คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : EL DORADO - Part 2
EL DORADO - 2
เปลือกตาบางกระพริบอย่างอย่างยากลำบาก ใบหน้าสวยออกเป็นสีแดงกร่ำ
วรกายบอบบางสั่นสะท้านราวกับดินแดนดงดิบของหมาป่าจะหนาวเหลือประมาณ
'กึก กะกะกึกกก'
มือบางดึงผ้าห่มสีมอซอมาห่มคลุมโปง
ในดวงหทัยคิดโทษโชคชะตาของตนเองว่าทำไมต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายเช่นนี้
3 วันก่อน...
มีราชสาร์นจากบุตรชายแห่งเมืองผู้วิเศษ คู่หมั้นในวัยเยาว์ว่าจะออกพาองค์หญิงหงษ์ผู้สูงศักดิ์ออกเที่ยวป่าทางตอนใต้
โดยมีเพียงแค่
'เสี่ยวลู่หาน
'นางกำนัลติดตามเพียงผู้เดียวเท่านั้น
"ขี่ม้าเป็นไหมคยองซู มานั่งกับพี่ดีกว่าไหมเจ้า.."
ร่างบางทำท่าทางแสนหนักใจ คิ้วสวยขมวดเป็นปมยากจะแก้ ร้อนถึงเสี่ยวลู่หานนางกำนัลคนสนิทต้องช่วยแก้ต่าง
'เพราะเป็นที่รู้กันอยู่ว่าองค์หญิงน้อยไม่เคยมีใจสเน่หาหาท่านชายผู้วิเศษผู้นี้เลย'
"องค์หญิงจะขี่ม้าไปกับหม่อมฉันเองเพคะ วอนท่านชายอย่าได้ห่วง..."
หลังจากทั้งสามเที่ยวชมนกชมไม้ในป่าแดนใต้ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากร หงษ์ฟ้าคยองซูกับลู่หานบินเล่นชมหมู่มวลดอกไม้สีสลับชมพู ม่วง และเหลืองกันอย่างเบิกบาน
'โชคดีของข้าจริงคนนึงก็ได้เป็นเมียแล้ว ส่วนองค์หญิงก็คู่หมั้น...'
ชายหนุ่มผิวสีน้ำนมนึกกระหยิ่มในดวงใจ
สายตาร้อนแรงแอบส่งให้นางกำนัลนางหวานได้เขินเล่น
ฝ่ายคยองที่กำลังมัวหลงเล่นกับดอกไม้และหมู่ผีเสื้อหาได้สนใจกับสิ่งที่คนไว้ใจได้กระทำไม่
ย่ำค่ำ...
ท้องฟ้าโรยตัวมืด คยองซูตัวน้อยหดตัวเกร็งยามที่ท่านชายเซฮุนเขามาใกล้
เสี่ยวลู่หานได้แต่ก้มหน้านั่งบนพื้นดินถัดจากแท่นไม้ตามธรรมชาติ
'ต้อยต่ำเพียงเศษดิน'
ใช่สิ...คำนี้มันช่างเหมาะสมกับเจ้านัก
คิดว่าตัวเองจะได้เคียงคู่กับแจกันทองอย่างท่านชายรึ
เจ้ามันก็แค่ผักตบชวา
ร่างบางของนางกำนัลก้มใบหน้าหมองแสยะยิ้มให้ตัวเองเงียบๆ
ใจลอยเสียจนไม่ได้ยินเสียงเรียกของเซฮุน
"...หาน ลู่หานน ลู่หาน!..."
"เพคะ ท่านชาย?!!"
"ฮ่าๆๆ ใจลอยหาใครอยู่รึไง"
พูดเสียงหยอกเหย้าอย่างคนได้เปรียบ
ใช่แน่ละ...เขารู้ดีว่าใจเสี่ยวลู่หานพรรคดีต่อเขาเพียงไหน
ร่างบางส่ายหน้ารัว
"หาได้ไม่เพคะ มีสิ่งใดบัญชาเพคะ?"
