก้วสองใบข้างในมีน้ำเต้าหู้มาวางลงตรงหน้าหญิงวัยกลางคนและอีกใบที่ด้านหน้าเด็กหนุ่มที่ตอนนี้ทั้งสองกำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน
ถือว่าเป็นเช้าที่แสนสดใสของคุณนายเจ้าของบ้าน
“ พี่คิมไปหาแม่มาหรอ
” หลังจากที่ออกจากบ้านของน้องตัวเล็กมา
ชายหนุ่มก็ตรงกลับบ้านก่อนจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วตรงมาที่ร้านของกัปตันแล้วก็เจอเข้ากับเด็กที่ออกจากบ้านมาแต่เช้า
“ รู้ได้ไง
” คนโดนถามมองหน้าอีกคนนิ่ง
“ แม่ไลน์มาอวด
บอกกำลังกินข้าวกับลูกคนใหม่ ”
เด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ก็วางแก้วนมร้อนลงบนโต๊ะด้านหน้าอีกคนก่อนจะหันไปตอบพี่ชายตัวสูงแล้วยักไหล่เดินกลับไปทำงาน
พอเห็นว่าวันนี้คนในร้านเยอะแยะไปหมดคนเป็นพี่ก็เลือกจะนั่งเงียบๆเล่นเกมส์ในโทรศัพท์ไปเรื่อยๆไม่อยากจะไปกวนอีกคนที่กำลังทำงานอยู่
Fifa_prem : พี่คิมอยู่ไหน
โทรศัพท์ในมือสั่นก่อนจะพบว่ามีแจ้งเตือนจากไลน์เป็นข้อความของเด็กข้างห้อง
Fifa_prem : ตอบ
Fifa_prem : ตอบดิ
Fifa_prem : บอกให้ตอบไง ทำไมไม่ตอบน้อง
!!!!
คนที่กำลังพิมพ์แทบขว้างทิ้ง
กำลังพิมพ์อยู่ครับมึงใจเย็นได้มั้ย คิมคิด
KiimMon : อยู่ร้านเค้กโว้ย
Fifa_prem : ดีมาก
Fifa_prem : เห็นพี่เกมปะ
และไม่ต้องเดาต่อว่ามันทักมาทำไม
เมื่อเห็นข้อความล่าสุดของไอ้เด็กติดเกมส์ก็เงยหน้าขึ้นจากจอโทรศัพท์ก่อนจะมองสำรวจไปทั่วทั้งร้าน
ก่อนจะเห็นร่างสูงที่กำลังยืนยิ้มตาปิดให้ลูกค้าอยู่โต๊ะริมสูงของอีกฝั่ง
KiimMon : เห็น ทำไมวะ
Fifa_prem : ป่าว ถามเฉยๆ ไปละๆ
KiimMon : อะไรของมึง
และเหมือนเป็นการยืนยันว่าจบบทสนทนาแล้ว
เพราะพอส่งประโยคสุดท้ายที่คิมตอบไป ไอ้น้องที่ทักมาก็ไม่ตอบแถมอ่านอีกเลย
ทำเอาคนเป็นพี่งงไปอีก ก่อนจะถอนหายใจแล้วกลับไปเล่นเกมส์ฆ่าเวลาแบบเดิมไปเรื่อยๆ
ไม่รู้จะไปไหน รอร้านปิดค่อยว่ากันใหม่แล้วกัน
“ พี่คิม
มินกลับแล้วนะ ” รู้ตัวอีกทีก็ตอนมีคนมาสะกิดที่ไหล่ เพราะหลังจากที่เล่นเกมส์นู้นนี้ไปเรื่อย
