ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (RE-Write) EL DORADO - kaido #หงส์ขาว

    ลำดับตอนที่ #13 : EL DORADO - Part 13

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ย. 56













    Part 13 

     

     

     

     

     

    EL DORADO……..

     

     

     

     

     

    การเดินทางในป่าดูเหมือนจะยากเย็นนักสำหรับองค์หญิงหงส์คยองซูคนงาม ใบหน้าขาวเนียนของนางขาวซีดอย่างน่าสงสาร แม้จะไม่ได้เดินเท้าเอง แต่ละอองฝนที่ตากมาตลอด 1 วัน กับ 1 คืนในเมืองดงดิบอันแสนทรหดก็ทำให้นางอ่อนเพลียมากพอตัวเลยทีเดียว

    ขาหน้าแข็งแรงยังคงวิ่งอย่างต่อเนื่อง โดยด้านหลังของหมาป่าสีดำขนเงาเป็นมันนั้นคือร่างอรชรที่ดูแสนจะอ่อนเพลีย จงอินเองก็จับสัมผัสอุ่นๆบนหลังของตนเองได้ อุณหภูมิในร่างกายของนางร้อนดั่งไฟ เขาควรทำอย่างไรดีหนา...จงอินลดความเร็ว และแรงกระโจนก่อนจะหันไปมององค์หญิงตัวน้อยด้วยแววตาแสนจะห่วงแหน

     

    วิ่งต่อเถิด น้องเพียงอ่อนเพลียเท่านั้นเพคะท่านพี่

     

    คยองซูพยายามยิ้มอย่างสดใสบอกกล่าวให้สวามีของตนสบายพระทัย แต่ก็ไม่เป็นผลเลย จงอินยิ่งเป็นห่วงนางมากเสียเหลือเกิน

     

    ไม่เป็นไรหรอกท่านพี่เร่งฝีเท้าเถิด แบคฮยอนคงไปรอที่เมืองจุดหมายแล้ว ข้าไม่อยากให้แบคฮยอนรอนาน เขาหงุดหงิดจะเป็นเรื่องใหญ่

     

    จงอินคำรามออกมาเสียงดังลั่นป่าก่อนจะวิ่งควบทะยานไปด้านหน้าอย่างเร่งรีบ ไม่เกินพลับค่ำวันนี้เขาต้องถึงเมืองสัมพันธ์ให้ได้...เพราะมัวแต่พลอดรักกันที่เมืองดงดิบทำให้เวลาในการเดินทางช้าลงนิดหน่อยแต่จงอินคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร ปล่อยให้แบคฮยอนได้อยู่กับคนที่ตนรักบ้างเผื่อเรื่องดีๆอาจเกิดขึ้นก็ได้

     

     

     

     

    ถึงละจ่ะเมียจ๋า อย่าบ่นให้มากเลยแม่คนงาม

     

    ชานยอลพูดอย่างประชดประชันแบคฮยอนที่เอาแต่งอแงอยากเดินเที่ยวตลอดเวลา แสงสว่างว๊าบนึงเกิดขึ้นที่ชานเมืองสัมพันธ์ระหว่างหมาป่า และชาวผู้วิเศษ ก่อนที่ทุกอย่างจะสงบลงเผยให้เห็นร่างชายหนุ่มหน้าตาดีมีสกุลสองนายเดินย่ำหญ้าสูงเพียงเข่าเข้ามายังตัวเมือง

     

    พี่น่ะไม่เข้าใจหรอกว่าอาการอยากเจอเรื่องน่าตื่นตาตื่นใจเป็นเช่น

     

    เกิดมาก็เจอแต่ป่าหาได้เคยเจอสาวชาววังงดงามเยี่ยงเจ้าไม่

     

    คำหวานของชานยอลยังได้ผลดีกับแบคฮยอนเสมอแก้มขององค์ชายน้อยแดงกร่ำ มุมปากน่ารักยกยิ้มน้อยๆ คิ้วเรียวยกตัวขึ้นสูงแบบคนวางมาดหนัก ก่อนที่จะทำเป็นเดินหนีไปร้านขายสินค้าของประดับแห่งหนึ่งในตลาด

     

    อยากได้กำไลสักอันแบคฮยอนพรึมพรำ

     

    ชานยอลมองกำไลมากกว่า 20 อันที่วางเรียงกันอยู่บนผ้ากำมะหยี่สีแดงสดสะท้อนกับแสงอาทิตย์ยามเที่ยงแสนจะแสบตา

