ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (RE-Write) EL DORADO - kaido #หงส์ขาว

    ลำดับตอนที่ #2 : EL DORADO - Part 2

    • อัปเดตล่าสุด 26 ส.ค. 56


    EL DORADO - 2

     

     

     

     

    เปลือกตาบางกระพริบอย่างอย่างยากลำบาก ใบหน้าสวยออกเป็นสีแดงกร่ำ

    วรกายบอบบางสั่นสะท้านราวกับดินแดนดงดิบของหมาป่าจะหนาวเหลือประมาณ

    'กึก กะกะกึกกก'

    มือบางดึงผ้าห่มสีมอซอมาห่มคลุมโปง

    ในดวงหทัยคิดโทษโชคชะตาของตนเองว่าทำไมต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายเช่นนี้

     

    3 วันก่อน...

     

    มีราชสาร์นจากบุตรชายแห่งเมืองผู้วิเศษ คู่หมั้นในวัยเยาว์ว่าจะออกพาองค์หญิงหงษ์ผู้สูงศักดิ์ออกเที่ยวป่าทางตอนใต้

    โดยมีเพียงแค่

    'เสี่ยวลู่หาน

    'นางกำนัลติดตามเพียงผู้เดียวเท่านั้น

     

    "ขี่ม้าเป็นไหมคยองซู มานั่งกับพี่ดีกว่าไหมเจ้า.."

    ร่างบางทำท่าทางแสนหนักใจ คิ้วสวยขมวดเป็นปมยากจะแก้ ร้อนถึงเสี่ยวลู่หานนางกำนัลคนสนิทต้องช่วยแก้ต่าง

     

    'เพราะเป็นที่รู้กันอยู่ว่าองค์หญิงน้อยไม่เคยมีใจสเน่หาหาท่านชายผู้วิเศษผู้นี้เลย'

     

    "องค์หญิงจะขี่ม้าไปกับหม่อมฉันเองเพคะ วอนท่านชายอย่าได้ห่วง..."

     

    หลังจากทั้งสามเที่ยวชมนกชมไม้ในป่าแดนใต้ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากร หงษ์ฟ้าคยองซูกับลู่หานบินเล่นชมหมู่มวลดอกไม้สีสลับชมพู ม่วง และเหลืองกันอย่างเบิกบาน

     

    'โชคดีของข้าจริงคนนึงก็ได้เป็นเมียแล้ว ส่วนองค์หญิงก็คู่หมั้น...'

     

    ชายหนุ่มผิวสีน้ำนมนึกกระหยิ่มในดวงใจ

    สายตาร้อนแรงแอบส่งให้นางกำนัลนางหวานได้เขินเล่น

    ฝ่ายคยองที่กำลังมัวหลงเล่นกับดอกไม้และหมู่ผีเสื้อหาได้สนใจกับสิ่งที่คนไว้ใจได้กระทำไม่

     

     

    ย่ำค่ำ...

     

    ท้องฟ้าโรยตัวมืด คยองซูตัวน้อยหดตัวเกร็งยามที่ท่านชายเซฮุนเขามาใกล้

    เสี่ยวลู่หานได้แต่ก้มหน้านั่งบนพื้นดินถัดจากแท่นไม้ตามธรรมชาติ

     

    'ต้อยต่ำเพียงเศษดิน'

     

     

    ใช่สิ...คำนี้มันช่างเหมาะสมกับเจ้านัก

    คิดว่าตัวเองจะได้เคียงคู่กับแจกันทองอย่างท่านชายรึ

    เจ้ามันก็แค่ผักตบชวา

     

    ร่างบางของนางกำนัลก้มใบหน้าหมองแสยะยิ้มให้ตัวเองเงียบๆ

    ใจลอยเสียจนไม่ได้ยินเสียงเรียกของเซฮุน

     

    "...หาน ลู่หานน ลู่หาน!..."

     

    "เพคะ ท่านชาย?!!"

     

    "ฮ่าๆๆ ใจลอยหาใครอยู่รึไง"

     

    พูดเสียงหยอกเหย้าอย่างคนได้เปรียบ

     

    ใช่แน่ละ...เขารู้ดีว่าใจเสี่ยวลู่หานพรรคดีต่อเขาเพียงไหน

     

    ร่างบางส่ายหน้ารัว        

     

    "หาได้ไม่เพคะ มีสิ่งใดบัญชาเพคะ?"

