ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (RE-Write) EL DORADO - kaido #หงส์ขาว

    ลำดับตอนที่ #15 : EL DORADO - Part15

    • อัปเดตล่าสุด 20 มี.ค. 57












    Part 15

     

     

     

     

     

     

    El Dorado

     

     

     

     

     

    "ก็สุดแล้วแต่เจ้าแล้วกันแจจุง..."

     

    ยุนโฮวางจอกน้ำชาลงบนโต๊ะที่ทำจากไม้สักสีทอง ในเมืองหลวง ดินแดนแห่งหมาป่า

    ก่อนหน้านี้ไม่นาน เขาได้รับจดหมายจากองค์ราชินีแตฮีว่านางเป็นผู้ที่ได้เฝ้าชมความงามขององค์หญิงคยองซู ขอให้ยุนโฮกับแจจุงมาจัดการเรื่องของนางให้สำเร็จ

    ยุนโฮเดินทางมาเมืองหมาป่าหมายใจและเข้าใจพระราชสาร์นของแตฮีดีว่าคงให้ไปตกลงเรื่องการหมั้นหมาย

     

    'เพราะมะรืนจะเป็นวันครบกำหนด 1เดือนที่เขาให้เวลากับโอเซฮุน'

     

    แต่...องค์ราชาผิวสีเข้มอย่างอาอินจะยังคงขุ่นเคืองพระราชหฤทัยที่เข้าไม่ยอมยกคยองซูให้กับจงอินตั้งแต่เด็กๆ

     

    "หมั้นกันพรุ่งนี้ดีหรือไหมเพคะท่านพี่"

     

    ราชินีแจจุงเอ่ยเสียงหวานหาลือกับอาอิน และแตฮี

     

    "จะหมั้นไปใยเล่า นางทรงครรภ์แล้วแจจุง อยากให้ลูกท้องโตก่อนหรืออย่างไร..."

    ยุนโฮตรัสเสียงหงุดหงิด

     

    "ท่านจะข้ามราชพิธีมิได้ท่านพี่ยุนโฮ พรุ่งนี้หมั้น มะรืนแต่งแล้วกัน"

     

    แตฮีหันมายิ้มงดงามให้กับแจจุงคล้ายกับหาพวกพ้อง ซึ่งแจจุงเองก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย

     

    "แล้วเรื่องสินสอดทองหมั้นเล่า..."

     

    อาอินถามหยั่งเชิง เขาหรี่ตามองยุนโฮคล้ายกับหมาเฒ่าที่แสนจะเจ้าเล่ห์ ยุนโฮนั่งยืนตัวสมภาคภูมิหยิบทองคำเม็ดเล็กที่เป็นเครื่องประดับชายเสื้อของราชันวางลงบนโต๊ะไม้หกเม็ด

     

    "หกหาบทอง หกหาบเงิน..." ยุนโฮเรียกสินสอด

    "เลขงามมากเพคะท่านพี่ยุนโฮ เอ่อ..."

    แตฮีออกเสียงสนับสนุน แล้วก็ต้องนิ่งเงียบเก๊กท่าเสมือนว่าเดิมทีนางกำลังยกพัดที่ถูกปักด้วนดิ้นทองราคาแพงขึ้นมาพัด

    ด้วยเมืองหมาป่านั้นอุดมสมบูรณ์ด้วยทองคำ และพลอยเพชร สินสอดเพียงเท่านี้ก็ถือว่าสมราคาดี แต่แล้ว...อาอินกลับปัดเม็ดทองที่ยุนโฮวางอยู่ออกสองเม็ด และเอ่ยคำที่ท่าให้ยุนโฮโกรธจนลมออกหู

     

     

     

     

    "ให้เพียงอีกสองหาบก็อยู่ในครรภ์องค์หญิงไงเล่า องค์ราชายุนโฮ..."

