คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : #ฟิคหน้าใส บทที่ 10 เด็กติดเกม
“ ร้านนี้อะนะ มึงแน่นะว่าจะเลี้ยงกู ” พอมาถึงหน้าร้านคิมก็พอรู้ว่าคือร้านอะไร ปิ้งย่างสไตล์เกาหลีนั้นเอง แต่ร้านนี้ไม่เคยเห็นแถวนี้มาก่อนน่าจะพึ่งมาเปิด แต่ดูถ้าข้างในจะดูดีใช่ย่อยแล้วคนอย่างไอ้ฟีฟ่ารู้จักร้านเป็นผู้เป็นคนแบบนี้ได้ยังไง
“ เข้ามาเหอะน่า มากับฟ่าไม่อดตาย ” เด็กหนุ่มกล่าวพร้อมกับเดินตรงไปผลักประตูหน้าร้านเข้าไปแล้วเดินนำพี่ชายเข้าไปด้านในร้าน ก่อนจะมีพนักงานสาวมาพาไปนั่งที่โต๊ะด้านในที่น่าจะอยู่ลึกที่สุดแล้ว เพราะทั้งร้านตอนนี้คนนั่งกันเต็มหมด
รอไม่นานเมนูที่สั่งไปก็มาถึงหมูถูกหั่นสไลด์บางๆวางเป็นวงกลมรอบจานใบใหญ่ ชุดแซลมอนที่สั่งพิเศษให้พี่ชายก็ดูน่าทานจนคนที่รออยู่อดใจไม่ไหว พอพนักงานรินน้ำลงแก้วแล้วเดินจากไปคิมก็ไม่รีรออะไรอีกเลย
ร้านถูกตกแต่งสไตล์ร้านอาหารญี่ปุ่นคือมีหน้าต่างคล้ายกับบานเลื่อนโคมไฟสีส้มและมีมุมของน้ำตกไหลจนได้ยินเสียงเบาๆไปทั่วร้านมีกอไผ่เรียงกันที่ระเบียงทำให้บรรยากาศดูสบายๆและน่านั่งมาก จะผิดก็แต่คนที่นั่งตรงข้ามเท่านั้นที่กำลังยืดตัวขึ้นแล้วชะโงกหน้าไปมาเหมือนกับกำลังมองหาอะไร
“ มึงมองอะไรวะ ” คนสังเกตเห็นน้องทำตัวแปลกๆก็เอ่ยถามหลังจากคีบหมูชิ้นใหญ่แผ่ลงไปบนกระทะจนดังฟู่
“ ป่าวๆ พี่กินไปเถอะ ” ปากตอบว่าไม่มีอะไรแต่สายตามันฟ้องสุดๆเพราะนอกจากจะหันมามองหน้าแล้วแต่ก็ยังยืดตัวสูงกว่าเดิม เก้าอี้ที่นั่งอยู่นั่นมีพนักพิงที่สูงเลยหัวไปซักหน่อย แสดงว่าไอ้เด็กนี้มันต้องมองหาอะไรอยู่แน่ๆ
“ แล้วทำไมรู้จักร้านนี้วะ ไกลบ้านขนาดนี้ ” พี่ชายที่อดสงสัยไม่ได้ก็เอ่ยถามต่อทันที ร้านนี้ต้องขับรถออกมาจากคอนโดที่อยู่ตั้งเกือบชั่วโมงแถมยังอยู่ในซอยเล็กๆถ้าไม่ใช่คนแถวนี้เขาคงไม่รู้แน่ๆว่ามีร้านอาหารอยู่ตรงนี้ด้วย
“ เชี่ย ! ” แต่ดูเหมือนไอ้คนนั่งตรงข้ามจะไม่สนใจฟังคำถามเขาเอาซะเลย ฟีฟ่าอุทานออกมาก่อนจะหดตัวนั่งลงแล้วหยิบตะเกียบที่ยังไม่แกะออกมาแกะแล้วคีบหมูพลิกไปมา
คนเป็นพี่นั่งมองอีกคนโดยงุนงงก่อนจะชะโงกหน้าออกไปดูด้านหลังที่นั่งก็ไม่เห็นมีอะไรแปลก ไม่มีผู้หญิงหรือเกมเตะบอลในจอทีวี