     

    "ฮ่าๆๆ เราเพียงแต่จะฝากให้เจ้าพาน้องคยองซูเข้านอน ได้หรือไม่เสี่ยวลู่หาน"

     

    "ได้เพคะองค์ชาย...องค์หญิงเพคะ ตามหม่อมฉันมาพลับพลาถูกจัดไว้แล้ว"

     

    นางกำนัลว่าพลางเดินนำทางพาองค์หญิงตัวน้อยสู่พลับพลา

     

    "คยองซู..."

     

    เสียงหนุ่มหล่อชะงักปลายเท้าหงษ์งามทั้ง2ไว้

     

    ร่างเล็กของพระองค์หญิงหันกลับมามองชายหนุ่มอย่างไว้มารยาท

     

    "เพคะท่านพี่....?"

     

    "พี่รักเจ้านะ...ฝันดีนะนวลน้องของพี่"

     

    คยองซูก้มหน้านิ่งค่อยเดินตามลู่หานไปที่พลับพลา

     

    เสี่ยวลู่หานฝืนใบหน้างามให้นิ่ง ปั้นยิ้มไว้เพียงน้อยนิด คิดให้องค์หญิงน้อยที่ตนแสนรักไม่สงสัย

     

    "องค์หญิงเพคะ บรรทมเถิดหม่อมฉันจะไปนั่งเฝ้าหน้าพลับพลาดูแลพระองค์เอง..."

     

    มืออ่อนนุ่มของนางกำนัลคนสวยค่อยหยิบยกผ้าแพรพื้นงามห่มคลุม

     

    หน้าอกงามขององค์หญิงตัวน้อยไว้

     

    ก่อนจะสาวเท้าออกไปหน้าพลับพลา

     

    "เสี่ยวลู่...คยองไม่ได้รักเขา...คยองไม่อยากเสกสมรสกับเขา..."

     

    เสียงหวานจากในพลับพลา

     

    '~~~~ราวกับเสียงกระซิบ แต่เจ็บปวดจับใจ ทั้งคนพูดและอีกสองคนฟัง~~~~"

     

    "อย่าทรงวิตกเลยองค์หญิง หม่อมฉันจะดับไฟหน้าพลับพลาเสียพระองค์ก็ควรบรรทมเถิดเพคะ..."

     

    "อื้ออ..."

     

    สิ้นเสียงยินยอม เสี่ยวลู่หานดับไฟหน้าพลับพลาจนกาฬวิกาลคลอบคลุม

    เหลือเพียงแต่กองไฟเล็กพอให้นางกำนัลตัวน้อยคลายหนาว

    ชายหนุ่มร่างสูงเผยตัวออกจากหลังดงหญ้าหลังจากซ้อนตัวแอบมองเหตุการณ์อย่างเงียบงัน

    ร่างสูงส่งสัญญาญให้นางกำนัลหน้าหวานเดินตามตนไปในป่าไผ่ไม่ไกลจากที่ตั้งพลับพลา

    ฝ่ายคยองซูที่ยังคงนอนไม่หลับเพราะความคิดมากมายยังคงตีกันในหัว

    อีกไม่นานเกิน3เดือนเขาต้องเสกสมรสกับท่านชายเซฮุนผู้วิเศษ...

     

     

    คิดได้ถึงตอนนี้คยองแลเห็นเงาของนางกำนัลเสี่ยวลู่หาน แลชายอีกคนเดินตามกันไป

    ด้วยความห่วงใย คยองซูหยิบผ้าคลุมไหล่สีขาวบริสุทธิ์พอคลายหนาว

    เดินตามหลังเสี่ยวลู่หานคายองซูกางปีกพยุงกายลอยจากพื้นเพื่อไม่ให้เกิดเสียงฝีเท้า

     

    'พอไม่ให้รู้ว่าเขากำลังสะกดรอยตาม'

     

    'เสี่ยวลู่หาน และท่านชายเซฮุน'

     