    บางทีเขาควรเลือกให้แบคฮยอนสักอันนะ มอบกำไลหยกนี้เป็นของมีค่าเป็นตัวแทนความรู้สึกของเขา...คิดได้ดังนั้นแล้วชานยอลก็หยิบกำไงหยกสีเขียวอ่อนมีทองสลักลงลักเพียงเล็กน้อยพอน่ารักขึ้นมา และใส่ลงที่ข้อมือข้างขวาของแบคฮยอนทันที

     

    “...ทำอะไรน่ะ เจ้าหูกาง

     

    พี่เพียงอยากให้เจ้า เมียรักของพี่ก็เท่านั้นเอง

     

    ชานยอลจัดการจ่ายทองก้อนนึงที่ตนพอมีสะสมไว้ให้พ่อค้าร้านขายเครื่องประดับ โดยไม่คิดจะเอาเงินทอน

     

    อยู่ในป่ามีแต่ของฟรี จะเสียดายเงินทองกันไปทำไมเล่า

     

    แบคฮยอนมองชานยอลอย่างซาบซึ้ง ใบหน้าสวยหวานมีริ้วเป็นสีแดงกร่ำขึ้นที่แก้มชวนมอง ชานยอลกุมมือบอบบางนั้นก่อนจะเดินตลาดต่ออย่างมีความสุข

    หากถามใจชานยอลตอนนี้ว่าแบคฮยอนน่ารักและบริสุทธิ์ขนาดนี้ เขารู้สึกยังไงกับร่างบางข้างกาย คงตอบได้ว่ากำลังตกหลุมรัก

     

    แต่คำว่ารักช่างหนักหนา คำว่ารักเหมือนโซ่พรวนที่ตรึงคนพูด และคนฟังไว้ไม่ให้ไปจากกัน

     

    แบคฮยอนเองก็ยังเป็นเด็กน้อยในสายตาของชานยอล หากวันหนึ่งเด็กน้อยได้พบรักใหม่ คนที่เสียใจก็อาจจะเป็นเขาเองก็ได้

     

    องค์ชายน้อยๆ องค์ชายน้อยใช่หรือไม่ จำข้าได้รึป่าวขอรับ

     

    นั่นเจ้า...คิมจงฮยอน คิดถึงแทบแย่กลับมาจากเรียนต่างเมืองแล้วรึ สำเร็จดีใช่หรือไม่

     

    มือบางสะบัดออกจากการกอบกุมของมือหนาของชานยอล เขามองภาพมือของเขาถูกสะบัดเหมือนไม่ต้องการคนชายหนุ่มแต่งกายแบบผู้ดีตรงหน้ารับรู้สถานะของพวกเขาทั้งคู่

    ชานยอลยังคงควบคุมสีหน้าให้ยิ้มแย้ม ก้มหัวน้อยๆให้ชายผู้มีใบหน้าเรียวเล็ก หลังตรงสง่างามตรงหน้า ที่กำลังกอดกับแบคฮยอนของเขาเสียกลม

     

    แล้ว...ท่านชายผู้นี้คือใครรึแบคฮยอนจงฮยอนถามอย่างใคร่รู้

     

    เอ่อ....

     

    กระผมคือเพื่อนร่วมทางกับแบคฮยอนน่ะขอรับท่านชาย

     

    ชานยอลพูดเสียงเรียบ เขากลัวว่าร่างบางตรงหน้าจะอึดอัดกับการที่จะต้องบอกสถานะของเขาทั้งคู่ให้จงฮยอนได้รู้ แต่ชานยอลไม่ได้รู้เลยว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นการทำลายใจดวงน้อยขององค์ชายรัชทายาทอันบดับ2 แห่งเมืองหมาป่าไปเสียแล้ว

     

    งั้นหรอชานยอล...ใช่จงฮยอนชายผู้นี้ก็แค่เพื่อนร่วมทางน่ะ เจ้าละพักอยู่ที่ใดกัน

     

    ที่โรงอาศัยของท่านลุงลีซูมานน่ะ

     

    ที่เดียวกันเลยละ งั้นเราทานน้ำชากันเสียจะดีไหม

     

