คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : #ฟิคหน้าใส บทนำ
บทนำ
00.00 น.
มอง มองเธอมาแสนนานฉันไม่กล้า ต้องค่อยหลบตาเธอเสมอ กลัวสักวันหนึ่งถ้าเธอ
รู้ว่าฉันปิดบังความจริงอะไรเอาไว้ ความลับที่ฉันซ่อนไว้ไม่เคยบอกใคร จะอดใจไม่ไหว
เสียงเพลงเริ่มบรรเลงตามมาด้วยเสียงร้องที่ทุ้มนุ่มนวลของคนบนเวทีที่ดังสอดประสานกันดนตรีที่ถูกสร้างสรรผ่านกีต้าโปร่งดังกังวาลไปทั่วทั้งบริเวณที่ตอนนี้มีผู้คนมากมายออกมาท่องราตรีกัน
แสงสปอร์ตไลท์ส่องจ้าที่กลางเวที ปรากฎภาพชายหนุ่มตัวสูงโปร่งสวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำบนศีรษะมีหมวกสวมทับทรงผมสกิลเฮดที่เจ้าตัวพึ่งไปตัดมาใหม่ ใบหน้าเล็กถูกแต้มไปด้วยรอยยิ้มแสนสดใสที่ทำให้ริ้มฝีปากเผยให้เห็นเหล็กดัดฟันที่ส่องประกายออกมานั่งอยู่บนเก้าอี้หย่อนขาที่ดูเล็กกว่าผู้ชายทั่วๆไป ดีดกีต้าด้วยท่าทางสบายๆ ดูสดใสและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่บนเวทีตอนนี้ชวนให้ผู้คนในบริเวณชั้นดาดฟ้าเพลิดเพลินไปกับบทเพลงที่เขากำลังขับร้อง ยามนี้ทุกสายตาต่างจับจองมาที่เขา
ยิ่งฉันใกล้เธอเท่าไหร่ ยิ่งอยากจะเผยใจ เมื่อสบสายตาก็ยิ่งหวั่นไหว
มันยากเหลือเก็บจะเก็บ ซ่อนความรักเอาไว้ แล้วความลับในใจของเธอ มีฉันอยู่บ้างไหม
โปรดบอกความในใจ ให้ฉันรู้ทีนะเธอ
ท่อนฮุกรอบสุดท้ายจบลง ตามด้วยเสียงปรบมือจากบรรดาแขกในร้าน
เหตุการณ์แบบนี้เกิดอยู่เป็นประจำทุกๆวันภายในร้านอาหารหรูกึ่งบาร์ริมแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืนแบบนี้บรรยายถึงความงามของแม่น้ำในยามค่ำคืนถอดยาวไปจนสุดสายตา ด้านบนดาดฟ้าถูกจัดให้มีเวทีเล็กๆ ตรงขอบของดาดฟ้า เป็นเวทีประจำที่ผู้ชายคนนี้จะมาแสดงความสามารถของเขาอยู่ทุกๆค่ำคืน
“ สำหรับวันนี้คงจะจบไปเพียงเท่านี้ หวังว่าวันพรุ่งนี้เราจะเจอกันใหม่นะครับ ” หลังจากที่เพลงสุดท้ายจบลงคนที่นั่งร้องเพลงมานานลุกขึ้นโค้งตัวให้กับแขก ส่งยิ้มที่จริงใจจนตาแทบจะปิดสนิทให้ทุกคนก่อนจะก้าวลงจากเวทีพร้อมกับกีต้าคู่ใจ
“ ช่วงนี้เล่นยาวจังเลยนะค้าบบบบ ” ยังไม่ทันก้าวพ้นบันไดขั้นสุดท้าย เสียงคำถามลากยาวของเพื่อนตัวสูงลอยลมมาพร้อมกับมือหนาที่วางลงบ่นไหล ยังไม่ทันจะได้เอ่ยปากตอบโต้อะไร ก็ถูกเพื่อนรักลากตัวไปนั่งที่โต๊ะหน้าสุดข้างเวทีซะก่อน
