คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เตรียมตัวก่อนภารกิจ
"พี่สเวนสุดหล่อ" เสียงโอดโอยของผู้เป็นน้องที่มองพี่ของตนกินข้าวไปพลางอ่านหนังสือไปพลางอย่างอิจฉา ผู้เป็นพี่หันหน้ามามองอย่างสงสัยพร้อมกับเขี่ยข้าวที่ติดอยู่มุมปาก
"ขอค่าขนมหน่อยสิ"สิ้นเสียงของผู้เป็นน้อง สายตาของผู้เป็นพี่ลุกโชนอย่างโมโหก่อนจะลั่นคำออกไป
"ทำงานพลาด อด!!"
"เฮ้ย! เน่เป็นน้องพี่นะ!"รีเน่ยังต่อลองไม่เลิกพร้อมกับกระโดดไปเขย่าแขนของผู้เป็นพี่แรงๆจนผมสีน้ำตาลอ่อนที่รวบไว้หลุดออกจนยุ่งเหยิง ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกรำคาญจึงยื่นจานข้าวของตนที่เหลือประมาณครึ่งจานไปให้ ผู้เป็นน้องรับจานนั้นแล้วกินอย่างมูมมามราวกับไม่ได้กินข้าวมาสองสามปี
"แล้วทำไมแกถึงทำงานพลาดล่ะ ระดับแก แค่ฆ่านางสนมคนนึงมันไม่น่าจะยากอะไรมากมาย หรือว่านางสนมคนนั้นมีวิชา?"สเวนถามผู้เป็นน้องที่นั่งอยู่ตรงข้ามของตน ดวงตาสีน้ำเงินเกือบดำจดจ้องผู้เป็นน้องเขม็ง ใบหน้าคมคายฉายแววสงสัย ผมสีน้ำตาลอ่อนยาวยุ่งเหยิง รีเน่วางจานข้าวแล้วรวบช้อนในจานพร้อมเงยหน้ามาพูดกับผู้เป็นพี่
"นางสนมนั่นไม่มีวิชาหรอก แต่เจ้าชายเซเรสดันมาขวางอ่ะ"รีเน่พูดจบแล้วล้มตัวลงนอนกับเตียงโดยที่ไม่สนเลยว่าพี่ของตนนั่งอ้าปากค้างอยู่ด้วยความตกใจ
"เฮ้ย! ไปเล่นกับไอ้บ้านั่นทำไมแกยังครบ32วะ!! เจ้านั่นเล่นหอกประกายแสงหิมะมาตั้งแต่เด็กแล้วนะ! น่าจะมีสักส่วนที่เซลล์ฝ่อบ้างดิ!" ชายหนุ่มตะโกนลั่นทำให้รีเน่ที่นอนเอนกายอยู่ลุกเด้งขึ้นมาด้วยความสนใจ
"หอกไรนะ?"
"หอกประกายแสงหิมะ ลักษณะของมันจะเป็นหอกที่มีด้านสีขาวบริสุทธิ์ตัวด้ามถูกแกะด้วยอักษรรูนโบราณซึ่งถ้าใช้กับมนตร์ที่เกี่ยวกับความเย็นจะเพิ่มอนุภาคได้ระดับหนึ่ง ส่วนปลายหอกตีมาจากไข่มุกแสงจันทร์และแร่คริสตัล มันจึงเพิ่มพลังได้เหมือนกับอักษรรูนแต่จะมากกว่าไม่มากนัก แต่หอกนั้นก็มีความสามารถในตัวของมันเองอยู่หลายอย่างเหมือนกัน รวมๆทั้งหมดแล้วราคามันมีถึงสี่แสนคอร์" สิ้นเสียงของชายหนุ่ม ผู้เป็นน้องที่นั่งฟังอย่างใจจดใจจ่อจึงรู้ว่า ไอ้หอกขาวๆที่เฉียดแขนเค้าไปนั้น ราคาแพงหูฉี่เลยทีเดียว ยิ่งถ้านำไปขายในตลาดมืดแล้ว คง...เฮอๆ แค่คิดก็สนุกแล้ว ถ้าขโมยมาได้ ชาตินี้ก็ใช้จ่ายสบายล่ะ เอ...เดี๋ยวสิ แล้วงานต่อไปงานไรเนี่ย เดี๋ยวไม่มีเงินกินข้าวอีก
"รีเน่ พี่งานใหม่มาให้ทำ.......งานนี้ได้เงินถึง7ล้านคอร์ สนป่ะ?"เสียงของสเวนเหมือนรู้ใจเค้าเป็นอย่างมาก เค้าถึงกับเข้ามาโผกอดผู้เป็นพี่อย่างซาบซึ้ง แต่ผู้เป็นพี่กลับเตะกระเด็นตกเตียงอย่างไม่ใยดี ทำให้คนที่กองอยู่บนพื้นนั่งงอนแก้มป่องไป(ซะงั้น)
"พี่จะอธิบายเนื้อหาของงานให้ฟังแล้วกัน รีเน่ นายต้องไปเข้าโรงเรียน" ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบๆ รีเน่ที่นั่งฟังแก้มตุ๊บป่องอยู่ลุกพรวดพร้อมกับถามกลับไปอย่างรวดเร็วว่า
.