    แบคฮยอนเดินเบียดตัวเขาหาจงฮยอนโดยทำทีไม่สนใจชานยอลที่มีสีหน้าเรียบสนิทด้านหลัง จงฮยอนเองก็พอจะจับเค้าโครงของความสัมพันธ์ของทั้งคู่ออก และเห็นได้ชัดว่าเพื่อนร่วมสำนักของตนจะมีใจให้ชายหนุ่มหูกางด้านหลังนี่ไม่ใช่น้อย และเขาเองก็นึกสนุกอยากจะเล่นไปกับเกมที่เพื่อนกำลังก่อ

     

    เอาสิ กินน้ำชาสักหน่อยก็คงจะดี

     

     

     

     

     

    ท่ามกลางป่าไม้อันสวยงามเสี่ยวลู่หานคนงามกำลังบรรจงขัดแผ่นหลังกว้างให้กับท่านชายโอเซฮุนผู้สง่างาม ทายาทของโอซังฮุน วีรบุรุษผู้มอบแสงอาทิตย์ให้ชนชาว El Dorado ดินแดนทองคำที่เต็มไปด้วยทรัพยากรสมบูรณ์โดยทั่วกัน

    แสงอาทิตย์ยามคล้อยบ่ายสาดส่องกับธารน้ำที่ไหลรินมาจากภูเขา ต้นน้ำที่แสนใสสะอาดน้ำใช้อาบ และกินยิ่งนัก เซฮุนและลู่หานนั่งอย่างสบายอกสบายใจบนโขดหินสีดำก้อนโต มือบอบบางของเสี่ยวลู่หานค่อยๆขัดแผ่นหลังให้คนที่นางรักสุดหัวใจอย่างบรรจง บางครั้งเซฮุนก็จะหันมาหอมแก้มนาง หรือใช้คำหวานปลอบประโลมต่างๆ

    จมูกคมเป็นสันไล้ไปตามพวงแก้มของนางกำนัลตัวน้อย มือบอบบางของนางเปลี่ยนหน้าที่เป็นผลักไสอกของเขาให้ออกห่างจากนาง ใบหน้าสวยหวานส่ายไปมาเป็นเชิงห้าม

     

    เดี๋ยวจะเย็นค่ำ พี่จะไม่ได้เข้าเฝ้าท่านตานะเพคะ

     

    พรุ่งนี้ก็ได้ พี่คิดถึงเจ้าอยากจะหอมให้ชื่นใจสักหน่อย...ใครน่ะ!

     

    เซฮุนดึงเสี่ยวลู่หานให้หลับมาอยู่ด้านหลังของตนเองทันทีที่ได้ยินเสียงของบางอย่างอยู่ในพุ่มไม้ด้านหลัง สายตาคมดุจเหยี่ยวจดจ้องไปยังต้นไม้ใหญ่คู่หนึ่งด้านหลังของตน แสงสว่างว๊าบนึงสว่างขึ้น เมื่อมันสงบลงภาพของต้นไม้แต่ก่อนมากลายเป็นชายหนุ่มร่างกำยำ 2 นาย นั่งอย่างสุภาพ พร้อมทำความเคารพเซฮุนอย่างนอบน้อม

     

    เทพารักษ์รึ? ต้องการสิ่งใดกัน

     

    ถวายความเคารพท่านชายผู้วิเศษ ข้าทั้งสองเพียงมีข่าวมาบอกท่านเกี่ยวกับ...

     

    เกี่ยวกับอะไร พูดเสียให้ดีเซฮุนตวาดลั่น ร่างเล็กของลู่หานถูกเขาบังไว้จนมิด เหตุก็เพราะนางมีเสื้อผ้าห่มน้อยชิ้น เขาไม่ต้องการให้ใครมาเห็นเสี่ยวลู่หานของเขา

     

    พวกเราเจอองค์หญิงพระคู่หมั้นคยองซูร่วมรักอยู่กับองค์ชายใหญ่แห่งเมืองหมาป่าที่เขตป่าดงดิบขอรับ

     

    เพี๊ยะ!!

     

     

    เสียงฝ่ามือกระทบกับใบหน้า แน่แท้ว่าร่างเล็กที่โดนตบตกลงไปในน้ำทันที 

    'เซฮุนตบเสี่ยวลู่หาน

    เขาแน่ใจว่าร่างบางผู้นี้กำลังหลอกให้เขาหลงทาง ด้วยความโมโหเซฮุนยั้งตัวเองไม่ทัน

    แม้ว่าจะรักนางมากขนาดไหน แต่นางกำลังทรยศเขา...