"ฮ่าๆๆ เราเพียงแต่จะฝากให้เจ้าพาน้องคยองซูเข้านอน ได้หรือไม่เสี่ยวลู่หาน"
"ได้เพคะองค์ชาย...องค์หญิงเพคะ ตามหม่อมฉันมาพลับพลาถูกจัดไว้แล้ว"
นางกำนัลว่าพลางเดินนำทางพาองค์หญิงตัวน้อยสู่พลับพลา
"คยองซู..."
เสียงหนุ่มหล่อชะงักปลายเท้าหงษ์งามทั้ง2ไว้
ร่างเล็กของพระองค์หญิงหันกลับมามองชายหนุ่มอย่างไว้มารยาท
"เพคะท่านพี่....?"
"พี่รักเจ้านะ...ฝันดีนะนวลน้องของพี่"
คยองซูก้มหน้านิ่งค่อยเดินตามลู่หานไปที่พลับพลา
เสี่ยวลู่หานฝืนใบหน้างามให้นิ่ง ปั้นยิ้มไว้เพียงน้อยนิด คิดให้องค์หญิงน้อยที่ตนแสนรักไม่สงสัย
"องค์หญิงเพคะ บรรทมเถิดหม่อมฉันจะไปนั่งเฝ้าหน้าพลับพลาดูแลพระองค์เอง..."
มืออ่อนนุ่มของนางกำนัลคนสวยค่อยหยิบยกผ้าแพรพื้นงามห่มคลุม
หน้าอกงามขององค์หญิงตัวน้อยไว้
ก่อนจะสาวเท้าออกไปหน้าพลับพลา
"เสี่ยวลู่...คยองไม่ได้รักเขา...คยองไม่อยากเสกสมรสกับเขา..."
เสียงหวานจากในพลับพลา
'~~~~ราวกับเสียงกระซิบ แต่เจ็บปวดจับใจ ทั้งคนพูดและอีกสองคนฟัง~~~~"
"อย่าทรงวิตกเลยองค์หญิง หม่อมฉันจะดับไฟหน้าพลับพลาเสียพระองค์ก็ควรบรรทมเถิดเพคะ..."
"อื้ออ..."
สิ้นเสียงยินยอม เสี่ยวลู่หานดับไฟหน้าพลับพลาจนกาฬวิกาลคลอบคลุม
เหลือเพียงแต่กองไฟเล็กพอให้นางกำนัลตัวน้อยคลายหนาว
ชายหนุ่มร่างสูงเผยตัวออกจากหลังดงหญ้าหลังจากซ้อนตัวแอบมองเหตุการณ์อย่างเงียบงัน
ร่างสูงส่งสัญญาญให้นางกำนัลหน้าหวานเดินตามตนไปในป่าไผ่ไม่ไกลจากที่ตั้งพลับพลา
ฝ่ายคยองซูที่ยังคงนอนไม่หลับเพราะความคิดมากมายยังคงตีกันในหัว
อีกไม่นานเกิน3เดือนเขาต้องเสกสมรสกับท่านชายเซฮุนผู้วิเศษ...