"เฮ้ย! นี่มันงานไรเนี่ย! ทำไมต้องเข้าโรงเรียนด้วย! ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยก้าวเข้าโรงเรียนเลยเสียด้วยซ้ำ หวังว่าคงไม่ใช่งานขโมยดาบแบบในหนังสือนิยายที่พี่เพิ่งอ่านจบไปไม่กี่วันหรอกนะ!!"
"เกือบถูก"
"เห...?"
"มันเป็นงานขโมยหอกจากเจ้าชาย"
"อะไรนะ พูดอีกทีดิ๊" รีเน่ถามอีกครั้งพลางแคะหูของตนเพื่อย้ำว่าไม่ได้หูฝาดไป
"บอกว่าขโมยหอกจากเจ้าชายไงไอ้โง่!"สเวนตะโกนเสียงสูงอย่างโมโหพร้อมกับกระโดดไปประทานบาทาคู่ใส่หน้าของรีเน่อย่างเหมาะเจาะ ภาพภายในห้องหมุนติ้วๆในสายตาของผู้โดนเท้าคู่ของคนเป็นพี่
สเวนดึงร่างของผู้เป็นน้องขึ้นมาบนเตียงพร้อมกับยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้รีเน่อ่าน
ภารกิจ:ขโมยหอก
รายละเอียดภารกิจ:
1. เข้าสถาบัน(K)night (K)nowing (K)ingdom
2. ฆ่าเจ้าชายเซเรส เอรูทีสแห่งไอซาเนีย
3. ขโมยหอกประกายแสงหิมะ
4. อำพรางเหตุการณ์
5. ลาออก
จ่ายเงินล่วงหน้าแล้วสองแสนคอร์
"อธิบายซะเรื่อยเปื่อย สุดท้ายก็ฆ่าคนอยู่ดีแหละว๊า"รีเน่บ่นอย่างเบื่อหน่าย ผู้เป็นพี่หัวเราะร่าแล้วก็ลุกขึ้นจากเตียง"พี่จะไปไหนน่ะ?"เด็กหนุ่มหน้าหวานถามขึ้น ผู้เป็นพี่หันไปยิ้มให้แล้วตอบกลับ
"ไปยื่นประวัติแก...."
**********
เด็กหนุ่มยืนคู่กับพี่ชายบนทางถนนที่เต็มไปด้วยหนุ่มๆสาวๆที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน สเวนบอกว่ายื่นประวัติไปให้แล้ว เดี๋ยวซักพักชายที่ยืนอยู่หน้าประตูก็จะเรียกเอง ขณะนี้เวลาเกือบเย็นแล้ว แถวยังไม่ค่อยกระเตื้องเท่าไหร่ รีเน่ยืนอยู่เกือบแถบหลังๆ คนที่114ผ่านไปแล้ว 115ผ่านไปแล้ว 116ผ่านไปแล้วดวงตาสีดำสนิทใกล้จะตกเต็มที
"คนที่117 รีเน่ ฮาเวอรี่ เดอะคิลเลอร์ออฟพาซี"เสียงของชายผมเขียวที่หน้าประตูดังขึ้น พร้อมกับที่ชายคนนั้นเริ่มตีสีหน้างงและเสียงฮือฮาของกลุ่มคนกว่าร้อยบนถนนสายนี้
"ใครชื่อรีเน่ ฮาเวอรี่ โปรดขานด้วย"ชายหนุ่มผมเขียวย้ำอีกครั้ง เด็กหนุ่มกระโดดขึ้นสูงพร้อมกับถีบตัวจากบ่าของคนด้านหน้าไปอย่างรวดเร็ว รีเน่พาร่างเล็กๆของตนมาหยุดอยู่ตรงหน้าชายเจ้าของเรือนผมสีเขียวพร้อมกับชี้ไปที่ตัวว่า 'ผมเอง'
ชายคนนั้นผายมือให้เค้าพร้อมกับชี้ไปยังลานหินอ่อนสีขาวที่อยู่ระหว่างตึก และมีโต๊ะหนึ่งตัววางอยู่ รีเน่เดินไปอย่างงุนงง จนถึงโต๊ะตัวนั้น บนโต๊ะ มีกระดาษคำตอบข้อกา100ข้อที่ถามเกี่ยวกับประวัติศาสตร์!!!(วิชาที่เจ้าตัวไม่เคยที่จะขยับเข้าหาเลย)
เวลาผ่านไป10นาที ตอนนี้รีเน่กำลังอยู่ที่ข้อสุดท้าย ไม่ใช่ว่าข้อก่อนหน้านี้มันง่ายหรอกนะ เพียงแต่รีเน่กาไปแบบไม่ได้อ่านคำถามเลยต่างหากล่ะ!! แต่ข้อสุดท้ายนี้ รีเน่คิดว่าตนทำได้ชัวร์!!
