คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [SF]Broken Heart Syndrome
Broken Heart Syndrome
(แท็ก #BHS)
แด่คุณพ่อและคุณแม่ของเอ็กโซ่เค...
“พี่หมอครับเลขข้อนี้ทำยังไงหรอครับ”
ร่างบางน่ารักของคยองซูเอนตัวถามติวเตอร์รูปหล่อดีกรีนักศึกษาแพทย์โรงพยาบาลชื่อดังในประเทศเกาหลี ซูโฮมองตามนิ้วป้อมๆของนักเรียนมัธยมปลายชั้นปีที่6 ที่กำลังจะศึกษาต่อมหาวิทยาลัยและเป็นลูกศิษย์ของเขาเอง ใจของนศ.แพทย์หนุ่มเต้นตึกตักทุกครั้งที่กลุ่มผมหอมนุ่มของคนตัวเล็กนั้นปัดอยู่ตรงปลายจมูกของเขา
“พี่หมอครับ...พี่ซูโฮ...เป็นอะไรรึป่าว”
“อ่อป่าวครับ ข้อที่14 ข้อนี้ยากหน่อยนะเจ้าตัวเล็กเดี๋ยวพี่จะค่อยๆบอกวิธีแล้วเราก็หาคำนวณเอง โอเคไหม?”
“ฮะ”
ทุกๆวันหลังเลิกเรียนคยองซูต้องเดินจากโรงเรียนเพื่อมาหาซูโฮที่โรงพยาบาลเพื่อติวคณิตศาสตร์วิชาที่เจ้าตัวเล็กของ ‘พี่หมอ’ แสนจะเกลียด เพราะเหตุนี้ละทำให้คยองซูไม่สามารถเรียนคณิตศาสตร์ได้คะแนนที่ดีจนต้องหาติวเตอร์มาสอน
“ปวดหัว โอ๊ยปวดหัวจะแย่ พี่หมอพอมียาที่ทานแล้วเก่งเหมือนพี่หมอเลยได้ไหมอ่ะ คยองไม่อยากเรียนแล้วนะ”
คยองซูบ่นงุ๊งงิ๊ง ริมฝีปากน่ารักที่คลี่ยิ้มออกมาทีไรได้เห็นหัวใจดวงน้อยๆน่ารักทุกที แต่ตอนนี้กลับเบะออกเหมือนเด็กๆ ดูยังไงก็น่ารักน่าเอ็นดูจนคนเป็นพี่อ่อนใจ และเข้าใจความยากของวิชานี้ ชายหนุ่มหยิบขนมช็อกโกแลตอันเล็กที่จะเตรียมมามอบให้นักเรียนคยองซูได้ทานหลังเลิกเรียนทุกครั้งโดยถือว่าเป็นการพักผ่อนจากการใช้สมอง
“นี่ครับ ขนมสำหรับคนเก่งของพี่”
“พี่หมอใจดีที่สุดเลย”
คยองซูรับช็อกโกแลตจากอีกคนมาทาน และเตรียมตัวเก็บของเพื่อจะกลับบ้านหลังเลิกเรียน
‘เอาไงดีนะเรา จะชวนน้องเขาไปกินข้าวยังไงดี...จุนมยอนเอ้ยปอดจริงๆ’
“น้องคยองซูครับ...คือ...”
“ครับพี่หมอ?”
“คือพี่...คือช็อกโกแลตอร่อยไหมครับ”
“อร่อยสิครับ อ้ะ...ผมกลับก่อนนะครับ แล้วเจอกันนะครับ อันยอง!”
