ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Lucky KilleR

    ลำดับตอนที่ #18 : ค่ำคืนมรณะ(สำหรับเธอ)

    • อัปเดตล่าสุด 2 ส.ค. 50


     

                "โนวาร์! ประกบคนหัวฟ้า! หัวดำชั้นเอง!!"เซเรสตะโกนพลางกระโดดหลบกระสุนเวทย์สีดำทะมึนอย่างเฉียดฉิว ผู้ร่ายเวทย์ผมดำยกมือขวาขึ้นสูงพลางปากก็บริกรรมคาถาไปพลาง

                "ในนามของข้า ยูเรมอันเอนรี่ ปิศาจผู้กุมมนตราแห่งคานัล  เทพแห่งความตาย จงหมอบพลังให้แก่ข้าเพื่อปราบอริร้ายใน ณ ที่นี้ด้วย.......!"แหวนสีดำบนมือเปล่งแสงสีดำทมึนมืด ก้อนพลังงานสีดำปรากฏขึ้นอยู่รอบตัวชายหนุ่มผมทอง คลื่นพลังทรงกลมขนาดใหญ่หกลูกที่ดูท่ามันจะระเบิดอยู่ร่อมร่อ....

                เฮ้ย! เวทย์นี้มัน!!

                Dakira Zonai!!

                เร็วเท่าความคิด ลูกบอลลูกแรกฉายแสงสีดำสะท้อนลูกที่สอง ที่สาม ที่สี่ ที่ห้า ที่หก จนเป็นรูปดาวหกแฉกล้อมรอบเซเรสไว้และค่อยๆหดเล็กลงอย่างฉับพลัน!

                "ดำเนินพันธะแห่งสายเลือด ก่อเกิดซึ่งมนตรา สูงใหญ่ดั่งขุนเขา ปกป้องมิตรแห่งเรา....เขตมิติไร้ก้าวผ่าน!!"ก่อนที่วงแหวนเวทย์จะหดจนรัดตัวเซเรส ชายคนหนุ่งก็ปรากฏขึ้นพร้อมร่ายเวทย์สร้างมิติจำแลงซึ่งทำให้วงแหวนเวทย์ที่จะพุ่งเข้ารัดก็หดเล็กแบบไม่ได้อะไรเลย

                ปลอกแขนเงินเรืองแสงสีขาวนวลไม่แสบตาพร้อมกับเขตมิติที่สร้างขึ้นก็หายไป ชายผมฟ้ายาวที่ยืนอยู่ไม่ห่างโยนลูกแก้วสีขาวขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางห้าเซนติเมตรขึ้นเหนือหัวสี่ลูกแล้วส่งพลังเวทย์สู่ลูกแก้วทั้งสี่

                ลูกแก้วทั้งสี่ลอยมาหยุดเหนือมือทั้งสองข้างของชายผมฟ้า เซเรสกับโนวาร์มองอย่างฉงนกับสิ่งที่น่าจะเป็นอาวุธของชายตรงหน้า ชายคนนั้นแสยะยิ้มขึ้นเล็กน้อยพร้อมใช้มือทั้งสองชี้ไปยังสองชายหนุ่มชุดดำ ลูกแก้วทั้งสี่พุ่งไปด้วยความเร็วสูง โนวาร์ยกปลอกแขนขึ้นกันตามปฏิกิริยาซึ่งก็เหมือนกับเซเรสที่ยกหอกขึ้นกันเช่นเดียวกัน แรงที่ส่งมามีเพียงน้อยนิด ซึ่งมันไม่น่าจะเป็นอาวุธได้แน่!

                เอนวาราเผยรอยยิ้มอีกครั้งพร้อมชี้นิ้วขึ้นและลงอย่างต่อเนื่อง ลูกแก้วทั้งสี่ผละออกจากอาวุธของทั้งสองแล้วพุ่งใส่หัวของทั้งคู่อย่างแม่นยำ!!

                "ใจเย็นก่อนเอวาร...."ชายผมดำกล่าวขึ้นเบาๆแล้วถีบชายข้างๆให้ล้มซึ่งผลกระทบของมันก็ทำให้ลูกบอลที่สี่ล่วงลงสู่พื้นตามกฎแรงโน้มถ่วงของมัน สาวผมสีน้ำตาลไหม้และสาวผมสีหมอกที่มองการต่อสู้ที่เพิ่งเริ่มได้ไม่นานถอนหายใจอย่างโล่งอก

                "ไอ้ยูเรมโผล่มาก็ใช้เวทย์ตัดมิติเลย....น่าต่อยจริงๆ!"รีเน่บ่นอย่างโมโห ซึ่งเดียโบสก็เห็นดีเห็นงามด้วย

                "ใช่แล้วเจ้าค่ะ! แถมท่านเอนวารายังงัดโอมพลัสออกมาใช้อีก อันตรายจริงๆนะคะเนี่ย!!"สาวผมสีหมอกบ่นอย่างโมโหเช่นเดียวกัน แต่หญิงสาวผู้เป็นนายที่นั่งข้างๆกับหันมาอย่างสงสัย

                "โอมพลัส? มันคืออะไรหรอเดียโบส?"