ชายหนุ่มก็เปลี่ยนมาเพลิดเพลินกับการฟังเพลงก่อนจะพิงเก้าอี้แล้วหลับไป
ยังไม่ทันได้ตั้งสติอะไรคนที่มาสะกดไหล่ก็หายไปแล้ว
ก่อนจะรวบสติแล้วมองไปทั่วร้านก็เห็นว่าไม่มีลูกค้าเหลือแล้วจะเหลือก็แต่พนักงานและเจ้าของสองคนที่กำลังตรงมาหาเขา
“ ร้านกูไม่ใช่ห้องนอนนะครับ
หลับซะยาว ” เพื่อนตัวสูงเดินเข้ามาหาก่อนจะตบที่ไหล่เบาๆแล้วนั่งลงข้างๆ
“ พี่ไวท์ก็พูดไป
พี่คิมอาจจะมานอนเฝ้าใครรึเปล่า ”
ยังไม่ทันได้ต่อปากต่อคำกับเพื่อน
น้องหัวเกรียนก็เดินมาสมทบก่อนจะทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้แล้วนั่งลงข้างเพื่อนตัวสูง
“ อะไร
เป็นเจ้าของร้านไม่พอ พวกมึงจะเป็นนักข่าวด้วยหรอครับ ” คนโดนล้อทำหัวเสียก่อนจะมองไปทั่วร้านอีกที
“ น้องเขากลับไปแล้ว
.. เป็นไงใครบอกให้มานอนเฝ้า โธ่ๆ ” ไวท์พูดแซวมาอีกครั้งก่อนจะส่ายหน้าไปมายื่นมือมาลูบหัวอีกคนพร้อมกับสายตางสงสารเวทนา
“ เหี้ยไร ไปเลยๆ
ไปช่วยน้องเก็บร้านเลย ไปๆ ”
พอไม่รู้จะว่ายังไงชายหนุ่มก็ออกตัวไล่เพื่อนกับน้องให้ไปจากตรงนี้ก่อนจะลุกขึ้นยืนบิดตัวไปมา
ตบหน้าตัวเองเยาเยาเป็นการเรียกให้ตื่น
“ ลืมบอก
มินรีบออกไปหาโอ๊ตแหละ ”
กัปตันเดินกลับมาทางเดิมก่อนจะหันมาบอกพี่ชายแล้วยิ้มร่าก่อนจะเดินเข้ายังหลังร้าน
ทิ้งพี่ชายยืนหน้านิ่งไว้เบื้องหลัง พอได้ยินก็แบหูชานี่อุส่ามานั่งรอจะชวนไปกินข้างเย็นด้วยกันและไหงไปกับคนอื่นก่อนเขาซะงั้น
โอ๊ตอีกแล้วนะชื่อนี้อีกแล้วนะ
“ เป็นไรพี่
หน้าบูดเชียว ” หบังจากยืนนิ่งมาสักพักเพราะไม่รู้จะทำยังไงก็มีเสียงเด็กผ๔ชายดังมาจากข้างๆก่อนจะหันไปดูก็พอจะรู้ว่าเป็นใคร
“ ไรซิง กวนหรอ
” ตอบน้องชายที่คุ้นหน้าคุ้นตา
เด็กตัวผอมที่เขาคิดว่าเป็นเด็กน่ารักกวนๆคนนึงกำลังมายืนข้างเขาพร้อมกับในมือมีไม้ถูพื้น
“ ป่าว
เห็นยืนอยู่ตั้งนานนึกว่าตาย ”
เด็กตัวผอมสูงน่าตาทะเล้นรีบตอบก่อนจะเท้าแขนไว้บนไม้ถูพื้นประจำตัว
“ แล้วนี่ว่างยัง
” พอเห็นหน้าน้องชายตัวผอมก็เริ่มมีความคิดขึ้นมาเลยถามออกไป
“ ก็ไม่ว่างนะพี่
แต่ก็พอคุยได้ ” พูดก่อนจะยักไหล่แล้วจ้องหน้าพี่รอคำถามต่อไป
“ เออ..
