ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KimMin] น้องหน้าใสกับพี่ชายปากเสีย

    ลำดับตอนที่ #12 : #ฟิคหน้าใส บทที่ 11 ดูหนัง

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ค. 58


     

     

     







     

    มาแฟ้วววว ”          ผู้ชายตัวสูงยื่นหน้ามายิ้มแป้นบนหัวมีหมวกสีดำสวมอยู่ ในมือสองข้างก็ชูตั๋วหนังโบกไปมาด้วยท่าทางดี้ด้าเหมือนเด็กได้ลูกโป่ง

    อะไรพี่ เกินไปละๆ ”        คนเป็นน้องเห็นท่าทางพี่ตัวสูงก็อดหมั่นไส้ไม่ได้ก่อนจะยื่นมือไปตีไหล่อีกคนแรงๆ

    เอ้า กว่ามึงจะมาได้กูแทบเสียตัวเลยนะเนี่ย ”        คนเป็นพี่ก็ยิ่งยิ้มกว้างไปกันใหญ่ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปตั๋วในมือ

                     คนเป็นน้องที่ยืนอยู่ตรงข้ามกันแทบยกมือขึ้นมากุมขมับเมื่อเห็นท่าทางแฮปปี้โอเว่อของคนเป็นพี่ที่ชวนตัวเองมาดูหนังวันนี้

     

     


     

    ไปดูหนังกานนนนนน นะนะนะนะ ’       เสียงดังโหวกเหวกจากโทรศัพท์ดังออกมาหลังจากที่มินกดรับไปไม่นาน

    โหยไรพี่คิม โทรมาทำไมแต่เช้า ’     คนที่พึ่งเดินบันไดบ้านแทบจะปาโทรศัพท์ทิ้ง

    ไปดูหนังกับกูเลยยยย ’       เสียงลากยาวยังคงหลอกหลอนอยู่ในสายยืดไปยืดมา

    ก็บอกว่าขอคิดก่อน

    ม่ายยยยย วันนี้ วันนี้เลย ’     เสียงคนในสายยังคงเป็นแบบงอแงงุ้งงิ้ง คนเป็นน้องก็แทบงงไปกันใหญ่สงสัยว่าวันนี้พี่ชายที่โทรมาแต่เช้าคงนอนไม่พอแน่ๆ

    ถ้าพี่อยู่หน้าบ้านตอนนี้มินไปเลย ’      คนเป็นน้องรีบตอบกลับกวนๆไปทันทีเพราะรู้อยู่แล้วว่าบ้านพี่กับบ้านตัวเองก็ห่างกันวิ่งมาสิบวิคงไม่ถึงหรอก

    กูนั่งอยู่ข้างล่างเนี้ย ’    คนที่งอแงมาก่อนเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นจริงจังทันที พอคนที่ก้าวลงขั้นบันไดบ้านมาถึงขั้นสุดท้ายพร้อมกับได้ยินประโยคำตอบพอดีก็รีบหันไปมองทางโซฟารับแขกและพบว่าพี่ตัวสูงกำลังนั่งอยู่กับคุณแม่ของตัวเอง

                   
               นั่นคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ก่อนจะโดนพี่ชายที่แอบไปคุยอะไรกับแม่เขามาก็ไม่รู้ลากมาดูหนังด้วยพร้อมกับได้รับความร่วมมือจากแม่อีกด้วย

     

     

    อีกตั้งนานกว่าหนังจะฉายไปไหนดี ”       คนที่ถ่ายรูปเสร็จแล้วก็เงยหน้าขึ้นมาถาม

    ไม่รู้  ”      คนเป้นน้องกอดอกก่อนจะทำหน้าบึ้งใส่

    อย่ามาไร้สาระใส่ฉันนะ ”     คนเป็นพี่เห็นท่าทางบูดบึ้งของน้องก็ทำหน้าบึ้งคืนก่อนจะยกมือขึ้นมากอดอกแบบเด็กๆ