มือเรียวขยับดินสอไปที่ข้อที่คิดว่าถูก แต่จู่ๆ โต๊ะและเก้าอี้หายไปทำให้เด็กหนุ่มหงายหลังไปด้านหลังอย่างเจ็บปวด พร้อมกับค่อยๆลุกขึ้นอย่างหวาดๆ ภาพลานหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์ที่สะท้อนแสงแดดยามเย็น กับเปลี่ยนเป็นลานกว้างสีแดงของเลือด! และต้นไม้สูงๆต้นหนึ่งที่ไม่น่าจะอยู่บนลานกว้างนี้
ซู่ม!!!
รากไม้เส้นหนึ่งพุ่งเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว รีเน่แหงนหลังหลบอย่างเฉียดฉิว พร้อมกับชักมีดสีดำประกายคู่ตัวออกมา รากไม้ยกตัวสูงขึ้นพร้อมกับหวดลงอีกครั้ง รีเน่เอี้ยวตัวหลบแล้วก็ใช้เวทลมตัดรากนั้นทิ้ง นัยน์ตาสีดำเหลือบเห็นกระดาษขาวๆที่มีตัวอักษรสีแดงที่ติดอยู่ที่ลำต้น
'ทำลายต้นไม้ได้ = ผ่าน'
"นี่คือการสอบหรอวะเนี่ย!"เด็กหนุ่มสบถอย่างโมโห แล้วถอยกรูดออกห่างต้นไม้ยักษ์ เค้าชูมีดเล่มใหญ่สีดำไปยังด้านหน้า ดวงตาสีดำสงบนิ่ง สายลมหยุดชะงัก สรรพสิ่งไร้การเคลื่อนไหว ไอควันสีม่วงปรากฎขึ้นรอบตัวรีเน่ ต้นไม้ยักษ์สั่นไหวอย่างรุนแรง ใบไม้นับร้อยล่วงลงมาแล้วก็พุ่งมายังเด็กหนุ่มอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้น! เด็กหนุ่มพุ่งเข้าไปหาใบไม้พร้อมกับกระชับมีดในมือ มีดสีดำค่อยๆแปล่งแสงสีดำสวย รีเน่ตวัดมีดใส่ใบไม้ ใบไม้นับร้อยถูกกลืนเข้าไปในแสงสีดำ แต่มีใบหนึ่งเฉียดแขนเสื้อเก่าๆของเด็กหนุ่มไป ถ้าต้นไม้มันมีปากและตานะ มันคงตกใจอย่างมากเลยทีเดียว
มีดสีดำฟันผ่านลำต้นของต้นไม้ไป น้ำสีดำคล้ำพวยพุ่งออกมาอย่างไม่ขาดสาย เสียงหวีดร้องของต้นไม้ที่ไม่รู้มีได้ไงร้องดังไปทั่ว รีเน่กลับมายืนสงบนิ่งอีกครั้ง อากาศเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว จนเหมือนพายุ เด็กหนุ่มพุ่งตัวเข้าไปใกล้พร้อมกับวาดเท้าขวาเตะต้นไม้ใหญ่ให้ลอยขึ้นสูงเกือบร้อยเมตร รีเน่ตั้งหลักแล้วกระโดดขึ้นไปซ้ำ เด็กหนุ่มวาดฝ่ามือเข้าที่จุดที่มีน้ำสีดำคล้ำไหลออกแล้วก็รัวหมัดใส่อย่างไม่สนน้ำสีดำคล้ำที่กระเซ็นออกมา รีเน่ยันตัวขึ้นสูงให้สูงขึ้นอีกแล้วหมุนตัวฟาดส้นเท้าขวาใส่ต้นไม้อย่างรุนแรงจนต้นไม้กระเด็นกลับลงไปยังเบื้องล่าง สายฟ้าค่อยๆมารวมกันที่มือซ้ายที่ไม่ได้ถือมีด เด็กหนุ่มตวัดมือข้างที่มีประจุไฟฟ้าใส่กลางลำต้นซ้ำ . . . .!
