ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    >.< ยุทธภพ[เกือบ]ครบสลึง >.<

    ลำดับตอนที่ #5 : สงบศึก

    • อัปเดตล่าสุด 29 เม.ย. 51



    วันรุ่งขึ้น

    ณ โถงประชุม พรรค์ชีหนีบวช

    "คารวะ ท่านหัวหน้าพรรค์"ทุกคนในโถงต่างพูดพร้อมกัน

    "ทุกท่านเชิญนั่งลง"ไป๋หลินกล่าว แล้วนั่งลงบนบัลลังก์หัวพรรค์

    "ขอบคุณ"ทุกคนกล่าว พร้อมนั่งลง

    "มีรายงานอะไรบ้าง"ไป๋หลินเอ่ยขึ้น

    "รายงานท่านหัวหน้า มีเพียงแค่ข่าวความอดอยากของประชาชนอยู่เช่นเคยค่ะ"หน่วยข่าวรายงาน

    "แล้วคนเจ็บคนตายล่ะ"ไป๋หลินถามต่อ

    "มีคนเจ็บคนล้มตายเป็นจำนวนมาก และยังมีที่ท่าว่าจะมีเพิ่มขึ้นอีก"หน่วยข่าวตอบ

    "แล้วคนไร้ที่อยู่อาศัยล่ะ"

    "มีเพิ่มขึ้นเรื่อย"ไป๋หลินถามอีก

    "แล้วนี้ เมื่อทางการจะมีการจัดการขึ้นบ้างล่ะ หัวหน้าพรรค์"หัวหน้าฝ่ายกองคลังถามขึ้น

    "เป็นคำถามที่ดี ว่าไงเจ้าไปสืบเรื่องนี้มาด้วยใช่ไหม?"ไป๋หลินถาม

    "ค่ะ เรื่องนี้ข้าก็สืบมา ทางการกำลังเร่งหาข้าวสารอยู่ แต่ก็ยังจัดการอะไรตอนนี้ไม่ได้"

    "งั้นเหรอ ฝ่ายกองคลัง"ไป๋หลินเอ่ย

    "ค่ะ"หัวหน้าฝ่ายกองคลังขาน

    "เรามีข้าวสารอยู่เท่าไร?"ไป๋หลินถาม

    "มีอยู่เต็ม2ยุ้งชาง"

    "ดี! งั้นเจ้าก็ให้คนของเจ้าทยอยเอาข้าวของเราออกไปจากครึ่งยุ้งชางก็แล้วกันนะ"

    "มันจะดีหรือท่านถ้าทุกคนรู้ว่าเราเป็นคนให้เขาก็จะตามมาพึ่งเราและทางการก็จะปัดปัญหามาให้เรา"

    "ตั้งแต่ตั้งพรรค์มาเรามิเคยยุ่งเกี่ยวกับโลกภายนอกเลย แต่วันนี้ประชาชนอดอยาก บ้านเมืองระส่ำ

    ระสายแบบนี้ เราเองคงไม่ยุ่งไม่ได้แล้วล่ะ เจ้าช่วยจัดการแล้วกัน"ไป๋หลินพูดพลางลุกเดิน

    "ค่ะ รับทราบค่ะ"

    "แล้วเรื่องของพรรค์ทั้ง2แหละไปถึงไหนแล้ว"

    "ข้าให้คนสืบมาแล้ว พวกเขาตกใจกับจดหมายนี้มาก วันนี้พวกคงนัดประชุมปรึกษากันอยู่"

    หัวหน้าฝ่ายข่าวรายงาน

    "ดี! ให้คนของเจ้าไปสืบต่อ เลิกประชุม"ไป๋หลินกล่าวแล้วเดินออกไป

    ณ ห้องหนังสือ จวนหัวหน้าพรรค์ชีหนีบวช

    "หมิงเอ่อ"ไป๋หลินเอ่ยขณะนั่งลงบนเก้าอี้

    "ค่ะ"นางขาน

    "เจ้าว่าทั้ง2พรรค์นั้นจะทำยังไง"

    "เรื่องที่ท่านส่งจดหมายขอเป็นตัวกลางเจรจาหย่าศึกของ2พรรค์นั้นหรือค่ะ"

    "ใช่"

    "เขาคงจะประชุมกันเรื่องนี้อย่างที่มีข่าวมาอยู่มั่งค่ะ"

    "นั้นแหละที่ข้าคิดว่าในที่ประชุมของทั้ง2พรรค์ ต้องสรุปว่า สงบศึก"

    "ทำไมถึงคิดว่าเป็นเช่นนั้น"

    "แล้วเจ้าจะรู้ในวันเจรจาเอง"

    "???"