    หึยยยย ”      คนตัวเล็กทำเหมือนเสือแยกเขี้ยวก่อนจะสะบัดหน้าแล้วก็เดินนำไปอีกทาง พอคนเป็นพี่เห็นก็อมยิ้มก่อนจะรีบวิ่งตามไป

                     ก่อนคนตัวเล็กจะไปหยุดลงที่หน้าร้านไอติมร้านประจำที่ชอบมานั่งกินอยู่บ่อยๆแล้วหันไปมองคนที่เดินตามมา

    กินมั้ย มินอยากกิน กินเป็นเพื่อนหน่อย ”      คนตัวเล็กเอ่ยถามก่อนจะชูนิ้วไปทางหน้าร้าน

    กินดิ แต่ไม่อยากกินเป็นเพื่อนนะ อยากกินเป็น

    พอ! ”     คนเป็นน้องพูดขัดขึ้นก่อนที่พี่จะพูดจบแล้วเดินนำเข้าไปในร้าน ทิ้งให้พี่ตัวสูงที่อุส่าจะเล่นมุขต้องเซ็งเก้อคอตกแล้วเดินตามเข้าไป

    กินด้วยดิ ถ้วยนั้นน่ารักจัง ”      พอไอติมมาวางลงที่โต๊ะสองถ้วย คนเป็นพี่ที่เท้าคางมองมาที่น้องก็เอ่ยถามขึ้นเบาๆพร้อมกับกระพริบตาถี่ๆให้อีกคนสงสาร

    ของตัวเองก็มีกินไปเลย ”     คนน้องมองค้อนก่อนจะเอามือขึ้นมากุมปากถ้วยไอติมตัวเองเอาไว้แล้วตักขึ้นมากินคำโต

    โหย ทำไมน้องมินใจร้ายจัง ”       พอเห็นท่าทางหวงของของตัวเล็กคนพี่ก็ทำตัวเป็นเด็กก็จะยกนิ้วชี้ทั้งสองข้างมาชนกันซ้ำๆทำตาแบ๊วใส่

    น่ารักมากมั้ย โอ้ยยย ”     คนเป็นน้องเห็นก็แทบหลุดขำก่อนจะยื่นมือไปตักไอติมของอีกคนมากินตัดหน้าทันที นี่คิดว่าตัวเองน่ารักขนาดนั้นเลยหรอ โอ้ยฮา มินคิด

    เอ้าๆ  มาแย่งพี่กินทำไม เห้ย ทำไมเป็นคนอย่างนี้ ”      พอเห็นว่าน้องตัวเล็กตักไอติมถ้วยตัวเองไปกินอย่างลอยหน้าลอยตาก็รีบโวยวายก่อนจะหยิบช้อนขึ้นมาหวังจะแก้แค้นอีกคน

    อย่านะ อย่าเลย อย่า ”       พอยื่นมือเข้าไปใกล้ถ้วยของอีกคน ไอ้เจ้าของถ้วยก็รีบโวยก่อนจะเอาช้อนในมือมาปัดช้อนพี่ชายให้เปลี่ยนทางไป

    หึหึ แกคิดว่าจะรอดหรอ ”     คนเป็นพี่ไม่ยอมรามือก่อนจะหันช้อนพุ่งข้าใส่ถ้วยไอติมของอีกคนแล้วก็ได้มาซึ่งไอติมก้อนโตเต็มช้อนยัดมันเข้าปากอย่างสบายใจ โดยที่ไม่ลืมส่งยิ้มเยาะเย้ยไปให้อีกคนที่กำลังแสดงอารมณ์โกรธด้วยการมองแรงมาทางตัวเอง

                
                    สงครามการกินไอติมจบลงก่อนทั้งสองจะเดินออกมาจากร้านแล้วเดินตรงไปอีกทางเพื่อดูของต่างๆตามร้าน ระหว่างทางมินก็แวะดูนู้นนี้ไปเรื่อยทั้งรองเท้าทั้งเสื้อผ้า ส่วนพี่ตัวสูงก็ไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษนอกจากมองดูคนตัวเล็กวิ่งเข้าออกร้านข้างๆไปเรื่อย