"เธอผ่านการทดสอบภาคปฏิบัติแล้ว ไปได้"เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับที่มือหยาบมาลูบหัวรีเน่เบาๆ รีเน่มองไปรอบด้านอย่างงงงวย เค้ายังอยู่ ณ ที่เดิม ลานหินอ่อนสีขาวที่อยู่ใจกลางโรงเรียน เก้าอี้สอบตัวเดียวในลานกว้าง เพียงแค่ตอนนี้ไม่มีซึ่งแสงแดด แต่มีฟ้ามืดและแสงดาวระยิบระยับแทน ผมสีเขียวสว่างของยามหน้าโรงเรียนแวบวับเมื่อสะท้อนกับแสงจันทร์สีอเมทิส เด็กหนุ่มลุกขึ้นแล้วรีบเดินออกจากโรงเรียนไป ชายหนุ่มผมเขียวหยิบกระดาษบนโต๊ะขึ้นมาสำรวจ
"โอ้! เด็กคนนี้เก่งนะเนี่ย ตอบถูกทุกข้อเลย เอ๊ะไม่สิ 99ข้อ ข้อสุดท้ายผิด . . ."ชายหนุ่มเปรยอย่างตื่นเต้น เด็กสาวผมสีดำคนหนึ่งโผล่ขึ้นข้างๆชายหนุ่มผมเขียว
"ฟีนาเร่ เด็กคนตะกี๊ใครหรอ?"เด็กสาวหยิบกระดาษบนมือของชายหนุ่มมาดู
"รีเน่ ฮาเวอรี่ น้องของ สเวน ฮาเวอรี่ ที่ลาออกไปเมื่อห้าปีก่อนไง ผอ.ฮาร์ฟ"เด็กสาวตอบชายหนุ่มข้างๆที่เธอเรียกว่าผอ.(ผู้อำนวยการ)
"อ๋อ . . .คนที่เป็นหัวหน้าหอวีนัสตั้งแต่ปีหนึ่งนั่นน่ะนะ?"
"อืม ผอ.ฮาร์ฟคะ ชั้นว่าเราไปคุยกันข้างในดีกว่า ยืนคุยกลางลานกว้างกันสองคนมันดูวังเวงน่ะค่ะ"เด็กสาวกล่าวพร้อมกับกอดแขนตัวเองหลวมๆ ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วก็เดินขึ้นตึกข้างๆไปพร้อมกับที่เด็กสาวเดินตามไปพร้อมๆกัน
"เออนี่ ชั้นขอให้รีเน่ไปอยู่หอเธอได้มั้ยฟีนาเร่?"ชายหนุ่มเจ้าของหน้ากระตือรือร้นเปิดบทสนทนาขึ้นกลางห้องประชุมใหญ่ที่มีเพียงเค้าและเธอสองคน
"ได้สิ แต่ทำไมถึงให้รีเน่ไปอยู่หอเดียวกับพี่ของเค้าล่ะ กระบวนท่าที่ล้มแมนโดร่าก็ออกจะไม่ปะติดปะต่อซักเท่าไหร่ แต่ก็พอลื่นไหลไปได้จนจบ แต่อย่างเด็กคนนั้นน่าจะอยู่หอเดอะมูนมากกว่า เพราะท่าทางเค้าจะถนัดอาวุธสั้น"เด็กสาวขัดขึ้นพร้อมกับยกชาในถ้วยขึ้นดื่ม
"ในตลาดมืดเค้าลือกันมาว่า รีเน่ฮาเวอรี่ถนัดเรื่องมนตราและกระบวนท่าในการต่อสู้ทุกแขนงสายโดยไม่ขึ้นตรงกับพลังธาตุภายในตัวหรือสายเลือดกรรมพันธุ์ . . ."ชายหนุ่มผมสีเขียวหยุดพูด พร้อมกับห้องประชุมใหญ่เงียบลงทันที มือหนาหยิบกระดาษข้อสอบของผู้สอบมาตรวจ
"ปีนี้มีเด็กจากมาคาร์ไลท์สองคน แต่ไม่ผ่าน น่าเสียดายแหะ"ชายหนุ่มเปรยขึ้นอย่างขบขัน เด็กสาวที่นั่งตรวจอยู่ตรงข้ามเงยหน้าขึ้นมามองแล้วก็หันมาตรวจกองของตัวเองต่อ
"เอ๊ะ! มีเด็กจากโคมะด้วย ถ่อมาไกลจัง ผ่านทั้งคู่เลย . . ."ชายหนุ่มเปรยขึ้นอีกครั้ง ฟีนาเร่ส่ายให้อย่างหน่ายใจ
"เจ้าชายเซเรสก็มากับเขาด้วย อ๊ะ ทาทะลัสแห่งบาเบริอาร์ก็มา โอ๊ะ อัมบราจากฟาเรนเดียร์ก็มา อุ๊ ฟาร์จากเวล เอ . . .คนนี้น่าสนใจแหะ"ชายหนุ่มหรี่เสียงพร้อมกับยกกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมาจากกองที่เด็กสาวผมดำกำลังตรวจ
"สอบปรนัยได้100เต็ม สอบภาคปฏิบัติที่จัดการแมนโดร่า ก็จัดการได้รวดเร็ว แถมกระบวนท่าที่เด็กคนนี้จัดการไปก็ดูคล้ายกับที่รีเน่ทำไว้เหลือเกิน เพียงแต่ตอนสุดท้ายมิได้ใช้สายฟ้า แต่เป็นเวทระเบิดแทน
"เวทระเบิด? เป็นเวทชั้นสูงไม่ใช่หรอคะ?แล้วเด็กคนนั้นชื่ออะไรล่ะ"
"โนวาร์ บาร์ตัน...."
