คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่5
ติ๊งต่อง~~~~ เสียงออดของบ้านเวย์ดังขึ้นทำให้ทุกคนในบ้านหันออกมามองที่หน้าต่างเพื่อดูว่าใครมากดออด และสิ่งที่ทุกคนเห็นไม่ว่าจะเป็นแม่ของเวย์หรือเวย์แม้แต่บัสก็ต้องพากันวิตกเพราะสิ่งที่เขาเห็นคือรถสีขาวราคาแพงจอดอยู่หน้าบ้าน มีชายที่แต่งตัวน่าจะเป็นคนขับรถคันนั้นลงมากดออด
“นั่นมัน! รถของพ่อฉันตายแล้วๆยัยเวย์ฉันตายแน่ๆ TOT!” บัสกระวนกระวายเมื่อเห็นรถของ พ่อเธอจอดเพราะรู้แน่ๆว่าพ่อต้องมาก
“ฉํนบอกเธอแล้วว่าใหกลับไปคุยกันตั้งแต่แรกเธอก็ดื้อ”
“น้าเมลช่วยหนูหน่อยนะคะ…” บัสที่หันไปหาเวย์อยู่แต่กลับโดนเพื่อนบ่นเลยหันมาหาตัวช่วย
“งั้นน้าจะช่วยแต่ครั้งต่อไปน้าไม่ช่วยนะ เดี๋ยวน้าจะออกไปพบกับพ่อของหนูก่อนละกัน”
“ขอบคุณคะน้าเมล” บัสดีใจมากเมื่อได้ยินแม้ของเวย์รับปากที่จะช่วย
“งั้นยัยหนูอยู่ในนี้กับบัสแล้วอ่านหนังสือกันไปก่อนนะ”
หลังจากแม่เวย์พูดจบก็เดินออกไปที่หน้าประตูรั้วบ้าน
“มาหาใครคะ” แม่เวย์ได้กล่าวถามชายที่มากดออดหน้าบ้าน
“ผมมาตามคุณหนูครับ”
“อ๋อ หนูบัสเดี๋ยวจะไปตามให้นะ”
“อ้าว เมลเป็นยังไงไม่เจอกันนานเลย”
เสียงจากชายที่มีภูมิฐานดูดีมีระดับลงมาจากรถสีขาวนั่นคือพ่อของบัสที่เป็นเพื่อนสนิทของพ่อเวย์
“สบายดีคะ แล้วคุณแซมเป็นยังไง” เมลตอบกับแซมและถามด้วยความยินดีที่ได้พบ
“ฮาๆ อะไรกันเรามันคนกันเองไม่ต้องเรียกคุณหรอกเมล” ชายที่อยู่หัวเราะเมื่อแมลพูดอย่างกับว่าเขาเป็นเจ้านายอะไรยังงั้น
“งั้นเข้าบ้านก่อนเถอะ เชิญคะ”
เมลเปิดประตูรั้วและพาแซมเข้ามาในบ้าน ทำเอาบัสและเวย์ใจหายไปพร้อมๆกัน
“เอาไงดีพ่อฉันเข้ามาแล้วๆ” บัสพูดพร้อมกับหันไปมองหน้าเวย์อย่างร้อนรน
“ฮ่าๆ อย่างงั้นเองหรอเมลเจ้าลูกตัวดีฉันอยู่ทำรายงานกับหนูเวย์ฉันก็เป็นห่วงแทบแย่”
เสียงของแซมทำให้บัสผู้เป็นลูกรู้สึกโล่งอกเมื่อบัสได้ยินเช่นนั้นจึงเดินไปหาพ่อของตน
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ วันนี้ไม่มีงานหรอคะ”
“บัสทำไมลูกไม่คิดที่จะโทรบอกพ่อว่าอยู่ที่นี่แอบหนีพ่อบ้านใหญ่มานี่ใช้ไม่ได้เลยนะ”
“หนูขอโทษค่ะที่ทำให้เป็นห่วง” บัสกล้มหน้าสำนึกในสิ่งที่ตนทำให้พ่อเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร ก็ดีเหมือนกันถือโอกาสมาเยี่ยมเมลกับหนูเวย์เลยแล้วกันอ่าวแล้วนี่หนูเวย์ไปไหนหละเมล”
“สวัสดีคะคุณลุง” เวย์ได้ยินเสียงของแซมจึงเดินเข้ามา
“โตขึ้นลุงเกือบจำเราไม่ได้แหนะพ่อเป็นยังไงบ้างหละ”