                "โอมพลัสหรือเจ้าคะ? อืม มันคืออาวุธรูปแบบหนึ่งที่ชนชั้นสูงของมาคาร์ไลท์ใช้กันน่ะเจ้าค่ะ นอกจากจะเป็นรูปแบบที่พกพาได้ง่ายแล้ว มันยังเป็นอาวุธที่มีพลังอยู่หลากหลายรูปแบบไม่แพ้เอ็กเซล และโอมพลัสของท่านเอนวาราจะมีพลังที่พิเศษไปจากโอมพลัสทั่วๆไป...."เอนวาราลุกขึ้นพลางลูบก้นตัวเองป้อยๆ โอมพลัสทั้งสี่ลอยกลับมาอยู่เหนือมือของเค้าอีกครั้ง

                "พลังแบบไหนหรอ?"เอนวาราหลับตาลงพร้อมปลดปล่อยไอเวทย์สีฟ้าออกมาจนเกือบเต็มลานประลอง

                "พลังในการ....."ไอเวทย์สีฟ้าถูกสูบเข้าไปในลูกแก้วสีขาวอย่างไม่ขาดสายจนมันเปลี่ยนเป็นสีเหมือนไอเวทย์ที่มันสูบและเริ่มหมุนขึ้นอย่างรวดเร็ว

                "เปลี่ยนสถานะ...."ฉับพลัน ความเย็นเริ่มก่อตัวขึ้นเหนือลานประลอง แสงแดดที่ส่องลงมาบนพื้นเริ่มไม่คงตัวและเหมือนมีเงาของอะไรซักอย่างกำลังพุ่งไปยังด้านบน!! เซเรสและโนวาร์มองตามขึ้นไปแล้วเบิกตากว้าง!!

                มันคือก้อนน้ำขนาดกว่าสองเมตรนับหมื่นลูก!! ก้อนน้ำที่เกิดจากการควบแน่นของไอน้ำในอากาศ!!

                ชายเจ้าของเรือนผมสีทองสวยพุ่งตัวเข้าใส่ชายผมฟ้าที่กำลังสร้างก้อนน้ำจำนวนมหาศาลอยู่อย่างรวดเร็ว แต่มีร่างหนึ่งๆมาขวางไว้พร้อมเหวี่ยงคมหอกสีดำจากทางด้านซ้าย เซเรสกดด้ามหอกของตนลงมากันได้อย่างเฉียดฉิวพร้อมถอยตัวออกห่างอย่างตกใจ หอกสีดำสนิทที่ไม่มีลักษณะรายละเอียดของหอก มีแต่สีดำสนิท แต่ขอบรูปด้านนอกนั้นกลับเหมือนกับประกายแสงหิมะแบบไม่ผิดเพี๊ยน!! พลันคำพูดหนึ่งๆที่เคยมีชายคนหนึ่งเคยพูดไว้ก็แล่นเข้าหัว

                เมื่อใดพบศาสตราอันตรงข้ามกับประกายแสงหิมะนี้ หากมันมีเจ้าของผู้ถือครอง จับมันสู่ฟ้า หลอมรวมเป็นหนึ่ง พร้อมอาวุธมนตราอีกหนึ่ง จักสิ้นทุกอย่างย้อนกลับดั่งใจปราณนา....

                หรือศาสตราที่ตรงข้ามกับประกายแสงหิมะนี้จะเป็นอันที่ตรงข้ามกับประกายแสงหิมะ!!

                ชายหนุ่มคิดแล้วตัวสั่นขึ้นเล็กน้อย ผู้ถือหอกสีดำมองชายตรงหน้าที่ตัวสั่นอย่างขบขัน

                "เจ้าชาย....นี่ไม่ใช่ศาสตราที่ตรงข้ามกับประกายแสงหิมะของท่านหรอก อาวุธที่ข้าถืออยู่นี้เกิดจากไพ่'ชาโดว์มีเลอราห์'ซึ่งสามารถลอกเลียนแบบอาวุธของศัตรูได้ แต่จะมีลักษณะของเงาเท่านั้น"ยูเรมกล่าวแล้วสะบัดหอกไปมา เซเรสถอนหายใจอย่างเสียดายนิดๆแล้วส่งสัญญาณมือไปให้เพื่อนที่อยู่ด้านหลัง

                'แกประกบอีกคน ชั้นคนนี้'