    เซฮุนประโลมจูบลูบกายนางกำนัลอย่างร้อนแรง ชุดประจำต่ำแหน่งนางกำนัลมีเพียงกระโปรงสูงปิดใต้ราวนมกับเสื้อรัดรูปคอจีนถูกปลดออกอย่างว่องไว

     

    คยองซูเบิกตามองภาพชวนเสียใจ น้ำพระเนตรคลอเบ้าอย่างหวาดหวั่น

     

    "เสี่ยวลู่หาน...เมื่อพี่แต่งงานกับคยองซูพี่จะแต่งตั้งเจ้านวลใจของพี่เป็นพระชายา"เสียงทึ้มนุ่มพูดเอาใจแม่นางหน้าหวาน

     

    ปากเรียวคอยขบเม้มซอกคอ เรียกเลือดขึ้นแดงกร่ำ

     

    "จริงนะเพคะท่านชาย...อื้ออ~"

     

    "จริงสิเจ้า เพียงพี่อยากให้เจ้าช่วยเหลืออะไรพี่สักนิด..."ปากหนาไล้จูบเม้มตามหน้าอกขาวผ่องนุ่มนิ่มของร่างบาง

     

    "หม่อมฉันยอม อ้ะ...ทำตาใพระประสงค์"

     

    "ดี จุ๊บ...เสี่ยวลู่หานพี่อยากลดเวลาการแต่งงานของพี่กับองค์หญิงให้เร็วขึ้น คืนนี้พี่จะเผด็จศึกนาง..."

     

    "หามิได้ อื้ออ ข้ามิยอมอ้ะ อย่ากัดสิเพคะ.."

     

    "ฟังข้าเสี่ยวลู่หาน! " สุรเสียงที่เคยนุ่มบัดนี้เปลี่ยนไป

    'เย็นชา ปราศจากความรัก แลเอ็นดู'

    "คืนนี้เจ้าจะต้องช่วยข้า!" มือใหญ่ออกแรงบีบรัดคอนางกำนัลหน้าหวานจนขึ้นสีแดงกร่ำ

    เสี่ยวลู่หานไขว้คว้าอากาศหาย

    น้ำตาหยดสองข้างแก้มอย่างน่าสงสาร

    'ไม่มีเลยความสงสาร มีเพียงสายตามาดร้ายของสัตว์'

    'นี่หรือผู้วิเศษ ผู้ที่สืบเผ่าพันธุ์มาจากพระอาทิตย์'

     

    คยองซูที่มองภาพนั้นผ่านดงไม้ ได้แต่ตกใจแทบสิ้นสติ

    ภาพการร่วมรักอย่างรุนแรงของคู่หมั้น และนางกำนัลคนสนิท

    คยองซูขยับปีกบินอย่างไม่คิดชีวิต สายน้ำตาไหลหลั่งไม่ขาดสาย

    นางกลัวเสียจนไม่รู้ว่าตนกำลังจะไปไหน...จนรู้ตัวอีกทีทึกด้านรอบวรกายก็มืดสนิท

    'หลงป่า'

    "ฮึก...ท่านแม่ช่วยลูกด้วย ฮื่อๆๆๆ..."

     

     

     

    เสียงดนตรีช่วยเคลิ้มฝันยามวิกาล คยองซูกระพริบตาอย่างยากลำบาก

     

    ขนตาสวยถูกเกาะไปด้วยหยดน้ำตา

     

    ทางสุดท้ายคือต้องเดินตามเสียงดนตรีนั้นไป แสงสีของต้นไม้ยามค่ำคืนกระทบกับแสงจันทร์ แลดูสวยงามไปหมด

     

    ชายร่างสูงหน้าตาดี2ตน กำลังนั่งบรรเลงเพลงป่ายามค่ำคืนอยู่หลังต้นโก่งขนาดใหญ่

     

    "ท่าน...ข้าหลงทางพอจะช่วยข้าได้หรือไม่"

     

    เสียงดนตรีหยุดลงชายหนุ่มรูปงามทั้งสองมองตากันอย่างมีเลศนัยน์

     

    ชายหนุ่มร่างสูงคมเข้มผมถูกมวยไว้ตนแรกแลบลิ้นเลียปากอย่างหื่นกระหาย มันจับข้อกรนางหงษ์ไว้

