ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (RE-Write) EL DORADO - kaido #หงส์ขาว

    ลำดับตอนที่ #8 : EL DORADO - Part 8

    • อัปเดตล่าสุด 31 ก.ค. 57




































         

    Part8







     

    El  Dorado

     





     

    "จัดแจงเสียให้ดีพระองค์ชาย ต่อเติมเตียงเสียให้เรียบร้อย ขัดพระทัยรึป่าวแม่ไล่เจ้าไปนอนกับชานยอลนอกกระท่อมน่ะ"

     

    องค์ราชินีแจจุงนั่งที่แคร่ใต้ต้นไม้โดยมีแบคฮยอนนั่งข้างๆคอยใช้ให้องค์ชายใหญ่แห่งเมืองหมาป่าตอกตะปูเติมต่อเตียงกับชานยอล ร่างสูงทั้งสองถอดเสื้อออกใส่เพียงผ้านุ่งที่โจงมันขึ้นเป็นกางเกง 

    จงอินพยายามดึงสีหน้าของตนให้ปกติ และยกยิ้มบ้าง แม้ใจของเขากำลังรุมร้อนด้วยความโมโห มารดาของชายาในตน

     

    "มิบังอาจ ท่านแม่เสด็จมาก็เพื่อช่วยหม่อมฉันกับน้อง...แม้จะทรงประทับเพียงคืนเดียวแต่ก็ควรจัดที่พักอย่างสมพระเกียรติ"

     

    คยองซูผู้ซึ่งคอยหาน้ำหาท่าให้แรงงานทั้งสองคอยดื่มกิน นางเพิ่งเดินออกมาจากกระท่อม หลังจากไปทำการเช็ดถู

     

    "ท่านพี่น้ำไหมเพคะ ท่านชานยอลเล่ารับน้ำดื่มไหม"

     

    คยองซูยิ้มละไม ชานยอลที่เหล่มองแบคฮยอนเป็นเชิงง้อๆ หันกลับมายิ้มกว้างส่ายหัวให้คยองซู

    จงอินรับน้ำมากินหวงๆเหมือนกับว่าน้ำที่มาจากเมียตนนั้น ตนคือผู้เดียวที่สามารถดื่มกินได้

     

    "อย่ายิ้มให้คนอื่นชะแม่..."

     

    จงอินพูดเสียงดังพอที่ชานยอลจะได้ยิน แต่ชานยอลก็เลือกที่จะทำเป็นไม่สนใจและตอกไม้ต่อไป

    คยองซูส่ายหน้าอย่างอ่อนใจก่อนจะเดินกลับไปนั่งกับท่านแม่และแบคฮยอน

     

    "พระองค์ชาย หม่อมฉันไม่บังอาจเอื้อมชะเง้อมองหงส์ฟ้าของพระองค์หรอก คนที่หม่อมฉันต้องใจนั้นมีอยู่แล้ว องค์ชายเล็กต่างหาก"

     

    ชานยอลพูดกวนประสาท ส่วนมือก็ตอกไม้ตอกตะปูไปด้วย จงอินชะงักมือเหลือบมองสายตาที่น้องชายของตนใช้มองบุรุษหน้าตา ผิวพรรณดีข้างๆ

     

    'แบคฮยอนต้องใจชานยอลผู้นี้เป็นแน่แท้'

     

    จงอินแผ่รังสีอำมหิตออกมาด้านข้างเสียงคำรามต่ำๆนั้นเรียกความสนใจของชานยอลให้หันไปมอง

     

    "แบคฮยอนต้องใจเจ้า อย่าให้รู้ว่าเจ้าหลอกน้องข้า อย่าแตะต้องน้องข้าให้หมดหมอง"

     

    "พระองค์ชายข้าคือหลานแท้ๆขององค์ราชินีแจจุง ท่านเองก็กระทำการหยาบหยามศักดิ์ศรีน้องข้า โอ่ะโอ่ อย่าทรงขู่เช่นนั้น...ข้าเพียงแต่อยากสนิทกับท่าน เอ่อ...ข้าเคารพท่านนะ"

     

    ชานยอลพยายามแก้ตัวเสียงเบา แน่นอนว่าเขาไม่อยากมีปัญหากับองค์ชายเจ้าอารมณ์ผู้นี้

     

    "อย่าให้ข้ารู้ ข้าเตือนแล้ว..."