เจ้าตัวเล็กรีบหยิบโทรศัพท์ที่สั่นจากสายเรียกเข้าขึ้นมาดูรอยยิ้มหวานกว้างขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะรีบวิ่งไปหน้าโรงพยาบาลทันที ทิ้งไว้แต่ซูโฮที่นั่งกัดปากยีหัวตัวเองคล้ายกับคนบ้า
หากในเวลา 6 โมงเย็นแบบนี้สาวๆพยาบาลคนใดมาเห็นคงเอาไปนินทากันได้สนุกปากว่านศ.แพทย์คนเก่งตัวเกร็งเกียรตินิยมอาจเรียนมากจนบ้าไปแล้วก็ได้
ซูโฮนั่งบนรถเมอร์ซิเดสเบนส์คันงามเพื่อกลับบ้านของตนที่ตั้งอยู่ในเขตกังนัมสถานที่สำหรับคนรวยด้วยจิตใจที่เหม่อลอย เขาหยิบไอโฟน 5S สีขาวขึ้นมาเขี่ยเล่นบ้างเป็นครั้งคราวก่อนจะกดล็อก หน้าจอแล้วก็กดปุ่มโฮมอีกครั้ง...เขาก็แค่อยากเห็นหน้าคยองซูที่เขาตั้งเป็นหน้า Lock Screen ก็เท่านั้นเอง
‘เอาไงดีวะแม่งเอ้ย!!’
ซูโฮนั่งหงุดหงิดอยู่ในใจ แล้วก็ยกยิ้มอีกครั้งเมื่อได้กดปุ่มล็อก แล้วกดปุ่มโฮมอีกครั้ง...ใกล้บ้าไปทุกทีแล้วนะพี่หมอ
“คุณหนูครับถึงบ้านแล้วนะครับ”
“ขอบคุณครับพี่ทิด”
ซูโฮลงจากรถโดยที่ไม่ลืมจะขอบคุณพี่ทิด หรือพี่เฉินคนขับรถของบ้าน เหตุที่ซูโฮและทุกๆคนในบ้านเรียกเขาว่าพี่ทิดก็เพราะแกเพิ่งสึกออกมาจากการบวชเรียนนั่นเอง
ซูโฮเดินเข้ามาในบ้านชายหนุ่มเดินไปนอนบนตักคุณแม่คนสวยอย่างแบคฮยอนที่กำลังนั่งทีวีอยู่ในบ้านหลังโต ครอบครัวของซูโฮนั้นเป็นหมอตั้งแต่คุณทวดของทวด รูปเพดดิกรีครอบครัวที่ทุกคนอยู่ในชุดกราวน์สีขาวถูกแขวนเรียงลำดับปู่ย่าตายายไว้อย่างหน้าภูมิใจ
‘คุณพ่อชานยอลหมอฟัน และคุณแม่แบคฮยอนหมอศัลยกรรมมือวางอันดับ1 ในวงการพริตตี้และดาราดังๆผ่านมีดแม่มาหมดแล้ว’
“ว่าไงคุณหมอของแม่ ทำไมสีหน้าไม่ดีเลยละลูกจ๋า เหนื่อยก็เลิกสอนพิเศษไปสิลูก เงินบ้านเราก็ไม่ได้ขาดมือนิคะ”
“แม่ครับผมไม่ใช่ดาราสาวๆของแม่นะเลิกพูดคะขากับผมได้ไหมครับ”
“โธ่ มันติดปากนิลูก”
“ครับๆ แม่ครับ...พ่อเขาจีบแม่ยังไงหรอครับ”
แบคฮยอนปิดทีวี และหันมาสนใจเจ้าลูกชายตัวดีที่ดูท่าทางเหมือนหมาหงอย...ติดสาวสินะ
“พ่อหรอ? ก็เอาใจใส่ คอยเทียวรับเทียวส่ง อื้อ...โทรมาหาตอนกลางคืน ส่งข้อความดีๆมาหา”
“โทรหาตอนกลางคืนหรอครับ แบบนั้นไม่รบกวนแย่หรอครับ แม่ไม่อ่านหนังสือหรอ” ซูโฮลุกนั่งทำท่าสนใจที่จะถามต่อ
“ก็ก่อนเข้านอนน่ะ เคยถามเขารึป่าวละคนที่ลูกชอบน่ะว่าเขานอนกี่โมง”
“ไม่เคย...เอ้ย!! ชอบอะไรเล่าแม่ ไม่มีครับ ผม...แค่สงสัยน่ะ โธ่ แม่”
แบคฮยอนยิ้มขำอย่างรู้ทัน ทำให้ลูกชายอย่างซูโฮหน้าแดงอย่างห้ามไม่ได้...เขาไม่เคยหลอกแม่ได้จริงๆ
“จ้าๆ อย่าลืมลองดูแล้วกันนะ แม่เป็นกำลังใจให้”