คิดได้ถึงตอนนี้คยองแลเห็นเงาของนางกำนัลเสี่ยวลู่หาน แลชายอีกคนเดินตามกันไป
ด้วยความห่วงใย คยองซูหยิบผ้าคลุมไหล่สีขาวบริสุทธิ์พอคลายหนาว
เดินตามหลังเสี่ยวลู่หานคายองซูกางปีกพยุงกายลอยจากพื้นเพื่อไม่ให้เกิดเสียงฝีเท้า
'พอไม่ให้รู้ว่าเขากำลังสะกดรอยตาม'
'เสี่ยวลู่หาน และท่านชายเซฮุน'
เซฮุนประโลมจูบลูบกายนางกำนัลอย่างร้อนแรง ชุดประจำต่ำแหน่งนางกำนัลมีเพียงกระโปรงสูงปิดใต้ราวนมกับเสื้อรัดรูปคอจีนถูกปลดออกอย่างว่องไว
คยองซูเบิกตามองภาพชวนเสียใจ น้ำพระเนตรคลอเบ้าอย่างหวาดหวั่น
"เสี่ยวลู่หาน...เมื่อพี่แต่งงานกับคยองซูพี่จะแต่งตั้งเจ้านวลใจของพี่เป็นพระชายา"เสียงทึ้มนุ่มพูดเอาใจแม่นางหน้าหวาน
ปากเรียวคอยขบเม้มซอกคอ เรียกเลือดขึ้นแดงกร่ำ
"จริงนะเพคะท่านชาย...อื้ออ~"
"จริงสิเจ้า เพียงพี่อยากให้เจ้าช่วยเหลืออะไรพี่สักนิด..."ปากหนาไล้จูบเม้มตามหน้าอกขาวผ่องนุ่มนิ่มของร่างบาง
"หม่อมฉันยอม อ้ะ...ทำตาใพระประสงค์"
"ดี จุ๊บ...เสี่ยวลู่หานพี่อยากลดเวลาการแต่งงานของพี่กับองค์หญิงให้เร็วขึ้น คืนนี้พี่จะเผด็จศึกนาง..."
"หามิได้ อื้ออ ข้ามิยอมอ้ะ อย่ากัดสิเพคะ.."
"ฟังข้าเสี่ยวลู่หาน! " สุรเสียงที่เคยนุ่มบัดนี้เปลี่ยนไป
'เย็นชา ปราศจากความรัก แลเอ็นดู'
"คืนนี้เจ้าจะต้องช่วยข้า!" มือใหญ่ออกแรงบีบรัดคอนางกำนัลหน้าหวานจนขึ้นสีแดงกร่ำ
เสี่ยวลู่หานไขว้คว้าอากาศหาย
น้ำตาหยดสองข้างแก้มอย่างน่าสงสาร
'ไม่มีเลยความสงสาร มีเพียงสายตามาดร้ายของสัตว์'
'นี่หรือผู้วิเศษ ผู้ที่สืบเผ่าพันธุ์มาจากพระอาทิตย์'
คยองซูที่มองภาพนั้นผ่านดงไม้ ได้แต่ตกใจแทบสิ้นสติ
ภาพการร่วมรักอย่างรุนแรงของคู่หมั้น และนางกำนัลคนสนิท
คยองซูขยับปีกบินอย่างไม่คิดชีวิต สายน้ำตาไหลหลั่งไม่ขาดสาย
นางกลัวเสียจนไม่รู้ว่าตนกำลังจะไปไหน...จนรู้ตัวอีกทีทึกด้านรอบวรกายก็มืดสนิท
'หลงป่า'
"ฮึก...ท่านแม่ช่วยลูกด้วย ฮื่อๆๆๆ..."