รู้จักโอ๊ตป่ะ ” คนเป็นพี่เอ่ยถามอย่างช้าๆกลัวว่าคนอื่นจะได้ยินด้วย
“ โอ๊ต
เพื่อนมินอะหรอ… รู้ดิ ” พอพี่พยักหน้าให้รู้ว่าหมายถึงคนเดียวกันก็รีบตอบออกไปเพราะว่าเขาก็รู้จักทั้งโอ๊ตทั้งมินถึงจะไม่ค่อยสนิทอะไรกันมากแต่ก็เพื่อนชั้นเดียวกัน
“ นั้นแหละ
เป็นคนยังไงวะ แบบว่าเป็นคนแบบไหน ” ไม่รู้จะเรียบเรียงคำถามยังไง
“ เป็นแฟนมิน จบนะ
” ไม่ใช่คำตอบจากซิงแต่เป็นอีกคนที่พึ่งเดินเข้ามา
“ บ้า กัปมึงก็ว่าไป
” พอได้ยินเพื่อนตอบแบบนั้น
ซิงก็ยื่นมือไปตบหัวเกรียนเบาๆ
“ อยากรู้อะไรก็ไปถามมินดิพี่คิม
.. ซิงมันจะรู้อะไร ” กัปตันพูดเสียงสูงทิ้งท้ายก่อนจะเดินไปเช็ดกระจก
“ อย่าไปเชื่อมัน
มาๆจะเล่าให้ฟัง ” เด็กชายตัวผอมขยับเข้ามาใกล้ก่อนจะสูดหายใจและเล่าเรื่องที่เขารู้เกี่ยวกับทั้งสองคนให้พี่ชายฟัง
“ ได้รองเท้าใหม่แล้วววว
” เพื่อนตัวเล็กข้างๆพูดด้วยความตื่นเต้นเหมือนเด็กได้ของเนใหม่ก่อนจะชูถุงในมือให้เขาดู
“ ก็ได้เหมือนกัน
จะอวดทำไม ” มินพูดใส่ก่อนจะชูถุงแบบเดียวกันให้ดู
“ อวดบ้างไม่ได้รึไง
” คนตัวเล็กแกล้งถลึงตาใส่ก่อนจะอมยิ้มแล้วหันกลับไปดูถุงในมือของตัวเอง
โอ๊ตบอกอยากได้รองเท้าจากครั้งก่อนที่เรามาดูด้วยกัน
พอมาวันนี้เพื่อนตัวเล็กเลยรีบตรงไปร้านรองเท้าก่อนเลย
ก่อนจะเลือกอยู่ตั้งนานกว่าจะได้สีแบบที่ขอบก่อนจะชวนเขาซื้อเป็นเพื่อน เลยได้มาแบบเดียวกันเป๊ะ
รองเท้าผ้าใบสีขาวลายขีดเส้นสีดำเป็นแทบๆ
“ กินไรดี ” คนตัวเล็กที่ตื่นเต้นกับรองเท้าใหม่เสร็จแล้วหันมาถามคนที่เขาชวนมาเดินเป็นเพื่อนวันนี้
“ กินไรดีวะ
คิดไม่ออก ” มินมองไล่ไปตามร้านอาหารในห้างที่เรียงกันอยู่ก่อนจะเลือกไม่ได้ว่าจะเข้าร้านไหน
“ อาหารญี่ปุ่นมั้ย
ครั้งก่อนมึงบอกอยากกิน ” โอ๊ตชี้ไปร้านสีฟ้าที่อยู่อีกฝั่งก่อนจะดึงแขนให้อีกคนเดินตามไป
ทั้งสองคนเดินเข้ามานั่งในร้านก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะเกือบในสุดแล้วก็ได้เมนูสั่งอาหารกันโดยที่ไม่รู้ว่ามีอีกคนเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะด้านหลังพวกเขาและกำลังแอบฟังพวกเขาคุยกันอยู่
ด้วยความที่ที่นั่งยาวมีพนักพิงสูงเลยหัวไปจึงเป็นการดีของคนที่กำลังแอบฟัง
‘ .. โอ๊ตกับมินอะ
มันรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ พอมาเจอกันอีกตอนมัธยมมันเลยสนิทกันมากกว่าคนอื่น
แต่โอ๊ตดูเป็นเงียบๆ มันไม่ค่อยชอบไปไหนมาไหนแบบคนเยอะๆ ส่วนใหญ่มันจะไปกับมินสอง
แต่ช่วงตะกี้มันไปต่างประเทศไง มินเลยมาอยู่กลุ่มกับพวกผมนี้แหละ... ’
‘ … แต่เรื่องที่กัปมันพูดมีสิทธิ์เป็นไปได้นะ
ไม่แน่โอ๊ตอาจจะชอบมินอยู่ เอ๊ะ หรือมินอาจจะชอบโอ๊ตมันก็ได้นะ ’
พอได้ยินซิงเล่าก็แทบจะวิ่งมาให้ไว ถ้าแม้กระทั่งเพื่อนจะสงสัยว่าชอบกัน
ก็แสดงว่าอาจจะชอบกันจริงๆก็ได้
พอได้ยินเรื่องนี้ก็อยู่ร้านต่อสักพักก่อนจะออกมาที่ห้างนี้เพื่อตามหาคนสองคน
และก็เป็นไปตามคาดเขามองเห็นตอนสองคนนี้ออกมาจากร้านรองเท้าพอดี