*********
เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลยาวประบ่าที่หน้าตาละม้ายคล้ายผู้หญิงเดินออกห่างจากโรงเรียนได้ไม่นาน ก็มาหยุดอยู่ที่สี่แยกแห่งหนึ่งที่ไร้แสงไฟ . . .
เด็กหนุ่มเหลียวมองทางซ้ายที ขวาที แล้วก็กลับมาคิด
โรงเตี๊ยมนั่นอยู่ไหนนะ ลืม . . .
เด็กหนุ่มคิดอย่างเบื่อหน่าย ทันทีที่บรรยากาศรอบตัวเริ่มเย็นลง รีเน่เดินกอดอกแล้วกระชับเสื้อเพื่อลดความหนาว บางครั้งก็ยกมือขึ้นมาเป่าที่ตอนนี้เริ่มขาวซีด เด็กหนุ่มเดินผ่านตรอกมืดตรอกหนึ่ง
แรงฉุดประหลาดดึงเค้าเข้าไปในตรอกมืด! มือหยาบหนาปิดปากของรีเน่ไว้แน่น พร้อมกับอีกมือที่โอบตัวรีเน่ไว้ เสียงหายใจหอบหืด กลิ่นเหล้าหึ่ง
"ยัยหนู อยู่นิ่งๆนะ เดี๋ยวก็สบาย"เสียงหอบหืดดังขึ้นพร้อมกับที่มือข้างขวาเริ่มไร้ลงต่ำ
มันคิดว่าเค้าเป็นผู้หญิงแหงมๆ
เด็กหนุ่มคิดอย่างเบื่อหน่าย พลันดวงตาสีดำแปรเปลี่ยนเป็นสีฟ้าใสแล้วตรอกมืดนั้นก็มีแสงสีฟ้าสว่างโร่!!!
**********
วันต่อมา ณ บอร์ดหน้าสถาบัน K.K.K.
"อืม...ไหนๆ อ่ะนี่เจอแล้ว!" สเวนตะโกนอย่างดีใจพร้อมชี้ไปที่ชื่อน้องของตน บอร์ดนั้นแสดงชื่อผู้ที่สอบผ่านเข้าสถาบันK.K.K. ซึ่งหนึ่งในบอร์ดนั้นก็มี เจ้าชายเซเรส เอรูทีส ซึ่งได้อันดับ2 และมีชื่อของรีเน่อยู่อันดับเกือบสุดท้าย
รีเน่มองชุดของตนวันนี้ที่ดูพิเศษกว่าทุกวันที่ผ่านมา เสื้อกล้ามสีขาวตัวใหญ่ ปกปิดด้วยเสื้อโค๊ทสีน้ำตาลเข้มใหญ่พอกันยาวเกือบถึงเข่า กางเกงยีนส์สีเขียวเก่าพับขึ้นหลายทบ รองเท้าบูทสีน้ำตาลใหญ่ถึงหน้าแข้ง เรือนผมสีน้ำตาลเข้มถูกสระแล้วหวีจนเรียบสวยกว่าวันปกติที่จะปล่อยกระเซิง
รีเน่มองขึ้นไปยังหัวบอร์ดที่บอกวันเปิดเรียน....
"เฮ้ย! เปิดเทอมบ่ายวันนี้ บ้าแล้ว!"รีเน่ร้องลั่นทำให้สเวนหันหัวมามองอย่างรวดเร็ว
วันเปิดภาคเรียน บ่ายของวันที่ติดบอร์ด
" รีเน่มีอุปกรณ์การเรียนยังฟะ!" สเวนหันมาถามเด็กหนุ่มอย่างกังวล แน่ล่ะ งานนี้ตั้ง7ล้านคอร์ จะให้พลาดตั้งแต่เริ่มได้อย่างไรกันฟะ รีเน่ยิ้มเจื่อนๆก่อนที่จะส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว เพราะเค้ามีแค่สร้อยเงินที่มีจี้หินปะการังสีเขียวและมีดเล่มใหญ่สีดำที่เหน็บอยู่ที่เอวข้างหลังเท่านั้น . . .
สเวนส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่ายพร้อมลากน้องของตนเข้ามายังร้านเสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ห่างจากโรงเรียนมากนัก รีเน่มองออกไปรอบร้านที่กว้างขวาง มีชุดขายเป็นโซนๆ ชุดลำลอง ชุดนอน ชุดนักเรียนของK.K.K.
หญิงสาวคนหนึ่งรีบวิ่งมาจากอีกมุมของร้านเข้ามาหาสเวน
"สวัสดีค่ะ ต้องการชุดอะไรคะ?"