เสียงดนตรีช่วยเคลิ้มฝันยามวิกาล คยองซูกระพริบตาอย่างยากลำบาก
ขนตาสวยถูกเกาะไปด้วยหยดน้ำตา
ทางสุดท้ายคือต้องเดินตามเสียงดนตรีนั้นไป แสงสีของต้นไม้ยามค่ำคืนกระทบกับแสงจันทร์ แลดูสวยงามไปหมด
ชายร่างสูงหน้าตาดี2ตน กำลังนั่งบรรเลงเพลงป่ายามค่ำคืนอยู่หลังต้นโก่งขนาดใหญ่
"ท่าน...ข้าหลงทางพอจะช่วยข้าได้หรือไม่"
เสียงดนตรีหยุดลงชายหนุ่มรูปงามทั้งสองมองตากันอย่างมีเลศนัยน์
ชายหนุ่มร่างสูงคมเข้มผมถูกมวยไว้ตนแรกแลบลิ้นเลียปากอย่างหื่นกระหาย มันจับข้อกรนางหงษ์ไว้
ส่วนอีกตน มันส่งมือลูบไล้กายบางอย่างหยาบโลน
"พี่จะพาเจ้าไปสวรรค์เองชะแม่คนงาม..ฮ่าๆๆๆๆๆ"
นางหงษ์ออกแรงสะบัดตัวก่อนจะวิ่งกึ่งบินหนีเจ้าคนธรรพ์หยาบโลนทั้งสอง
นางมองทางเบื้องหน้าสลับกับมองคนธรรพ์ร่างสูงใหญ่อย่างระแวงระวัง
'ตุ๊บ'
ต้นไม้ที่ไม่เคยอยู่ในเส้นทางปรากฎกายอยู่กลางทาง
คยองซูวิ่งชนต้นไม้นั้นเขาอย่างจัง นางล้มลงข้อเท้าพลิก ปีกน้อย ๆ ไม่สามารถขยับบินได้
ต้นไม้แต่เดิมทีนั้น เปลี่ยนร่างเป็นชายหนุ่มรูปร่างบึกบึนอีก 2 ตน
ร่างบางถูกล้อมรอบไปด้วยคนธรรพ์ แลเทพารักษ์หนุ่มกว่า4ตน
นัยน์ตาแต่ละตนแสดงความหื่นกระหายอย่างปิดไม่มิด แม่นางน้อยร้องไห้ปานจะขาดใจ
ปีกทั้งสองสีทองโอบล้อมร่างกายบางมิให้ถูกสายตาอันแสนหยาบโลนละเมิด
แสงสว่างจ้า ปรากฎร่างหมาป่าที่คุ้นเคย...
ก่อนจะได้สติอีกทีคยองซูก็มาอยู่ที่นี่แล้ว
น้ำตารินไหล...นึกเสียใจระคนหวาดหวั่น
'ป่านนี้เสี่ยวลู่จะเป็นยังไงบ้างนะ...'
'หมับ'
แขนอุ่นกอดรอบเอวทำร่างบางสะดุ้ง นางดิ้นรนตัวสั่นเทา
"คยองซู เฮ้ มองสิพี่เองเจ้าจะกลัวไปไย...สุดใจของพี่"
.
.
.
'หมับ'
แขนอุ่นกอดรอบเอวทำร่างบางสะดุ้ง
นางดิ้นรนตัวสั่นเทา
"คยองซู เฮ้ มองสิพี่เองเจ้าจะกลัวไปไย...สุดใจของพี่"
เสียงนุ่มทุ้มกระซิบข้างหู มือหนาออกแรงดึงผ้าห่มสีมอซอออก เผยให้เห็นนางหงส์ตัวน้อยขดตัวนอนตัวสั่น ใบหน้าสวยขาวซีด ดวงตากลมโตที่เขาแสนจะหลงรักมีประกายแห่งความหวาดกลัว และสิ้นหวัง เมื่อเห็นดังนั้นแล้วชายหนุ่มก็ถอยร่างออกมาให้ห่างจากนางเพียงที่จะพอพูดคุยกันได้ยิน
"แบคฮยอน! แบคฮยอน! เข้ามาสิ...คยองซูเจ้าพอจะจำเพื่อนรักของเจ้าได้หรือไม่ พี่จะให้เขาดูแลปฐมพยาบาลเจ้า จะยอมรับให้น้องพี่ดูแลเจ้าได้ใช่ไหม"
ร่างบางที่เดิมทีนอนขดตัวอยู่นั้น นางกระเด้งตัวขึ้นมาในทันที ตัวตาที่เคยหวาดหวั่นกลับทอประกายสดใสขึ้นอีกครั้ง
"เพคะ..."
คำตอบรับและท่าทางนั้นอดที่จะทำให้ชายหนุ่มยิ้มขึ้นมาไม่ได้
แบคฮยอนวิ่งเข้ามาในห้อง 'เด็กไม่รู้จักโต'คงใช้ได้ดีกับร่างบางที่ดูแสนจะท้วมสมบูรณ์คนนี้
"คาาาายองงงซู คิดถึงจังเลยชะแม่ โตขึ้นทำไมเจ้าถึงงามได้ขนาดนี้นะ..."
