ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (RE-Write) EL DORADO - kaido #หงส์ขาว

    ลำดับตอนที่ #7 : EL DORADO - Part 7

    • อัปเดตล่าสุด 31 ก.ค. 57













    Part7

     

     

     

     

     





     

     

     

    El   Dorado

     

     

     





     

     

     

     

    "อื้อ ช่วงนี้ติดสัตว์ แล้วหนักหัว กิ่ง ก้าน หรือใบนายรึป่าว"แบคฮยอนเดินสะดีดสะดิ้งนำเทพารักษ์หนุ่มไปยังกระท่อมที่อยู่ของพี่ชายของตน

     

    "ไม่หนัก...แค่อยากช่วย"

     

    แบคฮยอนชะงักเท้าเล็กน้อย ใบหน้าสวยหวานแดงกร่ำ 

    'บ้าน่าใจเต้นอะไรกัน'

     

    "ทะลึ่งตึงตัง...สงบปากเจ้าเถิดแล้วเดินตามมา"

     

    องค์ชายน้อยตกหลุมรักเขา ใช่ชานยอลรู้ นี่สินะ เด็กไม่เคยออกจากบ้าน พอมีคนมาเอาอกเอาใจเสียหน่อยก็ตกหลุมรักง่ายดาย เทพารักษ์หนุ่มยกยิ้มก่อนจะแกล้งคนหน้าสวยโดยการกอดจากข้างหลังอย่างแนบแน่น

     

    "พี่ทะลึ่งแล้วเจ้าชอบพี่รึไม่...อย่าขัดขืนถ้าทำไปเพียงแค่เขินอาย หรือหัวดื้อ"

    แบคฮยอนชะงักทันทีที่ชายหนุ่มดักคอ  องค์ชายตัวน้อยสะบัดหน้าฟึดฟัดไม่ชอบที่ตนต้องตกเป็นรองของคนอื่น

     

    "พี่รู้นะแบคฮยอนว่าเจ้าคิดยังไงกับพี่..."

     

    ชานยอลกระหยิ่มใจมือไม้เริ่มลูบคลำไปทั่วร่างบางอวบอัดนั้นอย่างใจเย็น

    'เด็กหนอเด็ก องค์ชายน้อยผู้ไร้เดียงสา คงไม่เคยผ่านมือชายใดแค่ลูบคลำขนก็ลุกเกรียวเสียแล้ว หึหึ'

    ชานยอลก้มลงซุกซอกคอหอมละมุน เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าองค์ชายหมาป่าจะหอมได้เพียงนี้

    มือข้างขวาล้วงเข้าไปบีบขย้ำหน้าอกแบคฮยอนอย่างถือดี ส่วนมือข้างซ้ายก็กำลังควักล้วงสิ่งในร่มผ้าใต้กางเกง

     

    "หอมเสียจริงองค์ชายน้อย อื้ออ~"

     

    ชานยอลหอมแก้มฟอนฟัดแบคฮยอนอย่างถึงอารมณ์ แล้วก็ต้องชะงักตกใจ เมื่อสัมผัสได้ถึงน้ำใสใสท่ีไหลออกมาเป็นทางข้างแก้มนวล

    แบคฮยอนนิ่งเฉย ยอมยืนให้เขาทำอนาจาร

    'สายตาแน่นิ่งทอดไกล และน้ำพระเนตรเท่านั้นที่รินไหล'

     

    ชานยอลระมือออกจากใต้ร่มผ้า ก่อนจะดึงองค์ชายคนสวยเข้ามากอดอย่างถนอม

     

    "รู้ดี ว่าใจผู้อื่นเป็นเช่นใดแต่ก็ยังสนุกที่จะเล่นกับมัน...สนุกนักรึเล่นกับความรู้สึกข้าน่ะ"

     

    แบคฮยอนพูดเสียงเรียบนิ่ง องค์ชายน้อยในตอนนี้ช่างดูแตกต่างจากองค์ชายอารมณ์ดีที่ชานยอลรู้จักมาก

     

    "พี่ขอโทษ..."