“ เป็นยังไง อร่อยรึเปล่า ” ก่อนจะได้ยินของผู้ชายดังขึ้นที่โต๊ะถัดไปสองโต๊ะด้านหลังผู้ชายตัวสูงหน้าตาดีตัวขาวๆผมยาวระมาที่คอบนตัวสวมผ้ากันเปื้อนกำลังยืนอย่างสุภาพอยู่ข้างโต๊ะที่มีกลุ่มเด็กสาวนั่งกันสามสี่คน
“ อร่อยมากค่ะ โดยเฉพาะ..เจ้าของร้าน ” ก่อนจะตามมาด้วยเสียงตอบของเด็กผู้หญิงในโต๊ะนั้นพอพวกเธอตอบเสร็จก็กรี๊ดกันเบาๆพร้อมหัวเราะคิกคัก คิมได้ยินก็หันหน้ากลับโต๊ะแทบไม่ทันนี่น้องจะชมกันต่อหน้าอย่างนี้เลยหรอเห้ยเป็นผู้ชายหล่อนี่เริ่มลำบาก
พอหันกลับมาที่โต๊ะก็เจอคนทำตัวน่ากลังกว่าน้องโต๊ะเมื่อกี้ คือไอ้เด็กฟีฟ่ากำลังคีบตะเกียบไปมาบนกระทะแต่ไม่คีบไม่โดนอะไรสักอย่างเพราะสายตามันมองไปทางด้านหลังของพี่ชายอยู่เหมือนเดิม
“ มึงมองไรเนี่ย ” คิมยกตะเกียบไปใกล้หน้าอีกคนก่อนจะโบกไปมาให้น้องหันมามองตัวเอง
“ มองอะไร ไม่ได้มองนี่กำลังพลิกเนื้ออยู่ ” ก่อนจะก้มลงมองแล้วไม่เห็นจะมีเนื้อสักชิ้นอยู่บนกระทะ ฟีฟ่าก็รีบยิ้มแก้เก้อแล้วหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบแทน
“ อาหารถูกปากรึเปล่าครับ ” เสียงผู้ชายที่คิมเคยได้ยินดังขึ้นที่โต๊ะด้านหลังแสดงถึงคนที่ใกล้เข้ามา แต่พอเสียงนั้นดังขึ้นฟีฟ่าก็รีบวางแก้วน้ำลงก่อนจะก้มลงไปควานหาอะไรบางอย่างในกระเป๋าที่มันสะพายมา
คิมไม่ได้พูดอะไรแต่ก็หยุดกินวางตะเกียบลงแล้วนั่งกอดอกมองเหตุการณ์ เขากำลังคิดว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างที่จะเกิดขึ้นเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยรู้ และฟ่าไม่เคยบอก
“ อาหารอร่อยรึเปล่าครับ ...เหี้ย! ” ไม่นานก็ปรากฏผู้ชายตัวสูงเดินข้ามายืนที่ข้างโต๊ะก่อนจะถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรก่อนจะหันมาถามคิมและหันไปเจอคนที่นั่งตรงข้ามแล้วอุทานเสียงดังออกมา
“ โหยยย ทักกันงี้เสียใจนะพี่ ” ไอ้เด็กที่ทำตัวแปลกมานานเอ่ยปากก่อนจะเอียงคอมองอีกคนที่ยืนอยู่
“ ยังกล้ามาอีกหรอวะ ” คนที่ยืนอยู่เปลี่ยนท่าเป็นยืนสบายๆก่อนจะมองหน้าไอ้เด็กฟีฟ่าอย่างหาเรื่อง
“ ทำไมจะกล้า ไม่ได้อะไรผิดสักหน่อย ” ฟีฟ่าตอบกลับไปก่อนจะยิ้มกว้างทำหน้าร่าเริงแบบไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับคำถามนั้น