    ส่วนอีกตน มันส่งมือลูบไล้กายบางอย่างหยาบโลน

     

    "พี่จะพาเจ้าไปสวรรค์เองชะแม่คนงาม..ฮ่าๆๆๆๆๆ"

     

    นางหงษ์ออกแรงสะบัดตัวก่อนจะวิ่งกึ่งบินหนีเจ้าคนธรรพ์หยาบโลนทั้งสอง

     

    นางมองทางเบื้องหน้าสลับกับมองคนธรรพ์ร่างสูงใหญ่อย่างระแวงระวัง

     

    'ตุ๊บ'

    ต้นไม้ที่ไม่เคยอยู่ในเส้นทางปรากฎกายอยู่กลางทาง

    คยองซูวิ่งชนต้นไม้นั้นเขาอย่างจัง นางล้มลงข้อเท้าพลิก ปีกน้อย ๆ ไม่สามารถขยับบินได้

    ต้นไม้แต่เดิมทีนั้น เปลี่ยนร่างเป็นชายหนุ่มรูปร่างบึกบึนอีก 2 ตน

    ร่างบางถูกล้อมรอบไปด้วยคนธรรพ์ แลเทพารักษ์หนุ่มกว่า4ตน

                นัยน์ตาแต่ละตนแสดงความหื่นกระหายอย่างปิดไม่มิด แม่นางน้อยร้องไห้ปานจะขาดใจ

    ปีกทั้งสองสีทองโอบล้อมร่างกายบางมิให้ถูกสายตาอันแสนหยาบโลนละเมิด

     

    แสงสว่างจ้า ปรากฎร่างหมาป่าที่คุ้นเคย...

    ก่อนจะได้สติอีกทีคยองซูก็มาอยู่ที่นี่แล้ว

    น้ำตารินไหล...นึกเสียใจระคนหวาดหวั่น

    'ป่านนี้เสี่ยวลู่จะเป็นยังไงบ้างนะ...'

     

     

    'หมับ'

    แขนอุ่นกอดรอบเอวทำร่างบางสะดุ้ง นางดิ้นรนตัวสั่นเทา

    "คยองซู เฮ้ มองสิพี่เองเจ้าจะกลัวไปไย...สุดใจของพี่"






     


    .






    .






    .

     'หมับ'

     

    แขนอุ่นกอดรอบเอวทำร่างบางสะดุ้ง

     

    นางดิ้นรนตัวสั่นเทา

     

    "คยองซู เฮ้ มองสิพี่เองเจ้าจะกลัวไปไย...สุดใจของพี่"

     

    เสียงนุ่มทุ้มกระซิบข้างหู มือหนาออกแรงดึงผ้าห่มสีมอซอออก เผยให้เห็นนางหงส์ตัวน้อยขดตัวนอนตัวสั่น ใบหน้าสวยขาวซีด ดวงตากลมโตที่เขาแสนจะหลงรักมีประกายแห่งความหวาดกลัว และสิ้นหวัง เมื่อเห็นดังนั้นแล้วชายหนุ่มก็ถอยร่างออกมาให้ห่างจากนางเพียงที่จะพอพูดคุยกันได้ยิน

     

    "แบคฮยอน! แบคฮยอน! เข้ามาสิ...คยองซูเจ้าพอจะจำเพื่อนรักของเจ้าได้หรือไม่ พี่จะให้เขาดูแลปฐมพยาบาลเจ้า จะยอมรับให้น้องพี่ดูแลเจ้าได้ใช่ไหม"

     

    ร่างบางที่เดิมทีนอนขดตัวอยู่นั้น นางกระเด้งตัวขึ้นมาในทันที ตัวตาที่เคยหวาดหวั่นกลับทอประกายสดใสขึ้นอีกครั้ง

     

    "เพคะ..."

     

    คำตอบรับและท่าทางนั้นอดที่จะทำให้ชายหนุ่มยิ้มขึ้นมาไม่ได้

     

    แบคฮยอนวิ่งเข้ามาในห้อง 'เด็กไม่รู้จักโต'คงใช้ได้ดีกับร่างบางที่ดูแสนจะท้วมสมบูรณ์คนนี้

     

    "คาาาายองงงซู คิดถึงจังเลยชะแม่ โตขึ้นทำไมเจ้าถึงงามได้ขนาดนี้นะ..."