                โนวาร์พยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วหันมือข้างขวาที่ใส่ปลอกแขนเงินไปยังชายผมฟ้าที่ยังยืนหลับตาและสร้างก้อนน้ำที่อยู่ด้านบนอยู่

                ปลอกแขนสีเงินเรืองแสงสีดำทะมึน น้ำสีแดงข้นไหลออกจากร่องของปลอกแขนจนหยดลงกับพื้นจำนวนมาก ด้านหลังของชายหนุ่มเจ้าของแผลเป็นที่แขนขวาฉายเงาดำหนึ่งๆที่เห็นดูน่ากลัวอย่างแปลกประหลาด เอนวาราลืมตาขึ้นอย่างฉับพลัน ก้อนน้ำนับแสนเหนือลานประลองพุ่งตัวลงใส่ศัตรูทั้งสองราวกับมังกรใหญ่กระหายเลือดที่โถมร่างเข้าใส่เหยื่อตัวน้อย

                "ดำเนินพันธะแห่งสายเลือด ก่อเกิดซึ่งมนตรา ใจบุญดุจมารดา โอบอ้อมตัวเราไว้...."กองเลือดสีแดงสดที่เจิ่งนองอยู่บนพื้นลอยขึ้นสูงพร้อมเลื้อยพันรอบเจ้าของเลือดและร่างสูงที่ห่างออกไปไว้ก่อนที่น้ำจำนวนมหาศาลจะโถมซัดลงมา คนดูบนอัฐจันทร์ยกมือขึ้นกันเหล่าน้ำที่หลงเหลือหลังจากที่ซัดลงมาบนลานประลองอย่างตกใจ แต่คลื่นน้ำเหล่านั้นกลับซัดเข้ากับอะไรซักอย่างจนไม่สามารถเข้ามากระทบเหล่าคนดูได้แม้แต่หยดน้ำ

                [ลืมบอกไป! รอบๆอัฐจันทร์เราได้กางข่ายเวทไว้อย่างแน่นหนาแล้ว ไม่มีทางที่คนดูจะโดนลูกหลงได้แน่]

                โฆสกผมเขียวกล่าวขึ้นอีกครั้งพร้อมกับได้รับเสียงโห่จากเหล่านักเรียน และไม่เว้นกระทั่งราชาแห่งพาซีที่ยังเป็นนักเรียนปีห้าอยู่ภายในโรงเรียน ฮาร์ฟมองกลับไปยังลานประลองที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำอีกครั้ง ดวงตาสีฟ้าสวยสาดส่องหาผู้เข้าแข่งขันจากหอวีนัสอย่างเคร่งเครียด

                "เซเรสหายไปไหนแล้วอ่ะเดียโบส!! เซเรสหายไปไหน!!"รีเน่เขย่าเด็กสาวผมขาวข้างๆอย่างตื่นตระหนกจนคนที่ถูกเขย่าเริ่มรู้สึกคลื่นไส้

                "ไม่หรอกเจ้าค่ะ สำผัสของชายทั้งสองนั้นยังคงอยู่...อยู่ที่เดิมค่ะ!"สิ้นคำ ร่างสูงผู้ถูกกล่าวถึงก็ปรากฏตัวขึ้น ณ จุดเดิมก่อนที่คลื่นน้ำจะซัดลงมาพร้อมกับหอกห่อหุ้มด้วยน้ำแข็งคม

                "หมาป่าน้ำแข็งฝังคมเขี้ยว!!"ชื่อมนตราเวทย์ดังขึ้นพร้อมที่หอกสีขาวสะบัดคมน้ำแข็งใส่ชายผมดำที่ยกไพ่มนตราขึ้นมากัน ชายผมฟ้าสะบัดนิ้วไปทางชายผมสีน้ำตาลเข้มพร้อมที่โอมพลัสทั้งสี่พุ่งลงใส่โนวาร์ด้วยความเร็วสูง

                เจ้าของปลอกแขนเงินพุ่งตัวพร้อมหลบลูกแก้วสีฟ้าทั้งสี่อย่างเฉียดฉิว ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึก พร้อมหยุดยกเท้าขึ้นหน้าเอนวารา แล้วผ่อนลมหายใจออกพร้อมตบเท้าลงกับพื้นและพุ่งฝ่ามือหมายอัดให้กระดูกซี่โครงบดละเอียด แต่เอนวาราดึงโอมพลัสกลับมากันไว้ได้ทันพอที่จะสร้างเวลาให้เค้ากระโดดก่อนที่คลื่นอากาศมันจะอัดใส่ซี่โครงของเค้า!!