     

    "แบคฮยอนกำลังติดสัตว์ ท่านเองก็รู้ว่ามันทรมาณ ข้าควรช่วย...องค์ชายน้อยก็เสน่หาข้า จะผิดแปลกอะไร"

     

    จงอินตั้งเค้าเตียงโดยมีชานยอลช่วยตอกตะปู สายตาแข็งๆนั้นจับจ้องชายตรงหน้าที่ยังคงระรื่นไม่หยุด แบคฮยอนเป็นผู้สังเกตเห็น ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าชานยอลคงกำลังพูดถึงตน องค์ชายน้อยถึงกับนั่งไม่ติด เขากลัวพี่ชายกลายร่างเป็นหมาป่ามาขย้ำคนปากดีนั่นเสียจริง

     

    "น้องข้าไม่เคยมีความรัก ถ้าคิดจะเพียงเชยชมข้าบอกเลยว่านารีผลเหล่านั้นท่านก็สามารถชื่นชมได้"

     

    "ความรักอยู่ที่ความพึงใจ ข้าน่ะเคยเห็นท่านทั้งสองตั้งแต่แก้ผ้าหัดเปลี่ยนร่างกันแล้ว และ...

     

     

    ข้าพึงใจในตัวน้องชายท่าน"

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ตำหนักในที่ถูกจัดให้เป็นที่พำนักของท่านชายเซฮุนเงียบงัน เสี่ยวลู่หานบรรจงพับผ้าเครื่องทรงของท่านชายผู้สง่างามเงียบๆ  เซฮุนมองภาพที่สวยงามนั้นแล้วอดยกยิ้มไม่ได้ 

     

    'นางช่างสวย...สวยเหมือนท่านแม่ของข้าไม่มีผิด'

     

    ลู่หานช้อนตามองท่านชายหน้าหล่อ นางเอียงอายหลบสายตาของคนที่นั่งบนเก้าอี้เสวยกลางห้อง

     

    "มองสิ่งใดกันเพคะ ท่านชาย"

     

    "มองคนงามของพี่ รักของพี่"

     

    "รักแล้วทำไมไม่พอ...รักแล้วทำไมทิ้งขว้างละเพคะ"

     

    ลู่อมยิ้มพูดเหมือนบทสนทนานี้เป็นเรื่องปกติ มือบางพับผ้าชิ้นสุดท้ายก่อนจะผูกห่อผ้าเป็นปมเหมาะแก่การเดินทาง เซฮุนชะงักไปกับคำพูดของนาง เขากระชากมือบางขึ้นมาบีบอย่างรุนแรง ใบหน้าหล่อเหลาน้ั้นบึ้งตึง เขากำลังรู้สึกสับสนอย่างหนัก ก่อนเซฮุนคลายแรงบีบก่อนจะคว้าเอวนางมาโอบกอดไว้แทน

     

    'กอดที่เผยความในใจของท่านชายแสงอาทิตย์ ที่มีต่อนางกำนัลคนงาม'

     

    ลู่หานยังคงมีสีหน้าเฉยชา ความรักที่เขาพร่ำบอกนางมีจริงอย่างนั้นหรือ...รักคือการให้ แต่บัดนี้นางสุดจะทน องค์ราชา และราชินีก็ไม่ทรงเอ็นดูนางอีกต่อไป และหากพระองค์หญิงรับรู้ นางก็คงเหมือนกับตายทั้งเป็น ไร้ซึ่งที่พึ่งพักพิงทั้งกาย และใจ

     

    "พี่รักเจ้า แต่พระองค์หญิงนางเป็นของพี่ เจ้าเข้าใจหรือไม่...พี่ต้องได้นางมาเป็นของพี่"

     

    เซฮุนผละออกจากการกอด เขามองตาเสี่ยวลู่หานอ้อนวอนให้นางเข้าใจ แต่ก็ได้กลับมาเพียงน้ำตาที่ไหลจากตาหวานหยดนั้น

     

    "โธ่ แม่ยอดรักอย่าร้องไห้..."