    ------------------------------------------------------------

    ณ ลานประชุม พรรค์ยาจกโฮ่

    "คารวะ ท่านเอ่ออยู่"เสียงของทุกคนในลานนั้นกล่าวขึ้น

    "ทุกท่าน เชิญนั่ง"เอ่ออยู่เอ่ย

    "ขอบคุณ"ทุกคนกล่าว

    "ที่ท่านหัวหน้าเรียกประชุมในวันนี้ ก็เพราะมีเรื่องที่สำคัญที่จะชี้เป็นชี้ตายพรรค์เราได้"ฉีหลงเกริ่น

    "แล้วมันเรื่องอะไรหรือคุณชายฉี"หัวหน้าฝ่ายท่านหนึ่งถามขึ้น

    "พวกท่านลองนำจดหมายจากหัวหน้าพรรค์ชีหนีบวชไปอ่านดู"ฉีหลงว่าแล้วยื่นจดหมายให้หัวแถว

    จากคนหนึ่งไปอีกคนหนึ่ง เสียงของการซุบซิบด้วยความประหลาดใจก็ค่อยๆมีเพิ่มขึ้น

    "นี้มันอะไรกันเนี่ย"

    "ช่าย ใช่ ใช่"

    เสียงของความสงสัยดังขึ้น

    "นั้นล่ะที่เป็นเหตุที่หัวหน้าพรรค์เรียกพวกท่านมา เราต้องการฟังความคิดเห็นของพวกท่าน"ฉีหลงว่า

    "จะให้พูดอะไรล่ะ ก็มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว"

    "ใช่ ถึงแม้ว่าเราจะย่อม แต่ฝั่งอินทรีเฮจะย่อม รึเปล่า ก็ไม่มีใครรู้"

    "หรือต่อให้ย่อม แต่เราจะได้ประโยชน์อะไรจากการเจรจาล่ะ"

    "เอาล่ะ เอาล่ะ ข้าเองก็คิดเรื่องนี่มาทั้งคืน ข้าเห็นว่าเราควรสงบศึก"แหลงเอ่ย

    "ทำไม?ท่านถึงคิดว่ามันเป็นการดีเล่า"

    "1เลยนะ เพราะเราจะได้หยุดความบาดหมางไว้"

    "แต่มันก็มีมานานแล้วนะ มันคงไม่หมดลงง่ายๆหรอก"

    "ใช่ แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องสร้างไมตรีต่อกันก็ได้ เราก็แค่ไม่ไปยุ่งกับเขาก็ได้"

    "จะไม่ให้ยุ่งได้ไงล่ะท่าน คนทั่วไปเขาก็รู้ว่าพรรค์นั้นมีข้าวมีอาหาร"

    "แล้วเราเองก็อดๆอยากๆจึงต้องไปขโมยของเขา"

    "นั้นคือข้อ2ที่ข้าคิดว่าเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้พรรค์ชีหนีบวชขอให้เราสงบศึก"

    "แล้วเราจะเชื่อใจในฝีปากของหัวหน้าพรรค์ชีหนีบวชได้อย่างไร"

    "ใช่ ถึงนางทำได้ แต่เราก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกับพรรค์อินทรีเฮอยู่ดี"

    "เรื่องนั้นล่ะคือข้อ3 ข้าได้คิดไว้แล้วว่าเราจะแลกเปลี่ยนอะไรพรรค์นั้น"

    "ท่านแน่ใจว่าจะได้ผลเหรอ?"

    "ได้แน่นอน ข้าเชื่อว่ามันจะต้องสำเร็จ แต่ข้าอยากให้พวกท่านบอกมาว่าจะเจรจาหรือไม่"

    "อืม~"

    ความเงียบผ่านเข้ามาปกคลุมไปทั่วทั้งลาน ไม่เสียง ไม่มีการพูดคุย และจู่ๆก็...