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    บรรยากาศอบอุ่น ไม่ร้อน ไม่หนาวของเมืองหมาป่าในเวลานี้ช่างเป็นใจให้คู่รักอย่างจงอิน และคยองซูได้นอนกกกอดกันสบายขึ้น

    มือหนารั้งเอวคอดกลมของคนรักให้มาแนบชิดร่างกายกับตนเอง ส่วนองค์หญิงหงส์ตัวน้อยก็ได้แต่กอดรอบคอองค์ชายจงอินไว้ พอให้อบอุ่นต่อตนเอง และบุตรในครรภ์

    จงอินค่อยๆลืมตาขึ้นมาปรับแสง ก่อนจะมองออกไปยังหน้าต่างที่ถูกเปิดเอาไว้เสียตั้งแต่เมื่อคืน ใบไม้ที่กำลังร่วงล่นบอกถึงฤดูกาลที่กำลังแปรเปลี่ยน....

    จงอินลูบไล้แผ่นหลังบางที่มีปีกเล็กๆแนบเป็นเนื้อเดียวกับหลังพลางยกยิ้มมุมปาก องค์หญิงตัวน้อยในสภาพเปล่าเปลือยมีผ้าแพรสีดำตัดกับผิวสีขาวคลุมอยู่แค่ช่วงสะโพก

     

    'ดูอย่างไรก็ยั่วสวาท'

     

    'ใบไม้ ฤๅฤดูอาจโรยรา แต่ความรัก ความสเน่หาที่พี่มีต่อเจ้าไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้...คยองซูยอดรัก'

     

    "อื้ออ...."

    เสียงครางหวานในลำคอส่งเสียงออกมาทันทีที่รู้สึกถึงการถูกรบกวน

    จมูกของจงอินยังคงไซร้ไปที่แก้มกลมของคยองซูอย่างต่อเนื่อง เสียงหัวเราะห้าวๆอย่างถูกใจที่ได้แกล้งคนรักให้ตื่นจากการบรรทม

    "ท่านพี่ อื้ออ...น้องจะนอน ท่านพี่อย่า..."

    "นอนไม่ได้แล้วเจ้า...ตื่นมาเล่นกับพี่เถิด"

    จวอินว่าพลางดึงผ้าแพรออก และทิ้งลงข้างเตียง

    "เล่นอย่างไรกัน"

    คยองซูตื่นเต็มตาทันทีที่ถูกชายหนุ่มขึ้นคร่อมร่างของนางไว้ ใบหน้าขาวใสออกอมชมพูเป็นที่ถูกใจของจงอินนัก

    "เล่นแบบเมื่อคืนไงเล่า พี่อยากใกล้ชิดลูก"

    "ยังไม่ทรงเบื่ออีกหรือ มันหมดฤดูกลัดมันเสียแล้ว"

    คยองซูเอื้อนเอ่ยในน้ำเสียงที่คนฟังพอจะรับรู้ว่านางกำลังน้อยอกน้อยใจ

    "กำลังคิดอะไรอยู่เจ้า..."

    จงอินพลิกตัวลงมานอนกอดคนตัวเล็กไว้ในอ้อมกอดอย่างแนบชิด และแนบแน่น

    "เปล่าเพคะ..."

    "หัดโกหกพี่หรือ"

    "เปล่าเพคะ แค่..."

    "แค่สิ่งใดขอรับองค์หญิง..." ตาคมที่ได้สืบทอดมาจากราชาอาอินมาทะลุเข้าไปยังหัวใจดวงน้อยที่กำลังเต้นตึกตักอย่างรุนแรง ทุกครั้งที่ได้กันคยองซูก็เป็นเช่นนี้เสมอ

    "กลัวหมดฤดูแล้วท่านพี่จะทิ้งน้อง"

    "ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ"จงอินระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น

    "มีสิ่งใดน่าชวนหัว" (หัว=หัวเราะ)