     

    "เก็บคำขอโทษของพี่ไว้เถิด แก้วใสในใจข้ามันแตกเสียแล้ว"

     








     

     

    "อาหารง่ายๆหวังว่าท่านพี่คงพอเสวยได้"

     

    คยองซูจัดสำรับอาหารที่ทำจากผัก และปลา 2อย่างลงบนโต๊ะไม้หน้ากระท่อม คยองซูเองนั่นละที่ขอร้องให้สวามีตอกโต๊ะ เก้าอี้เหล่านี้ขึ้น เพื่อใช้สำหรับนั่งเสวยด้วยกัน

     

    "กินได้อยู่แล้วละ เจ้าทำให้พี่นิ หมับ! อื้อ อย่าดิ้นน่าชะแม่ นั่งป้อนพี่แบบนี้ละ"

     

    มือใหญ่ออกแรงดึงตัวน้อยให้นั่งคร่อมตักของตน แม้ทั้งคู่จะอยู่ในสภาพเครื่องแต่งกายเรียบร้อยครบครันแล้ว แต่จงอินก็ยังอยากอยู่ใกล้แนบชิดกับนางอยู่ดี เขาเขาถกชายผ้านุ่งนางให้สั้นขึ้นอีกทุกครั้งที่นางหันหลังเอี้ยวตัวไปตักอาหาร

     

    "ท่านพี่ อย่าซนนักสิเพคะ น้องลำบากมากเลยนะ! นั่งท่านี้..."

     

    คยองซูตักกับใส่จานเป็นจำนวนมากเพื่อจะได้ไม่ต้องเอี้ยวตัวบ่อยๆ นางบ่นเบาๆตลอดเวลา และจงอินก็มองว่ามันน่ารักดี จงอินลูบไล้ขาอ่อนนางไป กินข้าวไป เพลินตากับใบหน้าสวยหวาน หอมกลิ่นด้วยเส้นผมและกายของนางคิดเท่านี้เขาก็แทบรอให้รัตติกาลมาเยือนมิไหว อยากชมโฉมนางเสียเหลือเกิน

    หลังจากเมื่อวานเขาพานางกลับมาที่กระท่อมแห่งนี้ได้ เขาก็อดรนทนไม่ไหวเชยชมนางไปอีก2รอบ

    จงอินรู้ว่านางเหนื่อยอ่อน แต่เพียงแค่เดือนนี้เท่านั้นที่เขาจะมีอารมณ์รักหนักหน่วงถึงเพียงนี้ จงอินล้วงมือผ่านชายผ้านุ่งนางไปลูบไล้หน้าท้องเนียนแบน สายตาที่เคยร้อนแรงค่อยๆสงบและอ่อนโยน

    คยองซูละมือวางจานข้าวบนโต๊ะไม้ นางกอดรอบคอจงอินไว้หลวมๆ สายตาทั้งคู่ทอดมองกันอย่างรักใคร่

     

    "เจ้าต้องมีบุตรให้พี่...มีบุตรชายที่แข็งแรง และลูกสาวที่งดงามเยี่ยงเจ้า"

     

    "คนเดียวไม่พอหรือไรกัน..."

     

    "พี่ตั้งใจจะมีเจ้าคนเดียว ไม่มีสนม หรือนางใดๆอีก ดังนั้นเจ้าก็ควรมีบุตรให้พี่สัก5คน"

    คยองซูเบิกตาโต จงอินขำขันกับท่าทางของนาง จมูกโด่งซุกไซร้หน้าอกนางอย่างเพลินใจ

     

    "ลูกของพี่จะต้องกินนมของแม่หงส์น้อย.."

     

    ....

     

    "ทำลูกเขาท้องน่ะคิดขอพ่อ ขอแม่เขาแล้วรึองค์ชาย"

     

    เสียงนุ่มหวานจากป่าข้างๆส่งเสียงดุอย่างไม่จริงจังนัก คยองซูอมยิ้มสวยลุกขึ้นจากตักของชายหนุ่มวิ่งไปทางต้นเสียงนั้นจงอินมองอย่ามาดร้าย ใครกันกล้ามาสั่งสอนเขา จงอินกระชากมือนุ่มเนียนของคนรักให้พลิกมาอยู่ด้านหลัง

     

    "ท่านพี่นั่น..."

     

    "เจ้าเป็นใครกล้ามาสั่งสอนข้า!"

     

    ต้นไม้งามต้นหนึ่งสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงก่อนที่รากจะค่อยหดร่างกลายเป็นสตรีผู้สูงศักดิ์ในชุดผ้าไหมสวยงาม

     

    "ข้าคือคิมแจจุง มารดาขององค์หญิงคยองซู เจ้ามีปัญหาอันใดรึปล่าวองค์ชายคิมจงอิน"

     

    "หม่อมฉันหาได้มีปัญหาใดกับท่านแม่ไม่..."