แบคฮยอนถลาตัวไปนั่งเคียงข้างคยองซูบนเตียงไม้หลังเล็ก
มือนุ่มนิ่มขององค์ชายรัชทายาทอันดับ2 เมืองหมาป่าลูบเส้นผมสีดำสนิทของนางหงส์เล่นพลางกล่าว
"อะฮึ่ม นางป่วยและพี่ให้เจ้ามาปฐมพยาบาลนางแบคฮยอน..."
"ชิ..หวงไปได้..."
ร่างบางเกือบท้วมบ่นกระปอดกระแปด ลงมือตรวจดูอาการขององค์หญิง และแน่นอนว่าทุกขั่นตอนของการตรวจ
'อยู่ในสายตา'องค์ชายรัชทายาทอันดับ1 เมืองหมาป่าผู้เป็นพี่ชายทั้งหมด
"โอ้ยย บยอนน อื้ออ คยองเจ็บ..."
เพียงแค่เสียงหวานร้องด้วยความเจ็บปวด จากการที่เพื่อนรักจับปีกน้อยๆยกดูอาการ
องค์ชายจงอินถึงกับอยู่ไม่สุข มือใหญ่เอื้อมไปปัดมือน้องชายออก
แบคฮยอนถึงกับเซเล็กน้อย ก่อนจะสะบัดหน้าดุใส่พีี่ชายให้ออกห่างจากการรักษา
คยองซูเห็นแบบนั้นก็อดขำสองพี่น้องไม่ได้
"ท่านพี่จงอิน น้องเพียงเจ็บเล็กน้อย อย่าทรงวิตกนักเลยเพคะ คิกคิก โอ้ยย บยอนเบามือหน่อยสิ..."
คยองซูบอกให้องค์ชายหมาป่าสบายใจได้ไม่ถึงอึดใจ แต่สุดท้ายก็ร้องโอดครวญอ้อนเพื่อนรักในวัยเยาว์จนได้
"ทนหน่อยสิคยอง ท่านพี่ น้องขอลูกประครบหน่อยสิเท้าคยองแพงต้องประครบยา..."
"ไม่มี..."
"งั้น...เอาผ้าขาวบางสะอาดห่อก้อนหินก็ได้ขอรับ"
"ไม่มี..."
"จิ๊ งั้นไปเก็บสมุนไพรในป่าหลังกระท่อมมาสิท่านพี่"
"ไม่มี..."
"ท่านพี่! กวนประสาทข้าหรือไร ไม่อยากให้คยองหายหรอขอรับ"
ดูเหมือนว่าองค์ชายร่างอวบจะโมโหกับความกวนประสาทของพี่ชาย
ชายหนุ่มผู้เป็นพี่ยังตีหน้าครึ้ม มุมปากยกยิ้มอย่างกวนประสาท เขาสาวเท้าเข้าไปใกล้เตียงนอนก่อนจะเอื้อนเอ่ย
"แบคฮยอนน้องรักของพี่ กลับเข้าเมืองไปเอายามาให้นาง...รีบกลับมาละ ฮ่าๆๆๆ"
ร่างเล็กน่ารักนั่งนิ่งอยู่บนเตียง โดยมีองค์ชายหมาป่านั่งอยู่ปลายเตียง
"เซฮุนนี่มันขี้โกงไม่เปลี่ยนแปลง น้องเองก็โชคร้ายมามากเยี่ยงไรก็...พักวรกายอยู่กับพี่ก่อนหายเจ็บหายป่วยแล้วค่อยกลับบ้านเมืองหงษ์ของเจ้า"
"ขอบพระทัย น้ำใจของท่านพี่มากนะเพคะ ช่วยสงเคราะห์ลูกหงษ์ตัวโตอย่างหม่อมฉัน"
รอยยิ้มงดงามเผยออกช้าๆ
'คยองซูวัย 12ปี กับคยองซูวัย22 ไม่ต่างกันเลยแม้แต่ปลายนิ้ว'
"ฮ่า ๆ โตแล้วรึ เจ้ายังดูเหมือนเด็กน้อยใต้ต้นโดร่าไม่มีผิด"
ร่างบางชะงักค้างทันทีเมื่อได้ยินชื่อ 'ต้นโดร่า' ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารสจูบของท่านพี่หน้าคมยังตรึงในความรู้สึก และดวงใจ
ใบหน้าทีี่เคยขาวซีดจากฤทธิ์ไข้กลับแดงกร่ำอย่างช่วยมิได้
"พี่พูดอะไรผิดรึป่าวเจ้า ทำไมเงียบไปละ"
ร่างสูงเขยิบเข้าใกล้ ก้มมองใบหน้าหวานของนางหงส์แรกรุ่น
"ปะ เปล่าเพคะ..."