    "เจ้านั่นละคิดมาก พี่น่ะทั้งรักทั้งหลงเจ้า อารมณ์ติดสัตว์นั้นเป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เจ้าคือนางที่พี่เอาแต่ฝันถึง แม้ในยามแรกที่พี่ได้ปลดปล่อยยามฝัน...เจ้าก็คือคนที่พี่จินตนาการถึง"

    "คนบ้า >\\\\\<"

    "จ้า พี่บ้า ลุกเถิดชะแม่ ท่านพ่อ ท่านแม่เจ้ามาถึงแต่ยามเช้าแล้ว"

    "จริงน่ะหรือเพคะ"

    "อื้อ ไปกันเถิด"

     

     

     

     

     

     

     

     

    "เดินตามมาอย่าช้าที หากชะแม่ยังไม่อยากเจ็บตัว"

     

    เซฮุนออกเสียงรอดไรฟันกระซิบให้ลู่หานเดินตามตน ชายหนุ่มจูงม้าสีขาวคู่ใจเดินเข้าเมืองสัมพันธ์อย่างสง่างาม แม้ใบหน้าหล่อเหลานั้นจะถูกปิดบังไว้ด้วยผ้าสีดำก็ตาม

    เสี่ยวลู่หานเดินตามเชิดหน้าอย่างหยิ่งยโสนางเบื่อเหลือเกินกับความเจ้าอารมณ์ และความแปรปรวนของท่านชายรูปงามท่านนี้

    ลู่หานรู้ดีว่าท่านชายกำลังจะมีแผนการณ์ไม่ดีที่ค่อยๆก่อตัวขึ้นเป็นรูปร่างในดวงใจขององค์ชายเซฮุน นางเพียงแต่หวังว่าครั้งนี้นางจะไม่ต้องเป็นเครื่องกระทำบาปผิดต่อองค์หญิงคยองซูก็เพียงพอแล้ว

    เซฮุนเดินนำร่างบางของลู่หานที่บอบช้ำทั้งใจและกายไปที่โรงอาศัยของท่านลุงลีซูมานของจงอินและแบคฮยอน เชฮุนเลือกห้องพักที่หรูหราสมฐานะ เขาผลักลู่หานให้นั่งบนฟูกเตียงก่อนจะเริ่มทำแผลช้ำๆที่มุมปากให้นางกำนัลคนงาม

    แผลที่เขาเป็นผู้ฝากไว้ให้กับนางฟ้าองค์น้อย

    นางคงไม่อาจรู้ได้เลยว่าใจของท่านชายผู้นี้ช่างร้าวระบม และสับสนแต่เพียงใด...

    ลู่หานสะบัดหน้าหนีทันที่ทีเซฮุนใช้ผ้าผืนเล็กชุบน้ำเช็ดรอยเลือดกรัง และขี้ดินที่แปดเปื้อนบนหน้าของตน

    ลู่หาน...อย่ามากความนัก พี่เป็นต้นเหตุทำเจ้าเจ็บ

    ใยตอนทำ ท่านชายม่เคยคิดเล่า...หม่อมฉันก็เจ็บมาตลอด...ตั้งแต่วันแรกที่รักท่านชายนั่นละ

    ลู่หานพี่ขอโทษ...ขอให้พี่ทำแผนการณ์สำเร็จได้แต่งานกับองค์หญิง...

    แล้วพระองค์ก็จะแต่งตั้งหม่อมฉันเป็นชายาอีกคน!! อย่าทรงตรัสอีกท่านชาย หม่อมฉันเบื่อ เสี่ยวลู่หานผู้นี้แสนจะเบื่อและอดทน ลองให้พระองค์แต่งงานไปเป็นพระสวามีรองขององค์หญิงต่อจากองค์ชายรัชทายาทจงอินบ้างละ!! พระองค์คงจะเข้าใจ!!