     

    แบคฮยอนถลาตัวไปนั่งเคียงข้างคยองซูบนเตียงไม้หลังเล็ก

     

    มือนุ่มนิ่มขององค์ชายรัชทายาทอันดับ2 เมืองหมาป่าลูบเส้นผมสีดำสนิทของนางหงส์เล่นพลางกล่าว

     

    "อะฮึ่ม นางป่วยและพี่ให้เจ้ามาปฐมพยาบาลนางแบคฮยอน..."

     

    "ชิ..หวงไปได้..."

     

    ร่างบางเกือบท้วมบ่นกระปอดกระแปด ลงมือตรวจดูอาการขององค์หญิง และแน่นอนว่าทุกขั่นตอนของการตรวจ

     

    'อยู่ในสายตา'องค์ชายรัชทายาทอันดับ1 เมืองหมาป่าผู้เป็นพี่ชายทั้งหมด

     

    "โอ้ยย บยอนน อื้ออ คยองเจ็บ..."

     

    เพียงแค่เสียงหวานร้องด้วยความเจ็บปวด จากการที่เพื่อนรักจับปีกน้อยๆยกดูอาการ

     

    องค์ชายจงอินถึงกับอยู่ไม่สุข มือใหญ่เอื้อมไปปัดมือน้องชายออก

     

    แบคฮยอนถึงกับเซเล็กน้อย ก่อนจะสะบัดหน้าดุใส่พีี่ชายให้ออกห่างจากการรักษา

     

    คยองซูเห็นแบบนั้นก็อดขำสองพี่น้องไม่ได้

     

    "ท่านพี่จงอิน น้องเพียงเจ็บเล็กน้อย อย่าทรงวิตกนักเลยเพคะ คิกคิก โอ้ยย บยอนเบามือหน่อยสิ..."

     

    คยองซูบอกให้องค์ชายหมาป่าสบายใจได้ไม่ถึงอึดใจ แต่สุดท้ายก็ร้องโอดครวญอ้อนเพื่อนรักในวัยเยาว์จนได้

     

    "ทนหน่อยสิคยอง ท่านพี่ น้องขอลูกประครบหน่อยสิเท้าคยองแพงต้องประครบยา..."

     

    "ไม่มี..."

     

    "งั้น...เอาผ้าขาวบางสะอาดห่อก้อนหินก็ได้ขอรับ"

     

    "ไม่มี..."

     

    "จิ๊ งั้นไปเก็บสมุนไพรในป่าหลังกระท่อมมาสิท่านพี่"

     

    "ไม่มี..."

     

    "ท่านพี่! กวนประสาทข้าหรือไร ไม่อยากให้คยองหายหรอขอรับ"

     

    ดูเหมือนว่าองค์ชายร่างอวบจะโมโหกับความกวนประสาทของพี่ชาย

     

    ชายหนุ่มผู้เป็นพี่ยังตีหน้าครึ้ม มุมปากยกยิ้มอย่างกวนประสาท เขาสาวเท้าเข้าไปใกล้เตียงนอนก่อนจะเอื้อนเอ่ย

     

    "แบคฮยอนน้องรักของพี่ กลับเข้าเมืองไปเอายามาให้นาง...รีบกลับมาละ ฮ่าๆๆๆ"

     

    ร่างเล็กน่ารักนั่งนิ่งอยู่บนเตียง โดยมีองค์ชายหมาป่านั่งอยู่ปลายเตียง

     

    "เซฮุนนี่มันขี้โกงไม่เปลี่ยนแปลง น้องเองก็โชคร้ายมามากเยี่ยงไรก็...พักวรกายอยู่กับพี่ก่อนหายเจ็บหายป่วยแล้วค่อยกลับบ้านเมืองหงษ์ของเจ้า"

     

    "ขอบพระทัย น้ำใจของท่านพี่มากนะเพคะ ช่วยสงเคราะห์ลูกหงษ์ตัวโตอย่างหม่อมฉัน"