     

    "ท่านพี่...องค์หญิงทรงมีพระญาติทางเหนือสุดของเมืองหงส์ของข้า พี่จงตามหาพระอัยกา(ตา) ขององค์หญิง นางน่าจะไปอยู่ที่นั่น...ขอพี่จงจำไว้ข้ารักพี่"

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    "อยากหรือไม่องค์ชายท่าน"

     

    ชานยอลเอ่ยถามพลางใช้ผ้าห่มปัดอากาศเย็นๆเข้าหาตัว วันนี้ชานยอล และองค์ชายใหญ่จงอินถูกเนรเทศออกมานอนด้านนอกของกระท่อม ปล่อยให้โฉมงามทั้งสามนอนสบายกายอยู่ด้านในกระท่อม

     

    "ปฏิเสธมิได้เลย ข้าคิดถึงคยองซู..."

     

    จงอินในเวลานี้ดูกระสับกระส่ายเสียจนชานยอลเริ่มรำคาญ เสียงฟุตฟิตจากการที่จงอินเอาแต่นั่งดมเสื้อตัวในของพระองค์หญิง

     

    'ถ้าจะโรคจิต'

     

    ความคิดของชานยอลส่อสะท้อนออกมาทางสายตา แต่จงอินก็ยังคงดอมดมต่อไม่สนใจสายตากวนประสาทนั้นแต่ใดใด

     

    "แบคฮยอนไม่เห็นเป็นเหมือนท่านเลย องค์ชายใหญ่"

     

    "แบคฮยอนไม่เคย ผู้ที่ไม่เคยลิ้มสวาทนั้นแน่นอนว่าจะไม่ใฝ่หา เพราะเกรงกลัว"

     

    ชานยอลพยักหน้าเห็นด้วยเจ้าหมาน้อยนั้นใสซื่อจะตายชัก นอกจากขี้โมโหชอบวิ่งตบตีเขาแล้วก็ทำอะไรไม่เก่งสักอย่าง

     

    "ก่อนหน้านี้เล่า ปีก่อนๆมาน่ะ ท่านทำเช่นไรในฤดูเช่นนี้"

     

    "นารีผล พวกนางมักรอชายหนุ่มชาวเราไปเสพสม...หื้อ?"

     

    จงอินส่งเสียงสงสัยผ่านลำคอทันทีที่ชานยอลยิ้มกริ่มอย่างมีนัย

     

    "ค่ำนี้เราไปเสพนารีผลดีหรือไม่ ข้าสัญญาว่าจะเป็นความลับระหว่างเรา ตัวข้าเองจะได้ไม่ลวนลามน้องท่าน ส่วนท่านก็ไม่ต้องมานั่งกระทำการทุเรศลูกตาแบบนี้"

     

    "ข้ามีเมียแล้ว ข้ารักนางมาก ให้ไปเสพสมหญิงอื่นเห็นไม่สู้ดี..."

     

    "หญิงเหล่านั้นก็แค่ผลไม้ ท่านไม่กินส้ม กินองุ่นอย่างนั้นรึ"

     

    เมื่อได้ฟังชานยอลหว่านล้อมแล้วจงอินก็อดไม่ได้ที่จะต้องคล้อยตาม ทั้งคู่พากันเดินลัดเลาะไปในป่าอย่างนึกสนุกเสียเต็มประดา จากคนที่ไม่ถูกคอกันนัก กลายเป็นว่าเดินกอดคอหัวเราะกันเสียงดังก้องป่า

     

    "นั่นไงเล่าดงพวกนาง..."