“ มึงทำไมต้องเล่นนานด้วยวะ ค่าตัวกูก็จ่ายมึงแค่4ชั่วโมงเองนะเว้ย ” หลังจากที่ทั้งคู่นั่งลงเพื่อนตัวสูงก็บ่นเป็นไฟพร้อมกับทำหน้าหงุดหงิดให้กับเขา ไม่นานพนักงานก็เดินมาเสิร์ฟเครื่องดื่มพร้อมบริการรินลงแก้วให้ทันที
“ แล้วไงวะ กูไม่ได้คิดค่าตัวเพิ่มสักหน่อยหนิ ” ตอบไปเพื่อนไปส่งๆ พร้อมกับหยิบแก้วข้างมือขึ้นมากระดกจนหมด
“ เออๆ รู้แล้ว กูแค่กลัวมึงเสียงแหบไปก่อนนี่ ” พอเห็นเพื่อนไม่ยอมฟังที่บ่นก็หน้ายู้ก่อนจะยกแก้วของตัวเองขึ้นมาดื่มบ้าง
“ พรุ่งนี้ กูจะไปดูร้านเค้กมึงจะไปด้วยปะ ” คนมาดนิ่งเลิกคิ้วขึ้นถามเพื่อนของตนหลังจากที่คิดได้ว่าพรุ่งนี้เขาต้องไปทำธุระแถวๆบ้านเพื่อนคนนี้
“ ไปทำไม จะให้กูไปทำอะไร ”
“ ก็ไปเป็นเพื่อนกูเฉยๆไง กูจะไปดูว่าร้านถึงไหนแล้ว ” จ้องหน้ารอคำตอบจากปากเพื่อนสนิท
“ ไปก็ได้ ไปรับกูด้วย ขี้เกียจขับรถออกมา ” คนตัวสูงยิ้มร่า สายตาบ่งบอกว่าเป็นไปตามที่เขาคาด เพื่อนรักคนนี้ไม่มีทางปฎิเสธเขาแน่นอน
“ ขอโทษนะคะ ..” ระหว่างที่สองคนกำลังนั่งคุยกันไปเรื่อย จู่ๆก็มีหญิงสาวตัวเล็กผมยาวๆ เดินมาที่โต๊ะของพวกเขาก่อนจะเอ่ยคำพูดต่อเมื่อเห็นว่าทั้งสองเงยหน้าไปมองเธอ
“ ขอถ่ายรูปกับ พี่คิม ได้มั้ยคะ ” พอพูดจบประโยคหญิงสาวก็หน้าขึ้นสีก่อน จะยื่นโทรศัพท์ในมือของเธอมาให้
คนถูกขอยิ้มรับพร้อมกับยื่นมือไปรับโทรศัพท์ก่อนจะยืนขึ้นแล้วจัดหมวกของเขาให้เขาที่เขาทาง เมื่อคิดว่าดูดีแล้วก็เดินไปโอบไหล่หญิงสาวที่ตัวเล็กกว่าก่อนจะยิ้มให้กล้องที่เขาเป็นคนถือ
ผู้ชายตัวสูงมาดนิ่งผมสีน้ำตาลเข้มที่ถูกจัดทรงมาอย่างดีรับกับคิ้วหนาเจ้าของดวงตาดำสนิทกำลังนั่งกอดอกมองเพื่อนตัวเองอยู่ ก่อนจะหลุดขำออกมาเมื่อเห็นว่าเพื่อนคนแมนของเขายกนิ้วชี้ขึ้นมาจิ้มที่แก้มของตัวเองแล้วทำปากอมลมตามที่ผู้หญิงคนนั้นขอ
เมื่อถ่ายรูปไปเป็นสิบๆรูปแล้วหญิงสาวก็ขอตัวและไม่ลืมขอบคุณผู้ชายที่ทำทุกอย่างตามที่เธอขอให้ถ่ายรูปด้วย แล้วเดินหายเข้าไปในกลุ่มคนที่อยู่อีกฟากของดาดฟ้า
“ หยุดขำเลยนะ ไอ้ไวท์ ” คนโดนขำรู้ตัว ก่อนจะหันมาชี้หน้าเพื่อนของตัวเองอย่างยิ้มๆ เขาก็ไม่ได้อายอะไรหรอกแค่ไม่อยากให้เพื่อนมันขำขนาดนั้น แค่ทำตามที่น้องเขาขอเอง เขาไม่ได้ทำตัวชวนให้ขำขนาดนั้นซะหน่อย
__________________________________________________________
10.00 น.