"เอาชุดยูนิฟอร์มของK.K.K.มาสามชุด"สเวนบอกกลับพนักงานด้วยหน้าเสียงไมตรี แล้วก็ดึงผู้เป็นน้องมายืนตรงหน้า
"ขนาดเท่าไหร่คะ? S หรือM"พนักงานถามรีเน่พร้อมกับเริ่มสำรวจตัวรีเน่ไปทั่ว
"เอ่อ . . .เอาMแล้วกันครับ"รีเน่เอ่ยเสียงแผ่ว พนักงานสาวเบิกตาขึ้นอย่างจกใจ
"อ้าว . . .น้องเป็นผู้ชายหรอ พี่ก็นึกว่าเป็นผู้หญิงซะอีก"พนักงานสาวกล่าวแล้วก็หัวเราะขึ้นเบาๆ ชายหนุ่มผู้เป็นพี่หัวเราะตามอย่างขบขัน พนักงานเดินไปหยิบเสื้อสีดำแถบทองที่แขนจนถึงไหล่ที่ปักตัวเคไว้สามตัวที่แกเสื้อด้านซ้ายตามแบบฉบับของโรงเรียนและกางเกงแสลคสีดำแถบทองเหมือนกับเสื้อมาอย่างละสามตัวมาวางไว้ที่แคชเชียร์ สเวนตบบ่ารีเน่พร้อมกำชับให้อย่าไปไหน
สเวนเดินไปหยิบชุดนอนมาสามตัว รองเท้าผ้าใบคอนเวิร์ดสีดำ เสื้อยืดแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวอีกหนึ่งตัวมาวางไว้ที่เคาท์เตอร์จ่ายเงิน ชายหนุ่มยื่นเงินไปให้พนักงานพร้อมกับหิ้วถุงเดินมาหารีเน่
"เอาล่ะต่อไปก็ร้านหนังสือ . . ."สเวนเปรยเบาๆแล้วก็เดินจูงมือรีเน่ออกมาจากร้านขายเสื้อผ้ามายังร้านตรงข้าม สเวนยื่นถุงเสื้อผ้าให้รีเน่ถือแล้วก็เดินหายไป
รีเน่เดินไปนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่งที่อยู่กลางร้านหนังสือ? ไม่สิน่าจะเรียกว่าหอสมุดมากกว่า แอร์เย็นฉ่ำ ม้าหินหลายตัววางอยู่ ตู้หนังสือนับสิบเรียงเป็นแถวโดยมีม้านั่งเหล่านี้อยู่ตรงใจกลาง เด็กหนุ่มมองลงไปยังที่พื้นหินอ่อน ตรงที่เค้านั่งอยู่เป็นเหมือนใจกลางของพระอาทิตย์สีแดงสด รัศมีของพระอาทิตย์แผ่ออกเป็นแนวเดียวกับชั้นหนังสือที่เรียงอยู่ คำว่าหอสมุดก็เป็นปกติที่คนจะน้อย และยิ่งน้อยนักสำหรับที่นี่เพราะน้อยคนนักที่จะมาหาหนังสือในหอนี้ที่มีหนังสือกว่าหมื่นๆเล่ม!
รีเน่มองขึ้นในระดับที่เหนือสายตาขึ้นเล็กน้อย ซึ่งทำให้เห็นถึงภาพเขียนภาพหนึ่ง ภาพที่เล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อห้าปีก่อน ห้าปีก่อนที่ต้นตระกูลของเค้าหายสาปศูนย์ไปพร้อมๆกับเด็กสาวคนหนึ่ง เด็กสาวที่ได้ชื่อว่า เจ้าหญิงแห่งมาคาร์ไลท์
ซักพัก ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนก็เดินลงมาพร้อมกับหอบถุงหนังสือเล็กๆที่น่าจะมีหนังสืออยู่หลายเล่ม
"เอาล่ะ รีเน่ ต่อไปก็ร้านขายอาวุธ . . ."ชายหนุ่มเปรยขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเดินจูงมือเด็กหนุ่มผู้เป็นน้องออกจากหอสมุด ชายหนุ่มเดินเลี้ยวเข้าซอยที่คดเคี้ยวไปมา จนมาโผล่ที่ร้านแห่งหนึ่งที่มีอยู่ร้านเดียวในซอยนี้ เนื่องจากรอบด้านนั้นไม่มีร้านหรืออะไรซักร้านเดียว....
ร้านดูซ่อมซ่อ ดาบวางตั้งไว้หน้าร้านอย่างดี โดยมีชายแก่เครายาวคนหนึ่งยืนอยู่ซึ่งน่าจะเป็นเจ้าของร้าน สเวนยื่นกระดาษแผ่นนึงให้ชายแก่เจ้าของร้าน เค้าก้มอ่านใจความในกระดาษ
"อืม . . .รอซักครู่ ของที่ฝากไว้อยู่ข้างในร้าน"ชายแก่เอ่ยเสียงเรียบ แล้วก็เดินเข้าไปในร้าน ซักพัก ก็เดินมากับห่อผ้าห่อหนึ่งที่ดูแล้วน่าจะมีดาบอยู่ข้างใน
"เออจริงสิ ท่านช่วยบอกร้านที่ขายคทาดีๆหน่อยสิ"สเวนรับห่อดาบส่งให้ผู้เป็นน้องแล้วก็ถามอีกอย่าง ชายแก่ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้สเวนที่ดูแล้วน่าจะเป็นแผนที่ ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณแล้วเดินออกจากซอยไปร้านคทาที่อยู่ซอยถัดไป
"นี่ รู้ไหม ตาแก่อัลฟรอนซ์นั่นโดนฆ่าแล้ว!"เสียงซุบซิบของชายวัยกลางคนคนหนึ่งดังขึ้น
"มันตายได้ยังไงอ่ะ?"