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ซูโฮรีบทานข้าวและขึ้นมาอ่านหนังสือเหมือนที่เขาทำมาตลอดชีวิตของเขา มือเรียวยาวอย่างคนไม่เคยลำบากขยับแว่นของตัวเองเล็กน้อยให้มันกระชับเข้ากับทรงหน้าได้รูป ก่อนจะเริ่มอ่านหนังสือตำราแพทย์อย่างจริงจังอีกครั้ง ในมือของเขากำมือถือยี่ห้อดังเอาไว้ ในใจส่วนลึกๆกำลังนึกถึงบทสนทนาที่เขาจะใช้พูดกับร่างบางนักเรียนของเขาเป็นอย่างแรก บทสนทนาที่ผู้ชายเขาเอาจีบสาวนั่นล่ะนะ
ทันเท่าความคิดมือถือของเขาสั่นเมื่อมีสายเรียกเข้า สายเรียกเขาที่ทำเอาหัวใจของชายหนุ่มพองโตอย่างไม่รู้สาเหตุ
‘Kyungsoo<3’
“ครับน้องคยอง...อ้อ...อื้อ ได้ครับ ครับ...”
ซูโฮวางสายไปด้วยอารมณ์ที่เศร้าหมองสุดๆ จะไม่ให้เซ็งได้ไงเล่า ก็น้องคยองซูจะไม่มาเรียนในวันพรุ่งนี้น่ะสิ...อดเจอเลย แถมเมื่อกี้น้องเขาโทรมาก็พูดได้แค่ ‘ครับ’ กับ ‘อื้อ’ ซูโฮเริ่มยีหัวตัวเองอีกครั้ง ให้ไปแข่งคณิตศาสตร์โอลิมปิกยังไม่ยากขนาดนี้เลยให้ตายสิวะ
เอาน่าพี่หมอพวกเราเป็นกำลังใจให้พี่อยู่นะ สู้ๆ
หลังจากเลิกเรียนวันนี้ซูโฮอยากจะหาอะไรทำให้สบายใจ ไม่อยากฟุ้งซ่านอยู่กับตัวเองและหนังสือ เขาให้พี่ทิดพาเขามาที่ห้างดังแห่งหนึ่งว่าจะเดินดูขนมให้เจ้าตัวเล็กสักหน่อย ก็แม่บอกนิว่าให้ใส่ใจ...
ซูโฮเดินเลือกขนมราคาแพงเลอค่าสมราคากับน้องคยองซู เขาเลือกช็อกโกแลตผสมกับเนื้อสตอเบอรี่น่ารัก และน่าทานเจ้าตัวเล็กของเขาต้องชอบแน่ๆ
“อันนี้ครับ ผูกโบว์สีชมพูนะครับ”
ซูโฮยิ้มกริ่มเขาควักระเป๋าหลุยส์วิตองออกมา ก่อนจะหยิบเงินจ่ายแม่ค้าคนสวย พลันสายตาของเขาก็ปะทะกับร่างที่แสนจะคุ้นตา
‘น้องคยอง’
ใช่แน่ๆซูโฮรีบสาวเท้าเดินตามคนตัวเล็กแอบดูอยู่ห่างๆ
คยองซูไม่ได้มาคนเดียว ผู้ชายร่างสูงใหญ่ผิวสีแทนเดินอยู่ขนาบข้าง มือของทั้งคู่จับสอดนิ้วของกันและกันแนบสนิท เหมือนหลอดเลือดแดงในหัวใจไม่ทำงาน ความรู้สึกปวดหนึบที่หัวใจมันคืออะไรกันหนอ วงการแพทย์จะสามารถหาคำตอบของโรคนี้ได้หรือไม่
สองนิ้วของชายหนุ่มกดชีพจรที่ข้อมือของตัวเอง เขาหน้ามืดคล้ายจะเป็นลม ชีพจรเต้นแรงกว่าที่มันเคยเป็น ต้องนั่งพัก...แต่หัวใจที่กำลังจะล้มเหลวดวงเดิมนี่สิมันสั่งให้เขาเดินตามคนทั้งคู่ไป
คยองซูและหนุ่มปริศนาพากันเข้าร้านเสื้อผ้าของวัยรุ่นคู่รักที่มักจะชอบใส่อะไรคล้ายๆกัน ซูโฮแอบมองอยู่ตรงหน้าร้าน...แฟนน้องคยองอย่างนั้นหรอ ทำไมเขาไม่เคยรู้เลยละ แล้วขนมในมือนี่เขาควรทำอย่างไรกับมันดี
ซูโฮก้มหน้าเดินออกมาจากสถานการณ์ อันน่าอึดอัดก่อนจะเดินออกจากห้างทิ้งพี่ทิดให้นั่งอ่านหนังสือธรรมะอยู่ในรถโดยไม่รู้เลยว่าคุณหนูคนเดียวของบ้านเดินออกมาจากห้างนานแล้ว...