     

    เสียงที่เคยแข็งกร้าวค่อยอ่อนลงจนดูน่าขัน จงอินนั่งลงคุกเข่าทำความเคารพราชินีแจจุง ส่วนคยองซูก็วิ่งอย่างรวดเร็วมากอดมารดาของตนไว้

     

    "แม่คิดถึงเจ้า กลิ่นที่ต่างออกไป...องค์ชายลุกเถิด เราคงมีเรื่องต้องคุยกัน"

     

    "เกิดเรื่องใดขึ้น ท่านพี่ใยนั่งคุกเข่าเช่นนั้นกันเล่า"

     

    แบคฮยอนที่เพิ่งเดินทางมาถึง รีบวิ่งไปกอดไหล่พี่ชายอย่างห่วงใย

     

    "นี่คือท่านแม่ของข้าไงกันเล่าแบคฮยอน...จำได้หรือไม่"

     

    "ท่านป้างั้นรึ...จำได้ แหม ใครกันจะจำไม่ได้ขอรับ"

     

    แบคฮยอนเดินเข้าไปออดอ้อนทันที ครั้นในวัยเยาว์นั้น แบคฮยอนสนิทกับแจจุงมาก เพราะองค์ราชินีมักมีขนมมาแจกเสมอ

     

    รวมทั้งในวันนี้ด้วย...แจจุงแบมือออกก่อนมอบขนมวิเศษสีทองระยิบระยับให้แบคฮยอน

     

    "ขนมเพื่อสหายวัยเด็กขององค์หญิงลูกข้า"

    แบคฮยอนยิ้มสดใส มือน้อยๆตะกุยแขนราชินีแจจุง 

     

    'หมาน้อยก็คือหมาน้อย ไม่ต่างจากที่ชานยอลบอกเลยสักนิด'

     

    องค์ราชินีคิดก่อนจะหันไปเหลือบมองชายหนุ่มร่างสูงใหญ่อีกคนที่กำลังเดินเข้ามาในสถานการณ์วุ่นวายนี้

     

    "นี่คือชานยอล...สหายข้า"

     

    แบคฮยอนแนะนำโดยไม่มองหน้าสหายที่ตนพูดถึงเลยทีเดียว

     

    "เอาละองค์ชายเก้าอี้ที่เจ้าตอกน่ะมีเพียง4ตัว แต่เรามีแขกมาเพิ่ม รวมแล้ว5คน ข้าควรนั่งพื้นงั้นรึ"

    องค์ราชินีพูดทีเล่นทีจริง แบคฮยอนและคยองซูพากันขำเกรียวมีจงอินผู้เดียวเท่านั้นที่หน้าซีดเผือก

     

    "มิได้ขอรับท่านแม่..."

     

    จงอินลุกขึ้นวิ่งไปเลื่อยไม้อย่างแข็งขัน โดยมีชานยอลเดินยิ้มหน้าบานไปช่วยเลื่อยไม้

     

     

     

    "ท่านป้าเชิญนั่งพักเสียก่อนเถิด หลานแสนจะคิดถึงท่านป้านักขอรับ"

    แบคฮยอนเชื้อเชิญแจจุงให้นั่งแคร่ใต้ต้นไม้ แจจุงลูบต้นไม้ใหญ่นั้นเหมือนทักทายก่อนจะนั่งลงที่แคร่

     

    "แบคฮยอนหลานป้าช่างเจรจาเหมือนเดิมไม่มีผิด"

    แจจุงลูบผมแบคฮยอนที่ยังตะกุยแจจุงไม่หยุด คยองซูนั่งข้างๆท่านแม่ของตนก่อนจะมองไปที่จงอินอย่างห่วงๆ

     

    "คยองซู...แม่จะขอถามเจ้าตรงๆและคิดว่าเจ้าจะตอบแม่ตามจริง..."

     

    "เพคะ..."

     

    "ตกเป็นของเขาแล้วใช่หรือไม่ ลูกเป็นชายาขององค์ชายใหญ่แล้วใช่หรือไม่..."

    คยองซูก้มหน้าลงอย่างหนัก เกิดมาคยองซูไม่เคยโกหกท่านแม่เลยสักครั้ง

     

    "เพคะ ลูกเป็นของท่านพี่จงอินแล้ว.."

    องค์ราชินีมองหน้าลูกอย่างไม่บ่งบอกอารมณ์ ส่วนแบคฮยอนก็กัดปากอย่างไม่พอใจนัก

     

    "ท่านพี่นะท่านพี่ หึ!"

     

    "เอาละคยองซู แม่กับพ่อเจ้าเดาไว้แล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้.."