"ไม่รู้ ตอนชั้นจะไปยิงกระต่ายที่ข้างตึก ก็เห็นมันโดนแช่แข็งไว้ที่กำแพงแล้ว!!!"
ป้ายชื่อของร้านโงนเงนเหมือนจะหล่นลงมาได้ทุกเมื่อ ฝุ่นหนาเกาะกระจกจนมองไม่เห็นภายในร้าน รีเน่ค่อยๆหันมามองพี่ของตนที่กำลังก้มมองแผ่นกระดาษที่เค้าให้เจ้าของร้านขายดาบแนะนำมาสลับกับตัวร้านซอมซ่อหลังนี้
"พี่สเวน....แน่ใจนะว่าร้านนี้อ่ะ?"รีเน่ถามอย่างสงสัย
" แน่ดิ เจ้าของร้านขายดาบแนะนำมาไม่น่าจะผิดนะ เข้าๆไปดูก่อนละกัน ถนนย่านนี้มีแค่ร้านนี้เท่านั้นแหละที่ขายไม้คทาถูกสุดๆ" สิ้นเสียงของผู้เป็นพี่ ชายร่างสูงก็รีบดึงน้องของตนเข้าไปในร้านซอมซ่อที่อยู่ด้านหน้า ก้าวแรกที่รีเน่ก้าวเข้าไปในร้านนั้น เสียงของคทาภายในร้านดังก้องกังวาน! แสงสว่างจากหัวคทาหลายๆอันเปล่งแสงจนแสบตา มุมนึงก็พ่นไอควันสีทะมึนออกมา ทำให้รีเน่ต้องอุดหูทั้งสองข้างของตนแล้วปิดตาไว้สนิท
"จะรับอะไรหรอเปล่าขอรับ?" เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังของชายหนุ่มทั้งสอง แล้วพอเสียงนั้นดังขึ้น ทั้งร้านก็เงียบสงบ ทำให้ทั้งสองตกใจรีบหันไปมอง 'ใครกัน ทำไมมาแบบเงียบๆ แล้วยังมาแบบเราไม่รู้ตัวอีก' ความคิดนั้นกระจ่างขึ้นทันที เมื่อคนที่อยู่ข้างหลังของเค้าคือ...
" พอดีรับหลายงานน่ะ ฮ่าๆๆ"เสียงของเจ้าของร้านที่แหบห้าวแต่ฟังแล้วให้ความรู้สึกที่อ่อนโยน หนวดเคราที่ยาวถึงพุงช่วยเพิ่มระดับความอาวุโสได้มากทีเดียว สเวนจู่ๆก็หัวเราะร่าเมื่อคนที่เป็นเจ้าของร้านขายดาบ ดันเป็นคนเดียวกับเจ้าของร้านขายคทาไปซะได้ มิน่าถึงบอกให้มาร้านนี้ ส่วนรีเน่ก็เดินไปยังตู้ที่จัดวางคทานับสิบไว้อย่างสวยงาม ขัดกับนอกร้านโดยสิ้นเชิง
เด็กหนุ่มวางถุงเสื้อผ้าและหนังสือลงกับพื้นแล้วหยิบคทาด้ามหนึ่งขึ้นมาถือ ความยาวของมันจะเรียกว่ากระบองติดลูกแก้วได้ก็ไม่ปาน หัวคทาเป็นสีฟ้าใสมองดูแล้ววังเวงพิกล
"คทาด้ามนั้นคือคทาฟ้าคำนึงจิตตัวด้ามทำมาจากต้นเขามังกรสลักอักษรเวทมนตร์ด้วยจอมปราชญ์มาโดก้า หัวคทาทำมาจากแร่ รัตนชาติสีฟ้าปลูกถ่ายเวทมนตร์โดยจอมปราชญ์มาโดก้าเช่นเดียวกัน ถ้าใช้เกี่ยวกับเวทมนตร์ที่เกี่ยวกับอากาศหรือความเย็น มันจะเพิ่มอนุภาคอีกเท่าตัว..." ชายชราพร่ำสรรพคุณของคทาจนแตกฟอง ทำให้เค้าเกือบจะควักกระเป๋าออกมาแล้ว หากไม่ได้ยินประโยคต่อมา
" สามหมื่นคอร์เท่านั้น"
"สามหมื่น!!" ชายหนุ่มร่างเล็กร้องเสียงสูง "ไอ้ท่อนไม้ยาวเป็นไมล์มีลูกแก้วอันจิ๊ดนี่อ่านะสามหมื่น!!"