“ ทานให้อร่อยนะครับ ” คนโดนกวนจิ๊ปากใส่ด้วยความหงุดหงิกก่อนจะหันมาบอกคิมที่นั่งกอดอกอยู่แล้วรีบหันหลังเดินออกจากข้างโต๊ะไป ทิ้งไว้แต่เพียงไอ้เด็กที่นั่งยิ้มอยู่พร้อมกับตั๋วอะไรสักอย่างในมือที่พึ่งหาออกมาจากกระเป๋า
“ ไรพี่คิม ” นั่งอยู่สักพักก็เหมือนจะเห็นท่าทางของพี่ชายที่นั่งตรงข้ามที่กำลังจ้องตัวเองเขม็งพร้อมกับกอดอกแน่น
“ มึงไม่ได้อยากมากินใช่มั้ย ” คนเป็นพี่เอ่ยถามเสียงดังชัดเจนก่อนจะขยับเข้าไปใกล้แล้วหรี่ตาลงรอฟังคำตอบจากน้องข้างห้องผู้น่ารัก
“ อะไร..ก็พาพี่มากินไง กินๆ ” คนโดนมองทำตัวไม่ถูกก่อนจะหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบชิ้นเนื้อแล้ววางลงบนกระทะไปเรื่อยทำเป็นไม่สนใจสายตาคู่หนึ่งที่จ้องตัวเองอยู่
ร่างคนตัวเล็กกำลังนอนแผ่กายอยู่บนเตียงพร้อมกับเสียงเพลงที่เจ้าตัวเปิดฟังดังไปทั่วห้องเวลาดึกแบบนี้คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการนอนเฉยๆบนเตียงอีกแล้ว การออกไปเที่ยวกับโอ๊ตวันนี้ทำให้เขาคิดถึงเรื่องของคนบางคนน้อยลงซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีถ้าเทียบกับคืนก่อนที่กว่าเขาจะนอนหลับอย่างสนิทได้ก็แสนยาวนาน
นอนดีกว่า คนตัวเล็กคิดได้ดังนั้นก็ลุกจากเตียงแล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำเพื่อจะได้ล้างหน้าและแปรงฟังก่อนเข้านอนถึงตอนนี้จะยังไม่ดึกมากเท่าไหร่แต่วันนี้มินสรุปได้ว่าเขาต้องเข้านอนได้แล้วเพราะอาหารง่วงๆมึนๆกำลังคืบคลานเข้ามา
“ มิน มินครับ ” ระหว่างบีบยาสีฟันลงบนแปรงมินก็ได้ยินเสียงของแม่มาเคาะเรียกที่ประตูห้องนอน
“ ครับ ” ตะโกนตอบกลับไปก่อนจะรีบแปรงฟัน
“ โอ๊ตมาหาลูก อยู่ข้างล่างนะ ” เมื่อได้ยินที่แม่บอกมินก็แปลกใจขึ้นมาก็ตอนเย็นมันพึ่งมาส่งแล้วแวะเข้ามาอีกทำไมหรือเพื่อนของตัวเองอาจจะลืมอะไรไว้รึเปล่า มินรีบจัดการกับตัวเองก่อนจะล้างปากแล้วล้างหน้า แล้วถือผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดหน้าไปด้วยพลางเดินลงบันไดไปหาเพื่อนที่ชั้นล่าง