“ เหนื่อยว่ะ
” คนที่นั่งติดกับพนักพิงตัวเดียวกันกับเขาพูดขึ้นหลังจากถอนหายใจ
“ ก็บอกว่าให้เลิกทำ
จะได้ไม่เหนื่อยไง ” เขาได้ยินเสียงอีกคนตอบกลับเบาๆอาจจะเป็นเพราะอยู่ห่างกับที่นั่งของเขามากด้วยก็ได้
“ ไม่เอาอะ สนุกดี
อยู่บ้านเฉยๆก็เบื่อตายพอดี ”
คิมแอบพยักหน้าเห็นด้วยเบาๆ
“ ก็อยู่บ้านไง
เดี๋ยวกูไปเล่นด้วยทุกวันเลย ”
เด็กอีกคนตอบกลับพร้อมกับหัวเราะเบาๆ
คนที่แอบฟังอยู่แทบขว้างขวดน้ำ มึงจะเล่นอะไรด้วยกันทุกวันคิดว่าเป็นเด็กหรอวะ
คิมคิด
“ หรออออ ขนาดนั้นกูก็ได้กับมึงพอดี ไม่เอาๆ ” เด็กตัวเล็กน่ารักของเขาตอบกลับเพื่อนไปติดตลกก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะจากเด็กอีกคน
“ หูยยย
ปฏิเสธกูขนาดนั้นเลย ”
คิมแอบซะใจเบาๆ
การมาแอบตามดูครั้งนี้อาจจะดูโรคจิตไปหน่อยแต่เขาก็มาแบบบริสุทธิ์ใจไม่ได้มีเจตนาใดให้เสียหาย
คงไม่เป็นไรหรอก
พอทั้งสามคนกินข้าวเสร็จเด็กหนุ่มสองคนที่มาด้วยกันก็ออกจากร้านไป
ส่วนอีกคนที่มุดใต้โต๊ะอยู่เพราะกลัวว่าน้องจะเห็นก็รีบตามหลังสองคนมาห่างๆ ก่อนจะเห็นว่าเด็กหนุ่มที่ตัวเล็กกว่ากำลังลากแขนน้องเขาไปทางประตูออกห้าง
เลยรีบวิ่งตามไปให้ได้ยินเขาคุยกัน
“ ม่ายปายยยย กูอยากกลับบ้าน ” คนโดนดึงแขนอยู่พูดยานคางก่อนจะรั้งตัวไว้ไม่ให้เดินตามอีกคนไปด้านหน้า
“ เออ เดี๋ยวไปส่งไง
เร็ว ” โอ๊ตเปลี่ยนเป็นมือสองข้างมาดึงแขนอีกคนหวังให้เดินตามไปแต่ก็ยังขยับไปได้ไม่ไกลเพื่อนก็งอแงอีก
“ เดี๋ยวกูกลับเอง
ปล่อยยยย ” มินตอบอีกทีก่อนจะรั้งตัวเองแล้วเอามืออีกข้างคนมาตีมืออีกคนหวังให้คลายออกจากแขนตัวเอง
“ ไม่ จะไปส่ง
หยุดบ่นเลย หยุดๆ ” คนตัวเล็กออกแรงดึงอีกครั้งแต่ก็ไม่ขยับตามเขาไปจนหมดความหวังแล้วเลยหันกลับมาทางเพื่อนที่ยืนทำหน้าหยิกอยู่
“ ปล่อยเลย จะกลับเอง
” มินทำหน้ายู้ใส่อีกคนก่อนจะตีเบาๆอีกทีที่มือของเพื่อน
โอ๊ตยอมปล่อยมืออีกคนก่อนจะเดินเข้าไปหาใกล้ๆแล้วเอื้อมมือไปแนบที่แก้มของอีกคนที่ยืนนิ่งอยู่
“ แค่จะไปส่งทำไมมึงต้องดื้อด้วย
”
“ ก็กูอยากกลับเอง
” มินหันหน้ามองไปทางอื่นปล่อยให้มือของอีกคนห่างจากแก้มของตัวเอง
“ ไม่ๆ เดี๋ยวไปส่ง
” โอ๊ตยังยืนยันคำเดิมก่อนจะจับมืออีกคนให้เดินตามไป
และเหมือนคนที่ถูกดึงจะยอมเดิมมาอย่างง่ายๆ ก่อนจะหยุดที่หน้าประตู
“ พี่คิม
” พอเด็กหน้าใสที่กำลังเดินตามเพื่อนไปโดนอีกมือหนึ่งมาดึงเขาไว้จนต้องหยุดเดินก็หันไปมองก็เจอพี่ตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างหลังใกล้ๆ
“ เดี๋ยวพี่ไปส่งมินเอง
” คิมออกแรงดึงมือน้องตัวเล็กที่ยังยืนงงๆให้เดินตามตัวเองไป
“ แล้วทำไมพี่ต้องไปส่ง
” โอ๊ตตามมาดึงแขนของเพื่อนตัวเองเอาไว้ก่อนจะถามพี่ที่พึ่งเข้ามาเสียงดัง
“ มันดึกแล้ว
โอ๊ตกลับบ้านตัวเองไปดีกว่ามั้ย ” พอเห็นว่าอีกคนตามมาคิมก็หยุดเดินก่อนจะหันกลับตอบเด็กตัวเล็กที่มองตัวเองเขม็ง
“ ก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกับพี่เลยนะ
”
“ เอ้า ไอ้นี่..