    เสี่ยวลู่หานปล่อยให้ตนเองจมลงไปในน้ำไม่คิดจะกางปีก หรือลอยตัวขึ้นมาเหนือน้ำ บางทีนางตายไปเลยอาจจะดีเสียกว่า ทำกันขนาดนี้ตั้งกี่ครั้งแล้ว ทำร้ายทั้งร่างกาย และจิตใจของนางจนเจ็บปวดดั่งกำลังตกนรกก็ไม่ปาน

    เซฮุนยืนหลับตานิ่งปาทองคำที่ถูกบรรจุในถุงสีแดงให้กับเทพารักษ์ทั้งสอง

     

    ไปซะ อย่ามาให้ข้าเห็นอีกพูดจบเซฮุนก็โดดลงน้ำทันที มือยาวกวานหาร่างของนางผู้เป็นที่รักจนทั่ว เขาโอบอุ้มนางขึ้นมาจากน้ำ นางสงบนิ่งไปเสียแล้ว...ใบหน้างามนั้นบอบช้ำจากแรงตบของบุรุษเพศเช่นเขา

     

    พี่ขอโทษ...

     

    คำขอโทษที่ไร้ความหมาย...

    คำขอโทษที่ไม่มีทางเลือก นอกเสียจากยอมทำมจรับไว้

    คนที่รักมากกว่าอย่างเสี่ยวลู่หานมักตกเป็นเหยื่อที่ถูกทำร้ายจิตใจเสมอ ทำได้อย่างมากที่สุดก็คือ...อดทนเท่านั้นเอง

     

     

     

     

     

     

     

    เสียงคำรามครั้งสุดท้ายดังลั่นชายเขตเมืองสัมพันธ์ก่อนที่แสงสว่างกระจายตัวออกกว้างเป็นสีส้มสว่างจนสัตว์ป่าตัวน้อยอย่างลูกกวางพากันวิ่งหนีอย่างหวาดกลัว

    เสียงฝีเท้าหนักๆ เหมือนชายหนุ่มกำยำในอาภรณ์ราคาแพงกำลังรีบร้อนจะย่ำเท้าไปข้างหน้าอย่างไม่ละความเร็ว ในอ้อมกอดของเขานั้นโอบอุ้มองค์หญิงหงส์ที่ทรงเครื่องแบบบุรุษเพศอย่างแนบแน่น

     

    "คยองซู...ถึงแล้วเจ้าพี่จะพาเจ้าไปหาหมอ แข็งใจไว้นะ"

     

    จงอินปลอบประโลมคยองซูที่หน้าซีดเซียว และกำลังหมดสติ ก่อนหน้านี้ไม่นานในขณะที่หมาป่าจงอินทะยานวิ่งมาใกล้กับชายป่าเขตเมืองสัมพันธ์ที่เป็นจุดมุ่งหมายของการเดินทางครั้งนี้ คยองซูก็มีอาการจับไข้ตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด หลายครัั้งที่คยองซูหน้ามืดคล้ายจะเป็นลม แต่ก็ยังคงบอกให้จงอินเร่งวิ่งเร็วๆอยู่ไม่ขาดปาก

    รอยยิ้มบางๆที่มุมปากคยองซู ยิ่งทำให้จงอินรู้สึกร้อนใจ เขาไม่รู้ความหมายของรอยยิ้มนั้น แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาเลย

     

    "น้องเจ้า...คยอง คยองซู..."

     

    จงอินร้องเรียกคยองซูไปตลอดทางจนกระทั่งถึงโรงอาศัยจุดนัดพบของตนและน้องชาย

     

    "ท่านลุงลี ขอข้าได้พักอาศัยที่นี่ ชายาของข้านางกำลังไม่สบายขอท่านลุงจงช่วยตามหมอมาให้ที"

     

    "องค์ชายใหญ่งั้นรึ...อ้ะ พาชายาเจ้าขึ้นไปบนห้องประจำเจ้าเลยองค์ชายลุงจะไปตามหมอมาให้"

     

    จงอินเร่งฝีเท้าขึ้นไปบนห้องชั้นเดียวกับที่แบคฮยอนอยู่ เสียงฝีเท้าหนักเบนความสนใจของแบคฮยอนที่กำลังดื่มด่ำกับแก้วชาทองคำราคาแพงให้หันไปมองภาพลางๆภาพประตูที่ทำจากกระดาษไข แบคฮยอนจำได้ดีว่ามันคือเงาของพี่ชายของตนเอง

     

    "นั่นพี่จงอินนิ..."