                เซเรสหมุนตัวใช้ด้ามหอกขัดขาของยูเรม มันกระโดดหลบแล้วฟาดหอกลงมา เซเรสยกหอกของตนขึ้นกันแล้วดีดกลับออกไป ยูเรมลอยตัวขึ้นสูงแล้วปาหอกใส่ชายผมสีน้ำตาลเข้มที่อยู่เบื้องล่างที่คู่ของตนกำลังสู้อยู่

                ไอน้ำสีฟ้าใสค่อยๆก่อตัวขึ้นรอบๆโนวาร์แล้วจับตัวเป็นกำแพงน้ำแข็งสูงใหญ่ซึ่งออกมากันหอกสีดำสนิทได้อย่างทันท่วงที เอนวาราบังคับโอมพลัสทั้งสี่ที่เปลี่ยนเป็นสีแดงและห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงใส่ชายเจ้าของหอกสีขาวสวย

                โนวาร์ง้างมือไปข้างหลังแล้วพุ่งฝ่ามือใส่อากาศไปยังลูกแก้วเพลิงจนไฟมอดลงและเปลี่ยนวิถีไปด้านข้างเล็กน้อยซึ่งทำให้เฉี่ยวแก้มขาวลงสู่พื้นจนกลายเป็นหลุมกว้าง ซึ่งไม่ต้องคิดเลยว่าถ้าโดนหัวแบบเต็มๆมันจะเป็นเช่นไร!

                "สงสัยว่าศึกนี้จะจบเร็วซะแล้ว....กราดิโอ้!!"คำปลดปล่อยไอเวทย์ดังขึ้นจากปากของชายหนุ่ม พลันไอเวทย์สีขาวพวยพุ่งออกจากร่างสูงอย่างไม่ขาดสาย!! ชายผมฟ้าส่ายหน้าหน่ายๆแล้วหันไปยังเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆ

                "ถ้าทางงานนี้เหนื่อยว่ะ..."กล่าวจบ ไอเวทย์สีฟ้าก็ขับออกจากใต้ผ้าคลุมของเอนวาราอีกครั้ง โอมพลัสสูบไอเวทย์เข้าไปอย่างรวดเร็ว ยูเรมถอนหายใจเฮือกแล้วตั้งท่าเตรียมสู้กับชายผู้ถือหอกอีกครั้ง

                "เซเรส...นับสามนะ"โนวาร์บอกกับเพื่อนของตนเบาๆพลางเช็ดเลือดที่ซึมที่มุมปาก แล้วก็ยกมือข้างขวาขึ้นมากำในแนวเดียวกับอกไว้แน่น เงาสีดำก่อตัวขึ้นด้านหลังของชายหนุ่ม

                "ดำเนินพันธะแห่งสายเลือด ก่อเกิดซึ่งมนตรา กว้างขวางดั่งนภา กวาดราบพนาสูร...."ยูเรมมองโนวาร์อย่างตกใจแล้วหันไปยังเพื่อนที่ยืนอยู่ด้านข้างซึ่งก็ท่องคถาอยู่เหมือนกัน ดวงตาสีฟ้าขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงสด

                "ปลดปล่อยพันธะแห่งมนตรา สลายสิ้นทุกมนตรา มืดทะมึนดุจรัตติกาล สยบสิ้นมวลมนุษย์...."

                "กางเขนทมิฬ!!"

                "กางเขนสวรรค์!!"

     

                1

                คลื่นพลังรูปกางเขนสีดำและสีขาวปะทะกันอย่างรุนแรงจนเกิดแรงสะท้อนไปยังขอบเขตเวทย์จนสั่นครอน เซเรสชี้หอกไปยังชายหนุ่มผมดำโดยที่มันยังไม่หยุดสูบไอเวทย์สีขาวของตน

                เปิดวิถีที่สอง

                ผลึกเยือกแข็งนิรันดร

                ดวงตาสีเขียวมรกตเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้มที่ดูเย็นชา

                เร็วแบบไม่ทันได้คิด! เซเรสพุ่งตัวไปด้านหน้าชายผมดำ ชายผมทองปักคมหอกสีขาวลงกับพื้นหินลานประลองพร้อมกับแท่งผลึกน้ำแข็งพุ่งทะลุผ้าคลุมสีดำของยูเรมไปโดยที่เค้าไม่บาดเจ็บ

     

                2

     

                เซเรสถอยหลังครูดพร้อมที่ดวงตากลับมาเป็นสีเขียวมรกตดังเดิม ยูเรมถีบตัวตามออกไปพร้อมหยิบไพ่อสูรของตนออกมาสี่ใบ พลันไพ่ทั้งสี่ก็เปลี่ยนเป็นงูยักษ์สี่ตัวที่พร้อมกัดลำตัวของชายหนุ่มให้จมเขี้ยว งูทั้งสี่พุ่งเข้าล้อมเซเรสไว้อย่างไม่มีทางหนีและงูทั้งสี่พร้อมที่จะขดตัวรัดร่างของเซเรสและกัดให้จมเขี้ยว

                แต่หาได้เป็นเช่นนั้น!!!