    "ข้าว่า เจรจาเถอะ"

    "ข้าก็ด้วย"

    "ข้าด้วย"

    "ข้าก็เหมือนกัน"

    "ดี! งั้นต้องลงตามนี้ พวกท่านทุกคนจงไปเตรียมตัวให้พร้อม วันมะรืนแล้วจะไปเจรจาตามที่นัด

    หมาย"เอ่ออยู่ลุกขึ้นพูด

    "ขอรับ"ทุกคนกล่าว

    "เลิกประชุม"เอ่ออยู่พูดแล้วเดินลงจากบัลลังก์ ตามด้วยฉีหลง

    "เจ้าทำได้ดี ดีกว่าที่ข้าคิดซะอีก"เอ่ออยู่เอ่ย

    "ขอบคุณท่านลุงที่ชม"แหลงกล่าวตอบ

    "เห็นทีงานคงจะวางใจฝากงานใหญ่ไว้ก็เจ้าได้แล้วซินะ"

    "ข้าว่าอย่าพึ่งเหลือท่านลุง ข้ายังอยากใช้ชีวิตไว้หนุ่มให้เต็มที่ แล้วค่อยทำงานต่อจากท่าน"

    "ข้าก็ไม่ได้บอกให้เจ้าเป็นตอนนี้ ข้าเองก็รู้ว่า ชีวิตไว้หนุ่มหนะเป็นไง ข้าก็อยากให้เจ้าใช่มันให้คุ้มที่

    สุด เผื่อข้าเป็นอะไรไปหลังจากเจ้าเข้าวัยที่จะรับงานต่อจากข้า เจ้าจะได้ไม่เสียดายเวลา"

    "ขอบคุณท่านลุง"

    "อืม จริงซิ ไปชมดอกไม้ป่าที่กำลังบานกันดีกว่า เราจะได้ไปดื่มเหล้าด้วย ไม่ได้ดื่มด้วยกันนานแล้ว"

    "ครับ ท่านลุง"

    ------------------------------------------------------

    ณ โถงประชุมใหญ่ พรรค์อินทรีเฮ

    "คารวะท่านหัวหน้าพรรค์"ทุกคนในโถงกล่าว

    "ทุกท่านเชิญนั่ง"หลี้ฉิงกล่าว

    "ขอบคุณ"ทุกคนกล่าว

    "ที่ข้าเรียกทุกท่านมาก็เพราะมีเรื่องสำคัญอยากให้ทุกท่านรวมกันตัดสินใจ"หลี้ฉิงเกริ่น

    "ตัดสินใจ? ตัดสินใจอะไรรึท่าน"

    "ก็เรื่องที่จะสงบศึกกับพรรค์ยาจกโฮ่ไงล่ะห้า~"ลีลี่พูด

    ประโยคนี้ทำให้คนในพรรค์ต่างซุบซิบกาฃันอย่างตกใจ

    "ลีลี่!"หลี้ฉิงพูดเสียงดุ

    "ขอโทษค่า~"ลีลี่ตอบ

    "ก็อย่างที่ว่า นี้เป็นจดหมายของให้เราหย่าศึกของพรรค์ชีหนีบวช"หลี้ฉิงว่าแล้วส่งจดหมายไปหัวแถว

    "นี้มันอะไรกันเนี่ย"

    "ใช่ มาขอให้เรายุติศึกทั้งที่ไม่เกี่ยวกับตนเลย"

    "ข้าไม่ย่อม ยังข้าก็จะไม่สงบศึก"

    "ถูก ในเมื่อเราบาดหมางกันมานาน นานจนไม่อาจเป็นมิตรกันได้"

    "ก็เป็นศัตรูกันไปอย่างนั้นแหละ"

    "ช่าย ใช่ ใช่"

    "เฮ้อ...งั้นก็..."หลี้ฉิงพูด แต่ประโยคนั้นต้องถูกเสียงของเด็กสาวตัดขึ้นมา

    "แต่ข้าไม่คิดอย่างนั้น"เสียงของเหม่งเอ่อดังขึ้นมาจากด้านหลัง

    "เหม่งเอ่อ!"หลี้ฉิงและลีลี่พูดพร้อมกัน

    "คุณหนู!"ทุกคนในห้องคารวะ

    "ไม่ต้องมากพิธี มาเข้าเรื่องเลยดีกว่า ทำไมท่านถึงคิดว่าการสงบศึกมิเป็นเรื่องดี"

    "ก็เรากับเขามันกินเกาเหลากันมานาน อีกอย่างเราไม่ชอบที่จะไปยุ่งกับยาจก"

    "ช่ายๆ"

    "งั้นข้าขอถามหน่อยว่า เรายังจะเป็นปรปักกับเขาอยู่รึเปล่า ถ้าเรามีความเอื้อเฟื้อต่อเขา"

    "เอ่อ"

    "เราอาจจะไม่มีศัตรูรอบทิศถ้ามีน้ำใจและคิดว่าเขาเป็นคนเหมือนกับเรา"

    "..."