พอลงมาถึงชั้นล่างมินก็ไม่เห็นใครอยู่ที่โซฟาและห้องครัวก็ปิดไฟสนิทไปหมดแล้ว หรือแม่แค่แกล้งเขาเล่นมินคิด ก่อนจะหันซ้ายขวาแล้วเห็นเงาของใครบางคนนั่งอยู่ขอบสระน้ำนอกบ้านออกไปนิดเดียว
“ โอ๊ต ” เดินเข้าไปใกล้ประตูเลื่อนข้างบ้านก่อนจะตะโกนเรียกชื่อเพื่อนเบาๆ แล้วคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ริมน้ำก็หันมายกมือให้เป็นการแสดงตัว
“ ลืมไรหรอ มาซะดึกเลย ” มินเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะนั่งลงข้างๆเพื่อนตัวเล็กที่ตอนนี้กำลังทอดสายตาไปที่สระน้ำที่อยู่ด้านหน้า
“ ป่าว แค่นอนไม่หลับ ” โอ๊ตตอบเสียงนิ่งก่อนจะหย่อนเท้าลงไปในสระน้ำสีฟ้าที่สะท้อนแสงไฟรอบสระเป็นสีฟ้าระยิบระยับ
“ นอนไม่หลับ แล้วก็ถ่อมานี้เนี้ยนะ ” มินแปลกใจเบาๆ ถึงบ้านของเขากับโอ๊ตจะห่างกันไม่มากนักแต่ก็ต้องข้ามแยกหลายแยกกว่าจะกลับมาทางนี้ ถ้าเป็นเขาต่อให้นอนไม่หลับก็คงไม่ขับรถมาไกลขนาดนี้
“ อื้ม ” โอ๊ตขานรับลำคอเบาๆก่อนจะสายตาเลื่อนลอยอยู่แบบเดิม แล้วก็ไม่พูดอะไรออกมาอีก มินก็นั่งเงียบไม่ได้ปริปากพูดอะไรแถมยังนั่งเช็ดหน้าเช็ดผมที่เปียกน้ำไปเรื่อยๆ
“ เหนื่อยอะ ” คนตัวเล็กที่นั่งเงียบมานานพูดขึ้นก่อนจะถอนหายใจเบาๆ
“ เป็นไรอะ ” หันไปถามก่อนจะมองหน้าเพื่อนตรงๆ
“ ไม่รู้ดิ มันสับสนไปหมดเลย ไม่รู้จะจัดการยังไง ” โอ๊ตหันมามองหน้าเพียงแค่แป็ปเดียวก่อนจะหันกับไปมองที่สายน้ำในสระแทน
“ เรื่องอะไรวะ ” มินไม่รู้จริงๆว่าเพื่อนตัวเล็กของเขาเป็นอะไรทั้งวันก็ออกจะดูปกติหรือโอ๊ตไปทะเลาะอะไรกับใครมา
โอ๊ตหันมามองหน้าคนถามมองอยู่อย่างนั้นก็จะเอ่ยตอบเบาๆ “ เปล่า ”
“ เอ้า แล้วจะคิดมากทำไมถ้าไม่มีอะไร ” มินผลักแขนเพื่อนตัวเอง ดูก็รู้ว่ามันกำลังโกหกอยู่
“ ชอบกับรักต่างกันยังไง ” คนโดนผลักเซไปตามแรงก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมาโดยไม่ได้หันมามองหน้าคนที่ผลักตัวเอง
“ ชอบก็ชอบ รักก็รักไง คิดไรเนี้ย ”
“ เออ คิดง่ายแบบนั้นก็ดีดิ ” คนได้คำตอบหันมามองหน้าเพื่อนตัวเองก่อนจะยกมือขึ้นไปเขกคนที่ตอบง่ายๆแบบนั้นออกมา
“ อูยย ก็จริงหนิหว่า ” คนโดนทำร้ายร่างกายร้องขึ้นเบาๆก่อนจะลูบหน้าผากตัวเองไปมา