     

    จงอินว่าก่อนจะเดินนำชานยอลไปยังกอไม้ต้นสูงใหญ่ ใต้ต้นไม้เต็มไปด้วยสตรีร่างกายอวบอัดเปลือยเปล่าร่อนจ้อน นอกจากจงอิน และชานยอลแล้วก็ยังเทพารักษ์ หมาป่า และอมนุษย์อีกมากมายพากันเลือกชมพวกนาง

     

    "พวกนางน่ะต้องการการเสพสม เพราะมันจะทำให้พวกนางไม่เน่าเสียนะองค์ชาย ก็แค่ผลไม้ เลือกเถิด"

     

    ชานยอลพาจงอินเดินไปยังใต้ต้นไม้ใหญ่นั้น เหล่านารีผลโอบล้อมมองชายหนุ่มอย่างตื่นเต้น

    พวกนางไม่สามารถพูดภาษาคนได้ แต่สายตายั่วยวนนั้นก็เป็นภาษากายได้ดี

     

    จงอินเลือกนารีผลหน้าสวยนางนึงมา ส่วนชานยอลเขาเลือกพวกนางมาถึง2นาง

    พวกเขาพานารีผลทั้ง3เดินห่างออกมาจากดงป่านารีผลที่ผู้คนชุกชุมห่างมาใกล้กระท่อมที่พัก

    ชานยอลจัดการนวดเฟ้นร่างกายของพวกนางอย่างสนุกสนาน ในขณะที่จงอินเองก็กำลังบีบเค้นหน้าอกอวบนั้นอยู่เช่นกัน

     

    "ท่านพี่จงอิน! ชานยอล! ทำอะไรน้ะ"

     

    โลกวิบัติตาพร่ามัว ให้ข้ากัดลิ่นตายเสียตรงนี้ดีกว่า ท่านแม่ยาย น้องชาย และเมีย

    ตามมาพบในสภาพแสนน่าอาย

    เอาละหว่า

    ข้าจะจะตายเยี่ยงไรดี

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    50%

     

    ภาพหลากหลายเข้ามาซ้อนกันในสมอง

    เสียงดุด่าของแบคฮยอน...มันน่ารำคาญเล็กน้อย แต่ภาพคยองซูกำลังร้องไห้นี่ซี

    จงอินรีบละมือออกจากร่างกายขาวนวลเนียนแต่ช่างจืดชืด และไร้ชีวิตชีวาของนารีผล

     

    "คยองซูพี่เพียง..."

     

    "หุบปากไปเลยนะท่านพี่! ยังไม่ทันไรพี่ก็นอกใจคยองซูแล้วงั้นหรอ"

     

    แบคฮยอนน้ำตาคลอหันมองชานยอล ความรู้สึกในขณะนี้ช่างเจ็บช้ำน้ำใจนัก ส่วนคยองซูที่เอาแต่ร้องไห้ก็ถูกท่านแม่โอบกอดไว้ จงอินก้มหน้าลงอย่างสำนึกผิด เสี้ยวนาทีเขาเงยหน้าสบสายตากับองค์ราชินีแจจุง สายตาอันเย็นชาส่งมาที่เขา ใบไม้รอบด้านหล่นร่วง ร่างของนารีผลเหล่านั้นค่อยเหี่ยวเน่าเพียงสายตาเย็นชานั้นมองผ่าน

     

    "กลับบ้านของเราไปหาท่านพ่อไหมลูก องค์หญิงของแม่"

     

    "อย่านะพระองค์ ท่านป้า ข้าคือผู้ที่ชวนองค์ชายใหญ่ออกมาเอง...องค์ชายใหญ่มิได้รู้เรื่องไม่"

     

    ชานยอลเอ่ยยอมรับผิดเสียงดัง และหนักแน่น น้ำตาที่เคยคลอหน่วยของแบคฮยอนพันรินไหล เดิมทีแบคฮยอนโทษพี่ชายตนเองว่าติดสัตว์จนไม่ลืมหูลืมตา ชวนชานยอลของตนออกมาด้วย

    แต่เมื่อได้ฟังความจริง แบคฮยอนก็กลับเจ็บปวดเกินบรรยาย

     

    'ชานยอลคงรักสนุก เห็นทุกสรรพสิ่งเป็นของเล่น รวมทั้งตัวเขาด้วย...'