     

    รอยยิ้มงดงามเผยออกช้าๆ

     

    'คยองซูวัย 12ปี กับคยองซูวัย22 ไม่ต่างกันเลยแม้แต่ปลายนิ้ว'

     

    "ฮ่า ๆ โตแล้วรึ เจ้ายังดูเหมือนเด็กน้อยใต้ต้นโดร่าไม่มีผิด"

     

    ร่างบางชะงักค้างทันทีเมื่อได้ยินชื่อ 'ต้นโดร่า' ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารสจูบของท่านพี่หน้าคมยังตรึงในความรู้สึก และดวงใจ

     

    ใบหน้าทีี่เคยขาวซีดจากฤทธิ์ไข้กลับแดงกร่ำอย่างช่วยมิได้

     

    "พี่พูดอะไรผิดรึป่าวเจ้า ทำไมเงียบไปละ"

     

    ร่างสูงเขยิบเข้าใกล้ ก้มมองใบหน้าหวานของนางหงส์แรกรุ่น

     

    "ปะ เปล่าเพคะ..."

     

    "ฮ่าๆๆๆ ใต้ต้นโดร่าวันนั้น...ชะแม่ของพี่น่ารักยิ่งนัก"

     

    เหมือนยิ่งหนีก็ยิ่งต้อน...ยิ่งหลบ ยิ่งก้มหน้า ก็ยิ่งน่าแกล้ง

     

    ร่างบางยกผ้าห่มสีมอซอขึ้นปิดหน้า เหลือไว้เพียงดวงตากลมโตกระพริบปริบๆ

     

    องค์ชายหมาป่าเขยิบเข้าใกล้ร่างบางอย่างหย่ามใจ มือหนาแข็งแรงออกแล้วดึงผ้าห่มลงจากการปกปิดใบหน้าหวาน

     

    "ปิดหน้าทำไมละเจ้า ใบหน้างามๆอย่างนี้ ขอพี่มองใกล้ ๆ เถิด"

     

    "มะ หม่อมฉัน...อายเพคะ"

     

    "อายหรอเพคะ ฮ่าๆๆๆ อย่าอายเลยเจ้า หิวแล้วใช่หรือไม่"

     

    "เพคะ..."

     

    "รอสักเดี๋ยว พี่จะหาข้าวหายาให้เจ้าเอง"

     

    พูดพลางสาวเท้าเดินออกจากห้องภายในกระท่อมหลังเล็ก ทิ้งไว้เพียงแต่องค์หญิงหงษ์ตัวน้อยนั่งหน้าแดงกร่ำอย่างเขินอาย

     

    "ไหนท่านพี่กล่าวว่าไม่มียาอย่างไรเล่า คิกๆ..." พรึมพร่ำกับตัวเองอย่างอารมณ์ดี

     

    ไข้ที่จับกายอยู่ในยามเช้าแทยจะหายไปกับสายลมอุ่นที่พัดในดินแดนเขตร้อนนี้เสียแล้ว

     

    "อาหารนี้แบคฮยอนเป็นคนปรุง พี่ไม่มีปัญญาทำอะไรแบบนี้ให้เจ้ากินได้หรอก มาสิพี่จะป้อนเจ้าเอง"

     

    "เป็นพระกรุณา แต่น้องเจ็บที่ข้อเท้าและปีก ยังคงใช้มือได้เป็นปกติ"

     

    ร่างบางเอื้อนเอ่ยอย่างเกรงอกเกรงใจ ได้ยินเช่นนั้นแล้วชายหนุ่มร่างสูงก็ออกแรงรวบมือนางหงษ์ทั้งสองข้างด้วยมือซ้ายจัดการตักอาหารจ่อปากสวยอมชมพู แม้จะดูซีดเซียวอยู่บ้างแต่ก็ยังน่าลิ้มลองอยู่เช่นเคย

     

    "หว่า เจ้าไม่มือซะแล้วสิชะแม่ แบบนี้พี่ป้อนเจ้าได้รึยังจ้ะ"

     

    "ฮ่าๆ คนเจ้าเล่ห์"

     

    ปากน้อยอ้ารับข้าวต้มเข้าปาก ดวงตาทั้งสองคู่ผสานกันอมยิ้มอย่างมีความสุข

     

    "รู้นะ! ไอ้พีี่บ้าว่าจะไล่น้องชิ!"