“ ถ้ามึงรักใครมากๆ จะบอกให้เขารู้มั้ย ” โอ๊ตยังจ้องหน้านิ่งไม่ได้หันไปมองน้ำหรือทางไหนเลย
“ ไม่รู้ดิ อาจจะบอก..มั้ง ” มินนั่งกลอกตาคิดอยู่สักพักก่อนจะตอบไป เขาไม่ได้แอบรักใครมาตั้งนานแล้วความรู้สึกแบบนั้นคิดมันแทบไม่ออก
“ กลับบ้านดีๆนะคร้าบบบ ” เสียงไอ้เด็กข้างห้องดังขึ้นก่อนจะผลักเขาเข้าไปในรถฝั่งคนขับ
“ ไม่กลับกับกูจริงอะ ” คนโดนยัดเข้ารถหันกลับมาถามน้องที่มาด้วยกันก่อนจะโดนปิดประตูใส่
“ เดี๋ยวฟ่ากลับเอง พี่คิมกลับดีๆ บ้ายบาย ” เสียงแววจากนอกรถพร้อมกับเจ้าของเสียงยกมือขึ้นมาโบกเบาๆ เสร็จแล้วก็หันหลังเดินกลับเข้าไปในร้านที่พวกเขาพึ่งออกมาอย่างรวดเร็ว
คนในรถยกมือขึ้นเกาหัวเบาๆก่อนจะสตาร์ทรถและออกจากลานจอดไป ระหว่างเลี้ยวออกจากซอยก็หลุดยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงเรื่องที่น้องตัวแสบพึ่งเล่าให้เขาฟังในร้านเมื่อตะกี้
‘ เออๆ ยอมเล่าก็ได้ ’ หลังจากที่คิมนั่งมองหน้าอยู่นานไอ้คนโดนมองก็ยอมเออออก่อนจะเล่าเรื่องให้ฟัง
‘ ฟ่ากำลังจีบพี่เขาอยู่ ’ และตอนได้ยินประโยคนี้คิมก็แทบจะพ่นน้ำที่พึ่งดื่มเข้าไปออกมา
‘ เจอกันตอนไปห้าง พี่เขาทำกระเป๋าตังตกไว้ ’ คิมนั่งนิ่งฟังน้องเล่าโดยไม่พูดอะไรสักคำ
‘ พี่เจอพี่คิมอยู่ร้านเค้กวันนั้นไง ฟ่าเอากระเป๋าตังไปคืนพี่เกมเนี่ยแหละ ’ และพอได้ฟังประโยคนี้ก็ทำให้คิมแทบร้องอ่อออกมาเพราะเขาได้คำตอบหลังจากคิดว่าหน้าของผู้ชายคนเมื่อกี้คุ้นมากและได้คำตอบว่าทำไมฟีฟ่าถึงเข้าร้านเค้กเป็น
หลังจากนั้นไอ้เด็กขี้โม้ก็โม้กระจายว่าเกมต้องแอบชอบมันอยู่แน่ๆบอกว่าตอนแรกที่เจอกันหลังจากเอากระเป๋าตังไปคืนก็ชวนเขามาที่ร้านเนื้อย่างนี้ก่อนจะขอบคุณต่างๆนานา ฟีฟ่าเล่าไปพร้อมกับสีหน้าเบิกบานใจ แต่ในใจคิมก็พอจะเดาออกว่าไอ้เรื่องที่มันเล่าต้องมีความจริงอยู่น้อยมากๆแน่ๆเพราะดูจากที่เกมเห็นหน้าไอ้ฟ่าแล้วเขาไม่ได้แฮปปี้ดีด้าอะไรแต่กลับด่ามันซะงั้น คิดได้แค่นั้นคิมก็อยากจะขำน้องตัวเอง ไอ้เด็กขี้มโน
ครืด~
เสียงโทรศัพท์สั่นดังขึ้นที่วางของแถวๆเกียร์พอเหยียบเบรกที่สี่แยกที่มีไฟแดงส่องมาทางเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแจ้งเตือน ก่อนจะเห็นแล้วแทบกรี้ดลั่นรถ