     

    มือบางนุ่มนวลออกแรงลูบผมยาวสีดำขลับนั้นอย่างเอ็นดู

    คยองซูก้มหน้าลงร้องไห้สะอื้น 

     

    "ลูกผิดเอง ลูกทำให้ท่านแม่อับอาย..."

     

    "ไม่เลยเจ้า ลูกของแม่...ลูกกับองค์ชายใหญ่รักกันมานาน อายุของเจ้าก็ควรออกเรือนกันได้นานนมแล้ว ไม่ผิด และไม่แปลก"

     

    คยองซูร้องไห้ นั่นยิ่งทำให้จงอินรู้สึกโมโห เขาตอกตะปูตัวสุดท้ายก่อนจะรีบเดินดุ่มเข้าเฝ้าองค์ราชินีที่ใต้ต้นไม้อีกคน ทิ้งไว้แต่เทพารักษ์หนุ่มนั่งเล่นกับตัวด้วงพลางขัดไม้ ขัดเก้าอี้

     

    "ขออภัยขอรับท่านแม่...คยองซูมาหาพี่ เจ้าร้องไห้ทำไมกัน"

     

    จงอินรับคยองซูมากอดแนบอก เขาจูบบางเบาที่เส้นผมของนาง

     

    "แม่แค่ถามว่านางตกเป็นของเจ้าแล้วรึ เพียงเท่านั้นนางก็เอาแต่ร้องไห้..."

     

    "หม่อมฉันขอพระราชทานอภัย แต่ ณ เพลานี้น้องได้ตกเป็นของหม่อมฉันแล้ว หม่อมฉันผิดเองที่ไม่ห้ามใจ ท่านแม่ขอจงโปรดพระราชทานอภัยแก่เรา"

     

    "ข้ามิได้ใจร้ายถึงเพียงนั้น และที่ข้ามา ก็ต้องการจะมาช่วยให้เจ้าได้สมหวัง คยองซูลูกจะกลัวไปใย แต่เล็กจนโตแม่เคยตีเจ้ารึ"

     

    องค์ราชินีถามอย่างใจดี ใบหน้าสวยหวานอมยิ้มมององค์หญิง แลองค์ชายสลับกันไปมา

     

    "เก้าอี้ตอกเสร็จเรียบร้อยแล้ววอนท่านแม่เสด็จพระราชดำเนินประทับ"

     

    จงอินพูดอย่างดีใจ ทุกคนพากันในล้อมวงที่โต๊ะกินอาหารใต้ชายคากระท่อม โดยมีองค์ราชินีแจจุงเป็นประธานนั่งหัวโต๊ะ

     

     

     

     

     

     

    '3วัน ก่อน

     

    "ข้าหมดความไว้เนื้อใจท่านชายแล้ว...มีสิ่งใดจะพูดก็เชิญ"

     

    องค์ราชายุนโฮประทับนิ่งบนบัลลังก์หงส์ ขนาบข้างด้วยราชินีแจจุงผู้งดงาม

     

    "ข้าจะเดินทางตามหาน้อง หากใน 1 เดือนนี้ข้าหานางไม่เจอข้าขอเป็นผู้ถอนหมั้น แลมอบเงินทองให้เมืองหงส์ตามที่ตกลงว่าจะแต่งงานกันแต่แรก"

    องค์ราชายุนโฮหลับตานิ่ง...ก่อนจะเอื้อนเอ่ยสุรเสียงทรงอำนาจให้โอเซฮุนขนลุกขนชัน

     

    "1เดือนหากยังหานางไม่เจอ อย่ามาเหยียบเมืองข้าอีกท่านชายเซฮุน"

     

    เซฮุนมองพระพัตร์องค์ราชาแน่นิ่ง ก่อนจะสะบัดมือรีบออกจากท้องพระโรงไปในทันที

     

    "แจจุง เรียกเสี่ยวลู่หานมาที"




     

     

     

     

    ห้องเสวยน้ำชา

     

    "เสี่ยวลู่หานพร้อมถวายงานองค์ราชา องค์ราชินี"

     

    เสี่ยวลู่หานถวายคำนับ ยืนก้มหน้าแน่นิ่งเพียงครู่ ก่อนจะไปรินน้ำชาถวาย

     

    "เจ้าเองงามนักเสี่ยวลู่หาน งามเหนือคยองซูลูกข้าเสียอีก เหตุใดยังไม่มีคนรัก"

     

    องค์ราชาพูดอย่างเอ็นดูก่อนจะหันไปเสวยรับขนมที่องค์ราชินีแจจุงป้อนถวาย

     

    "หาไม่เพคะ หม่อมฉันอยากอยู่กับองค์หญิง..."