ชายแก่เลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยย้ำมาว่า
" สามหมื่นน่ะแหละถูกแล้ว นี่เจ้าไม่รู้รึ อุปกรณ์ของนักเวทน่ะ ราคาแพงริบลิ่วเลยนะ ที่ลุงขายอันนี้น่ะของดีด้วย ราคาถูกด้วย แถมลุงยังได้กำไรไม่เท่าไหร่เองนะ"
ชายร่างเล็กกุมขมับอย่างปวดหัว ค่าใช้จ่ายที่ใช้ซื้อชุดเครื่องแบบK.K.K.และชุดอื่นๆอีก หนังสือเรียนอีกเป็นตั้งๆ ตังค์ในกระเป๋ารวมกับคนเป็นพี่ตอนนี้เหลือแค่ไม่กี่หมื่นคอร์(จากตอนแรก4แสนคอร์)
ดวงตากลมโตเหลือบไปเห็นนาฬิกาที่อยู่บนข้อมือของลุงตรงหน้าที่ชี้เวลาเที่ยงยี่สิบ
"ลุงพอจะมาคทามือสองราคาย่อมเยากว่านี้มั้ยล่ะ!"
*************
คทาภายในลังไม้มีสภาพค่อนข้างยับเยิน บางอันก็มีแหวนมาปิดรอยแตกที่หักกลางไว้ บางอันก็มีสภาพใหม่แต่ก็มีร่องรอยที่บ่งบอกว่าเจ้าของคนก่อนตายอย่างไร ชายหนุ่มหันไปหาพี่ของตนเพื่อหวังให้ช่วยเลือก สเวนก็เดินไปดูอาวุธที่มุมอื่นเสียแล้ว เขาจึงต้องลุยคุ้ยต่อคนเดียว
2-3นาทีผ่านไป เด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลก็ยังไม่ได้คทาที่น่าใช้เลยแม้แต่อันเดียว ก่อนที่ความอดทนของเขาจะหมดลง รีเน่ก็พบคทาขนาดไม่สั้นไม่ยาวด้ามหนึ่งวางอยู่ที่ก้นลังไม้ เขาแปลกใจกับสภาพที่ไม่ยับเยินของมัน ซ้ำยังดูสวยงามเหมือนของใหม่อีกด้วย ด้ามคทาสำดำสนิทที่ยังมีรอยสลักอักษรรูนโบราณอย่างประณีต ลูกแก้วที่หัวคทาขาวใสบริสุทธิ์ราวกับจะส่องแสงได้ในที่มืด
" ลุง คทาด้ามนี่ของมือสองแน่นะ!"ชายหนุ่มโห่ร้องอย่างดีใจ
"ราคาเท่าไหร่นะ?"
" เท่ากับอันอื่นๆในลังนั่นแหละ สามร้อยคอร์"
รีเน่รีบยื่นเงินให้เจ้าของร้าน เพราะกลัวเค้าจะเปลี่ยนใจ ชอยหนุ่มมองคทาสีดำสนิทของตนแล้วหันมาถามชายแก่
"ลุง คทานี่มีสรรพคุณไรมั่งล่ะ?"ชายแก่นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะร้องออกมาอย่างนึกออก
" เจ้าหนู! ปล่อยคทานั่นเร็ว นั่นมันคทาต้องสาป!"
" เห...?" รีเน่อ้าปากค้าง สัญชาตญาณการเอาตัวรอดบอกเค้าให้ปล่อยมือออกจากคทา แต่ช้าไปเสียแล้ว
คทาสีดำแปล่งแสงสว่างออกมา ราวกับมีแรงดึงดูดอะไรบางอย่าง ที่ทำให้รีเน่ไม่สามารถปล่อยออกได้ เค้ารู้สึกเหมือนว่าพลังในตัวเค้ากำลังถูกดูดออกไปเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว เมื่อพลังเวทเหือดแห้งลง ร่างกายที่อยู่ด้วยพลังของเวทมนตร์ก็ล้มลงไปนอนกับพื้น ชายร่างเล็กรู้สึกว่าเพดานกำลังหมุนไปเรื่อยๆ ชีวิตของเค้ากำลังถูกคทาสีดำนี้สูบไปเรื่อยๆ เค้ากำลังจะตาย!
ในขณะที่รีเน่คิดว่าตนกำลังจะตายนั้น พลังที่ถูกสูบเข้าไปในคทาเต็มแน่นสนิท พร้อมกับย้อนไปสู่ร่างกายของรีเน่อย่างรวดเร็ว ร่างกายเล็กๆเหมือนถูกกระตุ้นด้วยไฟฟ้าอย่างรุนแรง เด็กหนุ่มที่นอนอยู่กับพื้นจู่ๆก็ดิ้นพล่านอย่างทุรนทุราย เสียงหวานของเด็กหนุ่มดังลั่นไปทั่วร้านจนผู้เป็นพี่ที่อยู่ไม่ไกลต้องรีบวิ่งมาดู
ความคิดเห็น