     

    หลังจากพาตัวเองออกมาจากบรรยากาศหวาน ๆ จากสายตาของท่านพี่จงอินที่ส่งให้องค์หญิงหงษ์คยองซูได้แล้ว

     

    แบคฮยอนก็เดินเตร่ เอาท่อนไม้ตีต้นไม้สูงใหญ่ ใบสีเขียวอ่อนเหมือนเปลือกมะนาวสดใสตลอดทั้งต้น

    แบคฮยอนมั่วแต่หัวเสียเสียจนไม่ทันเห็นความผิดปกติข้อนี้

     

    "คิดว่าเจ็บหรือไม่..."

     

    เสียงแว่วผ่านลมดังอย่างไม่ใกล้ไม่ไกลทำเอาร่างบางสะดุ้งแต่ด้วยความโมโห ร่างบางออกท้วมขององค์ชายรัชทายาทอันดับ2 จึงเลือกจะมองผ่านไปอีกครั้ง

     

    "หึ อย่าให้มีคนรักบ้างแล้วกันนะ! ข้าจะหวานแข่งกับท่านพี่ให้ดู"

     

    "แล้วอยากมีไหมละ..."

     

    เสียงนุ่มแผ่วนั้นดังอีกครั้ง ร่างบางกลับหลังหัน ใบหน้าหวานมองไปรอบอย่างหวาดหวั่น

     

    "ใครน่ะ...ออกมานะ!"

     

    'ตึกกกก ตึกกก'

     

    เสียงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินเบื้องหลังทำให้แบคฮยอนกลับหลังหันอีกครั้ง

     

    ต้นไม้ใบสีเขียวมะนาวเมื่อครู่หายไป

     

    ...

    ..

    .

    ปรากฏร่างชายหนุ่มร่างสูงสะอาดสะอ้าน ทรงผมเรียบแปร้แทรกข้างสีทองยาวปิดหูปะบ่าเครื่องทรงสีขาวตั้งแต่หัวจรดเท้า

     

    ใบหน้าหล่อเหลา หูกางเล็กน้อย กับรอยยิ้มกว้างแลดูเหมือนคนภาคภูมิใจบางสิ่งอยู่ตลอดเวลา

     

    "สวัสดีเจ้าหมาน้อย..."

     

    "จะ เจ้า..หูกาง เจ้าเป็นใคร!! จะมาปล้น ฆ่า หรือทำร้ายข้า"

     

    แบคฮยอนกระโดดเข้าใส่ชายหนุ่มร่างสูงเบื้องหน้า

     

    มือบางหยิบไม้ขึ้นตีอีกคนไม่ยั้ง ปากก็บ่นด่าต่างๆนานา ว่าร่างสูงเบื้องหน้าจะทำร้าย

     

    "พับผ่า! พับผ่า! ฟังข้า แบคฮยอน นี่!ฟังก่อน ข้าเป็นเทพารักษ์ ไม่ฆ่าคน! ไม่ฆ่าสัตว์!"

     

    ชายหนุ่มตะคอกใส่ร่างบางด้านหน้า ออกแรงฉุดกระชาก ดึงไม้ในมืออีกคนก่อนจะหักมันทิ้งลงพื้น

     

    แบคฮยอนหอบหายใจมองอีกคนนิ่ง

     

    "รู้นามข้าได้อย่างไร...เจ้าเป็นเทพารักษ์รึ"

     

    "ข้าเห็นเจ้าตั้งแต่วิ่งแก้ผ้ากับพี่ชายเจ้าตอนหัดกลายร่าง ข้าอยู่แทบนี้มาหลายร้อยปีแล้ว...นามของข้าคือปาร์คชานยอล"

     

    แบคฮยอนได้ฟังก็ถึงกับแก้มแดงกร่ำ แสร้งกระฟึดกระฟัดเดินหนี

     

    "โมโหอะไรองค์ชายจงอินมารึ..."