”
“ พอ
เดี๋ยวกูกลับกับพี่คิม มึงก็ลับบ้านไปได้แล้ว จบนะ พอ ” ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรมากกว่านั้น
มินก็ขัดขึ้นมาก่อนจะสะบัดแขนออกจากทั้งสองคนแล้วเดินไปอีกทางปล่อยให้สองคนยืนจ้องกันแบบไม่มีใครยอมใคร
“ รู้หรอว่าพี่จอดรถไว้ไหน
” มินเดินนำหน้ามาสักพักก่อนจะได้ยินเสียงอีกคนตามมาแล้วก็วิ่งมาเดินข้างๆเขาแทน
“ ไม่รู้อะ นำไปเลย
เร็วๆ ” มินหันไปตอบพี่ที่เดินอยู่ข้างๆ
ก่อนจะหันกลับไปมองด้านหลังก็เห็นหลังของเพื่อนตัวเองกำลังเดินออกประตูห้างไป
“ มองไร อยากกลับกับโอ๊ตก็บอก ” พอคนตัวสูงเห็นน้องมองไปข้างหลังก็พอจะเดาออกว่าเด็กหนุ่มมองอะไรอยู่
“ ป่าว
แล้วพี่คิมมาไงอะ ” มินรีบหันกลับบมาทางเดิมก่อนจะถามพี่ชายตัวสูงเพราะอยู่ดีดีก็โผล่มา
“ มาเดินเล่นแบบมีสไตล์
..”
“ แล้วทำไมยอมกลับกับพี่อะ
” คนที่ตอบคำถามแรกเสร็จก็อดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงยอมกลับกับเขาอย่างง่ายดาย
พร้อมกับเหลือบไปมองอีกคน
“ ก็ถ้าโอ๊ตไปส่งมันก็ไกลไง
ดึกแล้วอันตรายด้วย.. ” คนตัวเล็กตอบหน้าซื่อก่อนจะพยักหน้าเป็นการยืนยันคำตอบในหัว
“ แล้วยังไงต่อ ” คนเป็นพี่ก็ยังคงมองอีกคนยังไม่ค่อยเข้าใจกับคำตอบนัก
“ ก็ให้พี่คิมไปส่งไง
โอ๊ตจะได้ไม่เสี่ยง ” เด็กตัวเล็กยิ้มร่าก่อนจะหันไปมองนู้นนี้และยกถุงในมือขึ้นมากอดไว้แทน
ส่วนคนพี่คอก็แทบตกกับคำตอบของน้อง
“ สรุปยอมให้กูตายง่ายกว่าให้เพื่อนตายใช่มั้ย
” คนตัวสูงพูดเสียงเหวี่ยงก่อนจะเดินเร็วขึ้นและนำไปก่อนจนคนน้องที่พึ่งหันมาต้องรีบก้าวตามไป
แต่ดูเหมือนจะยังห่างมากกว่าจึงต้องออกแรงวิ่งเหยาะตามไปแทน อยู่ๆเป็นอะไรอีกเนี่ย
มินคิด
“ พี่คิม รอด้วยดิ ”
__________________________________
มาอัพแล้วจ้า หลังจากหายไปสักพัก 55555 ไม่พักละ นานอยู่
ยังไงก็ตามตัวได้ตามแอคทวีตนะจ้ะ
ที่หายไปไม่ใช่ไรเราแค่รู้สึกอกหัก มันรู้สึกแปลกๆจนไม่กล้าแต่งต่อ
แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะยังไงก็ #จะจิ้นคิมมินจนกว่าโลกจะแตก วันนั้นก็เหมือนแผ่นดินไหวแรงก็เท่านั้น
รักคนอ่านนะ รักคนคอมเมนต์ รักคิม รักมินมากด้วย
ความคิดเห็น