Minthtp : นอนยังพี่
แจ้งเตือนไลน์เด่นชัดที่สุดเท่าที่จะเด่นได้เจ้าของโทรศัพท์รีบเลื่อนแจ้งเตือนไปตอบทันที
KiimMon : ยัง ยังไม่ถึงบ้านเลย
คิมพิมพ์ตอบกลับไปสักพักแล้วเงยหน้าไปดูเลขนับถอยหลังของไฟแดงที่ตอนนี้ก็ถือว่ายังไม่ใกล้เวลาที่มันจะกลายร่างเป็นสีเขียวเลย
Minthtp : ไปไหนดึกๆ
และส่งไปไม่นานก็มีคำตอบเด้งกลับมาทันที
KiimMon : ไปกินข้าวมา ขับรถแป็ป
ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเท่าไหร่คนที่ยิ้มแก้มแทบแตกก็ต้องวางโทรศัพท์ลงแล้วไปจับพวงมาลัยแทน ปกติคิมจะทักไปก่อนตลอด นานๆไอ้เด็กหน้าขาวจะยอมทักมาและวันนี้เขาคงหลับฝันดีแบบไม่ต้องเดาเลย
คนขับรถรีบเหยียบเกียร์หมาเข้าลานจอดรถโดยเร็วก่อนจะดับรถแล้วหันไปคว้าโทรศัพท์มาทันที
KiimMon : นอนยัง
Minthtp : ยังดิ
KiimMon : ตกลงเรื่องดูหนังว่าไง คิดหลายวันแล้วนะ
ลงจากรถพร้อมโทรศัพท์ที่อยู่ในมือก่อนจะรีบก้าวเข้าไปยังตัวอาคารเดินผ่านหน้าลานกว้างไปที่ลิฟต์เพื่อขึ้นห้องตัวเองทันที
Minthtp : ไม่รู้ ไม่ตอบ
KiimMon : เชอะ
Minthtp : คิดดูก่อน นอนแล้ว
KiimMon : ไปเลยยย
ถึงจะตอบไปแบบนั้นแต่ขาที่กำลังก้าวเข้าห้องแทบสะดุดเพราะนี่ยังไม่ถึงไหนจะรีบหนีเขาไปนอนซะแล้ว อุส่าคิดว่าจะได้คุยกันจนเขาหลับไปซะอีก สงสัยจะเข้าข้างตัวเองมากไป
Minthtp : ฝันดีพี่
KiimMon : เออ ฝันดี
ประโยคสุดท้ายพิมพ์ตอบไปก่อนจะวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะที่หัวเตียง ใบหน้าแต้มไปด้วยรอยยิ้ม คิมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมแค่คำสั้นๆ ของคนคนนึงทำไมต้องใจเต้นแรงขนาดนี้ด้วย เขาอาจจะมีความสุขมากไป อ่า คืนนี้คงฝันดีแน่นอน
___________________________________________________
-ฟ่าเกมนิดนึงเบาๆ 55555
ขอโทษนะถ้าอัพช้า ใครเจอคำผิดสะกิดรงๆนะ เราเบลอๆ
เป็นยังไงเล่าสู่กันฟังนะคะ
เลิฟซิกเสาร์ทิตย์ที่ผ่านมาทำแทบดิ้น
เมนเค้าเล่นดีมากกกกกกก (เมนเรานี่ใคร ใบ้นิดๆ พระเอก)
โอมมิกก็ฟินจิ้น แต่เราจะไม่มีทางลืม #คิมมิน จริงๆ สัญญา เอาเป็นว่าเม้ามอยกันได้นะ
ขอบคุณทุกคอมเมนต์ทุกกำลังใจทุกคนที่อ่านเลยน้าาา
mx -xine
ความคิดเห็น