     

              3

     

                "เซเรส!จัดการ!!"โนวาร์ตะโกนลั่นพร้อมสลายกางเขนที่กำลังชนอยู่กับกางเขนสีขาวของเอนวารา เค้ากระโดดขึ้นแล้วจับกางเขนสีขาวให้พุ่งขึ้นฟ้าโดยใช้ปลอกแขนเงินเป็นที่จับ เซเรสที่ถูกงูล้อมอยู่สลายตัวหายไปราวกับธุรี

                "มันหายไปไหนน่ะ!!"ยูเรมตะเบ็งเสียงอย่างตกใจ แล้วก็บรรลุได้อย่างทันทีเมื่อคมหอกสีขาวใสจิ้มเข้าที่คอเบาๆพร้อมที่จะพุ่งทะลุจากด้านหลังออกมาด้านหน้า

                "แกแพ้แล้วล่ะ ยูเรมอันเอนรี่!"เซเรสประกาศคำชัยชนะดังลั่นไปทั่วลานประลอง พร้อมกับเสียงเฮดั่งสนั่นจากหอวีนัส โดยเฉพาะตัวดีที่กอดบ่าวรับใช้แน่นอย่างดีใจ

                ยูเรมที่มองอากัปกิริยาของรีเน่ตั้งแต่เริ่มการแข่งขันที่ผ่านมาได้ไม่ถึงชั่วโมงถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน

     

              [เอาเป็นว่า! ทีมUwaraถอดใจไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทีมNoressจึงเป็นฝ่ายชนะ!!]

                สิ้นเสียงประกาศ เสียงจากหอวีนัสก็โห่ร้องอีกครั้งกับคะแนนที่ได้เพิ่มอีกยี่สิบกว่าคะแนน ทั้งสี่เดินลงมาจากเวทีอย่างสบายๆ รุ่นพี่หอดิเอิร์ธและหอเดอะมูนรีบวิ่งมาซ่อมเวทีอย่างเบื่อหน่าย

                รีเน่กับเดียโบสกระโดดลงจากอัฐจันทร์พร้อมมองหน้ากันอย่างฉงน

                "เดียโบส อย่างที่บอกไว้นะ ตามทุกคนมายังห้องของชั้นนะ ตอนบ่ายสอง บอกว่าเรื่องสำคัญของประเทศ โอเค๊"รีเน่ออกคำสั่งอย่างคล่องปรื๋อดุจเจ้าหญิงอันสูงศักดิ์ เดียโบสกล่าวรับทราบแล้วหายวับไปกับตา

                สาวน้อยเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลไหม้กวาดมองไปทางซ้ายที ขวาทีเพื่อหาชายผมทองผู้เป็นเพื่อน แต่ไม่ยักจะมีวี่แววเลยซักนิด....

                "มองหาใครอยู่หรอรีเน่?"เสียงของชายที่เธอตามหาอยู่ดังขึ้นจากด้านหลังพร้อมกับแรงที่ดึงร่างเธอและเค้าให้แนบชิดติดกัน

                "มองหาแกนั่นแหละ! มาพอดีเลย กลับหอกันนะ"เด็กสาวหันไปยังผู้ที่อยู่ด้านหลังแล้วเอ่ยเสียงออดอ้อนอย่างลืมตัว ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วกอดร่างของเธอให้แนบชิดกันกว่าเก่า วงแหวนเวทย์วงหนึ่งปรากฏขึ้นที่เท้าของเค้าและเธอทั้งคู่

                Kertyna

                ฝุ่บ! ตูม!

                เสียงวัตถุขนาดกลางล่วงลงน้ำดังลั่นพร้อมกับที่มันกระฉอกออกจนเจิ่งนองไปทั่วห้อง ร่างของทั้งสองปรากฏขึ้นเหนืออ่างน้ำใหญ่ภายในห้องของพวกเค้าที่มีน้ำสบู่อยู่เต็มอ่าง!

                "ไอ้เซเรส!! มาโผล่ในห้องน้ำทำบรึ๋ยอะไรห๊ะ!!!!"รีเน่ตะโกนลั่นพร้อมเขม็งไปยังเจ้าของดวงตาสีเขียวมรกตที่เธอกำลังนอนทับอยู่อย่างโมโห ผู้ถูกจ้องยิ้มแหยๆแล้วยันมือเพื่อจะลุกจากอ่าง

                "เฮ้ย! ให้ชั้นลุกก่อน! ว่ะ หวา!!"รีเน่บ่นแล้วลุกขึ้น แล้วก็ไปสุดขาของคนที่แช่น้ำทั้งเสื้อผ้าอีกคนภายในอ่างจน....

                ตูม!