     

    ชานยอลใช้นิ้วเรียวของตนจิ้มลงกับพื้นดิน นิ้วยาวนั้นกลายเป็นรากไม้ ส่งสาร์นทางความคิดไปถึงแจจุงที่กำลังแสดงฤทธิ์เดชอยู่ให้สงบลง

     

    "ลูกตกเป็นของท่านพี่ อึก...แล้ว ลูกไปไหนไม่ได้ แม้ท่านพี่จะไม่รัก ไม่สนใจลูก แต่ลูกคือสมบัติของท่านพี่ ขอท่านแม่เข้าใจลูกเถิด"

     

    คยองซูสะอึกสะอื้นร้องไห้ นั่นยิ่งทำให้จงอินโกรธ และเกลียดตัวเอง

     

    "คยองซูพี่ขอโทษ..."

     

    จงอินเดินมาหมายจะกอดปลอบให้นางคลายเศร้า เขาอยากจะอธิบายตามจริงว่าเป็นเพียงความคิดเพียงชั่ววูบ แต่ก็เป็นแบคฮยอนที่ดันไหล่พี่ชายแท้ๆของตนไว้ก่อนจะประคองคยองซูกลับกระท่อมทั้งที่ตนเองก็น้ำตาไหลริน แจจุงมองคนหนุ่มทั้งสองพลางถอดถอนลมหายใจ

     

    "หลานป้า...ดูสิให้มาดูน้องแต่เจ้ากลับละเล่นจนน้องเสียใจนะชานยอล องค์ชายใหญ่เองก็ด้วย แบคฮยอนน้องเจ้าเขาออกมาหมายจะเอาผ้าห่มมาให้ เห็นเจ้าทั้งสองเดินดุ่มเข้าป่าจึงชวนป้ากับน้องเดินตามมาดู..."

     

    ชานยอลตบไหล่จงอินเบาๆอย่างให้กำลังใจ จงอินเองเอาแต่ก้มหน้านิ่ง ใบหน้าหล่อคมสลดลงจนน่าสงสาร

     

    "ชานยอล ป้าไม่อยากจะยุ่งเรื่องของเจ้า แต่เห็นทีคงต้องพูดให้กระจ่าง แบคฮยอนเองก็เป็นหลานของป้าเช่นกัน ใจขององค์ชายเล็กน่ะแสนที่จะบริสุทธิ์ หากคิดจะเจ้าชู้ประตูดินละก็ป้าขอให้เปลี่ยนใจเถิด..."

     

    "หม่อมฉันเห็นองค์ชายน้อยแสนน่าเอ็นดู ไม่เคยคิดที่จะหยามน้ำใจพระองค์ คะแค่.."

     

    "ลวนลาม?"

     

    แจจุงดักคออย่างรู้ทัน ใบหน้าสวยหวานบึ้งตึงต้นไม้แทบนั้นพร้อมใจแซซ้องพันรากของต้นเป็นแท่นที่ประทับให้ราชินีคนงามได้พำนัก

     

    "เอ่อ...หม่อมฉันมิได้ตั้งใจ หลานพยายามห้านใจตนแล้ว แต่องค์ชายเล็กช่างงดงาม..."

     

    จงอินที่ฟังอยู่นานตวัดสายตามองชานยอลดุร้าย สายตาคมนั้นทำเอาชานยอลต้องถอยหลังไปกว่าก้าว

     

    "จงอินนิ่งเสีย แม่จะจัดการเจ้าหลานตัวดีเอง ชานยอล...บอกป้าสิเจ้าคิดอย่างไรกับองค์ชายเล็ก"

     

    "หม่อมฉันกำลังมีสัมพันธ์ทางใจที่งดงามกับองค์ชายเล็กวอนท่านป้าเข้าใจ หลานอยากจะเป็นคนบอกน้องเอง...เพียงขอให้หลานแน่ใจว่าองค์ชายท่านรักหลานจริงๆ"

     

    จงอินยังคงมองชานยอลอย่างไม่ละสายตา ชานยอลสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเขาหันมาสบกับสายตาเรียบนิ่งนั้น

     

    "โธ่ องค์ชายใหญ่ข้ากับน้องท่านใสใสน่า อย่าคิดว่าข้าจะทำอะไรน้องชายท่านสิ"

     

    "น่าเชื่อมากเลยนะท่านเทพผู้รักษา..."

