ความกดดัน
..ความกดดันบางครั้งก็ดี บางครั้งทำให้เครียด..
ผู้เข้าชมรวม
191
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ความกดดัน
“ วันนี้ทางโรงเรียนของเราได้มีการมอบประกาศนียบัตรให้แก่นักเรียนที่มีผลการเรียนยอดเยี่ยม เพื่อเป็นกำลังใจให้นักเรียนตั้งใจในการเรียน และขอแสดงความยินดีกับผู้ปกครองที่มีบุตรหลานอันเป็นบุคคลที่ใฝ่รู้ใฝ่เรียน”
หลังสิ้นเสียงนี้บรรดาผู้ปกครองก็ได้ปรบมือกันด้วยความยินดีในความเก่งของบุตรหลานตน นักเรียนที่ได้รับประกาศนียบัตรต่างไปเข้าแถวรออยู่ด้านข้างเวทีกันอย่างภาคภูมิใจ ส่วนนักเรียนที่เหลือต่างก็นั่งกับผู้ปกครองของตนเองในห้องประชุม
แม่ทำสีหน้าชื่นชมนักเรียนที่ขึ้นไปรับรางวัล ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ทำอย่างกับเป็นลูกตัวเอง
“ถ้าแกได้ขึ้นไปรับบ้าง แม่คงดีใจมาก ... แต่คงไม่มีวันนั้นหรอกเนอะ ... แม่รู้ ”
หลังสิ้นเสียงของแม่ทำให้เด็กหญิงถึงกับน้ำตาคลอ คิดไม่ถึงว่าคนเป็นแม่จะดูถูกลูกตัวเองได้ลงคอ
“แม่ก็ต้องรอดูต่อไปสิ ... ดูคนมันต้องดูนานๆ ”
“ฉันคงแก่ตายพอดีละ กว่าจะเห็นแกไปรับรางวัลกับเขา”
เด็กหญิงได้แต่นั่งเงียบ จนกระทั่งเสร็จพิธีในวันนั้น
พอถึงบ้าน เด็กหญิงได้แต่เก็บตัวอยู่ในห้อง อย่างเงียบๆ ไม่มีเสียงเพลงเล็ดลอดออกมาอย่างที่เคยเป็น
เด็กหญิงตัดสินใจที่จะตั้งใจอ่านหนังสือ เพื่อเตรียมตัวสอบเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา
ซึ่งก็เหลือเวลาไม่ถึงเดือน ที่จะอ่านหนังสือ เก็บความรู้ให้ได้มากที่สุด
หลังกลับจากโรงเรียน เป็นเวลาประมาณ 6 โมง เด็กหญิงได้อาบน้ำ แล้วนอนหลับ
ทุกๆ 5 ทุ่มจะมีแสงไฟสว่างในห้องเด็กหญิงเป็นประจำ
เด็กหญิงนั่งอ่านหนังสืออย่างเอาจริงเอาจัง โดยหวังว่าแม่จะภูมิใจในตัวเขาถ้าหากเขาสอบติด
วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2548
“ขอให้นักเรียนที่มาสมัครสอบตรงเข้าลงทะเบียนที่ ตึก C-1 ด้วยค่ะ”
เด็กหญิงเดินไปลงทะเบียนสอบตามลำพัง ไม่มีกระทั่งเพื่อนที่โรงเรียนมาด้วย เพราะเพื่อนๆเขาเหล่านั้นพูดกันว่า
“มหา’ลัยนี้ไม่เก่งจริงก็สอบไม่ติดหรอก เขาคัดเอาแต่หัวกะทิ.แกคิดหรอว่าแกจะได้
เด็กวิทย์ที่ว่าแน่ยังไม่เลือกสอบเลย”
เด็กหญิงถอนหายใจก่อนเข้าสอบ เมื่อนึกถึงคำพูดของเพื่อน คิดในใจว่า “เราก็เก่งเหมือนกัน!! แม้จะไม่เก่งมากก็เหอะ ...เชอะ มันจะยากสักแค่ไหนเชียว” แล้วทำสีหน้าหนักใจเดินเข้าห้องสอบไปโดยปริยาย
เวลาผ่านไป 5 ชั่วโมง เด็กหญิงเดินออกจาห้องสอบด้วยความหวัง หวังอะไรนะหรอ??
ก็หวังให้แม่ภูมิใจหากว่าเขาสอบติดในมหาวิทยาลัยนี้นะสิ
วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2548 เป็นวันประกาศผลสอบเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งนี้
เด็กหญิงเข้าเวปไซต์รอตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า เพื่อที่จะเข้าดูผลสอบ
เด็กหญิงไล่ดูตั้งแต่ส่วนท้ายขึ้นมาลำดับที่ 60 ไม่เจอ 46 ไม่เจอ 32 ไม่เจอ 23 ก็ยังไม่เจอ 16 ก็ยังไม่เจอ .....จนมาถึงลำดับที่ 9 ปรากฏชื่อของเด็กหญิงอย่างแน่นอน ชัดเจน เด็กหญิงตะโกนร้องด้วยความดีใจ
แม่เดินเข้ามาถามว่า “เป็นบ้าอะไร ส่งเสียงดังลั่นบ้าน หัดเกรงใจคนอื่นเขามั่งสิ ”
เด็กหญิงพูดกับแม่ด้วยเสียงที่สั่นเครือแทบจะร้องไห้ “หนูสอบติดมหาลัย.... แล้วนะแม่.... แม่ภูมิใจไหม”
“ก็แค่สอบติดแหละนะ ยังเรียนไม่จบสักหน่อย จะดีใจอะไรนักหนา”
เด็กหญิงรู้สึกน้อยใจอีกแล้วในคำพูดของแม่ ที่ไม่เคยชื่นชมในตัวของเขาเลย
แล้วจะเดินไปเข้าห้องน้ำ เหลือบไปเห็นแม่ร้องไห้กับพ่ออย่างดีใจ เด็กหญิงชะงักนิ่งไปเมื่อได้ยินแม่พูดว่า
“พ่อรู้ไหม? แม่ไม่เคยภูมิใจอย่างนี้เลย ... ที่ผ่านมาทุกคืนแม่ก็คิดว่าลูกเล่นเกมไม่สนใจอ่านหนังสือหนังหา . ลูกเรามันก็เก่งนะ เก่งมากๆ อ้าว!!! แกมายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ???”
“หนูขอบคุณนะแม่ ความกดดันของแม่ทำให้หนูสอบติด หนูทำให้แม่กับพ่อภูมิใจแล้วใช่ไหม???”
สามคนพ่อแม่ลูกนั่งกอดกันอย่างอบอุ่นทั้งที่รอยน้ำตาเปื้อนแก้ม แต่ก็เป็นน้ำตาแห่งความสุข
หลังจากนั้นก็มีเสียงโทรสับดังขึ้น เด็กหญิงลุกขึ้นไปรับโทรศัพท์
“ดีใจด้วยนะแก ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าแกจะสอบติด ฉันมองแกผิดไป ฉันดีใจด้วยนะ ดีใจมากๆ”
“อื้ม ขอบใจ แล้วพวกแกละจะไปสอบที่ไหนกัน?? ”
“สงสัย เอกชนวะ ”
“แกไม่มีคนคอยกดดันละสิ”
เด็กหญิงมองมาทางแม่ของตน แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอาบแก้มด้วยความดีใจ
ผลงานอื่นๆ ของ 03012532 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ 03012532
ความคิดเห็น