ตืด ตืด ตืดดด ตืด ตืดดดดด
เสียงโทรศัพท์สั่นเป็นจังหวะที่โต๊ะข้างหัวเตียงทำให้คนที่นอนอยู่ต้องงัวเงียตื่น ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์มากดรับ
“ ฮัลโหล ” เอ่ยขึ้นอย่างยากลำบาก ยกมือข้างที่ว่างขึ้นมาขยี้ตาเพื่อเป็นการปลุกตัวเองจากอาการงัวเงีย
“ มินนนนนนน อยู่ไหนเนี่ยยยยย ” เสียงแจ้วของปลายสายทำให้คนที่พึ่งตื่นต้องยื่นโทรศัพท์ออกห่างจากหูก่อนจะรีบตอบกลับไป
“ อยู่บ้าน ทำไม ” ตอบกลับไปก่อนจะยันตัวลุกขึ้นจากเตียงเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าปัดมือเลื่อนดูตามราวกวาดสายตามองเสื้อผ้าที่เขามีอยู่เต็มตู้ ก่อนจะได้ชุดที่จะใส่วันนี้
“ กูเจอมึงอยู่ร้านจังนะครับแหม ตอนนี้กี่โมงแล้วครับเพื่อนครับ ” ปลายสายทำน้ำเสียงประชดประชัน
“ เออ เดี๋ยวอาบน้ำออกไปเดี๋ยวนี้แหละ ” ไม่ปล่อยโอกาสให้อีกคนโวยวายได้ เจ้าของโทรศัพท์กดตัดสายก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ
“ แม่ครับ แม่ไปส่งมินที่ร้านกัปตันหน่อยสิ ” อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เดินลงบันไดตรงไปหาแม่ของตัวเองที่ตอนนี้กำลังนั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องรับแขก
“ จะไปตอนไหนครับผม ” คนเป็นแม่เห็นลูกชายสุดน่ารักของเธอเดินมาใกล้ก็ดึงแขนให้ลูกชายนั่งลงข้างๆ ก่อนจะปัดผมที่ตกลงมาปกใบหน้าชองลูกชายที่รักออกเบาๆ
“ ตอนนี้เลยครับแม่ มันโทรมาบ่นแล้วว่ามินไปช้า ” เด็กหนุ่มหน้าใสที่มีใบหน้าเรียวหวานขนตายาวประกอบกับสันจมูกและริมฝีปากบางสีสวยทำให้เจ้าของใบหน้ายิ่งดูน่ารักราวกับเด็กผู้หญิงตอบกลับแม่ก่อนจะดึงมือแม่ให้ลุกจากโซฟาและเดินนำไปที่โรงจอดรถ
“ เพื่อนรักกก มึงจะรีบไปไหน ช้ากว่านี้ก็ได้ ใจเย็นนนน ” เสียงดังโวยวายในรถเบนซ์สีขาวที่มีป้ายทะเบียนเป็นเลขสวยความหมายดีตามที่เจ้าของรถบอกเจ้าของเสียงก็ไม่ใช่ใครผู้ชายหน้าใสจัดฟันที่วันนี้ก็สวมหมวกมาด้วยแต่เป็นหมวกไหมพรมสีเทากำลังใช้มือทั้งสองข้างกำราวจับในรถแน่นพร้อมกับตะโกนบอกเพื่อนที่ตอนนี้กำลังขับรถเกินร้อยไปไกล บนถนนเวลานี้ก็มีรถเยอะแยะแค่ออกไฟแดงทำไมมึงต้องเร่งขนาดนั้นด้วย