ซูโฮเดินออกมาจากห้างอย่างไร้จุดหมายแบบนี้นี่เองที่เขาเรียกว่าอกหัก...อาการ ‘อกหัก’ หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่า Broken Heart Syndrome (Takosubo carddiomyopathy) อันมีสาเหตุมาจากการที่สมองหลั่งสารเคมีบางอย่างออกมาเพื่อทำให้เนื้อเยื่อหัวใจอ่อนแอลงจนรู้สึกปวดหนึบๆที่หัวใจ คำตอบจากไลน์ของเพื่อนนักศึกษาแพทย์เป็นคำตอบที่สั้นและเข้าใจง่ายที่สุด
ซูโฮหยิบหินก้อนหนึ่งมาโยนลงน้ำ ก้อนหินดำดิ่งสู่พื้นบึงในสนามเด็กเล่นแถวบ้านเขาอย่างรวดเร็ว ไม่ใยดีที่จะอยู่เป็นเพื่อนเขาบ้างเลยนะไอ้หินบ้า...
ซูโฮเดินถือถุงช็อกโกแลตออกมาจากห้างเดินมานานแค่ไหนเขาก็ไม่รู้ เขาไม่มีจิตใจคิดถึงใครทั้งนั้น พี่ทิดจะเป็นยังไงเขาก็ไม่รู้ พ่อแม่จะห่วงเขารึป่าวเขาก็ไม่รู้...เขาแทบไม่รับไม่รู้อะไรสักอย่าง
เด็กผู้ชายตัวอ้วนกับผมม้าทรงกะลาครอบเดินมาหาเขาและแบ่งไอติมให้เขากิน ซูโฮส่ายหน้าและเป็นฝ่ายยื่นช็อกโกแลตที่ตนซื้อมาตั้งใจจะให้น้องคยองแก่เด็กคนนั้นแทน
“ขอบคุณครับ พี่ชายหล่อกับใจดี”
“อื้อ กลับบ้านซะไอ้อ้วน”
“อ้วนหน้าพี่ดิ”
เจ้าเด็กอ้วนผมกะลาครอบตะโกนด่าและวิ่งหนีเขาไปทันที ซูโฮรู้สึกแย่เล็กน้อยที่โดนเด็กด่า เขายักไหล่ไม่อยากจะสนใจแค่เรื่องคยองเขาก็เจ็บจะตายละ
โทรศัพท์ของซูโฮสั่นขึ้นอีกครั้ง หน้าจอโชว์ชื่อคนที่ทำให้เขาเจ็บจนจะตายอยู่ตอนนี้
‘Kyungsoo<3’
“ครับน้องคยอง...พี่ไม่ว่างครับอาทิตย์นี้...อือครับ”
ซูโฮกดวางสายไปอย่างรวดเร็วเขาไม่อยากได้ยินเสียงหวานกับสำเนียงงุ๊งงิ๊งน่ารักที่ทำให้เค้าทั้งเพ้อทั้งฝันหวานไปต่างๆนานาอีกต่อไปแล้ว
โทรศัพท์สั่นอีกครั้ง คงจะเป็นคยองซูที่โทรมาถามว่าเขาเป็นอะไรละมั้ง ไม่รับแล้วกันไม่อยากจะสนใจ ไม่รักกันจะมาแคร์กันทำไม ปล่อยพี่เจ็บคนเดียวเถอะคนดีของพี่...ซูโฮมองสูงขึ้นฟ้าเขาไม่อยากร้องไห้ออกมา เผื่อไอ้เด็กอ้วนผ่านมาเห็น มันจะด่าเขาอีก
โทรศัพท์ของซูโฮยังสั่นไม่เลิก มันสั่นเสียจนหน้าขาของเขาชา ซูโฮหยิบมันขึ้นมาดูแล้วก็พบว่าความคิดของเขามันเพ้อฝันอีกแล้ว ไม่ใช่น้องคยองที่โทรมาแต่เป็น...แม่
‘78Miss Call from Mama’