    ลู่หานหลับตาตะโกนใส่หน้าเซฮุนคล้ายกับคนบ้าคลั่ง และเสียสติ

    สุดจะทน’ คงเป็นคำเดียวที่นางรู้สึกในตอนนี้

    เซฮุนบีบแขนเสี่ยวลู่หานแน่นเขารู้สึกโมโหอย่างถึงที่สุด ไม่ใช่โมโหร่างบางที่พูดจาร้ายกาจ แต่เขากับโมโหตัวของเขาเอง โมโหในความโง่เขลา และความไม่ชัดเจนที่เขามีมอบให้กับคนตัวเล็กข้างหน้านี้

    หรือสิ่งที่เซฮุนควรทำในกาลนี้คือพาเสี่ยวลู่หานกลับบ้านเมือง และรีบแต่งงานกับนางให้ไวที่สุด

    ท่านปู่ทวดช่วยบอกหลานที หลานควรทำตัวเช่นไร...

     

     

     

     


     

     

    เสียงประโคมดนตรีดังลั่นมณฑลพิธีการจัดงานหมั้นหมายขององค์ชายหมาป่า และองค์หญิงหงส์คยองซูคนงามดังไปทั่วทั้งดินแดนหมาป่าอันสงบ

    ประชาชนต่างพากันมุงดูการทำพิธีอันศักดิ์สิทธิและหาดูได้ยาก เพราะราชวงศ์แต่ละองค์ก็แต่งงานเพียงครั้งเดียวในชีวิตเท่านั้น จึงมิใช่เรื่องแปลกที่นานๆทีจะมีหน

    ใต้ต้นไม้ใหญ่ผู้โอบอุ้มพระราชวังไว้ทั้งแห่ง จงอิน คยองซูกำลังทำพิธีโดยผู้ใหญ่อย่างราชาอาอิน ราชายุนโฮและองค์ราชินีทั้งสองพระองค์ มือบางของคยองซูถูกผูกด้วยด้ายแดงอย่างหนาแน่นอีกฝั่งนึงของเชือกคือข้อมือของจงอินนั่นเอง

    พิธีการหมั้นหมายตามประเพณีของเมืองหมาป่านี้ไม่ได้ยากเย็นเพียงผูกข้อไม้ข้อมือก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย จงอินลอบมองพระบิดาขององค์หญิงคยองซูเป็นครั้งคราว ใบหน้าหล่อเหลาและน่ายำเกรงยังคงแน่นิ่ง แม้จะทรงแย้มยิ้มบ้างหากคยองซูเข้าไปอ้อนหรือเมียงมอง

     

    "โกรธลูกหรือไม่"

    เสียงหวานขององค์หญิงรัชทายาทเอ่ยถามผู้เป็นบิดาหลังจากจบพิธีต่างๆ เชื้อกษัตริย์ต่างพากันมาร่วมโต๊ะอาหารเย็นอย่างเต็มสุข

    "จะโกรธได้อย่างไรแก้วตาพ่อ เจ้ามีหลานให้พ่อผู้แก่เฒ่าก็ควรจะดีใจซี"

    ยุนโฮลูบหัวทุยของลูกหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวของตน

    "ขออภัยท่านพ่อด้วยที่เราทั้งสองกระทำการไม่งาม จนทำให้ท่านพ่อท่านแม่ทุกพระองค์ต้องไม่สบายพระทัยขอรับ"

    จงอินพูดบอกยุนโฮอย่างนอบน้อม ยุนโฮเองก็ได้แต่พยักหน้ารับฟัง เขาไม่ได้มีปัญหาอะไรกับองค์ชายใหญ่ มีแต่เพียงพระบิดาของพระองค์เท่านั้นที่ยังกวนประสาทไม่หยุดหย่อย

    "จะขอโทษไปใย สินสอดเราก็เสียไปให้เขามากโข..."

    "ท่านพี่!"