แซมเห็นเวย์ตั้งแต่ตอน13ขวบจึงทำให้แซมรู้สึกว่ามีอะไรหลายๆอย่างที่เปลี่ยนไปและคิดว่าซันเพื่อนรักที่หายไปจะกลับมาเพราะนี่มันก็10กว่าปีแล้วที่เขาไม่กลับมา
“พ่อยังไม่กลับมาเลยคะ แต่แม่บอกว่าพ่อจะต้องกลับมาแน่ๆ” เวย์ตอบสีหน้าดูเศร้าลงทำให้เมลต้องเข้าไปกอดลูกเพื่อไม่ให้ลูกคิดมาก
“ลุงว่าเราออกไปเที่ยวกันมั้ย เมลไปด้วยกันเลยไหนวันนี้ก็หยุดงานทั้งที”
แซมเห็นสถานการณ์ก็พอที่จะรู้ว่าเวย์และเมลต้องทนอยู่กันโดยขาดเสาหลักของบ้านอย่างซันจึงหาสิ่งที่ทำให้เมลและเวย์ไม่เศร้า
“พ่อคะ แล้วเราจะไปไหนดีหละ”
“อืม หนูเวย์อยากไปไหนหละเดี๋ยวลุงพาไป”
“หนูอยากไปพิพิธภัณฑ์ปราสาทเก่าคะ คุณลุงพอจะมีทางให้หนูเข้าไปเที่ยวชมได้มั้ยคะ”
เวย์รู้ว่าพ่อของบัสนั้นมีหน้ามีตาในสังคมและมีอิทธิพลอยู่ไม่ใช่น้อยจึงได้ขอให้พ่อของบัสช่วยพาเข้าไปในที่แห่งนั้นอีกครั้งเพื่อที่เวย์อาจจะพบเบาะแสบางอย่างเกี่ยวกับพ่อของตน
“เวย์เอาอีกแล้วหรอเธอคิดจะไปอีกหรอ” บัสถามด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าเวย์จะยังอยากไปที่นั่นอยู่
“งั้นถ้าหนูเวย์อยากไปลุงจะพาไป เมลไปมั้ย” แซมหันมาถามแม่ของเวย์เพราะปกติเมลจะไม่ชอบที่จะไปไหนมาไหนอยู่แล้ว
“ไม่ดีกว่าแซม ฉันขออยู่บ้านแล้วเย็นๆมาทานอาหารเย็นด้วยกันเลยนะ”
“งั้นโอเค ไปลุงจะพาไปเรื่องนี้ไม่ยากเท่าไหร่นะเดี๋ยวลุงจะโทรให้หน่วยงานที่ลุงรู้จักอนุญาติให้เข้าไปละกัน”
เวย์ดีใจมาก แต่เมื่อไปถึงก็พบว่าพิพธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่ส่วนบุคคลซะแล้ว
“คุณลุงคะ ทำไม….” เวย์สงสัยกับสิ่งที่ต้องเห็นป้ายที่มีขนาดกลางติดอยู่ที่ทางเข้ามีตัวหนังสือสีแดงเขียนว่าที่ส่วนบุคคลห้ามเข้า
“ขอโทษนะหนูเวย์พอดี มีคนโทรมาแจ้งว่าที่นี่มีคนซื้อไปแล้วจ่ะเราไปที่อื่นกันมั้ย”
“งั้นเรากลับบ้านเถอะคะคุณลุง”
“เวย์บัสว่ามีที่อีกเยอะที่น่าเที่ยวนะอย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ” บัสปลอบเพื่อนเมื่อเห็นสีหน้าที่ดูผิดหวัง
“เอางี้เราไปซื้อของมาจัดปาร์ตี้กันดีมั้ยคะคุณ” บัสเสนอความคิดเห็นและหันหน้าไปชวนพ่อของเธอ
“อื้มเปนความคิดที่ดีเลย ลูกสาวคนสวยพ่อนี่ฉลาดจริงๆ งั้นเราไปซื้อของกัน”
หลังจากที่ซื้อของเสร็จทุกคนก็จัดงานปาร์ตี้บ้านของเวย์ทุกคนมีความสุขเพราะไม่ได้จัดงานเลี้ยงด้วยกันมานานแล้วถึงแม้จะเป็นเพียงงานเล็กแต่ก็มีทั้งเสียงหัวเราะและรอยยิ้มทำให้เวย์และแม่ของเธอรู้สึกดีขึ้นมา
แต่อีกด้านหนึ่งฝั่งดาร์กและไนท์ก็ได้จัดแจงเรื่องที่เรียนของตนทั้งสอง แม้ว่าจะเป็นแวมไพร์แต่ดาร์กและไนท์ก็ยังไม่เคยดื่มเลือดแม้แต่ครั้งเดียวทำให้เขาสามารถถูกแสงได้มากกว่าแวมไพร์ทั่วไป