    "เราอาจจะไม่ต้องมีคนมาขโมยของของเราก็ได้ถ้าแบ่งบัน"

    "แล้ว...คุณหนูว่าเราจะได้อะไรเป็นของแลกเปลี่ยนล่ะครับ"

    "1แล้วจะได้ไม่มีศัตรู แต่อาจจะไม่ต้องสนิทกันมาก"

    "แล้วไงอีก"

    "2 เราจะได้คนคุ้มกันสินค้าส่งออก-นำเข้าจากเมือง"

    "เพราะอะไร...คนของเราก็มี แล้วทำไมต้องพึ่งเขา"

    "แต่เราไม่ชำนาญการโจมตีแบบกองโจร อีกอย่างทางขนส่งสินค้านั้นมีแต่ป่าขนาบข้าง ทำให้เรา

    โดนโจมตีได้ง่าย แต่ถ้าเราได้เขาช่วย เราก็ไม่ต้องกังวลว่าสินค้าจะหาย"

    "อืม แล้วมีอีกรึไม่"

    "การแลกเปลี่ยน"

    "การแลกเปลี่ยน!? การแลกเปลี่ยนอะไรรึคุณหนู"

    "การที่สงบศึกจำเป็นต้องมีการเเลกเปลี่ยนกัน และนี้คือข้อ3"

    "..."

    "พวกท่านเห็นว่ายังไง"เหม่งเอ่อกล่าวถาม

    "เอาก็ เอา ลองไปดูข้อเสนอก่อน มันคงไม่เสียหายอะไรนิ"

    "ข้าก็คิดแบบนั้น"

    "ใช่"

    "ดีงั้น วันมะรืนพวกท่านเตรียมตัวเดินทางไปยังที่นัดหมาย"หลี้ฉิงเอ่ยขึ้น

    "ขอรับ"ทุกคนกล่าว

    "เลิกประชุม"

    "ขอรับ คารวะท่านหัวหน้าพรรค์"ทุกคนกล่าวพร้อมกันอีก

    เมื่อทุกคนออกไปจนหมดเลยเพียงแค่ครอบครัวหลี้ ที่ยืนดูพวกเขาออกไปจนหมด 

    "เหม่งเอ่อ คือ..."หลี้ฉิงเอ่ยแต่ต้องโดนเสียงหนึ่งขัดขึ้น

    "ท่านพ่อ ข้าขอตัวก่อน"เหม่งเอ่อขัดขึ้น

    "เหม่งเอ่อ ลูกพ่อ"หลี้ฉิงยกมือห้ามไม่ให้เหม่งเอ่อไป

    "..."นางหันกลับมา

    "ขอบใจเจ้ามาก"หลี้ฉิงพูดสั้นๆ
     
    "ไม่เป็นไรค่ะ ข้าไปนะค่ะท่านพ่อ"นางยิ้มให้เขาก่อนจะวิ่งอย่างมีความสุขออกไป

    "..."

    "พี่ใหญ่ พี่ใหญ่!"ลีลี่ตะโกนใส่หู

    "อะไร"หลี้ฉิงเอ่ยเบาอย่างมีความสุข
     
    "แม้แค่ลูกยิ้มให้แค่เนี่ย ก็ทำเป็นหน้าบานเชียว"ลีลี่พูดแซ้ว

    "ก็ข้าชอบรอยยิ้มของลูกสาวข้านิ"หลี้ฉิงตอบเบาอีกครั้ง

    "เอา เอาเข้าไป๊ หน้าบานเขาไปใหญ่เลย ไม่เอาแล้ว ลีลี่ไม่คุยด้วยแล้ว ไปดูร้านดีกว่า"ลีลี่พูดไป

    พลางเดินออกไป ปล่อยให้หลี้ฉิงมีความสุขของคนเป็นพ่อต่อไป

    ----------------------- คืนนั้นนั่นเอง ---------------------

    หนุ่มสาวทั้งสองที่ต้องพัดพลากกันเสมอ บัดนี้ทั้งสองกำลังจะได้พบกันอย่างเปิดเผยเสียที

    ทั้งคู่ต่างนั่งมองจันทร์ดาวบนฟ้า ค่อยแต่มองเพื่อจะสามารถรู้ว่าต่างฝ่ายต่างทำอะไร เป็นยังไงกัน

    บ้าง ทั้งคู่เคยได้แต่คิดถึงกันอย่างรอค่อย แต่อีกไม่กี่วันทั้งคู่จะได้พบกันแล้วจริงๆ 

    "ฉีหลง ข้ากำลังจะได้พบเจ้าแล้ว เจ้ารอข้านะ"

    "เหม่งเอ่อ ข้าจะได้เจอเจ้าแล้ว เจ้าอย่าไปจากข้าอีกนะ"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×