     

    "เราไม่รู้จักกันเจ้าเทพารักษ์หูกาง...อย่ามายุ่งเรื่องของข้า"

     

    "เอาน่าหมาน้อยระบายมาเถอะ เมื่อกี้ข้าได้ยินว่าเขาไล่เจ้านิ"

     

    "ก็ใช่น่ะสิ! ไล่ข้าให้ไปเอายาให้องค์หญิง...อุ๊บ!"

     

    ร่างบางรีบคว้าปากตัวเองไม่ให้เผลอพูดอะไรออกไปมากกว่านี้

     

    'แบคฮยอนน้องพี่ อย่าได้บอกใครว่าองค์หญิงคยองซูอยู่กับพี่ ขอพี่ชดเชยความรู้สึกที่หายไปของพี่กับนาง ช่วยพี่เถิดน้องพี่...แล้วพี่จะส่งนางกลับเอง'

     

    เมื่อคิดได้ถึงคำพูดพี่ชายก่อนจะออกมาจากกระท่อม แบคฮยอนก็ได้แต่ตบปากตัวเอง

     

    'ปากสว่างจริงนะบ้าเอ้ย...'

     

    "องค์หญิง หื้ออ องค์หญิงหงษ์คยองซูสินะ ป่าฝั่งเหนือพี่น้องเทพารักษ์เขาพูดกันให้แซดว่าองค์หญิงหายตัวไป อ๋อ...อยู่กับพี่ชายเจ้านี่เอง"

     

    ชานยอลพูดพลางเดินไปรอบตัวรางบางที่ก้มหน้านิ่ง เหลือกตามองร่างสูงตรงหน้าอย่างเครียดแค้น

    "ต้องการสิ่งใด..."

     

    "คำถามนี้ดีต้องการอะไร พี่ก็แค่ต้องการจะไปเที่ยวเล่นในเมืองวอนเจ้าเป็นมัคคุเทศก์ตัวน้อยพาพี่ไปเที่ยวชมทีนะจ้ะหมาน้อย.."

     

     

    Next to Part3

     

     

     

    Talk :

    ตอบคำถาม มานพแปลว่าชายหนุ่มค่ะ

    แบคฮยอนเขียนผิดคัด100จบส่งท่านผู้อ่าน ขอโทษน้า

    ดีใจกับคอมเม้นมาก กับฟิค #หงส์ขาว

    มีคนบอกเราใช้ภาษาอ่านยากอันนี้ขอโทษค่ะ

    เกี่ยวกับเนื้อเรื่องจะพยายามมีครบรสคือหวาน ตลก ดราม่า ท่านผู้อ่านแนะนำว่าสั้นไปอันนี้จะเพิ่มเติมค่ะ

    ชานยอลออกมาละนะคะ มาขำโดยเฉพาะเลยตัวนี้ คู่นี้จะเป็นสีสันมากค่ะ

    ขอบคุณน้องมินาจัง น้องไชโยมาก

    มีพระคุณกับพี่มากลูก

    อย่าลืมแท็กพูดคุย-สอบถามในทวิตนะจ้ะ

    แท๊ก #หงส์ขาว ผู้เขียนอ่านอยู่ อิอิ

     

     

     

     

     

     

     

     

    Talk : ตอนที่ 2 แล้ว เราตั้งใจเขียนมากเลยค่ะ พยายามอัพไวไว

    เราไม่ทราบว่าเออมีใครรอไหม เราเคยติดฟิคมาก่อน รู้อารมณ์ว่าแบบอยากอ่านต่ออ่ะเนอะ

    เราดีใจมากคือมี1คอมเม้นให้กำลังใจคือขอบคุณมากจริงๆนะคะ มันมีไฟเลยละ

    มี8แฟนคลับ คือไม่แน่ใจว่าคืออะไรแต่ขอบคุณมากเลยจริงๆค่ะ

    ตอนเราอ่านฟิคเราก็ไม่ค่อยเม้น เข้าใจว่าแบบอ่าน ๆ จบ ๆ แต่ท่านผู้อ่านคะ

    "1คอมเม้นของท่านคือกำลังใจจริงๆ"

    รักคนอ่าน ช่วยสนับสนุนเราต่อไปด้วยนะคะ

    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×