คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่4
ท้องฟ้าที่ไม่มีแสงใดๆ ในชาญเมืองที่มีทั้งความเจริญและความเรียบง่ายติดกัน บรรยากาศที่เงียบมากจนวังเวงเหมือนไม่มีผู้ใดที่อาศัยอยู่ แต่ชาญเมืองนี้มีคฤหาสที่แสนจะดูเก่าและดูลึกลับมีรั้วรอบขอบชิด หน้าต่างทุกบานปิดสนิทมีเพียงประตูรั้วของคฤหาสแห่งนี้เปิดอยู่และมีรถหรูสีดำจอดอยู่ด้านหน้าของประตูคฤหาส
“สวัสดีครับนายใหญ่ ผมเข้าไปนะครับ”
เสียงไนท์ที่อยู่ด้านหน้าประตูของคฤหาสแห่งนี้ ไนท์กล่าวจบประตูของคฤหาสก็เปิดออก
“ปราสาทแห่งนั้นเป็นยังไง พวกเธออยู่ได้ใช่มั้ยถ้าได้ฉันจะซื้อแล้วให้พวกเธอดูแล”
ชายที่อยู่ในคฤหาสมืดกล่าวพร้อมเดินออกมาจากมุมมืด ใส่เสื้อสีเทากางเกงขายาวปิดข้อเท้าและชุดคลุมสีดำผมสีทองผิวขาวซีดร่างสูงใหญ่ดูมีอายุและมีอำนาจพลังซ่อนอยู่นัยตาสีแดงดั่งเลือด
“ไม่ค่อยส่วนตัวครับ แต่ถ้าสร้างรั้วและทำให้เป็นสถานที่ปิดก็พอได้ครับท่าน” ไนท์พูดอย่างนอบน้อมและเคารพ
“แล้วดาร์กไปไหน?” ชายที่ยืนอยูตรงหน้าของไนท์ถามถึงฝาแฝดอีกคนเพราะปกติดาร์และไนท์จะไม่ค่อยอยู่ห่างกัน
“ดาร์กสำรวจปราสาทอีกนิดหน่อยครับนายใหญ่” ไนท์ตอบไปอย่างไม่ติดขัดเพื่อไม่ให้มีพิรุธ
“อ๋อ! ดีนานๆทีเจ้าดาร์กจะช่วยงานเจ้าไม่ใช่ วันๆสร้างแต่ปัญหาเพราะความใจร้อน”
“ดาร์กไม่ใช่สร้างแต่ปัญหานะครับนายใหญ่” ไนท์รีบท้วงในสิ่งที่ชายผู้นั้นพูดถึงดาร์ก
“เจ้าก็ดีแต่เข้าข้างน้อง แล้วเมื่อไหร่มันจะมีความคิดที่เป็นแวมไพร์ชั้นสูงซะทีห๊ะ!” ชายผู้นั้นหันมาจ้องหน้าของไนท์ทำเอาไนท์กล้มหน้าเพื่อไม่ให้ชายผู้นี้ไม่พอใจ
“เอาเถอะ~ เจ้ามารับข้าไม่ใช่หรองั้นก็รีบไปเถอะเดี๋ยวเจ้าดาร์กจะไปสร้างปัญหา”
ชายผู้นี้เดินไปที่ข้างๆไนท์แล้วจับไหล่ของไนท์เพื่อไม่ให้ไนท์รู้สึกกลัว และเดินไปขึ้นด้านหลังของรถสีดำที่จอดอยู่หน้าประตู ไนท์รีบเดินมาขึ้นรถด้านคนขับและขับรถมา ถึงหน้าพิพิธภัณฑ์ปราสาท ก็พบกับดาร์กที่ยืนรอต้อนรับอยู่ด้านหน้าของปราสาท
“สวัสดีครับนายใหญ่” ดาร์กกล่าวเมื่อเห็นชายที่นั่งด้านหลังรถสีดำลงจากรถแล้วเดินมาที่ดาร์ก
“ที่นี่โอเค ตั้งแต่พรุ่งนี้ข้าจะให้พวกเจ้าอยู่ที่นี่และดูแลที่แห่งนี้” ชายที่ยืนอยู่ด้านหน้าของดาร์กกล่าวขึ้นเมื่อมองไปรอบๆปราสาท
“นายท่านครับ!”