     

    "เอาละ จงอินต่อไปแม่จะไว้ใจเจ้าได้ไหม นี่เพิ่งอยู่กินเจ้าก็ยังโลเล รักสนุก หากองค์หญิงท้อง หรือหมดความงามเจ้าจะทำอย่างไรกัน ไม่ทิ้งน้องไปหาผู้ที่งดงามกว่ารึ"

     

    แจจุงยุติห้ามทัพบทสนทนาของชายหนุ่มทั้งสอง และเริ่มหันมาเทศนาสั่งสอนองค์ชายใหญ่แห่งเมืองหมาป่าแทน

     

    "มิบังอาจท่านแม่ ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่หม่อมฉันจะหลงผิด"

     

    จงอินเน้นคำว่าหลงผิดหันหน้าไปมองชานยอลที่เขี่ยซากนารีผลเล่นอยู่ ชานยอลทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เห็นเช่นนั้นองค์ราชินีคนงามก็อดสรวลขำไม่ได้

     

    "รักษาสัตย์ของเจ้า ท่านพ่อของน้องน่ะ ไม่ใจดีเหมือนแม่หรอกนะเจ้า"

     

    "ขอรับ..."

     

    จงอินก้มหน้ารับคำอย่างแข็งขัน

     

    "เอาละกลับไปนอนเฝ้ายามหน้ากระท่อมได้แล้ว นี่พระองค์ชายแม่ให้เก็บไว้ใช้ยามจำเป็น หนีไปให้ไกล หรือถ้าจะกลับไปที่เมืองเจ้าก็ขอให้พากันเดินทางโดยสวัสดิภาพ"

     

    จงอินรับขนมที่แจจุงมักจะให้แบคฮยอนกินเสมอมาไว้ในมือก่อนจะใช้ผ้าพื้นบางห่อมันเก็บไว้

     

    "เป็นพระกรุณาของท่านแม่"

     

    "เอาละกลับเถิด" 

     

     

     

     

    อรุโณทัย

    ยามแสงอาทิตย์ แสงอุษาทอแสงเป็นรัศมีจับขอบฟ้า นกกาพากันกินโฉบหาอาหารยามเช้า ช่างขยันหมั่นเพียรหาอาหารให้ลูกน้อยในรังได้ดูดกิน เสียงน้ำหยดจากใบไม้ลงสู่ยอดหญ้าช่างน่าฟังราวกับแดนดนตรีสวรรค์ขับกล่อมให้ยามเช้าช่างน่าสดใส หากเช้านี้ข้ามีชะแม่คยองซู องค์รัชทายาทคนงามในอ้อมกอด

    จงอินขดตัวนอนผิงไฟพออุ่น เขาไม่มีปัญหาอะไรกับอากาศไม่ว่าจะหนาวเย็นเพียงใดร่างกายของเขาก็อบอุ่นพอที่จะรับมือ คยองซูควรจะได้นอนแอบอิงอกอุ่นของเขา จงอินถอนหายใจยืดยาวนอนรอการปรากฎตัวของชะแม่ผู้เป็นที่รัก

    เสียงประตูที่ทำจากใบจากลากกับขูดกับพื้น ทำเอาชายหนุ่มผู้ทำหน้าที่ยามพากันสะดุ้งเฮือกรีบจัดผมเผ้าของทั้งคู่เข้าที่ แบคฮยอนเมินหน้าหนี แต่ชานยอลก็แอบเห็นว่าร่างบางแอบก้มหน้าขำ ส่วนคยองซูยังคงนิ่งเฉย และมีแววตาอันเศร้าสร้อยทั้งคู่พากันเดินออกมาช่วยประกอบอาหารเงียบๆ โดยไม่มองหน้าชายหนุ่มทั้งสองแม้แต่น้อย

     

    "คยองซูงอนข้าไหม ท่านว่า..."

     

    "น่าจะโกรธเลยละองค์ชายใหญ่ แล้วท่านเล่าคิดว่าน้องชายท่านงอนข้าไหม..."