    แตฮีห้ามความไม่อยากให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารพาลหมองในวันดี วันรื่นเริงเช่นนี้  แจจุงส่ายหน้าพร้อมทั้งแย้มยิ้มหวานหยดก่อนจะเอ่ยปากชวนยุนโฮให้ไปยังห้องบรรทม แยกทัพ แยกความจะได้ไม่มีปัญหา

    "คยองซู พ่อเจ้าเหนื่อยแล้ว ขอให้พระองค์ได้พักบรรทมเถิด ลาเพคะท่านพี่อาอิน แตฮี เราสองคนด้วยนะแบคฮยอน ชานยอล"

    "ขอรับท่านป้า"

    ชานยอลแข็งขันตอบหลังจากไม่มีบทมาแสนนานในฟิคเรื่องนี้

    "ท่านพ่อ! ทำไมพระองค์ทรงดังเช่นเด็กเกเรเอาแต่ใจ!"

    แบคฮยอนตะโกนเบะปากแสดงอาการโกรธ และไม่พอใจ

    "พ่อพูดเรื่องจริง น้ำหนักทองน่ะมากกว่าน้ำหนักองค์หญิงที่มีหลานพ่ออยู่ในครรภ์อีก ใยต้องเกรงใจอะไรกันอีก"

    "ขอจบได้หรือไม่"

    สุรเสียงหวานๆของคยองซูเอ่ยเย็น

     

    "หากยังมีแง่เช่นนี้เราจะเป็นครอบครัวเดียวกันได้อย่างไรเพคะ หลานในท้องก็หลานพระองค์ มีลูกชายก็ต้องขอสตรีมาเคียงข้าง อย่าทรงตรัสเลยว่ามันมากมายเพียงใด หากเห็นว่าหม่อมฉันด้อยค่า ท้องก่อนวิวาห์ใยไม่รับเข้าวงศ์แต่แรกเล่า นี่เข้ามาแล้วก็เห็นใจหม่อมฉันบ้างเถิดท่านพ่อ"

     

    องค์ราชาอาอินแน่นิ่ง เพราะพระองค์ไม่คิดเลยว่าองค์หญิงตัวน้อยท่าทางอ่อนต่อโลกจะพูดอะไรเช่นนี้ออกมาได้  แบคฮยอนกลืนน้ำลายเอือกใหญ่ก่อนจะพยักเพยิดหน้าให้ผู้เป็นพี่ได้พาพระชายาเข้าตำหนัก

    "ทูลลาท่านพ่อ ท่านแม่"

    จงอินกล่าว แลพาคยองซูที่ดูตกใจไม่น้อยกับสิ่งที่ตนได้กระทำไปสู่ตำหนักบนกิ่งไม้ใหญ่ของทั้งคู่

    "ขอประทานอภัยท่านพี่ น้องมิได้ต้องการว่ากล่าวท่านพ่อ...น้อง..."

    "ชู่ว เจ้าสาวของพี่ อึดอัดมานานสินะชะแม่จ๋า"

    "อื้อ เพคะ"

    คยองซูนั่งลงบนตักแข็งแรงของจงอิน มือหนากอดรอบเอวเล็กคอดนั่นไว้ก่อนจะเปิดหน้าท้องบางขึ้นลูบไล้เล่นเบาๆ

    "พรุ่งนี้ก็จะสมดังที่หวัง...ตามประเพณีคืนนี้ชะแม่ของพี่ต้องนอนคนเดียว อดทนเหงาหน่อยนะ"

    "เพคะน้องทราบดี"

    "นอนเถิดยอดดวงใจของพี่ เพราะหลังจากคืนนี้จะไม่มีคืนใดที่เจ้าจะได้เหงากาย เหงาใจอีกต่อไป"

    จงอินประคองกอดร่างบางให้นอนราบลงบนเตียงผ้าไหมทองถูกถักทอหนาแน่นเสียจนเป็นผ้าห่มถูกยกขึ้นคลุมจนถึงอกบาง นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มถ่ายทอดความห่วงใยถึงอีกคนอย่างไม่คิดจะปกปิด