“ เห้ยยยยยยยยย ”
ปี๊กก ปี๊กกกกก เอี้ยดดดดดดดดดดดด
เสียงร้องขึ้นด้วยความตกใจของคนขับรถที่ไม่ยอมพูดอะไรมาตั้งนานดังขึ้น แต่คนที่นั่งกำราวจับมานานไม่ได้ถนนจึงไม่รู้ก่อนล่วงหน้าว่าตัวเองต้องถลาไปหน้าคว่ำชนกับหน้ารถ
“ เหี้ยไรของมึง ” คนที่หน้าคว่ำเงยหน้ามามองเพื่อนด้วยความสงสัยก่อนจะยกมือมาจับบริเวณหางคิ้วด้านซ้ายของตัวเองที่สัมผัสได้ว่าตอนนี้มันกำลังเต้นตุบๆเป็นจังหวะผลมาจากการกระแทกตะกี้
ไม่มีคำตอบจากปากของคนที่นั่งข้างๆ เขาหันไปมองด้านหน้ารถก็พบรถเบนซ์สีดำแวบวับที่เหมือนพึ่งจะเลี้ยวออกจากซอยมาจอดอยู่ตรงหน้าและเท่าที่ดูรถสองคันตอนนี้ห่างกันแค่ศอก ไม่ทันได้สำรวจอะไรมาก เจ้าของรถคันสวยก็ตัดสินตีไฟเลี้ยว เลี้ยวรถไปอีกเลนด้วยสีหน้านิ่งที่ขมวดดิ้วแทบพันกันดูก็พอจะรู้ว่าหงุดหงิดไม่น้อยที่รถของเขาต้องมาเสียจังหวะเพราะรถคันนี้แค่ไหน
“ แม่ครับ! ” ลูกชายที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับตาเบิกกว้างตะโกนเสียงดังลั่น เมื่อเห็นรถอีกคนกำลังวิ่งเข้ามาหารถที่ตนนั่งอยู่ด้วยความเร็วสูง ไม่มีที่ทางว่าจะคนขับจะแตะเบรกเลย
ปี๊กกกกกกกกกกกก
เสียงแตรรถคนที่กำลังวิ่งมาใกล้ดังลั่น จนลูกชายหน้าใสที่หลับตาปี๋ตัวเกร็งอยู่ต้องเกร็งเข้าไปอีก คนเป็นแม่ที่กำลังจะเลี้ยวรถออกจากซอยถึงกับเหยียบเบรกกะทันหัน เมื่อหันไปเจอกับรถอีกคันที่กำลังวิ่งมาทางด้นขวาตอนนี้ห่างกันไม่ถึงเมตรแล้ว
บรรยายกาศในรถตกอยู่ในความเงียบเพียงช่วงอึดใจ เด็กหนุ่มก็รีบลืมตาขึ้นพบว่ารถเขาไม่ได้ถูกชนอย่างที่คิด และตอนนี้รถคันนั้นก็กำลังเคลื่อนผ่านหน้ารถของตัวเองไปมองเพียงครู่เดียว ก่อนจะรีบหันมามองคุณแม่ที่ตอนนี้กำลังนั่งนิ่งหน้าซีดมือกำพวงมาลัยแน่นช็อคกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่อยู่
- แก้ตัวอักษรนิดหน่อยนะคะ ^^
mx -xine
ความคิดเห็น