    พี่คิมๆ ”       ได้ยินเสียงน้องเรียกจากด้านในของร้านสักร้าน พอเดินเข้าไปด้านในก็รู้ว่าคือร้านขายเครื่องประดับต่างๆ มีทั้งสร้อยคอนาฬิกาแหวนและกำไลข้อมือผู้ชายเยอะแยะไปหมด

    อะไร ”       พอเดินมาถึงตัวคนที่เรียกก็ถามก่อนจะหันไปดูของด้านหลัง

    ดูๆ เท่ป่ะ ”       พูดพร้อมกับสะกิดแขนอีกคนให้หันมาดู ก่อนจะชูนิ้วที่สวมแหวนตัวเอ็มขึ้นให้พี่ชายดู

    เชรด อย่างเฟี้ยว ไหนๆ ”      ซึ่งนั้นถือว่าเป็นการดึงความสนใจของพี่ชายได้มาก พอเห็นแหวนบนนิ้วของน้องก็รีบหันไปดูว่ามีตัวอักษรชื่อตัวเองบ้างรึเปล่า

     

     

    ขอบคุณนะคะ ”         เสียงพนักงานไล่หลังมาหลังจากที่ผู้ชายสองคนเดินออกมาจากร้านพร้อมกับแหวนบนนิ้วคนละวง

    เท่กว่า ”       คนเป็นพี่ยกนิ้วขึ้นมาอวดก่อนจะชี้ย้ำให้อีกคนเห็นแหวนตัวอักษร K ที่อยู่นิ้วกลางบนมือด้านซ้าย

    ไม่ๆ ของมินสวยกว่า ”        มินไม่ยอมก่อนจะยกมือข้างขวาขึ้นมาอวดอีกคนพร้อมกับแหวนตัว M เด่นบนมือขาวๆ

    ยอมก็ได้ ”        คนเป็นพี่ยิ้มก่อนจะลูบห้องน้องเบาๆแล้วยิ้มอีกคน


    ... ไปดูหนัง ฉายแล้วมั้ง ”        คนเป็นน้องยืนนิ่งมองพี่ชายตัวสูงสักพักก่อนจะเอ่ยปากบอกเมื่อก้มมองหน้าปัดนาฬิกาบอกเวลาว่าถึงตามที่ตั๋วบอกแล้ว

                     เด็กหนุ่มตัวเล็กเปลี่ยนเป็นจับแขนพี่ชายแล้วออกแรงดึงไปตามทางเดินที่ทั้งสองคนเดินออกมาก่อนจะตรงเข้าไปยังโรงหนังที่ระบุไว้ในตั๋ว


    ไม่ใช่หนังผีหนิ ”        คนน้องพอเดินเข้ามาในโรงหนังก็ก้มมองตั๋วในมือที่ไปเอามาจากพี่ชายแล้วปรากฏว่าเป็นชื่อหนังอีกเรื่อง

    ก็เห็นว่ากลัวไง ไม่ดูเรื่องนี้หรอ ”        คนตัวสูงกว่ารีบเดินเข้าไปใกล้ๆแล้วก้มไปถามใกล้ๆเพราะไม่อยากเสียงดัง ก่อนทั้งสองจะเดินไปยังที่นั่ง

     “ ไม่ดูแล้วจะพาออกไปมั้ย ”      พอนั่งลงคนน้องก็หันไปถามก่อนยักคิ้ว

    ไม่ ”    คนพี่ก็รีบตอบก่อนจะยิ้มให้คนน้องที่กำลังทำหน้าบึ้งซึ่งเห็นเป็นภาพลางๆในความมืด