21.52 P.M.
แม่คงกำลังห่วงเขามาก เขานี่มันแย่จริงๆ
หลังจากโทรเรียกพี่ทิดมารับที่สวนสาธารณะ ซูโฮก็กลับมาถึงบ้านด้วยความปลอดภัย พ่อและแม่ของเขายืนรออยู่ตรงหน้าบ้าน เขาเข้าสวมกอดคุณแม่แบคฮยอนเต็มแรงเกิดน้ำตาลูกผู้ชายไหลรินอย่างลืมอาย แบคฮยอนเองที่เห็นสภาพแล้วก็รับรู้ได้เลยทันทีว่าคงอกหักอย่างแน่นอน
“เข้าบ้านกันก่อนเถอะคุณ”
ชานยอลบอกเตือน แบคฮยอนพยักหน้าและประคองซูโฮให้เข้าบ้านเพื่อจะคุยรายละเอียดกันอีกที
“ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมน ไม่ยินและไม่ยลอุปสรรคใดใด”
ทิดเฉินกล่าวออกมาลอยๆและขึ้นรถเพื่อถอยเก็บในโรงรถ จากนั้นจึงเข้าจำวัตร – สาธุเพคะ
“อยากบอกอะไรพ่อแม่ไหมลูก” ชานยอลถาม
“เด็กที่มาเรียนกับผม ผมชอบน้อง...แต่...”
“เขามีแฟนแล้ว?” แบคฮยอนเอ่ยดักคอ
“ครับแม่”
“บางทีนะจุนมยอน เขาไม่ใช่ของเรา ต่อให้ลูกเอามีดผ่าตัดไปกรีดหน้าตัวเองต่อหน้าเขา หรือฆ่าเขาให้ตายเขาก็ไม่รักลูกหรอกค่ะ...แม่สอนเราแต่เด็กแล้วใช่ไหมคะให้รอคอย”
“ผมจะเอาความหวังที่ไหนไปรอน้องเขาล่ะครับแม่”
“แม่ไม่ได้บอกให้ลูกรอเขา แม่กำลังจะบอกให้ลูกรอคนที่เป็นของเราต่างหาก หรือลูกจะรอน้องเขาก็ได้ถ้าลูกรักเขาจริงๆ”
ซูโฮซบอกแม่และเริ่มร้องไห้ออกมาอีกครั้ง เขาจะต้องทำใจให้ได้ เขาชอบน้องมากก็จริง แต่เขาจะไม่ทำตัวเองให้น่าสงสารอีกต่อไป
“ผมจะรอครับแม่”
“แม่จะไม่ถามว่าจุนมยอนของแม่จะรออะไร แม่เคารพการตัดสินใจของลูกจ่ะ”
การรอคอยของใครคนหนึ่งเป็นพลังที่หัวใจสั่งไปยังสมอง แม้ใครอีกคนจะไม่เคยรู้เลยก็ตาม
Fin.
แท็กกันขำๆ #FicBHS
เดี๋ยวจะลบแล้วเอาไปไว้ที่ SF จ้า
------------------------------------------------------------------------------------------------------
Talk::เอามาลงให้อ่านกันเล่นๆค่ะ หงส์ขาวกำลังเขียนอีกนิดนึงๆ เดี๋ยวลงให้ในอีกไม่ช้าไม่นานค่ะ มาเฟียต่อจากหงส์ขาวเนอะ อิอิ
ความคิดเห็น