               

                "ห๊ะ!เธอเนี่ยนะคือเจ้าหญิงของพวกเรา!โอ๊ย!!!"เสียงจากบุรุษภายในห้องดังขึ้นพร้อมเสียงร้องอย่างเจ็บปวดโดยผู้ฟาดหนังสืออย่างฉับไวนั้นก็หาได้เป็นใครไม่ นอกจากรีเน่เพียงผู้เดียว หลังจากที่ไล่เซเรสออกจากห้องไปแล้วอาบน้ำเช็ดตัวอยู่ซักพัก อ.เฟรย์ผู้สอนวิชาประวัติศาสตร์ อ.เนอซีผู้ควบคุมห้องพยาบาล ซิลเวอร์และฟินาเร่เจ้าของหอวีนัส วิโอล่านักเรียนของหอวีนัส เอนวาราและยูเรมก็เข้ามาในห้องกันจนแน่นเอียด 

                วิโอล่าหันไปถามรุ่นพี่ประธานหออย่างสงสัย

                "ฟินาเร่ ชั้นเคยได้ยินมาว่าราเฟรน่าความจำเสื่อมไม่ใช่หรอ? แล้วทำไม...."

                "ก็เพราะเดียโบสถูกปลดปล่อยแล้วยังไงล่ะ ความทรงจำก็เลยกลับมาเกือบครบ เอ่อ แค่เกือบนะ"รีเน่เอ่ยเสียงเรียบ ทั้งห้องก็ร้องอ๋ออย่างเข้าใจ

                "แล้วองค์หญิงให้ท่านเดียโบสเรียกตัวพวกเรามา ไม่ทราบว่ามีเหตุธุระอันใด?"เอนวารายกมือขึ้นถามอย่างสงสัย รีเน่หันไปยังผู้ถามอย่างนึกได้

                "อ้อ! อืม! คืองี๊นะ ชั้นรู้มาว่า เอนวารา ยูเรม วิโอล่า คือผู้ที่สืบหาตัวชั้นแล้วพากลับไป ถูกไหม?"ทั้งสามพยักหน้า

                "อืม แล้วทีนี้ ชั้นที่ย้อนเวลากลับมาก็บังเอิญรู้เรื่องบางอย่างที่ค่อนข้างเลวร้ายมากทีเดียว เรื่องแรกนี่ชั้นแอบฟังตอนที่ยูเรม(ก่อนย้อนเวลา)คุยโทรศัพท์กับหมอหลวงที่เป็นหมอคู่กายของเสด็จพ่อของเรา ซึ่งที่ชั้นฟังได้ใจความว่า เสด็จพ่อถูกพระอนุชาหรือองค์คูเนล ลอบวางยา....."

                "ห๊ะ! ท่านคูเนลเนี่ยนะ!!?"ทั้งห้องตะโกนลั่น พร้อมกับได้รับแรงตบจากเจ้าหญิงคนเดียวในห้อง

                "เบาๆหน่อยสิ! แล้วไม่ต้องอุทานเลยนะ!!"รีเน่บอกเบาๆ ทั้งห้องเงียบกริบในทันที เธอพยักหน้าเบาๆอย่างเหนื่อยใจ

                "อืม อีกเรื่องนึงก็คือ คานัล...."

                "ห๊.....!!!!"เสียงที่เกือบอุทานของทั้งห้องดังขึ้นแล้วก็หยุดลงพร้อมกันเมื่อเห็นสาวเจ้าที่นั่งอยู่บนเตียงยกมือขึ้นเตรียมตบเรียงตัว

                "อืม คานัลในโลกอนาคตได้ย้อนกลับมาพร้อมกับชั้น ซึ่งย้อนกลับมาตอนไหนชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน ซึ่งตอนนี้หายตัวไปแล้ว แต่ที่แน่ๆคือยังอยู่ภายในโรงเรียนนี้ ถ้าใครยังไม่รู้นะ หน้าของคานัลจะเหมือนกับยูเรมทุกประการ แต่สีผมจะเหมือนกับเนอซีซึ่งก็คือสีเงิน....

                และสิ่งที่ชั้นจะสั่งต่อไปนี้คือ ยูเรม เอนวารา วิโอล่า และเดียโบส หน้าที่ของพวกเธอคือการตามหาตัวคานัลและจับกุมให้เร็วที่สุด!!"

                "รับทราบ!"ทั้งสี่ตอบรับอย่างทะมัดทะแมง

                "ส่วนคุณเนอซี และอ.เฟรย์ พวกคุณรีบทำเอกสารเพื่อจะกลับไปยับยั้งท่านคูเนล เสด็จอาของเรา และตรวจสอบภายในร่างกายของเสด็จพ่อด้วย เพราะมันอาจมียานอนหลับกลุ่มบาร์บิทูเรตอยู่!!"