                   
                       ภายในโรงหนังก็มีเพียงแค่แสงวูบวาบจากจอหนังเท่านั้น ทำให้เห็นใบหน้าขาวของอีกคนไม่ชัดเท่าไหร่ คิมยังคงมองอยู่อย่างนั้นแต่คนเป็นน้องได้หันไปทางด้านหน้าแล้วก่อนเพลงสรรเสริญพระบารมีจะดังขึ้นทั้งคู่ก็ลุกขึ้นยืนเมื่อเพลงจบก็นั่งลงแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก แต่รอยยิ้มและความอบอุ่นยังปรากฏอยู่ข้างในใจของผู้ชายที่กำลังนั่งดูหนังบนจอแต่ในหัวกลับคิดถึงแต่เรื่องของคนที่นั่งข้างๆ

     

     

     




     

    กลับมาแล้วหรอจ้ะ ”          เสียงทักหลังจากที่ก้าวเข้าบ้านเพียงไม่กี่ก้าว คุณแม่คนสวยก็เอ่ยถามเสียงดังจากโซฟาหน้าทีวีที่ประจำเขาเลย

    ครับ เหนื่อยมากกกก ”        ลูกชายตัวเล็กเดินตรงเข้าไปหาแม่ก่อนจะทิ้งตัวนอนลงบนโซฟาแล้วเอาหัวไปหนุนตักแม่

    ทำไมเหนื่อย ไปทำอะไรมา ”        แม่ถามก่อนจะก้มมามองหน้าลูกชายที่น่ารักของเธอแล้วยกมือขึ้นบีบจมูกลูกชายเบาๆ

    นั่งรถไง รถติดมากๆ ”      เด็กชายเบะปากน้อยๆเป็นการสนับสนุนคำพูดตัวเอง

    แล้วพี่คิมเป็นไง ”     อยู่ดีดีแม่ก็ถามถึงพี่ชายที่พึ่งมาส่งเขาที่หน้าบ้าน

    พี่คิมก็เป็นพี่คิมไงแม่ ”      ลูกชายที่หนุนตักอยู่ก็ยิ้มให้แม่ก่อนจะโดนแม่ตีเข้าที่ท้องเบาๆ

    กวนแม่หรอเรา...พี่เขาน่ารักหรือเปล่า ”   แม่ถามต่อ

    อะไร ทำไมแม่อยากรู้.. แหนะๆ เมื่อเช้าคุยไรกัน ”       ถามทันทีเมื่อคิดได้ว่าเมื่อเช้าเห็นพี่คิมกับแม่นั่งอยู่ด้วยกันที่นี้

    คุยอะไร ไม่มีเลย ”      คุณแม่พูดเสียงสูงก่อนจะส่ายหน้าไปมาแล้วมองไปทางทีวี

    แม่ บอกมินมา ”     ลูกชายรู้ว่าแม่กำลังแกล้งเขาอยุ่ก็เอื้อมมือเล็กไปจี้ที่เอวของแม่ก่อนหญิงสาวจะสะดุ้งแล้วหัวเราะออกมา

    ฮะฮ่า มิน มิน อย่าทำแม่ ฮ่า ”       หญิงสาววัยกลางคนรีบลุกออกจากโซฟาแล้วยืนตัวตรงอยู่หน้าลูกชายที่เกือบกลิ้งตกลงมาเมื่อเธอลุกขึ้นกะทันหัน

    แม่ไม่รู้ แม่ไปนอนแล้ว ”        
                                            แม่หันมาบอกก่อนจะเดินไปปิดทีวีแล้วก็วิ่งหายไปบนบันไดสู่ชั้นสองของบ้าน ทิ้งลูกชายตัวเล็กนอนค้างอยู่บนโซฟาก่อนจะยิ้มเล็กยิ้มน้อยอยู่คนเดียวเมื่อคิดถึงหนังที่พี่ชายพาไปดูมันไม่ใช่หนังผีอย่างที่พี่ตัวสูงชวนไปดูตั้งแต่แรก แต่กลับเป็นหนังการ์ตูนดิสนีย์สาวแตกโดยให้เหตุผลว่ากลัวเขาจะนอนไม่หลับฝันร้ายแล้วมางอแงทีหลังไม่อยากรับผิดชอบ นึกถึงแล้วก็ฮานี่พาน้องชายไปดูหนังนะไม่ใช่ไปกับลูกสาว โอ้ย ไอ้พี่คิม