     

    "น่าจะเกลียดเลยละท่านผู้รักษา"

     

    "คุยอะไรกันนั่นคนหนุ่มทั้งสองตน"

     

    จงอินกับชานยอลที่กำลังกระซิบกันอยู่ทำหน้าเลิ่กลั่กทันทีที่องค์ราชินีถามอย่างอารมณ์ดี 

     

    "เอ่อ...คือ..."

     

    "จะเอ่ออีกนานไหมชานยอล เอาละ แบคฮยอน องค์หญิงลูกแม่ แม่ต้องไปก่อนเดี๋ยวจะไม่ทันเสวยอาหารกับท่านพ่อเจ้า แม่สัญญากับพระองค์ไว้ว่าจะกลับให้ทันมื้อเช้า"

     

    องค์ราชินียิ้มอย่างปรานี นางเยื้องกายไปกอดคยองซู และแบคฮยอนที่กำลังมีท่าทีงอแงไว้ในอ้อมอก

     

    "ฝากความระลึกถึงท่านพ่อด้วยนะเพคะ ขอพระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินด้วยดี"

     

    คยองซูอมยิ้มน่ารักทั้งนัยน์ตายังคงเศร้า องค์ราชินีกระซิบข้างหูเพียงแผ่วเบาก่อนที่จะสลายตัวหายเป็นธาตุ โมลิกุลเล็กไหลผ่านลากไม้กลับไปยังในตัวเมืองหงส์

     

    "อย่ากังวลใจ ชายทั้งสองน้นก็ต่างมีเจ้าทั้งคู่ในหัวใจ"

     

    รักแรกคือความเป็นพี่ และน้อง

    รักที่สองคือไฟอันอบอุ่น 

     

     

     

    คยองซูกำลังจัดโต๊ะอาหารอย่างเงียบๆ คุ้นคิดสิ่งที่ท่านแม่ตรัสก่อนไป คยองซูรู้ดีว่าตนรักท่านพี่มาขนาดไหน รักมากจนยอมเสียทุกอย่าง คำพูดชายช่างกลับกลอก เคยบอกว่าจะมีตนเท่านั้น แต่ชั่วข้ามคืนก็ไปเสพรสผลไม้นารีนั่นเช่นนี้แล้วคยองซูควรเชื่อต่อไปหรือ

    มือบางคดข้าวใส่จานส่งให้ผู้เป็นสวามีอย่างเชื่องช้า มือหนาถือโอกาสนี้กุมมือคนข้างกายเอาไว้แน่นหนา สายตาทั้งคู่ประสบกัน แบคฮยอนที่เห็นแบบนั้นก็จำใจต้องส่งสายตาเมินๆไปทางชานยอลก่อนจะเดินลอยหน้าลอยตาไปทางด้านหลังกระท่อม เมื่อลับหลังแบคฮยอนแล้วจงอินก็พยักหน้าส่งสัญญาญให้ชานยอลตามแบคฮยอนไปซึ่งเขาก็ทำตามอย่างรู้หน้าที่

     

    "พี่ขอโทษ ชะแม่...ดุพี่เถิด ด่าพี่เถิด"

     

    "ท่านพี่หลอกน้อง หลอกให้น้องดีใจว่า อึก...พระองค์ชายจะมีแต่น้อง"

     

    สุดกลั้นน้ำพระเนตรสายเล็กของร่างบางไหลริน คยองซูกลายเป็นหงส์น้อยที่กำลังร้องไห้จนตัวสั่นเทาแลดูน่าสงสารจงอินกอดน้องไว้แนบอก เขาชั่วช้าเกินไป

     

    "คยองซู ขอโอกาสพี่"

     

    "น้องไม่อาจมีสิทธิเลือก น้องคงใจง่ายเกินที่ให้ท่านพี่เชยชมไปแล้ว จะมีสิทธเรียกร้องอันใดกันเล่า"

     

    เสียงหวานตัดพ้ออย่างน้อยใจ คยองซูกำลังคิดว่าตนเองหน้าเบื่อแล้วสำหรับชายหนุ่ม เพียงได้ชมก็ลาจากดังดอกไม้ ดอกหญ้าริมทาง