"ฮ่าๆๆๆ ใต้ต้นโดร่าวันนั้น...ชะแม่ของพี่น่ารักยิ่งนัก"
เหมือนยิ่งหนีก็ยิ่งต้อน...ยิ่งหลบ ยิ่งก้มหน้า ก็ยิ่งน่าแกล้ง
ร่างบางยกผ้าห่มสีมอซอขึ้นปิดหน้า เหลือไว้เพียงดวงตากลมโตกระพริบปริบๆ
องค์ชายหมาป่าเขยิบเข้าใกล้ร่างบางอย่างหย่ามใจ มือหนาแข็งแรงออกแล้วดึงผ้าห่มลงจากการปกปิดใบหน้าหวาน
"ปิดหน้าทำไมละเจ้า ใบหน้างามๆอย่างนี้ ขอพี่มองใกล้ ๆ เถิด"
"มะ หม่อมฉัน...อายเพคะ"
"อายหรอเพคะ ฮ่าๆๆๆ อย่าอายเลยเจ้า หิวแล้วใช่หรือไม่"
"เพคะ..."
"รอสักเดี๋ยว พี่จะหาข้าวหายาให้เจ้าเอง"
พูดพลางสาวเท้าเดินออกจากห้องภายในกระท่อมหลังเล็ก ทิ้งไว้เพียงแต่องค์หญิงหงษ์ตัวน้อยนั่งหน้าแดงกร่ำอย่างเขินอาย
"ไหนท่านพี่กล่าวว่าไม่มียาอย่างไรเล่า คิกๆ..." พรึมพร่ำกับตัวเองอย่างอารมณ์ดี
ไข้ที่จับกายอยู่ในยามเช้าแทยจะหายไปกับสายลมอุ่นที่พัดในดินแดนเขตร้อนนี้เสียแล้ว
"อาหารนี้แบคฮยอนเป็นคนปรุง พี่ไม่มีปัญญาทำอะไรแบบนี้ให้เจ้ากินได้หรอก มาสิพี่จะป้อนเจ้าเอง"
"เป็นพระกรุณา แต่น้องเจ็บที่ข้อเท้าและปีก ยังคงใช้มือได้เป็นปกติ"
ร่างบางเอื้อนเอ่ยอย่างเกรงอกเกรงใจ ได้ยินเช่นนั้นแล้วชายหนุ่มร่างสูงก็ออกแรงรวบมือนางหงษ์ทั้งสองข้างด้วยมือซ้ายจัดการตักอาหารจ่อปากสวยอมชมพู แม้จะดูซีดเซียวอยู่บ้างแต่ก็ยังน่าลิ้มลองอยู่เช่นเคย
"หว่า เจ้าไม่มือซะแล้วสิชะแม่ แบบนี้พี่ป้อนเจ้าได้รึยังจ้ะ"
"ฮ่าๆ คนเจ้าเล่ห์"
ปากน้อยอ้ารับข้าวต้มเข้าปาก ดวงตาทั้งสองคู่ผสานกันอมยิ้มอย่างมีความสุข
"รู้นะ! ไอ้พีี่บ้าว่าจะไล่น้องชิ!"