    "เจอกันพรุ่งนี้นะท่านพี่ นอนหลับฝันดีเพคะ"

    "จ้ะ"

    ประตูห้องปิดหลังพร้อมความมืดมิด แลจันทราส่องสว่างนั้นไม่อบไม่อุ่นใจเหมือนมีแววตาร้อนเร้าที่ผู้เป็นสวามีนอนกอดอยู่ข้างกาย คยองซูหลับตาลง อยากจะพักผ่อนจากความเหนื่อยล้าตลอดทั้งวัน

    องค์หญิง...องค์หญิงเพคะ

    เสียงแผ่วเบาลอยมาจากนอกหน้าต่างทำเอาคยองซูหนาวเย็นยะเยือกขนตามสันหลังพากันลุกตั้ง สัญชาตญาญสัตว์กำลังบอกนางได้ว่าอันตรายกำลังมาเยี่ยมเยือน

    ร่างบางหลับตาแน่นไม่อยากได้ยิน คิดไปซะว่าเราคงหูฝาด หลับเสียเจ้าคยองซูพิธีการสำคัญกำลังเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้เจ้าเพียงแต่หูแว่วไปเพราะนอนน้อย...

    องค์หญิงคยองซู หม่อมฉันเอง หม่อมฉันมาเฝ้าพระองค์แล้ว

    เสี่ยวลู่หานอย่างนั้นหรอ...นางจะมาได้อย่างไรกัน หรือว่ากำลังลำบาก ไม่ได้การเสียแล้วคนของเราจะลำบากไม่ได้ ทันเท่าความคิดคยองซูลุกอย่างรวดเร็วพลางทำท้องของนางรู้สึกเจ็บอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

    โอ๊ย...ลูกแม่เจ้าเป็นอะไร

    ความเจ็บปวดและร้อนรุ่มภายในท้อง ลางร้ายที่กำลังเตือนองค์หญิงตัวน้อยไม่ให้ออกไปโผล่หน้าดูหน้าต่าง คยองซูรู้ดีว่าตนควรกลับไปนอนบนเตียงรอคอยดวงตะวันให้กลับมาเยียนท้องฟ้าแต่ไม่ทันเสียแล้ว...

     

     

     

     

    ....แม้ในยามราตรีมีนวลจันทร์งามสง่าคู่ฟ้าใส   แต่ในความมืดหม่นนั้นย่ำมีแสงแห่งอังศุมาลีตกกระทบเป็นที่ตั้ง  เจ้าหาอย่าได้หลับซ่อนในเงาจันทร์ให้เสียเวลาเลยองค์หญิงคยองซู....

     

     

     

     

     

     

    -----------------------------------------------------------------------------------

    Talk :: สวัสดีค่ะ หายไปนานมากอ่ะรู้ตัว แอบงอนนะคอมเม้นเราน้อยอะ ฮ่าๆๆ (ล้อเล่นค่ะ)

    จริงๆคือไม่มีเวลาพี่ลูกแก้วหรือน้องๆที่ตามทวิตอยู่ต้องแบบเจแปนมันมัวแต่ขายของ จริงๆเราเขียนทุกวันนะคะ ก่อนอาหารเที่ยงวันละ 2 บรรทัด ฮ่าๆๆ เขียนเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้เราโพสต์ #BKS ไป ขอสารภาพกับผู้อ่านก่อนว่าเจแปนเป็น SuDiอ่ะ นิดนึงเนอะ แต่ไงก็ไคโด้อยู่ดี  ฝากด้วยนะคะ เดี๋ยวจะย้ายมันไปในฟิคสั้นส่วนตัวแล้ว

    อีกเรื่องนึงคือคนที่จองฟิคเราไว้ไม่รู้ลืมกันยังช่วยฝากชื่อกับอีเมล์ไว้ทีนะคะขอบคุณมากค่ะ

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×