ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดวงใจนํ้าหนึ่ง

    ลำดับตอนที่ #1 : การจากลาที่ไม่เต็มใจ

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.ค. 64


    การจากลาที่ไม่เต็มใจ


    “หวังว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะได้เจอหล่อนกับลูกนะ” 

    เสียงประชดประชันออกจากปากของหญิงวัยกลางคนที่กำลังใช้สายตามองเธอกับลูกอย่างเหยียดหยาม เธอรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับสายตาเช่นนี้ จนกระทั่งเธอเริ่มที่จะชินชากับมันเสียแล้ว

    “ค่ะคุณหญิง” เสียงของนํ้าหนึ่งตอบกลับไปอย่างแผ่วเบา

    “แล้วพวกเธอจะไปอยู่ที่ไหนกันล่ะหลังจากนี้ มีที่ทางจะไปกันหรือเปล่า” แม้จะไม่ค่อยชอบขี้หน้าอดีตภรรยาของลูกชายนัก แต่ก็อดเป็นห่วงหลานสาวที่มีสายเลือดของตัวเองอยู่ครึ่งหนึ่งไม่ได้

    “ดิฉันคิดไว้แล้วค่ะ คุณหญิงไม่ต้องเป็นห่วง”

    “ย่ะ แต่ฉันไม่ได้เป็นห่วงหรอกนะ แค่กลัวว่าหล่อนจะไปไม่รอดแล้วกลับมาเกาะลูกชายฉันเท่านั้นแหละ”

    “งั้นดิฉันขอตัวก่อนนะคะ” หลังสิ้นสุดคำพูด เรือนร่างเล็กก็ก้าวออกมาจากคฤหาสน์หลังใหญ่โต จบแล้วสินะความรัก เธอทอดถอนใจก็จะก้มมองลูกสาวตัวเล็กในอ้อมแขน คนบ้านนั้นก็ช่างเลือดเย็นเสียนี่กระไร ขนาดผู้เป็นย่า ยังไม่คิดจะกกกอดหลานสาว กระทั่งรถยังไม่คิดจะมาส่ง ปล่อยเธอกับลูกเดินฝ่าแดดร้อนออกมา ดีที่เธอบอกน้องสาวไว้เสียก่อนว่าให้มารับ เธอกับลูกจึงไม่ต้องเดินไปถึงหน้าปากซอยเพื่อเรียกรถแท็กซี่


    แม้จะโชคร้ายกับความรักในครั้งนี้ แต่หากคิดดูอีกที ก็โชคดีแล้วที่เธอจะหลุดพ้นจากวงจรอันขมขื่น พอทีกับครอบครัวนั้นที่แสนจะเห็นแก่นั้น หลังจากนี้เธอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ ชีวิตที่มีแต่เธอกับลูกสาวเท่านั้น

    “แม้ว่าใครจะทิ้งเราไป แต่แม่จะไม่ทิ้งหนูเด็ดขาดนะคะ คนเก่งของแม่” นํ้าหนึ่งก้มลงไปหอมแก้มลูกสาวตัวน้อยที่กำลังหัวเราะอยู่ในอ้อมอกของเธออย่างร่างเริง 

    โถ่! แม่หนูน้อยที่น่าสงสาร เธอจะรู้บ้างไหมว่าหลังจากนี้เธออาจจะไม่ได้เจอพ่ออีกแล้ว

    “เดี๋ยวเราจะไปอยู่กับคุณน้าสองกันนะคะคนดี”

    สองหรือสองนาง น้องสาวของนํ้าหนึ่งที่อาศัยอยู่ที่ชลบุรี ที่ที่เธอจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับลูก

    ขณะที่กำลังยืนเหม่อด้วยใจที่เลื่อนลอย รถแบรนญี่ปุ่นคุ้นตาก็จอดเข้ามาเทียบ

    “พี่หนึ่งเป็นไงบ้าง” สองนางก้าวลงมาจากรถแล้วกอดพี่สาวไว้แน่น ก่อนจะก้มมองหลานสาวคนสวยในอ้อมแขนของผู้เป็นแม่ “เดี๋ยวไปอยู่กับน้าสองนะคะคนเก่ง” 

    “แอะ แอ๊ะ” ส้มหวานลูกสาวของนํ้าหนึ่งส่งเสียงเออออตามอย่างน่ารัก เหมือนเข้าใจในความหมายที่น้าตัวเองพูด

    “น่ารักจริง” หลานสาวของเธอออกจะน่ารักแบบนี้ ทำไมคนบ้านนั้นถึงมองไม่เห็นบ้างนะ ใจร้ายกันจริงเชียว

    “พี่สบายดี สองล่ะเป็นไงบ้าง?”

    “ก็เรื่อยๆ ไม่มีอะไร ขึ้นรถเถอะพี่หนึ่ง ยืนตากแดดรอสองตั้งนาน เดี๋ยวไม่สบาย”

    “นานอะไรกันล่ะ แปปเดียวเอง” นํ้าหนึ่งตอบด้วยนํ้าเสียงสดใส “มาไวขนาดนี้นี่เหยียบมาเท่าไหร่เนี่ย?”

    “ร้อยยี่สิบ”

    “สอง! รู้ไหมว่ามันอันตราย” 

    “ฮ่ะๆ สองล้อเล่นน่า สองแค่ออกมารออยู่ก่อนแล้ว ขึ้นรถเถอะพี่เดี๋ยวหลานร้อน” สองนางหัวเราะก่อนจะเดินไปเปิดประตูรถให้พี่สาว 


    ทันทีที่รถออกตัวสองก็อดที่จะไถ่ถามพี่สาวไม่ได้ “แล้วบ้านนู้นเขาว่าไงบ้างอ่ะพี่?”

    “เขาบอกว่าจะจ่ายค่าเลี้ยงดูให้ส้มหวานเป็นรายเดือน” เธอตอบด้วยนํ้าเสียงราบเรียบ “แต่พี่ต้องห้ามกลับไปทำงานที่บริษัทอีก”

    แหงสิใครจะกลับไปทำอีกกันล่ะ สองนางคิดในใจ พี่สาวเธอกับสามีพบรักกันที่บริษัทนั่น สงสัยแม่ย่าคงกลัวถ่านไฟเก่าจะปะทุสินะ เหอะๆ

    “แล้วเรื่องส้มหวานล่ะพี่ หมอเขาว่ายังไงบ้าง” เธอถามด้วยความระมัดระวังด้วยกลัวว่าจะทำร้ายจิตใจพี่สาว 

    “หมอบอกว่าโอกาสที่ส้มหวานจะเดินได้มีน้อยมาก” โชคชะตาช่างเล่นตลกเสียจริง ทำไมถึงต้องใจร้ายกับลูกสาวของเธอด้วย

    “โอกาสน้อย แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีโอกาสเลย” เสียงของสองนางเต็มไปด้วยความหวัง “หมอเก่งๆที่ชลฯมีเยอะแยะ ส้มหวานจะต้องเดินได้แน่ๆ พี่หนึ่งเชื่อสองสิ”

    “ขอบคุณมากนะสอง” อย่างน้อยบนโลกนี้ก็ยังมีน้องสาวที่เข้าใจเธอ

    “ไม่เป็นไรพี่หนึ่ง สองสัญญาว่าจะหาหมอที่ดีที่สุดมารักษาส้มหวานให้ได้เลย” 

    “อื้ม” นํ้าหนึ่งหันไปยิ้มให้น้องสาวที่กำลังขับรถ เขาว่ากันว่าฟ้าหลังฝนคงมักจะแจ่มใสเสมอ เธอเชื่อแล้วล่ะ



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×