     

    "ร้อยชู้ฤาเท่าเมียตน ใครกันเล่าจะมาแทนเมียพี่ได้ พี่ตั้งใจเป็นหนักแน่นว่าจะมีแต่เจ้า เจ้าผู้เป็นเจ้าของหัวใจ และร่างกายพี่"

     

    จงอินเชยคางสวยขึ้นมองตา เขาบรรจงจุมพิศถ่ายทอดความรู้สึกผ่านริมฝีปากร้อนที่ประทับลงอย่างนุ่มนวลกับปากสวยขององค์หญิงตัวน้อย จงอินดึงคยองซูให้นั่งคร่อมตัก นางยังคงสะอื้นอยู่ให้เห็น แต่ก็คลายเศร้าคลายน้ำตาไปแล้ว

     

    "ดีกันได้รึยังเจ้า หื้อ?"

     

    "มิได้โกรธแต่แรกนิเพคะ"

     

    "นั่นละนา งอนก็ได้สุดแต่ชะแม่ว่าอยากใช้คำไหน เกี่ยวกันแบบนี้"

     

    ชายหนุ่มยื่นนิ้วก้อยของตนไปเกี่ยวกับนิ้วเล็กนั้นพลางยิ้มอย่างใจดี

    คยองซูยังนิ่งเฉยแลมีทีท่าหมางเมิน จงอินยกยิ้มเจ้าเล่ก่อนจะบีบหน้าอกนางนวดเฟ้นอย่างสนุกมือ ส่วนอีกมือก็ล็อกเอวบางไว้ไม่ให้ดิ้นหลุด

     

    "อ้ะ อื้ออ อย่านะท่านพี่..."

     

    "ดีกันได้รึยังหื้อ ฟอด"

     

    จงอินหอมแก้มนั้นอย่างหมั่นเขี้ยวก่อนจะลงมือถลกเสื้อนางขึ้นบีบคลำหน้าอกสวย

     

    "ยอมรึยัง ไม่ยอมพี่จะปล้ำเจ้าเสียตรงนี้ ให้คุณปู่ตนไม้ไปฟ้องแม่เจ้า...ว่าเจ้าน่ารักเสียเพียงไหนเวลาอยู่ใต้ร่างพี่"

     

    ร่างบางหน้าแดงกร่ำรู้ว่าตนกำลังโดนแกล้งในจุดอ่อนจึงต้องจำยินยอม เกี่ยวก้อยกับชายหนุ่มทั้งที่ใบหน้ายังบึ้งตึง จงอินเพียรจูบให้ความบึ้งนั้นลดลง ช่วยให้รอยยิ้มนั้นขึ้นมาเพียงเล็กน้อย

     

     

    "พี่รักเจ้า"

     

     

    "น้องก็รักท่านพี่" >\\\\\\\\<

     

     

     

     

     

     

     

    Next to 9.5

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    Talk: แนะนำตัวคนแต่งค่ะ ชื่อเจแปนนะคะ แต่ส่วนใหญ่เพื่อนจะเรียกว่าเจแปนสนุกมาก

    เป็นชื่อคณะอะไรพวกนั้น ทวิตเตอร์ @JNN_93 คุยได้ทักได้ ถามข้อข้องใจได้แต่ไม่รับรับฝากร้านนะคะ เนี่ยย 55555

    เพิ่งมาแนะนำเพราะเขินคนอายอยู่กลัวโดนเมนชั่นด่าค่ะ

    สำหรับตอนนี้ก็นางเอกเจ้าน้ำตานิดนึงเนอะ คนสวยก็งี้ละ เดี๋ยวตอนหน้าจะได้เห็นบยอนงอนบ้างแบบรับรองว่าเผ็ด

    เจแปนยังสอบไม่เสร็จ ไม่เกินศุกร์หน้านะคะ 9.5 จะมาต่อ

    เพลียมาก อักษรผิดแอมซอรี่

    แท็ก #หงส์ขาวนะจ้ะ

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×