“นายใหญ่ครับ ทำไมเราต้องเรียนที่นี่ด้วยครับ”
“เพราะพวกเจ้าจะได้พบกับผู้ที่สามารถช่วยถอนคำสาปให้กับแวมไพร์อย่างเราได้ยังไงหละ”
เซฟพูดกับไนท์ในระหว่างที่เขานั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน
“แต่ผมว่าเราไม่ต้องเข้าไปเรียนที่นั่นก็ได้นะครับนายใหญ่” ดาร์กพูดขึ้นโดยทำท่าทีที่ไม่ค่อยอยากจะเข้าไปเรียนที่นั่น
“แต่นี่คือคำสั่งเจ้าทั้งสองคนต้องเข้าไปเรียนที่นั่นไม่ว่ายังไงห้ามขัดคำสั่ง พวกเจ้ากลับไปได้แล้ว” เซฟพูดพร้อมกับหันหลังและสั่งให้ดาร์กไนท์กลับไปที่ปราสาทของตน
“ครับนายใหญ่”
ดาร์กและไนท์เดินออกมาจากห้องของเซฟและสงสัยมาโดยตลอดว่าทำไมนายใหญ่ถึงไม่ยอมบอกในสิ่งที่เขากำลังทำ ทำให้ทั้งดาร์กและไนท์เริ่มคิดว่าเซฟไม่ไว้ใจเขาหรืออย่างไร แต่อย่างไรดาร์กกับไนท์ก็ยังคงทำตามคำสั่ง
“นี่ไนท์ นายว่าเราจะไปเจอพวกน่ารำคาญมั้ย"
“นายหมายถึงใครหละ”
“ก็พวกผู้หญิงที่วันๆเอาแต่กรี๊ดคนหล่อๆไง” ท่าทีของดาร์กที่ทำหน้าและท่าทางเหมือนแขยงพวกผู้หญิงพวกนั้นทำให้ไนท์ขำ
“555 นายกลัวหรอหรือนายชอบผู้ชาย”
“ไม่ใช่! ฉันชอบผู้หญิงแต่ชอบผู้หญิงที่เงียบๆเรียบร้อยไม่อยากเจอแบบยัยนั่นอีก บรึ๋ย แค่นึกถึงก็ไม่ไหวละคนอะไรปากนี่จัดชะมัดเลย”
“ฉันว่านายคงไม่เหมาะกับผู้หญิงเรียบร้อยละมั้ง 555 แบบคุณเวย์นี่น่าจะเอานายอยู่”
“=[]=! ว่าแต่นายหละไนท์ชอบคนแบบไหน”
“ฉันหน่ะไม่คิดหรอก”
“ห๊ะ! นายกะจะอยู่คนเดียวงั้นหรอ O{}O “
“ก็คงจะอย่างนั้น นายลืมไปแล้วหรอว่าเราเป็นใครเราหน่ะเป็นแวมไพร์นะจะไปรักกับมนุษย์คงยากที่จะรับได้”
“มันก็จริงของนาย ไนท์นายมาพนันกับฉันมั้ยวีนแรกฉันหรือนายใครจะมีคนมาขอเบอร์ก่อนกัน”
“ดาร์กนายไม่ชอบแล้วอารมณ์ไหนเนี้ย”
“เอาหน่า ถ้านายแพ้นายจะต้องให้ฉํนเป็นพี่นาย1วันเต็มและฟังคำสั่งจากดาร์กผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ 555”
“นายนี่มันจริงๆเลย แต่ถ้าฉํนชนะนายจะต้องทำตามที่ฉํนขอ3ข้อตกลงมั้ย”
“ได้ตกลง!”
ทั้งดาร์กและไนท์มีความคิดต่างกันทุกอย่างถึงแม้ว่าจะตาเหมือนกันก็ตามแต่ความสุขุมของไนท์ที่มีมากกว่าดาร์กทำให้ไนท์ดูโตมากกลับกันความเอาแต่ใจทะเล็นของดาร์กเลยทำให้เขาดูเด็กทุกครั้งที่ดาร์กพยายามที่อยากจะเป็นพี่ของไนท์แต่ก็ไม่เคยสำเร็จสักครั้งครั้งนี้จึงเป็นโอกาสที่ดาร์กจะได้เป็นพี่ของไนท์ แต่ดาร์กจะรู้มั้ยนะว่าไนท์หน่ะซ่อนความคลาสโนวาไว้ข้างในที่ไนท์ไม่คิดจะชอบใครก็เพราะเขารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่คนกับแวมไพร์จะรักกันได้…
ความคิดเห็น