                "น้อมรับบัญชา"

                "ส่วนพี่ฟีเน่กับพี่ซิลเวอร์...."รีเน่เปรยเบาๆแล้วหันมายังสองหนุ่มสาวที่นั่งกอดเข่าอยู่ใกล้ๆกัน

                "พวกพี่ทั้งสองช่วยติดต่อพี่ของผม....หนู....เอ่อ....สเวนฮาเวอรี่ อืม ติดต่อเค้าให้มาที่นี่ภายในสองสามวันนี้นะ"

                "โอเค~"ทั้งสองตอบด้วยใบหน้าที่ซีดเซียวที่ยากจะคาดเดา

                "อืม ก็เท่านี้แหละ แยกย้ายได้แล้วล่ะทุกคน"รีเน่กล่าวอย่างโล่งอกแล้วล้มตัวลงนอนหลังจากแจกแจงงานเรียบร้อยแล้ว เหล่าผู้มีอายุทั้งหลายเดินออกจากห้องด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

            งานที่เจ้าหญิงตัวดีมอบหมายมานั้นมันยากส์เหลือเกิน แต่ก็ต้องทำให้สำเร็จ!!

                สามนาทีโดยประมาณ ชายหนุ่มผมทองก็เดินเข้ามาอย่างงุนงงเล็กน้อยกับเหตุการณ์เมื่อยี่สิบนาทีก่อน เค้าเพิ่งจะโดนไล่ให้ออกจากห้องทั้งๆที่เป็นห้องของตัวเองนัยน์ตาเขียวมรกตจ้องไปยังเด็กสาวผมสีน้ำตาลยาวในชุดปาจามาสีฟ้าใหญ่ของเธอ

                หลับสบายเชียวนะ คงวางแผนอะไรไว้อีกล่ะสิ!

                ชายหนุ่มคิดแล้วเดินออกไปเปิดหน้าต่างที่ระเบียงออกกว้างเพื่อให้กลิ่นของทุ่งดอกไม้สีเหลืองลอยโชยเข้ามาในห้องและให้เด็กสาวที่นอนอยู่บนเตียงหลับฝันดี

               

                คืนนั้น

                "รีเน่....ทำไมไม่นอนซะทีหือ....."ชายหนุ่มเอ่ยเสียงยานคางอย่างง่วงนอน ตามด้วยเสียงนับเลขและเสียงหืดหอบของเด็กสาวที่วิดพื้นอยู่ข้างๆเตียง

                "ต้องทำให้เหงื่อออก จะได้หลับ! 198!!"เด็กสาวตอบแล้ววิดพื้นต่อ ชายหนุ่มดึงผ้าห่มออกจากตัวอย่างรำคาญแล้วจ้องไปยังเด็กสาวข้างๆ

                "รีเน่...ชั้นมีวิธีที่ทำให้แกหลับได้ชัวร์ๆจะเอาไหม?"เซเรสถามแล้วลุกขึ้นนั่งบนเตียง เด็กสาวลุกขึ้นยืนทันทีแล้วมองชายหนุ่มด้วยดางตาประกาย

                "วิธีอะไรๆ!! บอกเร็วๆ!!"

                "มานั่งตรงนี้สิ เดี๋ยวบอก"ชายหนุ่มเอ่ยเสียงยานคางเช่นเดิมแล้วตบขาของตน เด็กสาวปรี่มานั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองหน้าชายหนุ่มผู้เป็นเพื่อนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

                "วิธีอะไรหรอ?"

                "แบบนี้ไง!!"ชายหนุ่มกล่าวแล้วจับคางของเด็กสาวหันมาพร้อมกับโน้มหน้าเข้าใกล้อย่างรวดเร็ว ริมฝีปากงามแนบชิดกับริมฝีปากของอีกคนแน่น แขนล่ำโอบเด็กสาวที่ดิ้นขลุกอยู่ในวงแขน

                นี่มันบ้าอะไรของมันเนี่ย!! ร้อน!! ทำไมร้อนแบบนี้!!

                เด็กสาวคิดอย่างกระวนกระวายพร้อมพยายามถอนริมฝีปากออกจากชายหนุ่ม แต่แรงของชายหนุ่มนั้นมีมากกว่าอย่างร้อยเปอเซนต์ เซเรสหมุนร่างของรีเน่ให้แผ่หลาบนเตียงใหญ่ รีเน่ถอยหนีจนแนบชิดกับหัวเตียง เซเรสเขยิบเข้าหาพร้อมกับหยุดนิ่งอย่างฉับพลันเมื่อมีบางอย่างที่ขาวนุ่มมาปิดหน้าเค้าไว้มิด

                "แฮ่ก...แฮ่ก...เซเรส...ใจเย็นดิวะ...ชั้นหายใจไม่ทัน!"รีเน่กล่าวอย่างหอบหืด เท้าที่ยันหน้าของชายหนุ่มที่มีหมอนขั้นกลางค่อยๆถูกดันเข้ามาจนเธอต้องชันเข่าข้างซ้ายขึ้นแทบจะแนบอก

                ชายหนุ่มผมทองเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ขาเรียวของรีเน่บัดนี้ถูกดันไปวางที่บ่ากว้างของชายหนุ่ม เซเรสลูบเรียวขาอย่างแผ่วเบาพร้อมค่อยๆไร้เข้ามาใกล้โคนขา!!