     

     

     

    KiimMon :  ถึงบ้านแล้ว

    พอเดินขึ้นห้องกะว่าจะไปอาบน้ำก็ล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงก็พบกับแจ้งเตือนไลน์ที่อยู่หน้าจอ

     

     

    Minthtp :  ใครถามคร้าบบบ        

     มินพิมพ์ตอบไปกวนๆ ก่อนจะนั่งลงบนเตียง

    KiimMon :   แม่ง รู้งี้พาดูหนังผีดีมั้ย

                     สักพักก็มีข้อความตอบกลับมาก่อนที่เด็กหนุ่มจะพิมพ์ตอบไปทันที

    Minthtp :  ไม่ทันแล้ว :P             

    KiimMon :    ไปอาบน้ำเลย

                     พอเห็นข้อความของพี่ที่ส่งมาก็นึกว่าต้องไปอาบ ก่อนจะตอบกลับไปสั้นๆแล้วเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วตรงไปยังห้องน้ำ

     

     

     

    Minthtp :  งั้นอาบน้ำแป็ป

                     คนตัวสูงอ่านข้อความบนจอโทรศัพท์อยู่สักพักก่อนจะวางโทรศัพท์ลงบนเตียงแล้วเดินไปหาอะไรกินในครัวบ้าง เขาออกไปบ้านมินตั้งแต่เช้าแล้วก็ดูหนังกันต่างๆนานากว่าจะออกมาก็บ่ายแก่ๆกว่าจะถึงบ้านก็ปาไปห้าโมงเย็นรถติดซะเหนื่อยไอ้คนน้องที่นั่งมาก็หลับอย่างเดียวทิ้งกันซะได้ คิดไปก็แอบดีใจไม่เสียแรงเลยที่ตื่นไปหาที่บ้านของมินแต่เช้าจากที่ชวนไปดูหนังมาเป็นอาทิตย์วันนี้ก็ยอมไปแบบจำใจจนได้ พอหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจะดื่มก็สะดุดตาเข้ากับแหวนที่พึ่งได้มาสดๆวันนี้ก่อนจะหลุดยิ้มออกมาพอนึกถึงหน้าอีกคนตอนมันโชว์แหวนก่อนจะลงรถไป นี่นับเป็นแหวนคู่ได้มั้ย เอ้ะ แต่มันไม่น่าจะเกี่ยวกัน 55555 คิมคิด

     

                     พอหาอะไรกินเสร็จแล้วก็เดินกลับเข้ามาที่ห้องนอนก่อนจะตรงไปนอนลงบนเตียงแล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเจอแจ้งเตือนบนหน้าจอก่อนจะเลื่อนไปอ่าน

     

    Minthtp :  มาแล้วววว

    Minthtp :  พี่คิม

    Minthtp :  พี่คิมมมมม

    Minthtp :  ไอ้พี่คิม

    Minthtp :  มินนอนแล้วนะ

     

                     พอเห็นข้อความก็อดยิ้มไม่ได้ก่อนจะมีความคิดหนึ่งโผล่ขึ้นมาในหัวแล้วกดโทรออกหาเบอร์ล่าสุดที่พึ่งออกไปตอนเช้า

    โหล

    โทรมาทำไม มินจะนอนนนน ”      พอปลายสายรับก็พูดออกมาก่อนจะลากเสียงยาวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