     

    "งั้นรึเจ้าอีกไม่กี่เดือนนางก็จะเสกสมรสแล้ว เจ้าจะตามนางไปอยู่เมืองผู้วิเศษรึ?"

     

    องค์ราชาพูดต่อ สายตาแน่นิ่งนั้นทำเอาเสี่ยวลู่หานแทบกระดิกไปไหนไม่ได้

     

    'พระองค์ทรงรู้อะไรมารึป่าวนะ'

     

    "หม่อมฉันพร้อมถวายงานองค์หญิงจนหาไม่เพคะ..."

     

    "ท่านชายเซฮุนด้วยรึป่าวเสี่ยวลู่หาน"

     

    .....

    ......

     

    เงียบ เสี่ยวลู่หานเลือกที่จะเงียบ ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยเหงื่อ เสี่ยวลู่หานนางรักองค์ราชา ราชินี และองค์หญิงราชนิกูลหงส์ แต่ก็รักท่านชายโอเซฮุนเช่นกัน

     

    "ว่าอย่างไรละเสี่ยวลู่หาน องค์ราชาทรงตรัสถามน่ะ..." องค์ราชินีแจจุงตรัสกดดัน 

    ความเงียบครอบคลุมอีกครั้ง เสี่ยวลู่หานเพียงน้ำตาคลอ แต่นางไม่หลั่งน้ำตา และสะอื้นแต่ใด

    นางรู้ดี นางคือคนผิด และทรยศ แต่ความรักมันไม่เข้าใครออกใคร 

     

    'นางเลือกไม่ได้'

     

    ทั่วทั้งห้องยังคงเงียบสงบ มีเพียงเสียงแก้วน้ำชาขององค์ราชาเท่านั้นที่กระทบกระเบื้องรองแก้ว

     

    "หากเล่า...ชีวิตของเจ้า และเซฮุนจะปลอดภัย แต่หากโกหกแล้วข้ามีหลักฐาน เจ้าจะไม่ได้เจอแม้แต่ปลายเกศาของท่านชายแสงอาทิตย์ผู้นั้น"

    "ท่านชายวางแผนขืนใจองค์หญิงแต่พระองค์รู้ทันจึงเสด็จหนีเตลิดไปเสียก่อน"

     

    "ชั่วช้า! เพล้ง!!"

     

    ลู่หานหลับตาปี๋ นางไม่กล้ามอง กายบางสั่นสะท้าน อากาศรอบข้างหนาวเย็นราวกับติดลบ

    แต่ เหงื่อที่สันหลังกลับแตกจนเสื้อเปียกชุ่ม นางทำถูกหรือป่าว...กษัตริย์ตรัสไม่คืนคำ

     

    "ออกไปก่อนเสี่ยวลู่หาน ออกไป! ไปกล่อมท่านชายอย่าให้ไปที่เมืองหมาป่าในเร็ววันนี้ หาก1เดือนท่านชายเซฮุนยังหาคยองซูไม่เจอสัญญาหมั้นจะถูกถอน...อ้ะ ท่านพี่สงบพระราชหฤทัยก่อนเพคะ"

     

    ลู่หน้าตาตื่นนางคลานถอยหลังออกจากห้องเสวยน้ำชาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบวิ่งพลางน้ำตาอาบแก้มขาว ท่านชายจะต้องหาองค์หญิงคยองซูไม่เจอ...เขาจะต้องเป็นของนาง เสี่ยวลู่หานแต่เพียงผู้เดียว

     

     

    '

     

    "ไม่เกิน 7 ทิวานี้ลูกต้องหนีไปให้ไกลคยองซู 1เดือนนี้ อย่าให้ท่านชายเซฮุนเจอ

     

    ....

    เสี่ยวลู่หานต้านได้ไม่นานแน่ ท่านชายไม่ใช่คนโง่

     

     

    เขากำลังจะมา"

     

     

     

    ------------------------------------------------------------------------------

    ---------------------------------------

    Talk:เนื้อหาเริ่มเข้มมานิดละนะคะ พาร์ทนี้ไม่มีเอ็นซีเนอะ แต่อยากเขียนเอ็นซีชานแบคมากเลย ไม่ตอนหน้าก็ตอนต่อไปค่ะ

    อาทิตย์หน้าถึงสิ้นเดือนเรามีสอบ อาจต่อช้านะคะ

    แท็ก #หงส์ขาว มาให้กำลังใจพูดคุยกันได้เนอะ

     

     

     

     

     

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×