     

                "ไอ้โฮโม แกจะทำอะไรช๊าน!!!!"รีเน่ตะโกนลั่นห้องแล้วลุกขึ้นนั่งอย่างตกใจ นัยน์ตาสีดำสวยเหลือบมองนาฬิกาที่บอกเวลาเก้าโมงเช้าของวันใหม่ เด็กสาวกวาดตามองไปยังลำแสงที่ลอดผ่านผ้าม่านมาอย่างโมโห

                ฝัน!! ฝันร้าย!! ร้ายโคตรๆ!! ร้ายสนิท!!

                เธอคิดอย่างโมโหแล้วยกผ้าขนหนูขึ้นปาดเหงื่อเบาๆ

                พลันนัยน์ตาสีดำก็พบวามผิดปกติกับร่างกายของตัวเอง! และสิ่งที่ฝันเห็นเมื่อครู่อาจถูกเปลี่ยนสมมุติฐานว่ามันเป็นความจริง!!

              อย่างแรก!!     เธออยู่ในชุดนอนตัวใหม่ที่เป็นคนละตัวกับที่เธอใส่เมื่อวาน!!

              อย่างที่สอง!!  ชายหนุ่มผมทองกำลังนอนกอดเอวเธออยู่ และ มันเปลือยบน!!

     

                "ไอ้เซเรส!!!!!!!!!!"รีเน่ตะโกนลั่น ลั่นแบบที่น่าจะพอให้ทั้งหอได้ยิน แต่ชายหนุ่มตัวการกลับค่อยๆขยี้เปลือกตาเบาๆแล้วก็หลับต่อ ความโทสะแล่นเข้าสู่สมองอันน้อยนิด มือเรียวตวัดฝับเข้าที่แก้มขาวของชายหนุ่ม ผู้ถูกตบกลับค่อยๆลืมตาขึ้นราวกับไม่รู้สึกอะไรเลยแล้วยกมือขึ้นแนบหน้าผากของเด็กสาวที่เค้ากอด

                "ไข้ลดแล้ว เฮ้อ...."ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเหนื่อยอ่อนแล้วก็ค่อยๆล้มตัวลงนอนต่อ เด็กสาวทำหน้างงอย่างสงสัย

                "ไข้อะไรๆ!! แกทำอะไรชั้น!!?"เธอถามอย่างสงสัย

                "ก็เมื่อคืนตอนที่แกวิดพื้นอยู่ดีๆ แกก็ฝุบไปเลย ชั้นนี่ตกใจมากเลย พอเอามือมาทาบหน้าผากถึงได้รู้ว่าไข้ขึ้น ชั้นก็เลยต้องคอยเช็ดตัว เผ้าไข้ เปลี่ยนเสื้อผ้าให้....อืม แล้วพอตีสามตีสี่ไข้ก็ลด แต่แกเอาแต่บ่นว่าหนาว ชั้นก็เลยต้องกอดแกไว้จะได้อุ่นๆ อืม จบ...."ชายหนุ่มเอ่ยแล้วเสียงกรนก็ค่อยๆตามมา เด็กสาวมองที่มือของตนที่มีผ้าขนหนูที่เปียกชื้นและมีอ่างน้ำอยู่ที่โต๊ะกลม

                เธอเกลี่ยเรือนผมสีทองที่ยาวปรกหน้าออก มือเรียวลูบใต้ขอบตาที่ขึ้นสีดำคล้ำของชายที่กอดเอวเธออยู่อย่างอ่อนโยน ในใจนึกชื่นชมชายตรงหน้าขึ้นมาเล็กน้อย

                แม้เรื่องก่อนๆชายคนนี้จะทำกวนบาทาเธอมากเท่าไรก็ตาม แต่ชายคนนี้ก็ห่วงอาทรเค้ามาตลอด อย่างเมื่อคืนที่เค้ามีไข้ ชายคนนี้คอยเช็ดตัวให้ คอยเผ้าไข้ เปลี่ยนเสื้อผ้าให้....เปลี่ยนเสื้อผ้าให้....เปลี่ยนเสื้อผ้า...ถอด...เห็น...เช็ดตัว....เช็ดทั้งตัว....ทั่วตัว....

                "เซเรส!! นี่แกถือโอกาสดูเลยเราะ!!!"

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×