“มีอะไรดาร์ก เจ้าไม่ชอบมันรึไง”
“ป่าวครับ แต่กระผมอยากรู้ว่าทำไมนายท่านถึงส่งพวกผมมาที่นี่”
“ถึงเวลาพวกเจ้าจะรู้เอง”
สิ่งที่นายท่านพูดทำให้ทั้งดาร์กและไนท์รู้สึกสงสัยว่าทำไมแวมไพร์อย่างพวกเขาถึงต้องโดนส่งมาที่นี่ทั้งที่การอยู่ที่คฤหาสนั้นก็ไม่มีใครอยู่และปลอดภัยจากสิ่งต่างๆแถมยังดูแลนายท่านได้ใกล้ชิดอีกด้วย
“เมื่อถึงคืนเดือนมืดพวกเจ้าอายุ20คำตอบที่พวกเจ้าสงสัยก็จะเปิดเผย”
ชายผู้นี้มีชื่อว่าเซฟแต่ไม่ค่อยมีใครทราบชื่อของเขามีเพียงดาร์กและไนท์เท่านั้นเขาเป็นดั่งพ่อของดาร์กไนท์เพราะเขาเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กทั้งๆที่ชายผู้นี้รู้ดีว่าดาร์กและไนท์เป็นฝาแฝดแวมไพร์ที่ถูกตามล่าเพื่อฆ่าเพราะจะเป็นภัยแก่เหล่าแวมไพร์ที่แฝงตัวอยู่ทั่วโลกเพราะคำสาปของเทพเจ้าที่ทำให้เหล่าแวมไพร์หวาดกลัวคือเมื่อใดที่เกิดมีฝาแฝดเกิดขึ้นกับเชื้อสายแวมไพร์เมื่อนั้นจะเกิดสงครามแห่งเลือด จึงทำให้ดาร์กและไนท์โดนพ่อแม่ทิ้งเ เซฟจึงเก็บดาร์กไนท์มาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม การตามล่าของแวมไพร์ทำให้เซฟต้องพาดาร์กและไนท์ย้ายที่อยู่เพื่อไม่ให้มีผู้ใดตามเจอ และในระหว่างที่เซฟย้ายก็ได้หาทางแก้คำสาปของเทพเจ้าที่แค้นเหล่าแวมไพร์แต่ก็ไม่พบทางแก้ จนกระทั่งได้พบกับซันหรือพ่อของเวย์ที่ปราสาทแห่งนี้
“ข้าจะแก้คำสาปยังไงให้พวกเจ้ารอดพ้นจากการตามล่าของแวมไพร์”
เซฟรำพึงรำพันเมื่อรู้สึกสิ้นหวัง แต่สิ่งที่เซฟไม่คิดคือซันเข้ามาได้ยินในสิ่งที่เขาพูดทำให้ซันได้รู้ว่าเซฟคือแวมไพร์ไม่ใช่มนุษย์ เมื่อเซฟเห็นเช่นนั้นจึงรีบเข้าไปเพื่อจะฆ่าซันแต่แล้วเมื่อเข้าไปใกล้เข้ารู้สึกเหมือนว่าซันมีพลังอะไรบางอย่างซ่อนอยู่จึงทำให้สลบและพามาที่คฤหาสของเขา
“ที่นี่ที่ไหน โอ๊ย~~ เจ้า!..ไม่ใช่มนุษย์” ซันกล่าวเมื่อตื่นมาพบกับเซฟ
“ใช่ แต่เจ้าก็ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาเช่นกันไม่ใช่รึ” เซฟพูดกับซันเพราะหลังจากเซฟสัมผัสได้ว่าซันมีพลังของเทพเจ้าแฝงอยู่
“เจ้ารู้!” เซฟตกใจมาก
“ใช่ข้ารู้ และเจ้าก็ช่วยข้าได้หากเจ้ายอมที่จะช่วยข้า ลูกสาวและเมียของเจ้าจะปลอดภัย” เซฟไม่มีทางเลือกเพราะเขาไม่อยากที่จะหนีอีกต่อไปจึงต่อรองเพื่อให้ซันยอมเขา
“อย่านะ! อย่าทำอะไรเมียและลูกเรา เขาเพิ่งจะอายุ8ขวบ” ซันขอร้องเพื่อไม่ให้เมียและลูกสาวแสนน่ารักของเขาเป็นอะไร
“งั้นเจ้าก็ช่วยข้าสิเมื่อใดที่คำสาปหายเจ้าจะได้เจอลูกและเมียของเจ้า”