     นั้นไง ก็ยังไม่นอน ”         คนเป็นพี่คิดไว้แล้วว่าคนน้องต้องยังไม่นอน ก่อนจะเอ่ยถามพร้อมกับเอาโทรศัพท์แนบหูยิ่งกว่าเดิมแล้วนอนลงหนุนแขนอีกข้างของตัวเอง  

    จะนอนแล้ววว ”        ปลายสายก็ตอบแบบลากเสียงยาวเหมือนเดิมก่อนจะถอนหายใจเบาๆ

    ก็นอนไปดิ ”       พอเห็นน้องโวยวายก็ตอบแบบกวนๆก่อนจะนอนยิ้มนิ่งๆอยู่บนเตียง

    พี่คิมก็วางดิ มินจะได้นอน ”        คนน้องตอบเสียงเอื่อยๆ

    ไม่ มึงก็นอนไปดิ เดี๋ยวกูวางเอง ”      คนเป็นพี่ก็ทำดื้อก่อนจะพลิกตัวไปนอนคว่ำแล้วรอฟังเสียงตอบจากอีกคน

    เออ งั้นมินนอนละ ”       คนน้องยอมกับความดื้อของพี่ชายที่โทรมาก่อนเจ้าตัวจะวางโทรศัพท์ลงข้างหมอนแล้วหลับตานอนโดยไม่สนว่ามีคนถือสายอยู่

    เปิดลำโพงไว้ด้วย ”      เสียงแจ้วจากพี่ชายดังมาจากโทรศัพท์ข้างหมอนก่อนคนน้องจะยื่นมือไปกดโทรศัพท์ตามที่พี่บอกแล้วก็ขยับไปนอนลงท่าเดิม

    หลับยัง ”       เงียบไปสักพักก่อนที่คนพี่จะเอ่ยถามขึ้นเมื่อไม่ได้ยินอะไรเลยจากอีกคน

     อืมม… ”         เสียงตอบเบาๆจากปลายสายทำให้คนพี่ที่ยังตื่นเต็มตารู้ว่าน้องคงใกล้หลับแล้วเลยนอนเงียบๆในมือก็ยังคงเอาโทรศัพท์แนบไว้ข้างหูเหมือนเดิม

     


     

     “ ที่ไปด้วยกันวันนี้ ขอบคุณมากเลยนะ พี่โคตรมีความสุขเลย

                     คิมพูดขึ้นเบาๆก่อนจะเงียบลงไป เมื่อรู้ว่าอีกคนคงหลับไปแน่แล้วก็รอสักพักก่อนจะกดวางสาย

    ฝันดีนะครับ ”         
                 คำพูดสุดท้ายที่พูดส่งไปยังปลายสายก่อนจะกดวางสายแล้ววางโทรศัพท์ลงข้างตัว ก่อนจะเอื้อมมือไปที่โต๊ะข้างหัวเตียงแล้วปิดไฟ ข่มตาลงให้ทั้งโลกเหลือแต่เพียงความมืดก่อนจะพาตัวเองเข้าไปยังอีกฝั่งของโลกหนึ่ง โลกที่มีแต่เพียงเขกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้พร้อมกับหัวใจอันอบอุ่นและรอยยิ้มที่ไม่มีวันจางไปจากความทรงจำ

     

     








    ____________________________________________
    อัพแล้วนะ อย่าพึ่งอดข้าวประท้วงเรา 5555  

    เจอคำผิดแนะนำให้ตบค่ะ    คิดเห็นยังไงว่ากันได้นะ
    ชอบเม้นนึง 
    มิกของโอมแต่มินของพี่คิม  < < เห็นด้วยแรง

    ทวิตเตอร์เราไปเปิดแอคมาแล้ว หลังจากที่เสนอไปแล้วมีคนถามถึงหนึ่งคน 55555 ปลื้มจิตสุด
    แอคนี้เบย คุยกันๆ @lightdot_ เพื่อการนี้โดยตรง

    ฝากฟิคด้วยนะคะ ขอบคุณทุกเม้น ทุกวิวเลย จุ้บๆ 



     

    mx -xine
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×