     

    "องค์ชายใหญ่น่ะรึ นั่นเขาอุ้มใครมาด้วยน่ะ..."จงฮยอนเปล่งเสียงถาม

     

    "คยองซู พี่สะใภ้ข้า ตายละ! นางเป็นอะไรไป"

     

    แบคฮยอนรีบวิ่งตามพี่ชายของตนไปดูคยองซูที่หน้าซีดเซียว ปากของนางไม่มีสีชมพูเรื่ออย่างที่เคยเป็น

     

    "อะไรกัน?"

     

    ชานยอลเดินตามเสียงเอะอะออกมาจากห้อง หลังจากซ่อนตัวทำทีงอนแบคฮยอนปลีกตัวมานอนในห้องนอนแต่เพียงผู้เดียว

     

    "หลบทีขอรับ หลบที..."

     

    ชายชราสูงเพียงราวนมของชานยอลในชุดข้าราชการสีขาว พร้อมกับเด็กผู้หญิงอายุราว 12ขวบวิ่งตามอย่างรีบร้อนอีก 2คน ชานยอลยกมือขึ้น อีกทั้งยังเอี้ยวตัวหลบเด็กๆเหล่านั้น ด้วยความไม่ทันระวังของชานยอล ทั้งความรีบร้อนของแบคฮยอนเองก็ด้วยส่งผลให้แผ่นหลังของชานยอลที่กำลังเดินถอยหลังหลบชนเข้ากับสันจมูกของแบคฮยอนเต็มๆ

     

    "นี่!! ชานยอล ข้าเจ็บนะ"

     

    "เจ้าเจ็บมากรึป่าว พี่ขอโทษ"

     

    ชานยอลว่าพลางเดินไปจับจมูกน้อยๆของแบคฮยอน ด้วยความที่ยังงอนเจ้าหมาน้อยเลยสะบัดหน้าหนีก่อนจะเดินไปจูงมือจงฮยอนที่ยืนกลั้นขำมองอยู่ไปยังห้องพักขนาดใหญ่กว่าห้องของแบคฮยอน บนเตียงที่ถูกปูด้วยผ้าไหมเนื้อละเอียดสีขาวมีร่างบอบบางของคยองซูนอนอยู่ ข้างกายของนางมีจงอินคอยบีบมือเล็กนั้นอยู่ไม่ห่าง 

     

    "อาการของนางไม่ได้น่าห่วงแต่อย่างใด เพียงพักผ่อนน้อยกับอ่อนเพลีย ข้าจะสั่งยาบำรุงไว้ให้ หื้ออ?"

     

    "มีสิ่งใดกันรึท่านหมอ?" จงอินถามอย่างร้อนใจ

    "สักครู่นะองค์ชาย อื้ออ ซับซ้อนนัก...อื้ออ ใช่แล้วขอรับองค์หญิงตั้งครรภ์อ่อนๆ ยินดีด้วยขอรับ"

     

    ทันทีที่ท่านหมอกล่าวจบรอยยิ้มกว้างที่จงอินมั่นใจว่าตนเองไม่เคยยิ้มกว้างขนาดนี้มาก่อนในชีวิต 

    ชานยอล และแบคฮยอนเองก็หันมายิ้มกว้างให้กันโดยไม่ได้นัดหมาย แล้วก็เป็นแบคฮยอนเองนั่นแลที่เบะปากแลบลิ้นเปลี่ยนอารมณ์ในพริบตา แล้วจึงสะบัดหน้าหนี

     

    "อื้อ ท่านน ท่านพี่..."

     

    คยองซูลืมตาขึ้นช้าๆ นางอมยิ้มละมุนมองใบหน้าหล่อเหลาขององค์ชายหมาป่าคนรักของตนที่นั่งอยู่บนพื้น มองตานางในระยะใกล้

     

    "คยองซูเจ้ากำลังมีหมาน้อยให้พี่แล้วนะเจ้า...พี่ปลื้มใจสุดจะกลั้น แม่ยอดดวงใจของพี่"

     

    "ช่างเป็นพระกรุณาของเทพเทวดาที่ส่งเขามาให้ท่านพี่ชื่นชม"

     

    คยองซูยกยิ้มหวานให้จงอินก่อนทั้งคู่จะกอดกันอย่างแนบแน่นที่แสดงถึงความรัก ความอบอุ่น ส่งทอดไปยังบุตรน้อยภายในท้อง

     

    "พี่สัญญาจะดูแลเจ้า และลูกอย่างดี"

