ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ความรู้!

    ลำดับตอนที่ #126 : >>ศาสนา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 355
      0
      12 มี.ค. 52

    พระอมิตาภะพุทธะ (阿彌陀佛)เป็นพระธยานิพุทธะ 1 ใน 5 องค์ ประทับอยู่ทางตะวันตกของพุทธมณฑล พระกายสีแดงก่ำ เป็นต้นตระกูลของพระโพธิสัตว์ตระกูลปัทมะ หมายถึงปัญญาที่ทำให้มนุษย์รู้จักผิดชอบชั่วดี และเลือกปฏิบัติในทางที่ถูก สัญญลักษณ์คือดอกบัว พระพุทธเจ้าในตระกูลนี้ทั่วไปใช้บัวแดง พระโพธิสัตว์ปางดุใช้บัวขาว ภาพวาดของพระองค์มักวาดให้พระหัตถ์ยาวหมายถึงความสามารถที่จะเอื้อมพาสรรพสัตว์เข้าสู่แดนสุขาวดี มีพระชิวหายาวตระหวัดได้รอบโลกหมายถึงความสามารถในการแสดงธรรมได้ทั่วโลก ทรงนกยูงเป็นพาหนะ

    พระอมิตาภะตามความเชื่อของชาวพุทธในทิเบต

    ในคัมภีร์มรณศาสตร์ของทิเบตกล่าวว่าพระอมิตาภะจะปรากฏพระองค์ให้ผู้ตายเห็นในวันที่ 4 ของบาร์โด พร้อมกับพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ และพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ รวมทั้งพระโพธิสัตว์หญิงอีก 2 องค์คือ คีตา พระโพธิสัตว์แห่งเสียงเพลง และอโลคาเทวี พระโพธิสัตว์ผู้ถือคบเพลิง [1]

    เสียงประจำองค์พระอมิตาภะคือเสียง หรีหฺ เปล่งมาจากศูนย์ลมบริเวณลำคอ เป็นสัญยลักษณ์แทนกิจกรรมและการตระหนักรู้ทางวิญญาณ ท่าทางประจำพระองค์คือ ธยานมุทรา คือพระหัตถ์ที่ประสานกันในท่าสมาธิ บางแห่งจะทรงแบพระหัตถ์ขวาออกมาเบื้องหน้าแสดงกิริยารับดวงวิญญาณของสรรพสัตว์ที่ประกอบกุศลพร้อมกับระลึกถึงพระองค์ไปเกิดยังแดนสุขาวดี [2]

     พระอมิตาภะตามความเชื่อของชาวพุทธในจีน

    พระอมิตาภะพุทธเจ้า แปลว่า พระพุทธเจ้าผู้มีแสงรัศมีเปล่งประภาสออกมาไม่มีประมาณ (無量光佛, 無邊光佛) ชื่ออื่นๆของพระองค์คือ พระอมิตายุพุทธเจ้า แปลว่า พระพุทธเจ้าผู้มีอายุขัยยาวนานไม่มีประมาณ (無量壽佛) ชาวจีนนิยมเรียกท่านว่า ออ มี ท้อ ฮุก(阿彌陀佛)แปลว่า พระอมิตาพุทธเจ้า ซึ่งคำว่า “อมิตา” แปลว่าไม่มีประมาณ เข้าใจว่าเป็นการ เรียกขานพระนามของพระองค์ในความหมายทั้ง ๒ คือ

    1. แสงรัศมีไม่มีประมาณ
    2. อายุขัยไม่มีประมาณ

    ชาวจีนเชื่อว่าวันคล้ายวันสมภพของท่านคือ วันที่ ๑๗ เดือน ๑๑ จีน พระปฏิมาหรือภาพวาดของพระองค์จะประดิษฐานอยู่เบื้องขวาของพระศากยมุนีพุทธเจ้า พระสูตรของมหายานกล่าวถึงอานิสงค์ของการบูชาพระอมิตาภะว่า[3]

    หากผู้ใดภาวนาพระนามของพระองค์อย่างแน่วแน่ตลอดเวลา ๑ วัน ๒ วัน ๓ วัน จนถึงตลอด ๗ วัน ๗ คืนเวลาใกล้จะสิ้นใจพระอมิตาภะพุทธเจ้าพร้อมด้วยอริยบริษัทจะเสด็จมารับดวงวิญญาณของผู้นั้นไปเกิดยังดินแดนสุขาวดีอันสุขารมณ์

     แดนสุขาวดีของพระอมิตาภะ

    แดนสุขาวดี(極樂世界)ตามความเชื่อของนิกายสุขาวดี เป็นพุทธเกษตรของพระอมิตาภะพุทธะ เชื่อว่าอยู่ทางทิศตะวันตกของโลกเรานี้ พระสูตรกล่าวว่า แดนสุขาวดีเป็นสถานที่สวยงาม ผู้ที่ได้เกิดยังโลกแห่งนั้นจะเป็นผู้ปราศจากความทุกข์ ได้ฟังธรรมจากพระอมิตาภะและพระมหาโพธิสัตว์ต่างๆ จนได้สำเร็จเป็นพระโพธิสัตว์ แล้วกลับมาช่วยเหลือสรรพสัตว์อื่นๆ ต่อไป การจะไปเกิดเพียงระลึกถึงพระอมิตาภะพุทธเจ้าโดยการสวดพระนามของพระองค์โดยสม่ำเสมอว่า “นำ มอ ออ มี ท้อ ฮุก” (南無阿彌陀佛) และทำความดี กตัญญูรู้คุณ พร้อมกับตั้งจิตอธิษฐานมุ่งไปเกิดยังพุทธเกษตรของพระองค์ คุณสมบัติของแดนพุทธเกษตรของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์นั้น ผู้ที่ไปอุบัติ จะไม่ต้องหวนกลับมาสู่ภพภูมิเบื้องต่ำอีก ซึ่งต่างกับการไปเกิดบนสวรรค์ชั้นกามภูมิหรือพรหมภูมิชั้นต่างๆ ที่หากสิ้นบุญเมื่อใดก็จะต้องหวนกลับมาสู่ภูมิเบื้องต่ำเช่นเกิดเป็นมนุษย์บ้าง เดรัจฉานบ้าง เปรตบ้าง สัตว์นรกบ้าง ตามกรรมของตน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×