“ได้แต่เราขอกลับไปอีกครั้งเพื่อได้ล่ำลาเมียและลูก” ซันขอเซฟก่อนที่เขาจะไม่ได้เจอลูกกับเมียอีกเพราะเขาไม่รู้เลยว่าจะช่วยเซฟได้หรือไม่
“ตกลง”
หลังจากที่เซฟให้ซันกลับมาหาเมลและเวย์ลูกเมียอันที่รักก่อนจากเขาได้ทิ้งบางอย่างไว้กับเมลเพื่อมอบให้เวย์แต่เวย์ต้องมีอายุครบ20ปีบริบูรณ์ หลังจากที่ซันพบเมลและเวย์ได้1วันเซฟก็กลับมาแจ้งให้ซันรีบกลับไปซันจึงต้องจำใจยอมจากลูกเมียอันที่รักมา
“ข้าอยากให้เจ้าช่วยแก้คำสาปของเทพเจ้าให้กับเด็กทั้งสองคนนี้”
“ฮ่าๆ! ข้าช่วยเจ้าไม่ได้หรอกหากคำสาปนั้นมาจากเทพเจ้าชั้นสูง” ซันหัวเราะกลับสิ่งที่เซฟขอร้องเพราะแม้ซันจะรู้ว่าจะแก้อย่างไรแต่ซันไม่ยอมช่วย
“เจ้าต้องหาวิธี ข้าสิ้นหวังเหลือเกินหากเจ้าทำได้ก็จงช่วยเด็กที่น่าสงสารนี้เถิดและเมื่อใดที่เจ้ามีเรื่องให้ข้าช่วยข้าจะยอมทุกอย่าง”
เซฟอ่อนลงเพราะไม่อยากที่จะทำให้ซันไม่พอใจในการกระทำของเขาและเพื่อช่วยดาร์กไนท์และเหล่าแวมไพร์ให้รอดพ้อคำสาป เซฟรู้ว่ามีเพียงเขาเท่านั้นที่ช่วยได้ เมื่อซันได้ยินที่เซฟของร้องและมองไปที่เด็กสองคนที่วิ่งเล่นในสนามก็สงสารและเห็นว่าการที่เซฟทำเช่นนี้กับเขาเพื่อการช่วยเหลือเด็กทั้งสอง
“มันมีวิธีแต่การทำพิธีแก้คำสาปครั้งนี้มีโอกาสเพียงครั้งเดียวแต่มันต้องใช้ระยะเวลา”
เมื่อเซฟได้ฟังเช่นนั้นเขาดีใจมากแม้ว่าจะมีโอกาสเพียงครั้งเดียวก็ตาม และด้วยความสงสัยของเขาเขาจึงถามกลับซันว่า
“พิธีนี้จะต้องทำอะไรบ้างและรออะไร” แต่เซฟก็ไม่ได้คำตอบจากสิ่งที่ถามไป
“เราขอที่อยู่ห่างจากเมืองผู้คนและสิ่งวุ่นวายและอย่าให้ใครกวนจนถึงเวลาที่ข้าบอก เจ้าจงเลี้ยงดูให้ดาร์กไนท์อย่างดีและข้อห้ามเพียงข้อเดียวคือ อย่าให้เขาทั้งสองดื่มเลือด !“
.”แล้วเจ้าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่”
“เมื่อถึงคืนเดือนมืดสนิท ฝาแฝดแวมไพร์ทั้งสองอายุ20บริบูรณ์ “
หลังจากที่ซันกล่าวจบเซฟก็ทำตามทุกอย่างตลอดไม่ว่าจะเป็นหาที่อยู่ที่ห่างไกลคืออยู่ในป่าอีกฝั่งของคฤหาสที่ไม่มีใครมองเห็นเพราะเซฟได้ใช้พลังในการบดบังไว้และเลี้ยงดาร์กไนท์ไม่ให้ดาร์กและไนท์ได้สัมผัสกับรสของเลือด ในระหว่างเลี้ยงเซฟจะต้องอดทนและหลบซ่อนในการดื่มเลือดเพื่อไม่ให้ดาร์กและไนท์เห็นหากเขาไม่ดื่มมันจะทำให้พลังของเขาเสื่อมและร่างกายอ่อนแอแต่สำหรับดาร์กไนท์หากไม่ได้มีการดื่มเลือดตั้งแต่เด็ก ก็จะไม่มีผลหากอายุยังไม่ถึง20ปี
ความคิดเห็น