หลังจากพาตัวเองออกมาจากบรรยากาศหวาน ๆ จากสายตาของท่านพี่จงอินที่ส่งให้องค์หญิงหงษ์คยองซูได้แล้ว
แบคฮยอนก็เดินเตร่ เอาท่อนไม้ตีต้นไม้สูงใหญ่ ใบสีเขียวอ่อนเหมือนเปลือกมะนาวสดใสตลอดทั้งต้น
แบคฮยอนมั่วแต่หัวเสียเสียจนไม่ทันเห็นความผิดปกติข้อนี้
"คิดว่าเจ็บหรือไม่..."
เสียงแว่วผ่านลมดังอย่างไม่ใกล้ไม่ไกลทำเอาร่างบางสะดุ้งแต่ด้วยความโมโห ร่างบางออกท้วมขององค์ชายรัชทายาทอันดับ2 จึงเลือกจะมองผ่านไปอีกครั้ง
"หึ อย่าให้มีคนรักบ้างแล้วกันนะ! ข้าจะหวานแข่งกับท่านพี่ให้ดู"
"แล้วอยากมีไหมละ..."
เสียงนุ่มแผ่วนั้นดังอีกครั้ง ร่างบางกลับหลังหัน ใบหน้าหวานมองไปรอบอย่างหวาดหวั่น
"ใครน่ะ...ออกมานะ!"
'ตึกกกก ตึกกก'
เสียงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินเบื้องหลังทำให้แบคฮยอนกลับหลังหันอีกครั้ง
ต้นไม้ใบสีเขียวมะนาวเมื่อครู่หายไป
...
..
.
ปรากฏร่างชายหนุ่มร่างสูงสะอาดสะอ้าน ทรงผมเรียบแปร้แทรกข้างสีทองยาวปิดหูปะบ่าเครื่องทรงสีขาวตั้งแต่หัวจรดเท้า
ใบหน้าหล่อเหลา หูกางเล็กน้อย กับรอยยิ้มกว้างแลดูเหมือนคนภาคภูมิใจบางสิ่งอยู่ตลอดเวลา
"สวัสดีเจ้าหมาน้อย..."
"จะ เจ้า..หูกาง เจ้าเป็นใคร!! จะมาปล้น ฆ่า หรือทำร้ายข้า"
แบคฮยอนกระโดดเข้าใส่ชายหนุ่มร่างสูงเบื้องหน้า
มือบางหยิบไม้ขึ้นตีอีกคนไม่ยั้ง ปากก็บ่นด่าต่างๆนานา ว่าร่างสูงเบื้องหน้าจะทำร้าย
"พับผ่า! พับผ่า! ฟังข้า แบคฮยอน นี่!ฟังก่อน ข้าเป็นเทพารักษ์ ไม่ฆ่าคน! ไม่ฆ่าสัตว์!"
ชายหนุ่มตะคอกใส่ร่างบางด้านหน้า ออกแรงฉุดกระชาก ดึงไม้ในมืออีกคนก่อนจะหักมันทิ้งลงพื้น
แบคฮยอนหอบหายใจมองอีกคนนิ่ง
"รู้นามข้าได้อย่างไร...เจ้าเป็นเทพารักษ์รึ"
"ข้าเห็นเจ้าตั้งแต่วิ่งแก้ผ้ากับพี่ชายเจ้าตอนหัดกลายร่าง ข้าอยู่แทบนี้มาหลายร้อยปีแล้ว...นามของข้าคือปาร์คชานยอล"
แบคฮยอนได้ฟังก็ถึงกับแก้มแดงกร่ำ แสร้งกระฟึดกระฟัดเดินหนี
"โมโหอะไรองค์ชายจงอินมารึ..."