     

    "น้องทราบแล้วเพคะ ^^"

     

    สายตาที่จงอินใช้มองคยองซูนั้น แบคฮยอนไม่เคยเห็นว่าพี่ชายของตนใช้มองสตรีนางอื่น คิดได้เช่นนั้นแบคฮยอนก็พาลเศร้าโศกขึ้นมาไม่ได้เมื่อคิดถึงเส้นทางความรักของตน

    ชานยอลที่ดูเหมือนไม่เคยจริงจัง และยอมรับในตัวเขาเลยสักครั้ง ใบหน้าเศร้าหมองของแบคฮยอนเป็นที่สังเกตของสหายอย่างจงฮยอน เขาอดไม่ได้ที่จะกอบกุมมือเพื่อนของตนไว้แน่น

     

    "หึ! องค์ชายเล็กขอรับเชิญทางนี้หน่อย ส่วนท่านชายจงฮยอนผมคิดว่ามันก็บ่ายคล้อยท่านน่าจะกลับไปพักผ่อนเสีย"

     

    มืออีกข้างของแบคฮยอนถูกบีบอย่างรุนแรง เสียงกระซิบรอดไรฟันของชานยอลถูกส่งไปยังจงฮยอนเพียงได้ยินกัน3คนเท่านั้น

     

    "อย่ามายุ่ง! นี่ไอ้หูกาง!"

     

    ตลอดทางที่แบคฮยอนถูกลากออกมาจากห้องของจงอิน ร่างบางเอาแต่สะดีดสะดิ้ง พยายามบิดมือออกจากการกอบกุมของชานยอล จนกระทั้งร่างสูงเริ่มอดรนทนไม่ไหวเหวี่ยงเจ้าตัวเล็กขึ้นเตียง ก่อนจะเดินไปปิดประตูห้องเสียงดังลั่น และหันกลับไปที่เตียงอีกครั้ง

     

    "อย่า...ชานยอลอย่าเข้ามา!"

     

    แบคฮยอนร้องห้ามไม่ให้ชานหนุ่มตัวสูงเข้าใกล้ตนไปมากกว่านี้ มือบางกำเสียงจนแน่นกอดตัวเองไว้ราวกับว่ามันจะช่วยให้ตนปลอดภัยมากขึ้น ตาหวานใสหลับลงจนสนิท สะดีดสะดิ้งดิ้นลงอยู่บนเตียง

     

    จนกระทั่ง...

     

    บรรยากาศรอบตัวมันเงียบไป...

     

    ไม่มีการทำร้าย หรือล่วงเกินจากชายหนุ่มร่างสูงตรงหน้าของตน

     

    แบคฮยอนลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ภาพที่เห็นมันยิ่งทำให้ใจของแบคฮยอนสั่นไหว...ภาพที่ชานยอลนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น ในมือของเขามีดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ที่แบคฮยอนจำได้ว่ามันเคยอยู่ในแจกันกลางห้อง พร้อมกับเสียงกระซิบที่แสนจะตรึงใจ

     

     

     

    …..

    …….

    ………

     

     

    "น้องเจ้า มาเป็นคนรักของพี่เถิดนะ..."

     




    Next to Part14






    --------------------------------------------------------------------

     

    Talk : มาถึงตอนที่ 13 กับเพลงประกอบตอนที่มีชื่อว่า ไม่บอกเธอเป็นเพลงที่เหมาะกับชานแบคมากๆเลย อิอิ เรายังไม่ได้ตรวจคำเลยอะ เอาคอมมหาลัยอัพด้วย ช่วงสถานการณ์วุ่นวาย เราเรียนเองปวดหัวเอง มาต่อช้าอันนี้ขอโทษด้วยนะคะ

    เรามาถึงเรื่องสำคัญกันบ้างฟิคของเราอาจรวมเล่ม คือเราต้องการดูความสนใจของท่านผู้อ่านก่อนนะคะ ถ้าสนใจเกิน 20 เล่มอันนี้ก็จะตีพิมพ์เนอะ ถ้าไม่ถึงก็คงไม่พิมพ์ เพราะแบบมันก็ไม่ได้อะไรอ่ะ ขาดทุนด้วย ในเล่มก็จะมี Special แบบไม่ได้ลง + ฟิคน่อวแถวด้วยค่ะ จะพยายามควบคุมราคาไม่เกิน 350 เนอะ

    สนใจคอมเม้นไว้ หรือ @JNN_93


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×