"เราไม่รู้จักกันเจ้าเทพารักษ์หูกาง...อย่ามายุ่งเรื่องของข้า"
"เอาน่าหมาน้อยระบายมาเถอะ เมื่อกี้ข้าได้ยินว่าเขาไล่เจ้านิ"
"ก็ใช่น่ะสิ! ไล่ข้าให้ไปเอายาให้องค์หญิง...อุ๊บ!"
ร่างบางรีบคว้าปากตัวเองไม่ให้เผลอพูดอะไรออกไปมากกว่านี้
'แบคฮยอนน้องพี่ อย่าได้บอกใครว่าองค์หญิงคยองซูอยู่กับพี่ ขอพี่ชดเชยความรู้สึกที่หายไปของพี่กับนาง ช่วยพี่เถิดน้องพี่...แล้วพี่จะส่งนางกลับเอง'
เมื่อคิดได้ถึงคำพูดพี่ชายก่อนจะออกมาจากกระท่อม แบคฮยอนก็ได้แต่ตบปากตัวเอง
'ปากสว่างจริงนะบ้าเอ้ย...'
"องค์หญิง หื้ออ องค์หญิงหงษ์คยองซูสินะ ป่าฝั่งเหนือพี่น้องเทพารักษ์เขาพูดกันให้แซดว่าองค์หญิงหายตัวไป อ๋อ...อยู่กับพี่ชายเจ้านี่เอง"
ชานยอลพูดพลางเดินไปรอบตัวรางบางที่ก้มหน้านิ่ง เหลือกตามองร่างสูงตรงหน้าอย่างเครียดแค้น
"ต้องการสิ่งใด..."
"คำถามนี้ดีต้องการอะไร พี่ก็แค่ต้องการจะไปเที่ยวเล่นในเมืองวอนเจ้าเป็นมัคคุเทศก์ตัวน้อยพาพี่ไปเที่ยวชมทีนะจ้ะหมาน้อย.."
Next to Part3
Talk :
ตอบคำถาม มานพแปลว่าชายหนุ่มค่ะ
แบคฮยอนเขียนผิดคัด100จบส่งท่านผู้อ่าน ขอโทษน้า
ดีใจกับคอมเม้นมาก กับฟิค #หงส์ขาว
มีคนบอกเราใช้ภาษาอ่านยากอันนี้ขอโทษค่ะ
เกี่ยวกับเนื้อเรื่องจะพยายามมีครบรสคือหวาน ตลก ดราม่า ท่านผู้อ่านแนะนำว่าสั้นไปอันนี้จะเพิ่มเติมค่ะ
ชานยอลออกมาละนะคะ มาขำโดยเฉพาะเลยตัวนี้ คู่นี้จะเป็นสีสันมากค่ะ
ขอบคุณน้องมินาจัง น้องไชโยมาก
มีพระคุณกับพี่มากลูก
อย่าลืมแท็กพูดคุย-สอบถามในทวิตนะจ้ะ
แท๊ก #หงส์ขาว ผู้เขียนอ่านอยู่ อิอิ
Talk : ตอนที่ 2 แล้ว เราตั้งใจเขียนมากเลยค่ะ พยายามอัพไวไว
เราไม่ทราบว่าเออมีใครรอไหม เราเคยติดฟิคมาก่อน รู้อารมณ์ว่าแบบอยากอ่านต่ออ่ะเนอะ
เราดีใจมากคือมี1คอมเม้นให้กำลังใจคือขอบคุณมากจริงๆนะคะ มันมีไฟเลยละ
มี8แฟนคลับ คือไม่แน่ใจว่าคืออะไรแต่ขอบคุณมากเลยจริงๆค่ะ
ตอนเราอ่านฟิคเราก็ไม่ค่อยเม้น เข้าใจว่าแบบอ่าน ๆ จบ ๆ แต่ท่านผู้อ่านคะ
"1คอมเม้นของท่านคือกำลังใจจริงๆ"
รักคนอ่าน ช่วยสนับสนุนเราต่อไปด้วยนะคะ
:) Shalunla
ความคิดเห็น